บทที่ 890 ซี ‘กล่องสี่เหลี่ยมจะต้องเป็นกุญแจสำคัญ!’
ต้นหลิวยังคงรู้สึกไม่มีความมั่นใจมากพอ กิ่งหลิวจำนวนมากทะยานออกไป ห่อเจ้าก้อนหินเอาไว้จนกลายเป็นบ๊ะจ่าง กลัวว่าก้อนหินจะทะยานออกไปโดยไม่อาจควบคุมตนเองได้อีกครั้ง
“พี่หลิวทำสิ่งใดอยู่?”
เจ้าก้อนหินถามอย่างไม่เข้าใจ
“กลัวว่าเจ้าจะวิ่งหนีไป…”
…
ทุ่งเหมันต์
พื้นที่สีเทาปรากฏออกมา ลมหายใจอันน่าสะพรึงกลัวไร้ที่สิ้นสุดแผ่กระจาย เชื่อมต่อกับค่ายกลห้าสิบหกเพลิง สะท้อนตอบรับกับวงกลมสีเทา
สีหน้าของพวกลั่วสุ่ยจริงจังยิ่ง แต่ละคนต่างรู้สึกกดดัน ลมหายใจอันน่าสะพรึงกลัวที่แผ่ออกจากพื้นที่สีเทาส่งผลไปถึงทางพวกนางด้วย
ทว่ายังดีที่สมบัติในมือพวกนางยังสามารถยับยั้งเอาไว้ได้ แม้มีแรงกดดันแต่ก็ไม่มากเกินไป
“เป็นปลาตัวใหญ่จริง ๆ…”
ลั่วสุ่ยรำพึง
พื้นที่สีเทาน่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง นี่เป็นครั้งแรกที่นางต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ เหล่าสมบัติไม่อาจสยบผลทั้งหมดได้
ตู้ม!
เสียงส่งออกมาอย่างน่าหวาดหวั่น มือขาดอีกข้างหนึ่งปรากฏออกมา แสงสีทองอันไร้ที่สิ้นสุดระเบิดเข้าใส่หลี่จิ่วเต้า
ฟิ้ว!
กระบี่ฉุนจวินตรงเข้าหาทันที แสงกระบี่นับร้อยล้านตวัดกวัดแกว่ง ทำลายแสงสีเทา ปะทะเข้ากับมือขาด!
มือขาดนี้แตกต่างจากมือขาดก่อนหน้า ดูแล้วเหมือนเป็นมือของสตรี ส่วนก่อนหน้ามือขาดที่ปรากฏตัวออกมาเหมือนของผู้ชาย
กระบี่ฉุนจวินสำแดงความไร้เทียมทานเพียงไม่ถึงชั่วลมหายใจก็ถูกตัดทำลายทิ้ง!
แต่เรื่องราวก็ไม่ได้จบแค่นั้น มีบางสิ่งออกมาจากพื้นที่สีเทาอีกครั้ง
มันเป็นเลือดสีเทาหยดหนึ่ง หลังจากร่วงหลนลงมาก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดสีเทาน่ากลัวตัวหนึ่ง ส่งเสียงคำรามพุ่งตรงเข้าใส่
เห็นได้ชัดว่ามันทรงพลังน่าหวาดเกรงยิ่งกว่ามือขาดทั้งสองมาก ปะทะเข้ากับกระบี่ฉุนจวินอย่างดุดัน
ทว่ามันกลับไร้ผล หลังจากถูกกระบี่ฉุนจวินฟันเข้าใส่ มันก็ถูกทลายล้างจนสูญสิ้น!
หลี่จิ่วเต้ามองไปทางเพลิงทั้งห้าสิบหก คิดว่านั่นอาจเป็นจุดสำคัญ
เขาโบกเข็มในมือ ทันใดนั้นก็เกิดสายฟ้าเปี่ยมอานุภาพไร้ขอบเขต ระดมโจมตีไปทางเพลิงทั้งห้าสิบหก
วงกลมสีเทาใจกลางเพลิงทั้งห้าสิบหกพุ่งออกมา กฎนับหมื่นพันด้านในทะยานออกมา แสงสีเทาสั่นไหว ปะทะเข้ากับสายฟ้าทรงพลังไร้ขอบเขต!
