แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 925 แข่งขันนักออกแบบแฟชั่นยอดเยี่ยมครั้งที่ 1

ตอนที่ 925 แข่งขันนักออกแบบแฟชั่นยอดเยี่ยมครั้งที่ 1

ตอนที่​ 925 แข่งขัน​นักออกแบบ​แฟชั่น​ยอดเยี่ยม​ครั้ง​ที่​ 1

ใน​ช่วง​ต้นเดือน​ธันวาคม​ จะมีการแข่งขัน​ระดับชาติ​ของ​นักออกแบบ​แฟชั่น​ที่​มีความสามารถ​

นี่​คือ​การประกวด​ของ​นักออกแบบ​แฟชั่น​แห่งชาติ​ครั้งแรก​ที่​จัด​ขึ้น​ในประเทศ​จีน​

รางวัล​อันดับ​หนึ่ง​คือ​ รางวัล​ลูกโลก​ทองคำ​พร้อม​เงินโบนัส​ 10,000 หยวน​ และ​รางวัล​รองชนะเลิศ​คือ​ รางวัล​ลูกโลก​เงิน​ พร้อม​เงินโบนัส​ 5,000 หยวน​

แน่นอน​ว่า​เถาจืออวิ๋น​เข้าร่วม​การประกวด​ครั้งนี้​ด้วย​

แม้หล่อน​จะได้​รับรางวัล​ใน​หลาย​ ๆ ประเทศ​แล้ว​ แต่​เธอ​ยัง​ไม่เคย​ได้​รับรางวัล​ในประเทศ​จีน​สักครั้ง​

หล่อน​จะเข้าร่วม​การแข่งขัน​ใน​คราวนี้​ด้วย​ และ​ต้อง​ได้​รับรางวัล​เพื่อ​เพิ่ม​ชื่อเสียง​ของ​ตน​ภายในประเทศ​

ใน​ยุค​สมัยนี้​การสื่อสาร​ยัง​ไม่ค่อย​ดี​ แม้เถาจืออวิ๋น​จะเป็นที่รู้จัก​ใน​แวดวง​แฟชั่น​ต่างประเทศ​ก็ตาม​ แต่​คน​ในประเทศ​ส่วนใหญ่​ก็​ยัง​ไม่ค่อย​รู้จัก​หล่อน​นัก​

สุดท้าย​แล้ว​นี่​คือ​การประกวด​แฟชั่น​ครั้งแรก​ของ​ประเทศ​จีน​ และ​การชนะ​คราวนี้​ถือว่า​เป็น​รางวัล​ใหญ่​สำหรับ​หล่อน​

สถานีวิทยุโทรทัศน์​กลาง​แห่ง​ประเทศ​จีน​มีกำหนด​การออกอากาศ​พิธี​มอบ​รางวัล​การแข่งขัน​ครั้งแรก​ของ​ประเทศ​ใน​วันที่​ 12 ธันวาคม​

เพราะเหตุนี้​เถาจืออวิ๋น​จึงเข้าสู่​เมืองหลวง​ล่วง​หน้าหนึ่ง​วัน​ และ​ฟางจั๋วเยวี่ย​ก็​อยู่​กับ​หล่อน​ด้วย​

แน่นอน​ว่า​ความหวาน​ของ​ทั้งสอง​ไม่อาจ​ปิด​ได้​มิดชิด​

ฟางจั๋วเยวี่ย​เป็น​นัก​ชิมตัวฉกาจ​ หาก​เขา​พบ​เจอ​ของ​อร่อย​ เขา​จะให้​เถาจืออวิ๋น​ลิ้มรส​มัน​ก่อน​

แต่​สุดท้าย​แล้ว​เถาจืออวิ๋น​ไม่ใช่นักกิน​ตัวยง​ หล่อน​ปล่อย​ให้​ฟางจั๋วเยวี่ย​กิน​คนเดียว​เสีย​ส่วนใหญ่​

