แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 929 ด่านตรวจคนเข้าเมือง

ตอนที่ 929 ด่านตรวจคนเข้าเมือง

ตอนที่​ 929 ด่าน​ตรวจ​คนเข้าเมือง​

ขณะนี้​สนามบิน​ส่งเสียงประกาศ​เรียก​ผู้โดยสาร​ให้​ขึ้น​เครื่อง​แล้ว​

ฟางจั๋วเยวี่ย​ฉุด​หลู​เจีย​ซิ่งขึ้น​จาก​พื้น​ก่อน​จะหันมา​พูด​กับ​เถาจืออวิ๋น​ว่า​ “ภรรยา​ พี่สะใภ้​ ไป​แข่ง​ที่​ประเทศ​เกาะ​คราวนี้​ คง​เป็นไปไม่ได้​ที่​หมา​บ้า​บาง​ตัว​จะมาก​เล่ห์เหลี่ยม​เหมือน​ตอน​อยู่​ในประเทศ​เรา​ คราวนี้​พวกคุณ​ต้อง​ได้​ที่หนึ่ง​แน่​”

เขา​กำลัง​พูดถึง​โย​มิ อา​ซากุ​สะ

โย​มิ อา​ซากุ​สะถึงกับ​สบ​ฟัน​แน่น​ด้วย​ความโกรธ​

ฟางจั๋วเยวี่ย​เขย่า​หลู​เจีย​ซิ่งที่​ฟุบ​ตัว​อยู่​บน​แขน​ของ​เขา​เล็กน้อย​ “ส่วน​ทาง​นี้​ผม​จะจัดการ​ให้​กับ​คุณ​เอง​”

ได้ยิน​อย่างนั้น​ หลู​เจีย​ซิ่งก็​เผย​สีหน้า​หวาดหวั่น​ออกมา​

เขา​อยาก​จะร้องไห้​ แต่​เขา​ไม่กล้า​ เพราะ​ด้วย​ภูมิหลัง​ของ​หลิน​ม่าย​ เขา​ไม่กล้า​ที่จะ​โต้แย้ง​ใด​ ๆ

เขา​เพียง​ต้องการ​ใช้ประโยชน์​จาก​เพื่อนสนิท​ของหล่อน​ แต่​เขา​กลับ​สร้าง​ปัญหา​เสียได้​

โย​มิ อา​ซากุ​สะฟังเสียง​เรียก​ขึ้น​เครื่องบิน​ซ้ำไปซ้ำมา​ ก่อน​จะหัน​มอง​หลิน​ม่าย​และ​เถาจืออวิ๋น​ด้วย​รอยยิ้ม​เย่อหยิ่ง​

หล่อน​คิดในใจ​ว่า​ ใน​เมื่อ​นัง​สอง​คน​นี้​ไม่สามารถ​พูด​ภาษาประเทศ​เกาะ​ได้​ ทั้งสอง​จะต้อง​เข้ามา​ขอความช่วยเหลือ​จาก​หล่อน​แน่นอน​

ในเวลานั้น​ นอกจาก​หล่อน​จะไม่ช่วย​ทั้งสอง​คน​แล้ว​ แต่​ยัง​คิด​จะสร้าง​ความ​อับอาย​ให้​กับ​พวก​หล่อน​เพื่อ​ระบาย​ความคับแค้นใจ​ด้วย​

ทว่า​สิ่งที่​หล่อน​ไม่คาดคิด​มาก่อน​คือ​ผู้หญิง​ทั้งสอง​คน​นี้​กลับ​ไม่มาอ้อนวอน​ให้​หล่อน​ร่วม​ทริป​ไป​ด้วย​จนกระทั่ง​ขึ้น​เครื่อง​ด้วยซ้ำ​

โย​มิ อา​ซากุ​สะลอบ​คาดเดา​ใน​ใจว่า​หลิน​ม่าย​และ​เถาจืออวิ๋น​คงจะ​ไม่ต้อง​การขอร้อง​หล่อน​จนกว่า​จะถึงเวลา​ล่ะ​มั้ง

จาก​สนามบิน​แผ่นดินใหญ่​ใน​ปักกิ่ง​ไป​ยัง​ประเทศ​เกาะ​ ยัง​ไม่มีการ​ใช้ภาษาประเทศ​เกาะ​ใน​ระหว่าง​นี้​