ขณะเดียวกัน ด้านพื้นที่สีเทาก็มีหลายสิ่งออกมา ดูแล้วคล้ายร้อนใจอยู่บ้าง ไม่ต้องการให้ห้าสิบหกเพลิงถูกทำลายลง
ในบรรดาสิ่งเหล่านี้มีธงโบราณขาดรุ่งริ่ง แผ่นทองแดงขึ้นสนิม กระถางแตกหัก และของชิ้นอื่น ๆ ต่างล้วนแล้วแต่ระเบิดพลังอันน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งออกมา
หลี่จิ่วเต้าโบกต้นวิเศษสัตตะในมือ รุ้งเจ็ดสีเจิดจ้า พลังของธงโบราณขาดรุ่งริ่ง แผ่นทองแดงขึ้นสนิม กระถางแตกหัก และของชิ้นอื่น ๆ ต่างถูกชำระจนร่วงหล่นลงไป
“อ๊ากกก!”
คล้ายกับมีเสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัวดังออกมาจากพื้นที่สีเทา หมอกสีเทาพลันหนาทึบมากขึ้นเรื่อย ๆ คล้ายต้องการจะพุ่งออกมา
ในขณะเดียวกันนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น วงกลมสีเทาไม่อาจหยุดยั้งการโจมตีของสายฟ้าอันไร้ขอบเขตได้ พังทลายลงจนสิ้น เพลิงทั้งห้าสิบหกเองก็ส่งเสียงดังลั่น แตกกระจายออกไปหมด
พื้นที่สีเทาพลันหายลับไป ฟ้าดินกลับมาสดใสอีกครั้ง
หลี่จิ่วเต้ายิ้มบาง เรียกสมบัติทั้งหมดกลับคืน
เขาคาดเดาไม่ผิด การทำลายค่ายกลคือกุญแจสำคัญ หลังจากทำลายได้แล้วทุกอย่างล้วนจบสิ้นลง
“สิ่งเหล่านี้อย่าปล่อยให้เสียเปล่า เก็บกลับไปด้วย”
เขามองไปยังธงโบราณขาดรุ่งริ่ง แผ่นทองแดงขึ้นสนิม กระถางแตกหัก ที่ตกลงบนพื้น จากนั้นก็เก็บเอาทั้งหมดไปด้วย
อย่างไรเสียสิ่งเหล่านี้ก็น่าจะเป็นสมบัติเช่นนั้น เขาเหมือนได้ยินเสียงกู่ร้องอย่างเจ็บปวดดังมาจากพื้นที่สีเทา
“กลับดีกว่า”
หลังจากนั้นหลี่จิ่วเต้าก็ขี่กระบี่ฉุนจวินออกจากสถานที่แห่งนี้ กลับไปยังเขาไท่หัว
“แข็งแกร่งยิ่งนัก!”
แมงมุมปริภูมิเวลากลืนน้ำลายลงคอดังอึกใหญ่
นั่นคือพื้นที่สีเทา น่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงอย่างถึงที่สุด สถานที่สุดท้ายในการเดินทางของคนผู้นั้น พลังที่สำแดงออกมาต่างสามารถทำให้คนตกใจกลัวจนตายได้ ทว่าผลออกมากลับถูกโจมตีจนถอยรน หลี่จิ่วเต้าผู้นี้นับว่าแข็งแกร่งยิ่งอย่างแท้จริง!
“ข้ายินดีปวารณาตนรับใช้คนผู้นี้ไปตลอดกาล!”
นางเอ่ยออกมา เปลี่ยนความคิดเดิมไปโดยสิ้นเชิง
นางเคยกล่าวเอาไว้ว่าหลังงานครั้งนี้สิ้นสุดลง นางก็ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับหลี่จิ่วเต้าอีกต่อไป
ตอนนี้แมงมุมปริภูมิเวลาหยุดความคิดนั้นไปโดยสิ้นเชิง
นางต้องการติดตามหลี่จิ่วเต้าไปตลอดกาล!
“ข้าด้วย ข้าด้วย!”