ขณะที่​ทั้ง​ครอบครัว​กำลัง​รับประทาน​มื้อ​เย็น​ ฟางจั๋วเยวี่ย​มอง​ตุ๋น​ไก่​ดำ​กับ​เห็ด​หูหนู​บน​โต๊ะอาหาร​ด้วย​แววตา​ราวกับ​เห็น​สมบัติ​ เขา​หยิบยก​มัน​ให้​กับ​เถาจืออวิ๋น​ทันที​

หลิน​ม่าย​เห็น​อย่างนั้น​ถึงกับ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กระตุก​มุมปาก​เล็กน้อย​

เธอ​ตุ๋น​ซุป​ถ้วย​นี้​สำหรับ​ทั้ง​ครอบครัว​ แต่​ฟางจั๋วเยวี่ยยก​ทั้ง​ชามให้​เถาจืออวิ๋น​ไป​แล้ว​

แล้ว​คนอื่น​จะทำ​อย่างไร​ ปล่อย​ซุป​นี้​ไป​เหรอ​?

อย่างไร​เสีย​ เถาจืออวิ๋น​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน​ คุณย่า​ฟางและ​คนอื่น​ ๆ จึงไม่สามารถ​ปฏิบัติ​กับ​เธอ​เช่นเดียวกับ​ที่​ปฏิบัติ​กับ​หลิน​ม่าย​ได้​

และ​การ​เอื้อมมือ​ไป​ตัก​ซุป​ที่อยู่​ตรงหน้า​ของ​เธอ​มัน​จะสร้าง​ความ​อึดอัด​ให้​กับ​ทุกฝ่าย​

เวลานี้​โต้​ว​โต้​ว​ตี​ฟางจั๋วเยวี่ย​ก่อน​จะกล่าว​อย่าง​ขุ่นเคือง​ว่า​ “ตุ๋น​ไก่​กระดูกดำ​กับ​ถั่งเช่าชามนี้​แม่ทำให้​ทุก​คนใน​ครอบครัว​นะ​”

ใบหน้า​ของ​เถาจืออวิ๋น​กลายเป็น​สีแดง​ ก่อน​จะขยับ​ชามไก่​ตุ๋น​และ​ถั่งเช่าไป​ไว้​ตรงกลาง​โต๊ะ​แล้ว​หันกลับ​ไป​ตำหนิ​ฟางจั๋วเยวี่ย​เสียง​ค่อย​

คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟางพยายาม​ทำให้​บรรยากาศ​กลับมา​สดใส​เช่นเคย​เพื่อ​บรรเทา​ความ​อึดอัด​ใจของ​เถาจืออวิ๋น​

คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟางมีความสุข​มาก​ที่​เห็น​หลานชาย​คน​เล็ก​กับ​เถาจืออวิ๋น​มีความสัมพันธ์​ที่​ดี​ เวลานี้​จึงเอ่ยปาก​ถามว่า​ทั้งสอง​คน​จะแต่งงาน​กัน​เมื่อใด​

อาการป่วย​ของ​ฟางจั๋วเยวี่ย​หาย​แล้ว​ และ​เขา​มีความสุข​กับ​การ​กิน​อาหาร​เป็นพิเศษ​ เวลานี้​เขา​กิน​ตุ๋น​นก​พิราบ​อย่าง​เอร็ดอร่อย​

เขา​กล่าว​กับ​ชาย​ชรา​ “ผม​กับ​จืออวิ๋น​คุย​กัน​แล้ว​ ว่า​เรา​จะแต่งงาน​กัน​ภายใน​ปี​นี้​ และ​จะให้​คุณปู่​กับ​คุณย่า​เลือก​วัน​ให้​ครับ​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ได้ยิน​อย่างนั้น​จึงหัน​มอง​ฟางจั๋วเยวี่ย​ด้วย​แววตา​ลุ่มลึก​

หลังจาก​รับประทาน​มื้อ​เย็น​เสร็จ​แล้ว​ ทุกคน​เริ่ม​เลือก​วัน​แต่งงาน​ให้​กับ​ฟางจั๋วเยวี่ย​และ​เถาจืออวิ๋น​