นัง​แพศยา​ทั้งสอง​คน​นั้น​คงจะ​รอ​จนถึง​ประเทศ​เกาะ​ก่อน​ แล้ว​ค่อย​อ้อนวอน​ขอความช่วยเหลือ​ภายหลัง​แน่​

เพราะ​ท้ายที่สุด​แล้ว​หาก​ไม่เข้าใจ​ภาษาประเทศ​เกาะ​ มัน​ก็​เป็นเรื่อง​ยาก​ที่จะ​เคลื่อนไหว​ใด​ ๆ ที่นั่น​

หาก​ไม่ถามหล่อน​ พวกเขา​อาจจะ​หา​สถานที่​จัด​การแข่งขัน​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​

ยิ่ง​นึกถึง​ภาพ​หลิน​ม่าย​มาร้อง​ขอความช่วยเหลือ​ด้วย​ใบหน้า​ไร้เดียงสา​ราวกับ​สุนัข​จนตรอก​ โย​มิ อา​ซากุ​สะยิ่ง​ยิ้มเยาะ​ หล่อน​อารมณ์ดี​อย่า​งอด​ไม่ได้​ขณะ​ก้าว​เท้า​ขึ้น​เครื่อง​ด้วย​ใบหน้า​หยิ่งยโส​

เถาจืออวิ๋น​จ้องมอง​คน​ ๆ นั้น​อย่าง​ว่างเปล่า​

หล่อน​กล่าว​กระซิบ​กับ​หลิน​ม่าย​ “ก่อนหน้านี้​เธอ​บอ​กว่า​คน​แซ่อวี่​ยัง​เป็นหนี้​ธนาคาร​จำนวนมาก​ไม่ใช่เหรอ​? แต่​หล่อน​ถึงกับ​กล้า​ซื้อ​ตั๋ว​ชั้นหนึ่ง​เชียว​นะ​ ไม่ละอายใจ​บ้าง​หรือไง​”

หลิน​ม่าย​ยักไหล่​ “ใคร​จะไป​รู้​ล่ะ​?”

ทั้ง​เธอ​และ​เถาจืออวิ๋น​ไม่ใช่คน​ไร้สาระ​อย่างนั้น​ จึงไม่อาจ​เข้าใจ​วงจร​ความคิด​ของ​พวก​ไร้สาระ​เหล่านี้​ได้​

แน่นอน​ว่า​ทั้งสอง​คนซื้อ​ตั๋ว​ชั้น​ประหยัด​

ทันทีที่​หลิน​ม่าย​นั่งลง​บน​ที่นั่ง​ เธอ​ก็​ลุกขึ้น​อีก​ครั้งก่อน​จะชี้ไป​ยัง​ห้อง​โดยสาร​ของ​ชั้น​ธุรกิจ​ว่า​ “ฉัน​จะไป​ที่นั่น​สักครู่​”

ท้ายที่สุด​ เธอ​ก็​หยิบ​กล้อง​ตัวเล็ก​ออก​มาจาก​กระเป๋า​

กล้อง​ตัว​นี้​เธอ​ซื้อ​มัน​มาเพื่อ​การแข่งขัน​แฟชั่น​โดยเฉพาะ​ มัน​มีไว้​เพื่อ​ถ่ายภาพ​เวลา​อยู่​ใน​งาน​ประกวด​

แต่​เถาจืออวิ๋น​ถามออก​ไป​อย่าง​สับสน​ “จะไป​ทำ​อะไร​เหรอ​?”

หลิน​ม่าย​โบกมือ​อย่าง​ไม่หัน​กลับมา​มอง​ “ไม่ต้อง​ห่วง​หรอก​”

เมื่อ​เธอ​มาถึงประตู​โดยสาร​ของ​ชั้น​ธุรกิจ​แล้ว​ เธอ​กำลังจะ​เข้าไป​ด้านใน​แต่​พนักงานต้อนรับ​บน​เครื่องบิน​หยุด​เธอ​เอาไว้​ก่อน​จะถามว่า​ “คุณ​คิด​จะทำ​อะไร​คะ​?”

