ตอนที่ 330 หลอมกะโหลก (2)
กระทั่งปรมาจารย์ยังสิ้นเปลืองเวลาและพลังจิตใจจำนวนมากในการหลอมกะโหลก แทบไม่ต้องคิดก็รู้แล้วว่าเขาที่เป็นแค่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ต้องจ่ายค่าตอบแทนมากมายขนาดไหน
ตอนนี้ฟางผิงยังห่างไกลจากปรมาจารย์อยู่มาก
แต่เขาไม่อยากหลอมกะโหลกหลังจากทะลวงเป็นปรมาจารย์แล้ว
กะโหลกมีทั้งหมดยี่สิบเก้าชิ้น ในนั้นมีกระดูกแบนและกระดูกรูปร่างไม่แน่นอนยี่สิบสามชิ้น กระดูกหูอีกหกชิ้น
ตอนนี้ฟางผิงยังไม่ได้เตรียมหลอมกระดูกอย่างอื่น แต่จะลองหลอมกระดูกหูก่อน พวกผู้ฝึกยุทธ์ที่เข้าสู่ขั้นเจ็ดมักจะหลอมกระดูกหูหกชิ้นเป็นอันดับแรกเช่นกัน
กระดูกหูเป็นกระดูกที่เล็กที่สุดของร่างกายมนุษย์ หลังจากหลอมกระดูกหู ผู้ฝึกยุทธ์ก็จะมีความสามารถในการได้ยินเพิ่มขึ้น พวกยอดฝีมือถึงกระทั่งได้ยินเสียงมดที่ไต่อยู่ไกลเป็นพันเมตรได้ อันดับแรกปรมาจารย์ต้องว่างมากๆ ไม่กลัวว่าจะถูกเสียงพวกนี้ทรมาน ในสถานการณ์ทั่วไป ปรมาจารย์จะจงใจเมินเสียงพวกนี้ไป
“กระดูกหูอยู่ในกะโหลก เพราะเล็กที่สุด ความสำคัญก็จะลดลงหน่อย น่าจะสิ้นเปลืองไม่เยอะสินะ?”
ฟางผิงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าหลอมกะโหลกต้องใช้ค่าทรัพย์สินเท่าไหร่
ทำได้เพียงลองดูเท่านั้น
สูดลมหายใจลึกแล้ว ฟางผิงก็กัดฟัน ในสมองปรากฏภาพแยกชิ้นส่วนของกะโหลกขึ้นมา
ตอนที่ภาพลางๆ หยุดที่ภายในแก้วหูซ้าย ฟางผิงก็เริ่มนึกถึงการหลอมกระดูกหู
ไม่นานฟางผิงก็รับรู้ถึงเลือดที่เพิ่มขึ้นในสมอง จู่ๆ หูกลับส่งผ่านความเจ็บปวดอย่างหนักหน่วงออกมา!
“อ๊า!”
ฟางผิงแผดร้องอุดหูตัวเอง ในหูนั้นมีเลือดจำนวนมากไหลซึมออกมา
“เจ็บชะมัด!”
ฟางผิงคลึงหูตัวเอง ขมวดคิ้วขึ้น มองเลือดที่ไหลออกมาแวบหนึ่ง เลือดนั้นปรากฏเป็นสีดำ
“เลือดเสีย?”
ฟางผิงพึมพำ จะเห็นผลเร็วเกินไปแล้ว!
เพิ่งจะหลอมกระดูกหูไปหนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่านั้น นึกไม่ถึงว่าจะเริ่มขจัดเสียงแทรกต่างๆ ได้แล้ว
ฟางผิงสะบัดหัวเล็กน้อย รู้สึกเหมือนสมองจะผ่อนคลายขึ้นมาก
มองเลือดที่กองบนพื้น เหมือนจะปะปนด้วยขี้หูอยู่บางส่วน ฟางผิงรังเกียจอยู่บ้าง น่าสะอิดสะเอียนจริงๆ
ผู้ฝึกยุทธ์อย่างฉัน คนสะอาดแบบนี้ นึกไม่ถึงว่ายังมีขี้หู ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย!