อี้เหยาที่อยู่ด้านข้างส่งเสียงออกมา
ขณะเดียวกันสิ่งมีชีวิตทั้งหมดก็รู้สึกราวกับกำลังฝันไป รวมทั้งสิ่งมีชีวิตจากหลังฉากด้วย
พวกเขาต่างไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ดูชมการต่อสู้เช่นนี้ นับเป็นการเปิดหูเปิดตาครั้งใหม่ของพวกเขาโดยสิ้นเชิง!
ส่วนความแข็งแกร่งของหลี่จิ่วเต้านั้นก็ทำให้พวกเขาตกใจเกินขีดสุด!
อีกด้านหนึ่ง หลังผลการต่อสู้ออกมาแล้ว พวกลั่วสุ่ยก็เรียกเก็บสมบัติของตนเอง
“อามิ…ต้าเต๋อฝอ! การต่อสู้ครั้งนี้ช่างเพลิดเพลินยิ่งนัก! คุณชายยังคงแข็งแกร่ง!”
ต้าเต๋อร้องออกมาด้วยความพึงพอใจอย่างถึงที่สุด ก่อนจะยกกะโหลกของมารกระดูกขึ้นมา แล้วเริ่มเคาะมันด้วยมู่อวี๋
“!!!”
มารกระดูกพลันสบถด่าภายในใจ ชะตากรรมอันน่าเวทนาของมันกำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง
เพียงไม่นานหลังจากนั้น หลี่จิ่วเต้าก็ขี่กระบี่กลับมาแล้วร่อนลงบนเขาไท่หัว
“เรื่องคั่นฉากเพียงเล็กน้อย ทุกท่านไม่จำเป็นต้องใส่ใจ พวกเรามาเริ่มงานชุมนุมพ่นใยต่อเถิด
เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้มจาง ๆ
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างตกอยู่ในอารมณ์ซับซ้อน ไม่อาจสงบได้เป็นเวลานาน
ในทางกลับกัน เหล่าสิ่งมีชีวิตที่เข้าร่วมงานชุมนุมพ่นใยปรับอารมณ์ตนเองกลับมาอย่างรวดเร็ว เตรียมตัวเริ่มทำการพ่นใย
หลี่จิ่วเต้าแข็งแกร่งและทรงพลังถึงเพียงนี้ พวกเขาย่อมต้องการทิ้งความประทับใจอันดีเอาไว้ต่อหน้าหลี่จิ่วเต้า เพื่อให้ได้รับความสนใจและหลังจากนั้นอาจจะได้อยู่ข้างกายอีกฝ่าย
สิ่งมีชีวิตจำนวนมากพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพ่นใยที่ดีที่สุดออกมา จากนั้นก็ส่งให้หลี่จิ่วเต้าตรวจสอบ
แมงมุมปริภูมิเวลาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เส้นใยที่นางพ่นออกมานั้นละเอียดอ่อนงดงาม ทำให้หลี่จิ่วเต้าชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง
สุดท้ายหลี่จิ่วเต้าก็ประกาศสิบอันดับแรกของสิ่งมีชีวิตที่สามารถพ่นใยออกมาได้ดี
เขาดีใจมาก ใยจากสิบอันดับแรกดีกว่าที่เขาคาดเอาไว้ ทั้งละเอียดและเหนียว ถุงน่องที่ทำขึ้นมาจะไม่เปื่อยหรือขาดโดยง่าย
‘หากอยู่ที่ดาวเคราะสีเคราะห์สีฟ้า ถุงน่องเหนียวเพียงนี้ย่อมไม่อาจใช้ได้ มีคนจำนวนมากชื่นชมการฉีกถุงน่อง หากใช้เวลาฉีกไปครึ่งวัน คงไม่บ้าไปแล้วหรอกหรือ?’
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยอย่างขบขันในใจ
หลังจากตัดสินสิบอันดับแรกได้แล้ว เซี่ยเหยียนก็แจกจ่ายรางวัล ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าสิ่งมีชีวิตทั้งสิบตื่นเต้นดีใจเพียงใด มือที่ยื่นออกไปรับผลไม้ต่างสั่นเทา
แมงมุมปริภูมิเวลาเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
นางเองก็มือสั่นด้วยความตื่นเต้น นางสัมผัสได้ว่าผลไม้ในมือของตนเองพิเศษเหนือชั้นเป็นอย่างยิ่ง หากนางสามารถหลอมฝึกฝนผลไม้ได้ทั้งหมด ความแข็งแกร่งของนางจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน!