เมื่อ​เห็น​โย​มิ อา​ซากุ​สะหัน​ศีรษะ​กลับมา​หลัง​ได้ยิน​ว่า​หลิน​ม่าย​เริ่ม​เคลื่อนไหว​ หลิน​ม่าย​จึงยื่นมือ​ป้องกัน​ใบหน้า​เพื่อ​ไม่ให้​โย​มิ อา​ซากุ​สะมองเห็น​ตน​

เวลานี้​หลิน​ม่าย​ยก​ยิ้ม​ก่อน​จะพูด​ต่อว่า​ “พอ​ดีฉัน​มีเพื่อน​ต่างชาติ​ที่​ไม่เชื่อ​ว่า​สายการบิน​ของ​ประเทศ​เรา​มีห้อง​โดยสาร​ชั้น​ธุรกิจ​ด้วย​น่ะ​ค่ะ​ ฉัน​เลย​อยาก​จะมาถ่ายรูป​ให้​เขา​ดู​ว่า​ฉัน​ไม่ได้​โกหก​”

คนจีน​ใน​ยุค​นี้​ไม่เพียงแต่​บูชา​ชาวต่างชาติ​ แต่​ยัง​นึก​ปกป้อง​ประเทศ​ตน​ด้วย​

สิ่งที่​ได้ยิน​มาก​ที่สุด​คือ​ประเทศ​จีน​ยากจน​ และ​ล้าหลัง​

พนักงานต้อนรับ​บน​เครื่องบิน​รีบ​พูด​ออกมา​อย่าง​ปกป้อง​บ้านเกิด​ “เอา​กล้อง​มาให้​ฉัน​ค่ะ​ เดี๋ยว​ฉัน​ถ่าย​ให้​เอง​”

หลิน​ม่าย​โผล่​ศีรษะ​ออกมา​ครึ่งหนึ่ง​ก่อน​จะหัน​มอง​ภายใน​ห้อง​โดยสาร​ และ​เห็น​ว่า​โย​มิ อา​ซากุ​สะหันกลับ​ไป​แล้ว​

เธอ​ชี้ไป​ยัง​ที่นั่ง​ของ​โย​มิ อา​ซากุ​สะก่อน​จะพูด​กับ​พนักงานต้อนรับ​ว่า​ “คุณ​ควรจะ​ถ่าย​ให้​ติดผู้หญิง​คน​นั้น​ด้วย​นะคะ​ หล่อน​ทั้ง​แต่ง​ตัวดี​ และ​ทันสมัย​ มัน​จะแสดงให้เห็น​ว่า​ประเทศ​ของ​เรา​พัฒนา​ไป​ไกล​แค่​ไหน​แล้ว​”

พนักงานต้อนรับ​พยักหน้า​ก่อน​จะรับ​กล้อง​จาก​มือ​ของ​หลิน​ม่าย​แล้ว​ถ่ายรูป​ภายใน​ห้อง​โดยสาร​ชั้น​ธุรกิจ​

คน​สมัยนี้​ยัง​ไม่ถือ​เรื่อง​สิทธิส่วนบุคคล​กัน​เท่าใด​นัก​ เมื่อ​พนักงานต้อนรับ​ขอ​ถ่ายรูป​ พวกเขา​ก็​เพียง​ยิน​ยอมให้​ถ่าย​โดย​ถามเพียง​เล็กน้อย​ว่า​ถ่าย​เพื่อ​อะไร​

พนักงานต้อนรับ​เพียง​ตอบกลับ​ว่า​ “เพื่อให้​ชาวต่างชาติ​เห็น​ค่ะ​ว่า​ประเทศ​จีน​ของ​พวกเรา​ไม่ได้​ยากจน​และ​ล้าหลัง​อย่าง​ที่​พวกเขา​คิด​”

เมื่อ​ผู้โดยสาร​ชั้น​ธุรกิจ​ได้ยิน​อย่างนั้น​ พวกเขา​ทั้งหมด​นั่ง​ตัวตรง​และ​หวัง​ว่า​ภาพ​ที่​ถูก​ถ่าย​ไป​จะไม่สร้าง​ความ​อับอาย​ให้​กับ​ประเทศ​จีน​

หลิน​ม่าย​ได้รับ​ภาพถ่าย​หลาย​ใบ​จาก​พนักงานต้อนรับ​ และ​เป็น​ภาพ​ที่​มีโย​มิ อา​ซากุ​สะรวม​อยู่​ด้วย​

โย​มิ อา​ซากุ​สะคิด​ว่า​ตนเอง​สวย​เสีย​เต็มประดา​ เช่นนี้​พนักงานต้อนรับ​จึงมาขอ​ถ่ายภาพ​เดี่ยว​ของหล่อน​ด้วย​ หล่อน​จึงโพส​ท่า​มากมาย​ใส่กล้อง​

หลังจาก​พนักงานต้อนรับ​ถ่ายรูป​เสร็จ​แล้ว​ หล่อน​ก็​ส่งกล้อง​คืนให้​กับ​หลิน​ม่าย​

พนักงานต้อนรับ​บน​เครื่องบิน​ไม่สามารถ​รับ​ทิป​จาก​ผู้โดยสาร​ได้​

หลิน​ม่าย​จึงไม่กล้า​ที่จะ​ให้​ทิป​ส่วนตัว​

เวลานี้​เธอ​ปลด​เข็มกลัด​บน​เสื้อ​และ​มอบให้​กับ​พนักงานต้อนรับ​เพื่อ​แสดง​ความ​ขอบคุณ​

แน่นอน​ว่า​เข็มกลัด​ชิ้น​นี้​คือ​เครื่องประดับ​จาก​โรงงาน​ไป๋​เห​อ​ และ​เธอ​เพิ่ง​สวมใส่​มัน​เป็น​วัน​แรก​

มัน​ไม่ใช่เครื่องประดับ​เท่านั้น​ แต่​ยัง​สามารถ​เป็น​ของขวัญ​เล็ก​ ๆ น้อย​ ๆ ได้​ด้วย​

พนักงานต้อนรับ​รับ​ของขวัญ​จาก​หลิน​ม่าย​ด้วยความยินดี​

ผ่าน​ไป​กว่า​ห้า​ชั่วโมง​ เครื่อง​ก็​ลง​จอด​ที่​สนามบิน​โตเกียว​

หลิน​ม่าย​และ​เถาจืออวิ๋นลง​จาก​เครื่องบิน​พร้อมกับ​ผู้โดยสาร​คนอื่น​ ๆ และ​ได้​พบ​กับ​โย​มิ อา​ซากุ​สะอีกครั้ง​ใน​ระหว่าง​รอ​เข้า​ด่าน​ตรวจ​คนเข้าเมือง​

หล่อน​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​ มีเพียง​คน​ไม่กี่​คน​ที่​คั่น​ระหว่าง​ทั้งสอง​

หลิน​ม่าย​อด​คิด​ไม่ได้​ว่า​ผู้หญิง​คน​นี้​อืดอาด​ยืดยาด​เสีย​จริง​

เพียง​เพื่อ​อวด​ความสามารถ​ใน​การ​พูด​ภาษาประเทศ​เกาะ​ โย​มิ อา​ซากุ​สะจงใจพูดคุย​กับ​นักท่องเที่ยว​ทั้ง​ด้านหน้า​และ​ด้านหลัง​

บางครั้ง​ก็​ยัง​มอง​เหยียด​หลิน​ม่าย​กับ​เถาจืออวิ๋น​อย่าง​เย่อหยิ่ง​ ใน​แววตา​เปิดเผย​ความหมาย​ว่า​อย่า​อวดดี​ให้​มาก​นัก​

เถาจืออวิ๋น​ถามหลิน​ม่าย​อย่าง​สับสน​ “ทำไม​คน​ ๆ นั้น​ถึงมอง​พวกเรา​บ่อย​นัก​ล่ะ​?”

หลิน​ม่าย​ไม่ใช่พยาธิ​ตัว​กลม​ใน​ท้อง​ของ​โย​มิ อา​ซากุ​สะ ใคร​จะทราบ​ว่า​อีก​ฝ่าย​หัน​มอง​ตน​ทำไม​

เธอ​จึงส่ายหน้า​พร้อม​ตอบ​เรียบง่าย​ว่า​ “ไม่รู้​เหมือนกัน​”

โย​มิ อา​ซากุ​สะไม่ได้​มีเจตนา​อื่น​ใด​ หล่อน​เพียง​ต้องการ​ให้​หลิน​ม่าย​กับ​เถาจืออวิ๋น​ขอร้อง​ตน​

ไม่นาน​นัก​ก็​ถึงคิว​ของ​โย​มิ อา​ซากุ​สะที่​ต้อง​ผ่าน​ด่าน​ตรวจ​คนเข้าเมือง​ และ​หลิน​ม่าย​กับ​เถาจืออวิ๋น​ก็​ยังคง​นิ่ง​สงบ​ดุจ​ภูเขา​ไท่​ซาน​

โย​มิ อา​ซากุ​สะกัดฟัน​แน่น​ด้วย​ความโกรธ​ก่อน​จะลอบ​นึกในใจ​ ไม่คิด​จะขอความช่วยเหลือ​จาก​ฉัน​งั้น​เหรอ​ หึ​ อย่าง​หล่อน​สอง​คน​คง​ไม่สามารถ​ผ่าน​ด่าน​ตรวจ​นี้​ไป​ได้​หรอก​!

โย​มิ อา​ซากุ​สะไม่สนใจ​หลิน​ม่าย​และ​เถาจืออวิ๋น​อีกต่อไป​ ก่อน​จะตอบคำถาม​ต่าง ๆ​ ภายใน​ด่าน​รักษา​ความปลอดภัย​

หล่อน​กล่าว​อย่าง​คล่องแคล่ว​ราวกับ​เป็น​คน​ของ​ประเทศ​เกาะ​จริง ๆ​

ด้วย​ความ​ที่​หล่อน​พูด​ภาษาประเทศ​เกาะ​ได้​คล่องแคล่ว​มาก​ เจ้าหน้าที่​ด่าน​ตรวจ​คนเข้าเมือง​ชาว​ประเทศ​เกาะ​จึงคิด​ว่า​หล่อน​คือ​คน​ในประเทศ​ และ​ปฏิบัติ​กับ​หล่อน​อย่าง​สุภาพชน​

แต่​เมื่อ​ตรวจสอบ​หนังสือเดินทาง​และ​รู้​ว่า​หล่อน​มีสัญชาติ​แผ่นดินใหญ่​ สีหน้า​ของ​พวกเขา​ก็​เปลี่ยนไป​

ก่อน​จะเริ่ม​ถากถาง​หล่อน​ราวกับ​เห็น​หล่อน​เป็น​สุนัข​

แต่​โย​มิ อา​ซากุ​สะกลับ​เชื่อฟัง​อีก​ฝ่าย​ราวกับ​สุนัข​จริง ๆ​ ไม่ว่า​ผู้รักษา​ความปลอดภัย​ทั้งสอง​จะสร้าง​ความลำบาก​ให้​กับ​หล่อน​มาก​แค่​ไหน​ หล่อน​ก็​ยินยอม​

หากว่า​หล่อน​มีหาง​ มัน​คง​กระดิก​จน​หัก​ไป​แล้ว​

หล่อน​ไม่ได้​เกลียด​ทัศนคติ​ของ​ตำรวจ​ทั้งสอง​คน​นี้​ที่​มีต่อ​ตน​ แต่​เกลียดชัง​ตัวเอง​ว่า​ทำไม​ตน​ถึงเป็น​คน​แผ่นดินใหญ่​

หลิน​ม่าย​ลอบ​ถ่ายภาพ​เหล่านี้​จาก​ด้านหลัง​ และ​วางแผน​ไว้​ว่า​จะนำ​ไป​ให้​พ่อแม่​ของ​โย​มิ อา​ซากุ​สะรับ​ชมสักหน่อย​ เพื่อให้​พวกเขา​ทราบ​ถึงพฤติกรรม​ของหล่อน​

โย​มิ อา​ซากุ​สะกำลัง​ทำผิด​ต่อ​ปู่​ของ​ตนเอง​ด้วย​การ​เลียแข้งเลียขา​ชาว​ประเทศ​เกาะ​!