ไม่สนใจเรื่องพวกนี้แล้ว ฟางผิงเริ่มตรวจสอบค่าทรัพย์สิน
ตอนนี้ตัวเลขเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว
ค่าทรัพย์สิน : 991,900,000
ปราณ : 2300 แคล (2410 แคล+)
จิตใจ : 672 เฮิรตซ์ (699 เฮิรตซ์)
หลอมกระดูก : 177 ชิ้น (100%) , 1 ชิ้น (31%+) , 28 ชิ้น (30%+)
ช่องเก็บของ : 1 ลูกบากศ์เมตร
ม่านพลังงาน : ค่าทรัพย์สินหนึ่งหมื่น/นาที
“ค่าทรัพย์สินหนึ่งแสนเพิ่งหลอมได้หนึ่งเปอร์เซ็นต์?”
ฟางผิงขมวดคิ้วทันที นี่คือกระดูกหู กระดูกที่เล็กที่สุดของร่างกาย
กะโหลกก็จะเป็นแบบนี้ทั้งหมด หรือแค่กระดูกหูอย่างเดียว?
หากแค่กระดูกหูอย่างเดียวก็น่าอนาถแล้ว
กระดูกหูหนึ่งชิ้น เขาต้องหลอมหกสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนไขกระดูก ฟางผิงไม่รู้ว่ากระดูกหูมีไขกระดูกหรือเปล่า
ถ้ามี หกสิบเปอร์เซ็นต์ก็เป็นค่าทรัพย์สินหกล้าน ไขกระดูกสิบเปอร์เซ็นต์ เทียบตามสัดส่วนแล้ว การหลอมไขกระดูกจะสิ้นเปลืองมากกว่าสิบเท่า สิบเปอร์เซ็นต์ก็คือค่าทรัพย์สินสิบล้าน
หลอมกระดูกหูหนึ่งชิ้นต้องใช้ค่าทรัพย์สินสิบหกล้าน
หกชิ้น นั่นก็เป็นเก้าสิบหกล้าน
กระดูกอื่นอีกยี่สิบสามชิ้น ยังต้องเสียเยอะกว่านี้หรือเปล่า?
เมื่อกี้ฟางผิงรับรู้ได้เหมือนกันว่าหลอมกระดูกหูไม่ได้สิ้นเปลืองแค่ปราณ พลังจิตใจของเขาก็ลดลงเช่นกัน ระบบสร้างพลังงานใหม่ขึ้นมา พลังงานนี้ฟางผิงคุ้นเคยเช่นกัน
ครั้งก่อนที่พลังจิตใจของเขาปกคลุมกระบี่อมตะ ปราณของตาเฒ่าหลี่แทรกซึมรวมกับพลังจิตใจของเขาก็เคยเกิดพลังงานใหม่ที่แข็งแกร่งแบบนี้ออกมา
ตอนนี้หลอมกระดูกหู เกิดพลังงานแบบนี้ขึ้นมาอีก ทั้งยังเป็นพลังงานใหม่ที่เกิดหลังจากสารจิงและเลือดรวมเป็นหนึ่ง
“ตาเฒ่าหลี่เคยบอกว่าปรมาจารย์หลอมกะโหลก ใช้สารจิงและเลือดหลอมร่วมกัน กะโหลกแตกต่างจากส่วนอื่น แค่ปราณอย่างเดียวสามารถหลอมได้เหมือนกัน แต่จะช้าอย่างมาก ตาเฒ่าหลี่เคยใช้ปราณหลอมมาก่อน ความเร็วค่อนข้างจำกัด”
“พลังงานที่เกิดจากสารจิงและเลือดจะเพิ่มความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ไม่แปลกใจที่สามารถหลอมกะโหลกได้”
“ค่าทรัพย์สินสิบหกล้านหลอมกระดูกหูได้หนึ่งชิ้น แล้วส่วนอื่นของกะโหลกต้องใช้อีกเท่าไหร่?”
ฟางผิงถอนหายใจเบาๆ กลับรู้สึกว่าคุ้มค่าอยู่เหมือนกัน
แค่สิบหกล้านเท่านั้น!
ตอนนี้ถ้าบอกยอดฝีมือขั้นหกคนหนึ่งว่าเงินหนึ่งร้อยล้านสามารถหลอมกระดูกหูของคุณได้หกชิ้น ฟางผิงเชื่อว่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกทั้งหมดคงไม่มีใครปฏิเสธ ถึงกระทั่งเพิ่มเป็นอีกสิบเท่าตัว ทุกคนก็ไม่อาจปฏิเสธเหมือนกัน
เข้าสู่ขั้นปรมาจารย์เป็นเรื่องยากเกินไป ใช้เงินหลอมกะโหลกล่วงหน้า ไม่มีใครปฏิเสธอยู่แล้ว ต่อให้ราคาจะสูงลิ่วก็ตาม
“แม้จะเจ็บอยู่บ้าง แต่ไม่มีเค้าลางจะเสียการควบคุมเลย สามารถลองต่อได้”
นึกมาถึงตรงนี้ฟางผิงก็เริ่มหลอมอีกครั้ง
ตอนนี้เขามีเงินเหลือเฟือ นึกไม่ถึงว่าจะสะสมค่าทรัพย์สินได้ถึงหนึ่งพันล้าน ค่าทรัพย์สินเยอะขนาดนี้ เขาสามารถใช้อย่างไม่ต้องกังวลได้ด้วยซ้ำ
ไม่นานกระดูกหูซ้ายชิ้นแรกก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่ขาดสาย
จากที่เลือนรางก็ค่อยๆ กระจ่างชัดเจนขึ้นมา
หูซ้ายของฟางผิงมีเลือดไหลออกมาไม่หยุดเช่นกัน ในเลือดสีดำยังมีสิ่งสกปรกผสมปนเปอยู่มากมาย
“น่ารังเกียจชะมัด!”
ก่อนหน้านี้ฟางผิงมักรู้สึกว่าคำด่าที่คนอื่นบอกว่าขี้เต็มสมองเป็นคำพูดที่เจ็บแสบอย่างยิ่ง
แต่ตอนนี้…เหมือนจะไร้เหตุผลไปแล้ว
เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่คนหนึ่ง ผ่านการหลอมกระดูกสามครั้ง ช่วงขั้นสามตอนปลายผ่านการหลอมอีกครั้งหนึ่ง แม้จะเป็นหัว อันที่จริงก็หลอมหลายครั้งเหมือนกัน ขับของเสียออกมาจำนวนมาก
แต่ตอนนี้ในหูยังคงขับสิ่งสกปรกออกมาเยอะขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าคนธรรมดาทั่วไปคงเยอะมากกว่าเขาอีก
“ใช่สิ ลืมไปเลย สมองหลอมยังไง…ขั้นเจ็ดหลอมกะโหลก ต้องหลอมสมองหรือเปล่า?”
ฟางผิงเกิดความสงสัยในใจ เรื่องนี้เขาลืมไปเลยจริงๆ
หลู่เฟิ่งโหรวไม่เคยพูดถึงเช่นกัน
หลอมกระดูก ผิวหนัง เส้นเลือด อวัยวะภายใน…เรื่องพวกนี้หลอมมาหมดแล้ว
แต่ร่างกายมนุษย์ไม่ใช่แค่เรื่องพวกนี้ ยังมีส่วนที่สำคัญที่สุดอยู่ นั่นก็คือสมอง!
สมองถึงจะเป็นศูนย์กลางการควบคุม ตอนนี้หลอมแค่เปลือกนอกทั้งหมด
“ขั้นเจ็ดน่าจะหลอมสมองด้วยสินะ?”
ฟางผิงไม่มั่นใจเท่าไหร่ หลู่เฟิ่งโหรวและตาเฒ่าหลี่เหมือนไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้
“ช่างเถอะ ไว้ค่อยไปถาม หลอมกระดูกหูก่อนแล้วกัน”
ฟางผิงไม่กล้าใจลอย แม้ระบบจะดำเนินการหลอมเอง แต่เมื่อใจลอยอาจจะทำให้ขาดความเข้าใจกับขั้นตอนหลอมไป
ตอนที่กระดูกหูชิ้นแรกหลอมถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ จู่ๆ การหลอมก็หยุดชะงักลง!
เครื่องหมายบวกหายไปแล้ว!
“ไม่สามารถหลอมไขกระดูกต่อได้!”
ฟางผิงขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกระดูกอื่นยังไม่ได้หลอม หรือว่าเขาฝึกวิชาไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนการหลอมไขกระดูก
ตอนที่หลอมกระดูกทั่วร่างเสร็จสิ้น ไขกระดูกจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ร่างกายมนุษย์เริ่มสร้างร่างทอง
กระบวนการสร้างร่างทองเป็นการเปลี่ยนแปลงและลอกคราบครั้งใหญ่
ตอนนี้ฟางผิงยังไม่อาจรองรับการหล่อหลอมที่แข็งแกร่งประเภทนี้ได้
“ไม่เป็นไร งั้นฉันหลอมกระดูกหูต่อ หลอมกระดูกหูหกชิ้นให้เสร็จสิ้น!”
ตอนนี้ฟางผิงรับรู้ถึงความแตกต่างอยู่บ้าง
เสียงกระจ่างชัดยิ่งขึ้นแล้ว!
เสียงคลื่นทะเลราวกับกระเพื่อมอื้ออึงอยู่ในหู
ก่อนหน้านี้เขาเงี่ยหูฟังอย่างละเอียด เสียงที่ไกลออกไปกว่าสิบเมตร เขาพอจะได้ยินอยู่ แต่ไม่ได้ชัดเจนเท่าไหร่
แต่ตอนนี้พอตั้งใจฟัง ฟางผิงถึงกระทั่งได้ยินเสียงคนพูดกันในเขตทางใต้
“หูทิพย์งั้นเหรอ?”
ฟางผิงพึมพำอีกครั้ง เทพหูทิพย์ตาทิพย์ในตำนานมีอยู่จริงงั้นเหรอ?
บางทีอาจจะมีจริงๆ!
ปรมาจารย์ยอดฝีมือที่หลอมกระดูกหูแล้ว รวมกับพลังจิตใจที่แข็งแกร่ง ได้ยินเสียงไกลโพ้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“หรือสวรรค์ชั้นฟ้าในเรื่องเล่าเป็นสิ่งที่พวกปรมาจารย์ยอดฝีมือสร้างขึ้นมา? ยุคโบราณกาลเคยมีอยู่จริงๆ? ปรมาจารย์ถูกยกย่องว่าเป็นเทพเจ้า ลอยตัวบนเมฆหมอก ไม่ใช่เรื่องเลื่อนลอยด้วยเช่นกัน หากเป็นแบบนั้นจริงๆ โลกผู้ฝึกยุทธ์สมัยโบราณคงมียอดฝีมือไม่น้อย ตำนานเรื่องเล่าของจีนมีเยอะขนาดนี้ หากเป็นเรื่องจริง นั่นหมายความว่ายอดฝีมือสมัยก่อนมีมากมาย อาจจะมีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้หรือเปล่า?”
ฟางผิงนึกถึงคำพูดของตาเฒ่าหลี่ โลกสำนักอาจมีผู้ฝึกยุทธ์ร่างทองสูงกว่าขั้นแปดในสมัยโบราณซ่อนตัวอยู่
“ฉันรู้จักสำนักน้อยเกินไป!”
เพราะต้องค่อยๆ ฝึกวิชาแข็งแกร่งไปทีละขั้น ฟางผิงพบว่าสิ่งที่ตัวเองเข้าใจมีน้อยลงเรื่อยๆ โลกนี้อาจจะไม่ได้มีแค่สิ่งที่ตาเขาเห็นเสมอไป
“ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นยิ่งพบว่าสิ่งที่ไม่รู้ยังมีอีกเยอะเลย”
“ไม่ใช่แค่ฉัน รวมถึงพวกตาเฒ่าหลี่ คนพวกนี้ยังไม่ถึงขั้นปรมาจารย์ อาจไม่ได้รู้เยอะกว่าฉันเสมอไป ตาเฒ่าหลี่คาดเดาว่าโลกสำนักมียอดฝีมือ แต่รัฐบาลกลางอาจจะรู้เรื่องราวทั้งหมดอย่างชัดเจน”
“ถ้ำใต้ดิน ลัทธินอกรีต ข้อมูลพวกนี้อีก เกรงว่ายังมีเงื่อนงำอีกมาก!”
“มีแค่ต้องแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น! แข็งแกร่งขึ้นต่อไป!”
วันนี้ฟางผิงตะโกนปลุกใจออกมาอีกครั้ง ฉันต้องแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น!
————————