“ข้าซื้อเส้นใยบางส่วนจากพวกเจ้าได้หรือไม่?”
หลี่จิ่วเต้าถามสิ่งมีชีวิตทั้งสิบด้วยรอยยิ้ม
“เพียงแค่คุณชายบอก พวกเราก็ส่งมอบให้ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อเลย!”
“ใช่ ๆๆ!”
สิ่งมีชีวิตทั้งสิบตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
ผลไม้ที่พวกเขาได้รับมอบผลประโยชน์อันไร้ที่สิ้นสุดให้ อีกทั้งคุณชายหลี่ยังเป็นผู้ยิ่งใหญ่เหนือชั้น นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มอบเส้นใยของตนเองให้ เช่นนั้นพวกเขายังจะทำการซื้อขายกับคุณชายหลี่ได้อย่างไร
“ไม่ ๆ ข้าไม่สามารถเอาเปรียบพวกเจ้าได้”
หลี่จิ่วเต้ายิ้ม ยืนกรานว่าจะใช้ผลไม้ซื้อเส้นใย
เขาไม่ขาดแคลนผลไม้ และก็ไม่ใช่คนที่ชอบเอาเปรียบ
อีกทั้งตัวเขาได้เตรียมผลไม้มาสำหรับการซื้อเส้นใยแล้ว
สุดท้ายสิ่งมีชีวิตทั้งสิบก็พ่นใยออกมาเป็นจำนวนมากมอบให้กับหลี่จิ่วเต้า และชายหนุ่มเองก็มอบผลไม้ให้พวกเขาด้วย
“เรื่องในวันนี้ ข้าหวังว่าทุกท่านคงไม่นำไปเผยแพร่มั่วซั่ว ข้าไม่ชอบให้คนมารบกวน เพียงชื่นชอบความสงบเท่านั้น”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ย
ผลที่ตามมาของการเป็นที่รู้จักนั้นเห็นได้ชัด สามารถดึงดูดสิ่งมีชีวิตทุกอย่างให้มา เขาไม่ต้องการความวุ่นวายยุ่งยากเช่นนั้น เพราะต้องมาคอยจำกัดพวกสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ บ่อย ๆ
“เข้าใจเล้ว!”
“ไม่มีทางแพร่งพราย!”
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดตอบรับอย่างรวดเร็ว รวมกระทั่งสิ่งมีชีวิตหลังฉากด้วย
น่าขัน หลี่จิ่วเต้าเอ่ยออกมาด้วยตนเอง เช่นนั้นพวกเขาจะเอาความกล้าจากที่ใดมาฝ่าฝืน ต่างก็ตัดสินใจปิดปากแน่นสนิท ไม่แพร่งพรายบอกพูดใด!
“เอาล่ะ ทุกท่านแยกย้ายเถิด ข้าเองก็จะกลับแล้ว”
หลี่จิ่วเต้าแย้มยิ้มบาง ก่อนจากไปพร้อมพวกลั่วสุ่ย เขาแทบอดใจรอลงมือทำถุงน่องไม่ไหวแล้ว
แน่นอนว่าการทำถุงน่องออกมาเป็นเรื่องรอง สิ่งที่สำคัญคือเขาต้องการเห็นถุงน่องที่จิ้งจอกทั้งสองสวมใส่
อืม นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนเช่นนั้นแต่อย่างใด
ถุงน่องเป็นสิ่งที่เขาทำขึ้นมา ย่อมต้องอยากดูผลงานว่าดูดีหรือไม่อยู่แล้ว!
…
จักรวาลด้านนอกอาณาจักร ซีและเต่าชรากำลังเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็วตามเส้นทาง
มีเพียงแค่ซีผู้เดียวที่เห็นเส้นทางนี้ เต่าชราไม่อาจมองเห็น
พวกนางออกจากแดนเทวโลกแล้ว ซีผ่านเทวโลกไปทุกชั้น เคยผ่านไปถึงกระทั่งเบื้องบนเทวโลก ความแข็งแกร่งพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด กระทั่งเบื้องบนเทวโลกก็ไม่เพียงพอให้นางฝึกฝนอีกต่อไป
นางได้บรรลุถึงขอบเขตนิรันดร์แล้ว การดูดซับและฝึกฝนของนางเร็วอย่างถึงที่สุด
เต่าชราตกตะลึงจนไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
นั่นคือการฝึกฝนหรือ?
นั่นคือการฝึกฝนที่ไหนกัน ดูดซับสสารขุมปราณชีวิตฟ้าดินเข้าสู่ร่างกาย เพียงพริบตาก็หลอมกลั่นกลายเป็นพลังของตนเอง ไม่จำเป็นต้องฝึกฝนแม้แต่น้อย
ส่วนอุปสรรคเช่นเส้นกั้นระหว่างขอบเขตและการตระรู้นั้นเหมือนไม่มีอยู่จริง!
เต่าชราเกิดความสงสัยขึ้นมาอย่างจริงจังว่าซีนั้นเป็นร่างอวตารของมหาเต๋า ไม่เช่นนั้นแล้วจะผิดปกติเช่นนี้ได้อย่างไร?
“อย่าคิดเช่นนั้น เหตุที่ข้าเป็นเช่นนี้ ก็เพราะข้าเคยได้พบกับวาสนา…”
ซีส่ายหัวพลางเอ่ยกับเต่าชรา ตระหนักได้ถึงสถานการณ์ของตนเองเป็นอย่างดี
นางไม่ใช่ร่างอวตารของมหาเต๋า ทั้งหมดเป็นเพราะคนผู้นั้นที่เปลี่ยนแปลงร่างกายของนาง
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ นางก็เกิดความรู้สึกเลื่อมใสคนผู้นั้นยิ่งขึ้น
คนผู้นั้นคือใครกัน?
ช่างแข็งแกร่งไม่น่าเชื่อจริง ๆ!
ขอบเขตนิรันดร์ยากจะบรรลุถึง สิ่งมีชีวิตในเทวโลกไม่รู้มากน้อยเพียงใดที่ฝึกอย่างยาวนานจนไม่อาจนับปีได้ แต่ก็ไม่อาจก้าวมาถึงขั้นนี้ ทว่านางกลับทำได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังห่างไกลจากขีดจำกัดมาก นางรู้สึกได้ว่าหลังจากนี้ตนเองยังสามารถพัฒนาต่อไปได้ด้วยความเร็วเช่นเดิม!
‘ยิ่งเป็นเช่นนี้ ใจข้ายิ่งสับสน…’
นางเอ่ยในใจ
กองกำลังมืดมิด ทั้งยังมีคนผู้นั้น ล้วนเหนือชั้นจนไม่อาจจินตานาการ ทว่าผลกลับว่ามีบางอย่างเกี่ยวพันกับนาง
นี่ทำให้นางรับรู้ได้ว่าเรื่องราวทุกอย่างไม่ได้เรียบง่ายแต่อย่างใด!
บนร่างของนางจะต้องมีความลับยิ่งใหญ่บางประการ!
“กล่องสี่เหลี่ยมจะต้องให้คำตอบแก่ข้าอย่างแน่นอน ข้าต้องรีบตามหามัน”
ซีกล่าวด้วยดวงตาเปล่งประกาย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากล่องสี่เหลี่ยมเป็นกุญแจสำคัญ หลังจากหากล่องสี่เหลี่ยมพบ นางจะต้องรับรู้ความจริงอย่างแน่นอน และอาจจะรู้ความจริงทั้งหมดเสียด้วยซ้ำ
“ไปเถิด!”
ซีและเต่าชราเร่งความเร็วขึ้น
บิดามารดาและคนในตระกูลของนางอยู่กับกล่องสี่เหลี่ยม นางไม่เพียงแต่ต้องการตามหากล่องสี่เหลี่ยมเท่านั้น ทว่ายังต้องการพบบิดามารดาและคนในตระกูลด้วย เพื่อดูว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ใดอยู่