วัน​ขึ้น​ 26 ค่ำ​ เดือน​ 12 นับว่า​เป็น​วัน​มงคล​ คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟางกำหนด​วัน​แต่งงาน​ให้​หลานชาย​คน​เล็ก​ทันที​

หลังจาก​ดู​ข่าว​จบ​แล้ว​ ฟางจั๋ว​หรา​น​เรียก​ฟางจั๋วเยวี่ย​ไป​ที่​ห้องทำงาน​ของ​เขา​แล้ว​พูด​ขึ้น​ว่า​ “ฉัน​ไม่คัดค้าน​หรอก​นะ​ที่​นาย​อยาก​จะแต่งงาน​กับ​เสี่ยว​เถา ฉัน​แค่​อยาก​จะเตือน​ว่า​นาย​ต้อง​ใช้เวลา​กว่า​ครึ่ง​ปี​ ร่างกาย​ถึงจะกลับมา​ฟื้นตัว​ได้​เต็มที่​ นาย​จะแต่งงาน​ก็ได้​ แต่​ห้าม​มีเพศสัมพันธ์​เด็ดขาด​ และ​จะมีได้​ก็ต่อเมื่อ​ผ่าน​ไป​ครึ่ง​ปี​แล้ว​”

ชายหนุ่ม​ที่​มักจะ​ผ่อนคลาย​เสมอ​ได้ยิน​เรื่อง​นี้​ถึงกับ​ใบ​หน้าแดง​เรื่อ​ขึ้น​มา

ฟางจั๋วเยวี่ย​อับอาย​และ​พยายาม​ปกปิด​มัน​ด้วย​คำพูด​กระท่อนกระแท่น​ “อ้อ​ เรื่อง​นี้​ผม​รู้​แล้ว​น่า​ พี่​ครับ​ อย่า​จู้จี้จุกจิก​เหมือน​ผู้หญิง​ได้​ไหม​”

หลัง​พูด​จบ​ เขา​ก็​เดิน​หนี​ทันที​

ตาม​กำหนดการ​ พิธี​มอบ​รางวัล​การประกวด​นักออกแบบ​แฟชั่น​ยอดเยี่ยม​ระดับ​ประเทศ​จะถูก​ถ่ายทำ​ใน​ช่วง​กลางวัน​ และ​ถ่ายทอด​ใน​ช่วง​กลางคืน​

บ่าย​วันรุ่งขึ้น​ หลิน​ม่าย​และ​เถาจืออวิ๋น​เตรียมตัว​เข้าร่วม​การแข่งขัน​ประกวด​แฟชั่น​แห่ง​ประเทศ​ด้วยกัน​

ใน​ฐานะ​ประธาน​ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​ หลิน​ม่าย​ได้​รับเชิญ​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​ด้วย​

ทันทีที่​ทั้งสอง​ปรากฏตัว​ใน​งานเลี้ยง​ พวก​เธอ​ดึงดูด​ความสนใจ​จาก​ผู้คน​จำนวนมาก​ ทั้ง​เหล่า​บรรดา​ผู้กำกับภาพยนตร์​ และ​นักข่าว​อีก​มากมาย​

การ​บันทึก​เริ่มต้น​ขึ้น​

งาน​เปิดตัว​แฟชั่น​โชว์​แรก​เป็น​ของ​โย​มิ อา​ซากุ​สะ

โดยปกติ​แล้ว​ แบรนด์​ไหน​สามารถ​ได้รับ​เลือก​ให้​โชว์​เปิดงาน​มักจะ​ได้เปรียบ​

เพราะ​การ​เปิดงาน​จะสร้าง​ความประทับใจ​ให้​กับ​กรรมการ​และ​ตัวแทนจำหน่าย​ทั้งหมด​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​

หลิน​ม่าย​และ​เถาจืออวิ๋น​สบตา​กัน​

แฟชั่น​โชว์​นี้​ควรจะเป็น​เถาจืออวิ๋น​ที่​ได้รับ​ตำแหน่ง​เปิดงาน​ เพราะ​หล่อน​มีชื่อเสียง​โด่งดัง​ใน​ต่างประเทศ​ แต่ว่า​กลับเป็น​โย​มิ อา​ซากุ​สะที่​ได้รับ​ตำแหน่ง​นี้​ไป​แทน​