ไม่นาน​นัก​ก็​ถึงคิว​ของ​หลิน​ม่าย​ใน​การ​ผ่าน​ด่าน​ตรวจ​

เพื่อให้​เข้ากับ​ชุด​ของ​ตน​ หลิน​ม่าย​จึงสวม​แว่นตา​สีน้ำตาล​เพื่อ​สร้าง​สีสัน​ให้​กับ​ตัวเอง​

เจ้าหน้าที่​ด่าน​ตรวจ​คนเข้าเมือง​บอกกล่าว​ให้​เธอ​ถอด​แว่น​ออก​ และ​เธอ​ถอด​มัน​ออก​อย่าง​ว่าง่าย​ก่อน​จะยื่น​หนังสือ​เดินทางออก​ไป​

แม้เธอ​จะเกลียดชัง​ประเทศ​เกาะ​ แต่​เธอ​ก็​ยินดี​จะปฏิบัติ​ตา​มก​ฏระเบียบ​ของ​พวกเขา​

พลเมือง​ของ​แผ่นดินใหญ่​จะต้อง​มีมารยาท​ของ​แผ่นดินใหญ่​ จะต้อง​ภูมิใจในประเทศ​ตนเอง​และ​ไม่ทำ​เรื่อง​น่าขายหน้า​

เมื่อ​ตำรวจ​ทั้งสอง​คน​เห็น​หลิน​ม่าย​มาจาก​แผ่นดินใหญ่​ ความเป็นมิตร​ใน​สายตา​พลัน​หาย​ไป​หมดสิ้น​ ก่อน​จะเริ่ม​กล่าว​เหยียดหยาม​

แต่​หลิน​ม่าย​ไม่สนใจ​

หาก​ใคร​จะต่อว่า​ประเทศ​ของ​เธอ​ก็​ปล่อย​พวกเขา​พูด​ไป​ แต่​พลเมือง​จะเหยียดหยาม​ประเทศ​ของ​ตนเอง​ไม่ได้​!

หลังจาก​ตรวจสอบ​เสร็จ​แล้ว​ หลิน​ม่าย​สวม​แว่นกันแดด​กลับคืน​

แต่​ตำรวจ​คน​นั้น​กลับ​ตวาด​ใส่เธอ​ราวกับ​หมา​บ้า​ “ใคร​สั่งให้​คุณ​ใส่แว่น​? ไป​ ไป​ต่อ​คิว​ด้านหลัง​!”

………………………………………………………………………………………………………………………..

สาร​จาก​ผู้แปล​

ตอน​ผู้แปล​ไป​ญี่ปุ่น​ทุ​กรอบ​ก็​ไม่เจอ​ตม.​ ดุ​แบบนี้​นะ​ หรือว่า​ตม.​ที่​นู่น​ทำ​แบบนี้​กับ​นท​ท.​จีน​จริงๆ​? แต่​ต่อให้​เป็น​นท​ท.​จีน​ก็​ไม่น่า​เจอ​อะไร​แบบนี้​นะ​ เพราะ​ปกติ​ ตม.​ญี่ปุ่น​จะสุภาพ​กับ​นักท่องเที่ยว​มาก​ถ้าคน​ๆ นั้น​มัน​ไม่มีพิรุธ​ว่า​จะมาทำผิด​อะไร​ในประเทศ​เค้า​หรือไม่​ก็​ไร้​มารยาท​จริงๆ​ ผู้เขียน​เขียน​เกิน​จริง​ไป​หรือเปล่า​? หรือ​บางคน​เจอ​แจ็คพ็อต​แบบนี้​เข้า​จริงๆ​?

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

Status: Ongoing

หลินม่ายได้กลับมาเกิดใหม่ในวันแต่งงานของตัวเอง​ และพบว่าทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตัวเองหรือครอบครัวสามีต่างก็ยังเป็นเศษสวะกันเหมือนเดิม​ แต่ขอโทษเถอะ…หลินม่ายคนนี้ไม่ใช่หลินม่ายคนเดิมแล้ว​ ใครหน้าไหนมารังแกฉัน​ คราวนี้แม่จะซัดให้หงาย​​ จะงัดมารยาสาไถทุกกระบวนมาใช้แก้เผ็ดมันให้หมด! จากนั้นก็จะหย่ากับสามีกะหลั่วแยกตัวออกมาสร้างฐานะแบบสวยๆ​ ไม่ต้องสนใจใครอีกแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท