ตอนที่ 919 สืบสวนหญิงวิกลจริต
กว่าชั่วโมงถัดมา ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก ฟางจั๋วหรานถูกเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ผลักรถเข็นออกมา ซึ่งทุกคนคือเพื่อนร่วมงานของเขา
หลินม่าย คุณปู่ฟาง และคุณย่าฟางรีบเข้ามาดูอาการเขา
ก่อนที่จะได้พูดอะไร แพทย์ที่ทำการผ่าตัดฟางจั๋วหรานถอดหน้ากากออก ก่อนจะบอกเขาว่าการผ่าตัดทั้งหมดผ่านไปด้วยดี และฟางจั๋วหรานจะหายเป็นปกติหลังจากพักฟื้นไม่กี่เดือน
หลินม่ายไม่อยากจะเชื่อ “เขาถึงกับอาเจียนเป็นเลือดตั้งเยอะ แต่จะฟื้นตัวเร็วขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”
หัวหน้าศัลแพทย์ตอบกลับว่าแม้กระดูกซี่โครงทิ่มปอดจะเป็นเรื่องร้ายแรงมาก แต่ตราบใดที่เข้ารักษาได้ทันเวลา มันก็จะไม่เป็นปัญหา
เขาถอนหายใจเบา “ศาสตราจารย์ฟางเป็นคนที่เข้มแข็งจริง ๆ เขาสามารถอดทนได้เจ็ดถึงแปดชั่วโมง และไม่สลบไปจนกว่าจะถึงห้องผ่าตัด”
ฟางจั๋วหรานถูกพาส่งเข้าห้อง ICU และไม่กี่ชั่วโมงถัดมาเขาก็ตื่นขึ้น
ทันทีที่ลืมตา เขาหันมองหน้าต่างของห้อง ใบหน้าเล็ก ๆ ของหลินม่ายแนบชิดกระจกขณะมองมาที่เขา
เขาพยายามยกมือเพื่อบอกกล่าวว่าเขาไม่เป็นไร
หลินม่ายยิ้มก่อนจะโบกมือกลับ
ฟางจั๋วหรานชี้ไปที่แขนของเขาอย่างต้องการจะถามว่า แขนของเธอเป็นยังไงบ้าง
หลินม่ายอดทนต่อความเจ็บปวดก่อนจะยกแขนที่บาดเจ็บซึ่งได้รับการรักษาแล้วให้เขาดู
เวลานี้ฟางจั๋วหรานยกยิ้มอย่างอ่อนแรงให้กับเธอ
หลินม่ายไม่เคยเห็นใบหน้าหล่อเหลาของฟางจั๋วหรานซีดเซียวมาก่อน
เธอพยายามไม่ร้องไห้ และยังยกยิ้มให้เขาเช่นเคย
เวลานี้ พยาบาลตัวน้อยกำลังเข็นรถขนาดเล็กเข้าไปในห้องของฟางจั๋วหรานเพื่อฉีดยาให้เขา
หลินม่ายหยุดอีกฝ่ายไว้ และขอให้หล่อนบอกกับฟางจั๋วหรานว่าให้พักผ่อนให้เพียงพอ และอย่ายกมือยกเท้าของเขาอีก
เธอยังคงมองเห็นและตราบใดที่เขายังลืมตาได้ เธอก็สัมผัสได้ว่าเขาไม่เป็นไร
เธอกล่าวว่าการที่เขายกมือและเท้าขึ้นจะเกิดกระทบบาดแผลของเขา และจะทำให้แผลฉีกขาดภายหลังได้
พยาบาลก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน
คุณย่าฟางหันมาพูดกับหลินม่ายว่า “จั๋วหรานตื่นแล้ว ผ่อนคลายเถอะนะ กลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกินอาหารสักหน่อยเถอะ อีกอย่างเสี่ยวมู่ตงไม่ได้เจอเธอหลายวันแล้ว ไปจัดการทั้งหมดให้เรียบร้อยค่อยกลับมาโรงพยาบาลก็ได้”
หลินม่ายตอบรับ เธอมองฟางจั๋วหรานที่กำลังฉีดยาก่อนจะออกไป
ที่บ้านในเวลานี้เหลือเพียงน้าถู น้าทัง โต้วโต้ว และเสี่ยวมู่ตง
เสี่ยวเหวินยังไม่ทำการบ้าน และเขากำลังเล่นกับเสี่ยวมู่ตงกับโต้วโต้ว ไม่ต่างจากพี่ชายคนโต
หลินม่ายกล่าวเสียงค่อย “เสี่ยวมู่ตง โต้วโต้ว แม่กลับมาแล้วจ้ะ”
เสี่ยวมู่ตงหันศีรษะก่อนจะมองเธอด้วยความประหลาดใจ
เขาอาจไม่เคยเห็นว่าแม่มีแผลเช่นนี้มาก่อน เวลานี้ร่างกายของเขาแข็งทื่อไปชั่วขณะ
ส่วนโต้วโต้วใช้ขาอวบอ้วนวิ่งเข้ามาหา “แม่คะ แม่คะ กลับมาแล้วเหรอ คุณปู่กับคุณย่าบอกว่าคุณแม่ไปธุระ แล้วทำไมเป็นแบบนี้ล่ะคะ?”
เวลานี้เธอหันไปโบกมือให้กับเสี่ยวมู่ตง “แม่กลับมาแล้ว”
เสี่ยวมู่ตงยังอยู่ที่เดิม จ้องมองหลินม่ายด้วยดวงตากลมโตสีดำขลับ
“แม่ประสบอุบัติเหตุนิดหน่อยขณะเดินทางไปคุยงานน่ะจ้ะ เลยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
หลินม่ายตอบคำถามของโต้วโต้วก่อนจะเดินไปหาเสี่ยวมู่ตงและกอดเขาด้วยแขนข้างที่ไม่ได้บาดเจ็บ ก่อนจะหอมแก้มเขาสองข้าง “ไม่ได้เจอแม่แค่สองวัน จำแม่ไม่ได้เลยเหรอคะ?”
เสี่ยวมู่งตงจ้องมองเธอสักครู่ ก่อนจะรู้ว่าผู้หญิงในชุดสกปรกคนนี้คือแม่ของตนเอง เวลานี้เขาโอบแขนรอบลำคอของหลินม่ายและไม่ยอมปล่อยเธอไป
แม่และลูกชายกอดกันอยู่นานก่อนที่หลินม่ายจะให้เสี่ยวมู่ตงอยู่กับเสี่ยวเหวินก่อน
เธอต้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำซุปให้กับฟางจั๋วหราน
เขาเสียเลือดมาก และยังต้องเข้าผ่าตัด เวลานี้จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่บำรุงเขาด้วย
เธอมีหลายสิ่งที่ต้องจัดการ
โต้วโต้วยื่นมือออกมาพร้อมกับพูดว่า “แม่คะ อุ้มฉันบ้างสิ”
หลินม่ายโบกมือทันที “หนูอ้วนเกินไป แม่อุ้มไม่ไหวแล้วจ้ะ” ก่อนจะเดินออกไป
โต้วโต้วเม้มปากแน่นด้วยความเสียใจ
เสี่ยวเหวินกำลังเล่นกับเสี่ยวมู่ตง เขาเห็นท่าทางของอีกฝ่าย จึงกล่าวเตือนโต้วโต้วว่า “เห็นไหมว่าคุณอาเหนื่อยมาก ไม่เห็นหรือไง?”
โต้วโต้วพูดด้วยความหงุดหงิด “ก็ฉันอยากให้แม่กอดฉันบ้างนี่ แค่นี้จะเป็นไรไป”
เสี่ยวเหวินไม่พูดต่อ “แขนของคุณอามีแผล มีผ้าก็อซพันอยู่ตั้งเยอะ แล้วดูเธออ้วนขนาดนั้นยังจะให้คุณอาอุ้มอีกเหรอ หล่อนอุ้มเธอด้วยมือข้างเดียวไม่ได้หรอก”
ถึงโต้วโต้วจะไม่พูดอะไรอีก แต่ใบหน้าก็ยังเต็มไปด้วยความเสียใจ
หลินม่ายได้รับบาดเจ็บสาหัสที่แขนข้างหนึ่ง และไม่สามารถอาบน้ำคนเดียวได้ถนัดนัก
เธออาบน้ำก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเริ่มปรุงซุปโดยมีการช่วยเหลือจากน้าทัง
หลินม่ายกำลังจะออกไปพร้อมกับกระติกน้ำร้อนที่เต็มไปด้วยซุปไก่อยู่ภายใน
โต้วโต้วถามเธอทันทีว่า “แม่จะไปไหนคะ?”
เสี่ยวมู่ตงวิ่งเข้ามากอดต้นขาของเธอไม่ปล่อย ก่อนจะมองเธอด้วยสีหน้างอแงเพื่อจะบอกว่าไม่ให้เธอออกไปไหนอีก
หลินม่ายครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะบอกเด็กทั้งสามว่าฟางจั๋วหรานเข้าโรงพยาบาลและกำลังผ่าตัดอยู่
แต่เธอไม่ได้บอกเหตุผลแท้จริงกับเด็กน้อยทั้งสาม บอกเพียงว่ากำลังผ่าตัดและเขาป่วย
โต้วโต้วกลายเป็นกังวลว่าเมื่อเธอได้ยินอย่างนั้น ก่อนจะยืนยันว่าจะไปเยี่ยมฟางจั๋วหรานด้วย
หลินม่ายจึงพาเด็กทั้งสามคนไปเยี่ยมฟางจั๋วหรานด้วยกัน
ไม่กี่วันต่อมา ฟางจั๋วหรานถูกย้ายจากห้อง ICU ไปที่ห้องทั่วไปแล้ว
คดีลักพาตัวของหลินม่ายเองก็มีความคืบหน้าแล้วเช่นกัน
ผู้หญิงวิปริตคนนั้นชื่อซ่งเฮยเจิ้นที่ฝึกฝนศิลปะต่อสู้ตั้งแต่ยังเด็ก และเป็นอันดับสี่ในกลุ่มของการแข่งขันวูซูแห่งชาติตอนอายุสิบหกปี
หล่อนได้เข้าร่วมกองทัพหลังจากอายุครบสิบแปดปี และเพราะด้วยผลงานโดดเด่นจึงได้รับคัดเลือดให้เข้าร่วมในหน่วยรบพิเศษของปีนั้น
หล่อนเคยมีแฟนหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาคลายกับฟางจั๋วหราน
แฟนเก่าของหล่อนเป็นคนขี้โกง เขาโกงเงินหล่อน และยังมีชู้ด้วย โกงไปจนหล่อนไม่เหลืออะไรแล้วค่อยทิ้งหล่อนภายหลัง
เป็นเพราะหวาดกลัวว่าหล่อนจะแก้แค้น เลยหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
เพราะเหตุนี้ซ่งเฮยเจิ้นถึงกลายเป็นบ้า และพูดถึงการฆ่าแฟนเก่าของหล่อนในทุก ๆ วัน
เมื่อไม่นานมานี้ มีผู้ชายคนหนึ่งมาหาหล่อน และบอกว่าเขารู้ที่อยู่ของแฟนเก่าหล่อนด้วย
อีกทั้งยังเล่าว่าแฟนเก่าของหล่อนแต่งงานกับภรรยาใหม่ด้วยเงินที่โกงจากหล่อนมา และยังตามใจอีกฝ่ายราวกับเด็กน้อย
ซ่งเฮยเจิ้นเชื่อทันทีว่าเป็นเรื่องจริง และรีบไปหาแฟนเก่าของตัวเองทันที
พ่อของหล่อนพยายามเกลี้ยกล่อมว่าเขาตายแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล
สุดท้ายแม้ว่าซ่งเฮยเจิ้นจะมีปัญหาทางจิต แต่หล่อนก็ไม่ได้สร้างปัญหา และยังคงไปทำงาน ใช้ชีวิตราวกับคนปกติ
เวลานี้พ่อแม่ของหล่อนจึงไม่รู้ว่าหล่อนมีปัญหาทางจิตเลย
ถ้าพวกเขารู้ พ่อซ่งคงจะไม่ต้องโกรธขนาดนี้
ใครกันอยากจะโต้เถียงกับคนโรคจิต?
ซ่งเฮยเจิ้นถูกหลอกล่อให้เข้าเมืองหลวง จนกระทั่งได้พบกับฟางจั๋วหรานและหลินม่าย
หล่อนมีความผิดปกติทางจิต และฟางจั๋วหรานก็ดูคล้ายกับแฟนเก่าของหล่อนมากด้วย
นอกจากนี้ชายลึกลับคนนั้นยังบอกใบ้หล่อนว่าฟางจั๋วหรานคือแฟนเก่าของเธอเพียงแต่เปลี่ยนชื่อไปเท่านั้น
แฟนเก่าของหล่อนเลิกกับหล่อนเพราะนังจิ้งจอกหลินม่าย
ถ้าเพราะหลินม่ายไม่ล่อลวงแฟนของหล่อนมา หล่อนและแฟนเก่าคงจะรักกันจนถึงวันได้แต่งงานไปแล้ว
ด้วยเหตุผลนี้ ซ่งเฮยเจิ้นจึงกลายเป็นฆาตกรที่คิดสังหารหลินม่าย หล่อนลักพาตัวหลินม่ายโดยได้รับการช่วยเหลือจากผู้ชายคนนั้น
หล่อนต้องการทรมานหลินม่ายให้ตายเพื่อคลายความเกลียดชัง
แต่เมื่อหล่อนลักพาตัวหลินม่ายไปที่เมืองหม่าถี และเพิ่งกินอาหารเสร็จสิ้น หลินม่ายก็หายตัวไปกระทันหัน
ซ่งเฮยเจิ้นยิ่งหงุดหงิดใจมากขึ้น หล่อนจึงต้องการล่อลวงให้ฟางจั๋วหรานมาที่นี่แล้วฆ่าเขาเสีย
นั่นเป็นสาเหตุที่รถเบ๊นซ์ของหลินม่ายถูกใช้เอาไปชนกับรถจี๊ปของฟางจั๋วหราน
แม้ว่าซ่งเฮยเจิ้นจะอธิบายกระบวนการทุกอย่าง แต่หล่อนก็ไม่เคยเปิดเผยว่าชายลึกลับคนนั้นเป็นใคร
รู้เพียงว่าเขาไม่ได้สูงมาก มีลูกน้องตัวน้อยเดินตามผู้ที่สวมชุดรัดรูปสีน้ำเงินเข้ม
แน่นอนว่ารูปลักษณ์เช่นนี้มีอยู่ทั่วไปตามท้องถนน ไม่มีอะไรโดดเด่นแม้แต่น้อย
สำนักงานตำรวจถึงกับร่างกายแข็งทื่อ ด้วยคำให้การเพียงเท่านี้ จะสามารถค้นหาชายลึกลับได้จากที่ไหน?
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ใครกันนะเป็นคนบงการ น่าจับมาฟ้องเรียกค่าเสียหายเสียให้ล้มละลาย
ไหหม่า(海馬)