ส่วน​การ​จัดแสดง​ของ​ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​ถูกวาง​ไว้​ตรงกลาง​

และ​มัน​เป็น​ช่วงเวลา​ที่​แย่​ที่สุด​

เหล่า​กรรมการ​และ​ตัวแทนจำหน่าย​เริ่ม​เบื่อหน่าย​ที่จะ​รับ​ชม พวกเขา​ไม่ได้​สนใจ​เสื้อผ้า​ที่​ถูก​โชว์​บน​แคทวอล์ค​มาก​นัก​

แต่​อย่างไรก็ตาม​ เมื่อ​ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​เปิดตัว​เสื้อผ้า​ของ​ตนเอง​ ผู้จัดจำหน่าย​และ​เหล่า​กรรมการ​ที่​กำลัง​เบื่อหน่าย​กลับ​กลายเป็น​เปี่ยม​ด้วย​พลัง​ แววตา​ของ​เขา​เป็นประกาย​พร้อม​จับจ้อง​บน​เวที​อย่าง​ไม่ละสายตา​

เพราะ​นางแบบ​ที่​ออกมา​โชว์​เสื้อผ้า​นั้น​น่า​ดึงดูดสายตา​อย่างยิ่ง​

นางแบบ​เหล่านั้น​สูง 180 เซนติเมตร​ ร่าง​บาง​และ​เพรียว​ยาว​ ขา​ยาว​ได้สัดส่วน​ทำให้​ผู้คน​ไม่อาจ​ละสายตา​ได้​

นางแบบ​ไม่ได้​สวย​มาก​นัก​ แต่​เพราะ​ความมั่นใจ​ใน​แววตา​ทำให้​ทุก​สายตา​จับจ้อง​มาและ​ไม่รู้สึก​ถึงจุดด้อย​ของหล่อน​เลย​ มีเพียง​เสน่ห์​ที่​น่า​ดึงดูดสายตา​

ตัวแทนจำหน่าย​ทั้งหมด​เห็น​นางแบบ​แล้ว​ แน่นอน​ว่า​พวกเขา​ก็​มอง​ด้วยว่า​นางแบบ​กำลัง​สวม​ชุด​อะไร​อยู่​

ชุด​เหล่านี้​ทั้ง​แปลกใหม่​ เก๋ไก๋​ และ​สวยงาม​มาก​

ดูเหมือนว่า​จะเป็น​ชุด​ที่​ยอดเยี่ยม​ที่สุด​ใน​โชว์​วันนี้​แล้ว​

พวกเขา​มองดู​เสื้อผ้า​นาง​แบบอย่าง​สนุกสนาน​ ดู​นางแบบ​คน​นั้น​สิ คน​นี้​สวย​กว่า​ ชุด​ของ​คน​นั้น​สง่างามมาก​ คน​นั้น​ก็​ดู​ทันสมัย​ไม่น้อย​

เหล่า​ตัวแทนจำหน่าย​ไม่อาจ​ละสายตา​

หลิน​ม่าย​เอง​ก็​จ้องมอง​นางแบบ​ที่สูง​ 180 เซนติเมตร​ตรงหน้า​ด้วย​ความประหลาดใจ​ด้วย​เช่นกัน​

เธอ​หัน​มอง​เถาจืออวิ๋น​ด้าน​ข้าง​ก่อน​จะถามว่า​ “ทำไม​กู่​เยี่ยน​ถึงปรากฏตัว​ล่ะ​? พี่​เรียก​หล่อน​มางาน​นี้​ด้วย​เหรอ​?”

เถาจืออวิ๋น​พยักหน้า​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ใช่ กู่​เยี่ยน​ไม่ได้​กลับมา​เยี่ยม​บ้านเกิด​นาน​แล้ว​ ฉัน​โทร​หา​หล่อน​เอง​ ไม่ใช่แค่​จะให้​มาเดิน​แบบ​ให้​กับ​เรา​ แต่​หล่อน​ก็​ยัง​ได้​กลับมา​เยี่ยม​บ้านเกิด​ด้วย​ เธอ​ไม่คิด​ว่า​กู่​เยี่ยน​เป็น​นางแบบ​ที่​ดี​เหรอ​?”

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​ “ฉัน​ก็​รู้สึก​อย่างนั้น​”

แม้ผู้หญิง​คน​นี้​จะไม่ได้​สวย​ แต่กลับ​มีรูปร่าง​ที่​ได้สัดส่วน​

ด้วย​ความสูง​กว่า​ 180 เซนติเมตร​ซึ่งถือว่า​สูงเกินไป​ใน​วงการ​แฟชั่น​ของ​ประเทศ​จีน​ แต่​ความสูง​นี้​คือ​มาตรา​ฐาน​ใน​วงการ​แฟชั่น​ต่างประเทศ​

นอกจากนี้​ หล่อน​ยัง​รู้จัก​ที่จะ​พัฒนา​ตัวเอง​อยู่​เสมอ​ แม้วันหนึ่ง​จะกลายเป็น​ซุปเปอร์​โมเดล​ขึ้น​มาจริง ๆ​ หลิน​ม่าย​ก็​ไม่แปลกใจ​เลย​

หลังจาก​แฟชั่น​โชว์​จบ​ลง​แล้ว​ ก็​จะถึงช่วง​การ​มอบ​รางวัล​

ตัวแทนจำหน่าย​รวมถึง​ผู้ชม​ที่​ซื้อ​ตั๋ว​มาเพื่อ​รับ​ชมการประกวด​แฟชั่น​คราวนี้​ ทุกคน​ต่าง​คาดเดา​ว่า​รางวัล​ลูกโลก​ทองคำ​จะต้อง​เป็น​ของ​เถาจืออวิ๋น​แน่นอน​

ดังนั้น​เมื่อ​พิธีกร​ประกาศ​ว่า​ผู้​ที่​ได้​รับรางวัล​ลูกโลก​ทองคำ​คือ​โย​มิ อา​ซากุ​สะ จึงเกิด​ความโกลาหล​ขึ้น​ทันที​

เจ้าหน้าที่​ภายใน​สถานีวิทยุโทรทัศน์​กลาง​แห่ง​ประเทศ​จีน​เริ่ม​เข้ามา​ห้ามปราม​ และ​บอกกล่าว​ให้​ทุกคน​อยู่​ใน​ความสงบ​

ส่วน​เถาจืออวิ๋น​ได้​รับรางวัล​อันดับ​สามจาก​การประกวด​คราวนี้​

ขณะที่​ผู้ชนะเลิศ​ รองชนะเลิศ​ และ​รองชนะเลิศ​อันดับ​สามขึ้น​สู่เวที​เพื่อ​รับรางวัล​ เวลา​นั้น​โย​มิ อา​ซากุ​สะมอง​เถาจืออวิ๋น​ด้วย​สายตา​เย้ยหยัน​

แต่​เถาจืออวิ๋น​เพียง​ยก​ยิ้ม​เล็กน้อย​ และ​ไม่สนใจ​อีก​ฝ่าย​

หลังจากนี้​จะเป็น​งานเลี้ยง​ ซึ่งจะเป็น​งานเลี้ยงรับรอง​ที่​จัด​ขึ้น​โดย​ห้อง​เสื้อ​ชุน​อิง​เฉี่ยนเฉ่า​ จัด​ขึ้น​ใน​โรงแรม​ตรงข้าม​กับ​สถานีวิทยุโทรทัศน์​กลาง​แห่ง​ประเทศ​จีน​

หลิน​ม่าย​และ​เถาจืออวิ๋น​ไม่สนใจ​เข้าร่วม​ เวลานี้​ทั้งสอง​คน​กำลังจะ​เดิน​ไปหา​กู่​เยี่ยน​ แต่​โย​มิ อา​ซากุ​สะกลับมา​ขวาง​ทั้งสอง​เอาไว้​

โย​มิ อา​ซากุ​สะยก​ยิ้ม​เสแสร้ง​ก่อน​จะกล่าว​กับ​หลิน​ม่าย​ “ม่าย​จื่อ​ ฉัน​ขอ​เชิญเธอ​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​ของ​บริษัท​ฉัน​ด้วย​นะ​ ยังไง​เสีย​ ปู่​ของ​ฉัน​และ​ปู่​ของ​เธอ​ก็​เป็น​สหาย​ร่วม​รบ​ เธอ​คง​ไม่เลิกคบ​กับ​ฉัน​แค่​เพราะ​ปู่​ของ​ฉัน​ตาย​ใน​สนามรบ​หรอก​ใช่ไหม​”

เสียง​ของหล่อน​ค่อนข้าง​ดัง​ ซึ่งมัน​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​เหล่า​แขกเหรื่อ​หลาย​คน​ที่อยู่​ใน​สถานที่​แห่ง​นี้​ทันที​

หลิน​ม่าย​เกลียด​มาก​กับ​ผู้​อ้าง​หลักศีลธรรม​ที่มา​บังคับ​ให้​คน​คน​หนึ่ง​ทำ​ตามที่​ตนเอง​ต้องการ​

เวลานี้​เธอ​ตอบกลับ​อย่าง​เฉยเมย​ “ฉัน​ไม่เคย​ดูถูก​เธอ​ และ​ฉัน​ไม่รู้จัก​เธอ​ ปู่ย่าตายาย​ของ​ฉัน​ไม่ยอมให้​ฉัน​คบค้าสมาคม​กับ​พวก​โง่เง่าหรอก​”

เธอ​ต้องการ​จะบอ​กว่า​ไม่มีใคร​อยาก​คบหา​กับ​คน​ทรยศ​

ใน​สายตา​ของ​เธอ​แล้ว​ โย​มิ อา​ซากุ​สะเป็น​คน​ทรยศ​ เป็น​ผู้​ทรยศ​ยาม​เหตุการณ์​สงบ​

แต่​คนใน​ยุค​นี้​ไม่รู้​ว่า​โย​มิ อา​ซากุ​สะเป็น​คน​ทรยศ​ คิด​เพียง​ว่า​หล่อน​คือ​หญิงสาว​คน​หนึ่ง​ที่​มีความสุข​มาก​เท่านั้น​

ถ้าเธอ​บอ​กว่า​โย​มิ อา​ซากุ​สะเป็น​คน​ทรยศ​ใน​ที่สาธารณะ​ แน่นอน​ว่า​มัน​จะสร้าง​ความขุ่นเคือง​ให้​กับ​ใคร​หลาย​คน​ โดย​จะกลายเป็น​เธอ​เอง​ที่​ไม่มีวุฒิภาวะ​และ​สร้าง​ความแตกแยก​

เธอ​เลย​เปลี่ยน​คำ​พูดว่า​อีก​ฝ่าย​เป็น​เพียง​คน​โง่เขลา​

และ​คำพูด​ของ​หลิน​ม่าย​ทำให้​ใคร​หลาย​คน​ถึงกับ​หัวเราะ​ออกมา​

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

ใคร​อยู่​เบื้องหลัง​ยัย​โย​มิกัน​นะ​ เส้นใหญ่​เหลือเกิน​ ชม.บิน​น้อยกว่า​มาทำ​กร่าง​นะ​

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

Status: Ongoing

หลินม่ายได้กลับมาเกิดใหม่ในวันแต่งงานของตัวเอง​ และพบว่าทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตัวเองหรือครอบครัวสามีต่างก็ยังเป็นเศษสวะกันเหมือนเดิม​ แต่ขอโทษเถอะ…หลินม่ายคนนี้ไม่ใช่หลินม่ายคนเดิมแล้ว​ ใครหน้าไหนมารังแกฉัน​ คราวนี้แม่จะซัดให้หงาย​​ จะงัดมารยาสาไถทุกกระบวนมาใช้แก้เผ็ดมันให้หมด! จากนั้นก็จะหย่ากับสามีกะหลั่วแยกตัวออกมาสร้างฐานะแบบสวยๆ​ ไม่ต้องสนใจใครอีกแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท