ตอนที่ 344 เฉินเฮ่าหรานอย่าร้องไห้ (2)
ยอดฝีมือร่างทองจากกระทรวงการศึกษาลอยลงไปจากชั้นสอง ขึ้นชื่อว่าเป็นทีมผู้แพ้อันดับหนึ่ง ครุศาสตร์หวาตงมีสิทธิ์เลือกแข่งขันกับหนึ่งในทีมผู้ชนะเพื่อแย่งชิงสิบอันดับแรก
ทางครุศาสตร์หวาตงวางแผนไว้นานแล้ว หูหย่งเอ่ยทันที “เลือกโรงเรียนเตรียมทหารอวิ๋นเมิ่งครับ!”
ทีมผู้ชนะที่ไม่มียอดฝีมือขั้นสี่ตอนปลายมีแค่โรงเรียนเตรียมทหารอวิ๋นเมิ่งเพียงทีมเดียว
มหาวิทยาลัยปักกิ่ง มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ โรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง โรงเรียนเตรียมทหารจิ่วโจว มหาวิทยาลัยหวากั๋ว มหาวิทยาลัยจิงหนาน มหาวิทยาลัยหนานเจียง มหาวิทยาลัยไท่ซาน และมหาวิทยาลัยตงหนานต่างไม่ใช่ทีมที่ครุศาสตร์หวาตงซึ่งแข่งมาหลายสนามจะเทียบได้ ท้าประลองโรงเรียนเตรียมทหารอวิ๋นเมิ่งจะมีโอกาสมากกว่า
สำหรับการเลือกครั้งนี้ ทุกคนไม่แปลกใจเช่นกัน
พรุ่งนี้สองสถาบันจะแข่งขันกัน กำหนดสิบอันดับแรกออกมา หลังจากนั้นก็จะเริ่มแข่งขันศึกจัดอันดับ
—
ดูการแข่งขันจบแล้ว ฟางผิงก็ไม่คิดรั้งตัวอยู่นาน
ฉินเฟิ่งชิงออกไปกับเขาเช่นกัน ฟางผิงแปลกใจอยู่บ้าง ฉันยังคิดว่าหลอกนายได้ซะอีก ดูท่าฉินเฟิ่งชิงจะไม่ได้โง่
ฉินเฟิ่งชิงไม่ได้โง่อย่างที่เขาคิดขนาดนั้น พรุ่งนี้จะเป็นการตัดสินโควตาสิบอันดับแรก สำคัญอย่างยิ่ง
เขาไม่โง่ถึงขนาดไปอัดคนตอนนี้หรอก ปรมาจารย์ครุศาสตร์หวาตงจะตีเขาตายน่ะสิ
แต่รอกำหนดรายชื่อสิบอันดับแล้ว ต่อให้เขาไปอัดคน ยังไงแข่งขันเสร็จแล้วครุศาสตร์หวาตงก็ไม่มีหวังจะเอาชนะได้อีก
จะอัดก็อัดไป ไม่แน่ว่าครุศาสตร์หวาตงยังจะมีข้ออ้างไม่ดูการแข่งขันต่อแล้ว ปรมาจารย์จากครุศาสตร์หวาตงยังจะชมเขาว่าสู้ได้ดีซะอีก ลอบดีใจอยู่ภายใน แพ้ให้กับคนของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ดีกว่าแพ้ให้กับคนอื่นด้วยซ้ำไป
แผนการในใจพวกนี้ ฉินเฟิ่งชิงไม่บอกฟางผิงหรอก
เจ้าฟางผิงเชื่อใจไม่ได้ นึกไม่ถึงว่าจะหลอกให้เขาซ้อมคนวันนี้ ตัวเองถูกปรมาจารย์ตีตาย เจ้าหมอนี้คงจะดีใจด้วยซ้ำ เขาไม่หลงกลหรอก!
ฉินเฟิ่งชิงเชิดหน้าสาวเท้าออกไปด้วยความภาคภูมิใจที่เอาชนะฟางผิงด้วยสติปัญญาได้ ไม่ลืมส่งสายตาดูแคลนฟางผิงยกใหญ่
—
วันที่ 12 ธันวาคม การแข่งขันครั้งสุดท้ายของศึกชิงสิบอันดับเริ่มต้นขึ้น
ครุศาสตร์หวาตงรวบรวมผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ออกมาได้ห้าคน หูหย่งไม่รู้สึกผิดต่อฉายาปรมาจารย์ปลิ้นปล้อนเลยสักนิด สวมเสื้อเกราะสิ่งมีชีวิตขั้นหกสูงสุดลงสนาม จงใจดึงดูดให้ยอดฝีมือจากโรงเรียนเตรียมทหารอวิ๋นเมิ่งจู่โจมบริเวณหน้าอกของเขา ทุ่มออกกระบวนท่าสุดกำลังเพื่อให้เพลี่ยพล้ำกันทั้งสองฝ่าย!
กระบี่ของหูหย่งทะลุสะบักของอีกฝ่าย หอกของฝ่ายตรงข้ามกลับไม่ได้แทงถูกทรวงอกของเขา กลยุทธ์ด้อยไปกว่าเล็กน้อยจึงถูกหูหย่งเอาชนะ
เวลานี้ทำให้โรงเรียนเตรียมทหารอวิ๋นเมิ่งไม่พอใจขึ้นมา
ไม่ใช่ว่าจะสวมของพวกนี้ไม่ได้ แต่สถานการณ์โดยทั่วไป ทุกคนต่างยอมรับทั่วกันว่านักศึกษาต้องเตรียมอุปกรณ์ด้วยตัวเอง เสื้อเกราะขั้นหกสูงสุด เห็นได้ชัดว่าเกินขอบเขตนี้ไปแล้ว หูหย่งไม่ใช่เจ้าของเกราะอย่างแน่นอน
อันที่จริงพลังป้องกันของเสื้อเกราะมีจำกัดเช่นกัน สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลาง ไม่ได้มีประโยชน์มากจนเกินไป ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้ระดับสูง พลังทะลวงของปราณนั้นแข็งแกร่ง แต่ในเงื่อนไขระดับเดียวกันต้องดีกว่าไม่สวมอยู่แล้ว
เวลานี้มหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งจึงทำสงครามน้ำลายขึ้นมา
น่าเสียดายที่กฎการแข่งขันไม่ได้มีการห้ามสวมใส่ของพวกนี้ โรงเรียนเตรียมทหารอวิ๋นเมิ่งไม่พอใจก็ไร้ประโยชน์ สุดท้ายเพราะหูหย่ง ทั้งสองฝ่ายจึงสู้กันจนมาถึงคนที่ห้า ครุศาสตร์หวาตงได้ชัยชนะจากความได้เปรียบเล็กๆ คว้าโควตาสิบอันดับไปได้
การแข่งขันสิบอันดับสิ้นสุดแล้ว ฟางผิงถอนหายใจยาวๆ ต่อไปเป็นตาของพวกเขาแล้ว
กฎของการแข่งสิบอันดับแรกไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้
จับฉลากแบ่งเป็นสองกลุ่ม ห้าทีมต่อหนึ่งกลุ่ม
—
ทุกทีมสู้ให้ครบสี่เกม ชนะหนึ่งครั้งได้สองคะแนน เสมอกันได้หนึ่งคะแนน แพ้ได้ศูนย์คะแนน
สุดท้ายเรียงอันดับจากการสะสมคะแนน อันดับหนึ่งอันดับสองของกลุ่มเล็กเข้ารอบ อันดับหนึ่งกลุ่ม A สู้กับอันดับสองกลุ่มบี อันดับหนึ่งกลุ่ม B สู้กับอันดับสองกลุ่ม A ผู้ชนะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ แบ่งเป็นอันดับหนึ่งและอันดับสอง
ผู้แพ้เข้าสู่การแข่งขันชิงอันดับสามอันดับสี่
กฎนี้ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้อยู่บ้าง
กฎที่ให้พวกฟางผิงอ่านในตอนแรก อันดับหนึ่งของสองกลุ่มแข่งขันกันก็เพียงพอแล้ว แต่ตอนนี้กลับเพิ่มขึ้นมาอีกสองโควตา
เห็นได้ชัดว่าเพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป หรือจะพูดว่าการแสดงฝีมือติดต่อกันของฟางผิงและหวังจินหยางทำให้รัฐบาลเปลี่ยนกฎใหม่ เพิ่มโอกาสให้กับทุกคนเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้อันดับหนึ่งของสองกลุ่มเข้ารอบ เกรงว่าในความคิดของรัฐบาลคือมหาวิทยาลัยปักกิ่งและโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง
เมื่อกฎใหม่ออกมา ฟางผิงก็ลอบด่าในใจไม่หยุด เปลี่ยนกฎอย่างกะทันหัน รัฐบาลช่างกล้าทำออกมาจริงๆ!
ไม่แปลกใจที่ก่อนหน้านี้ไม่มีการประกาศกฎการแข่งขันของสิบอันดับต่อภายนอกเลย สรุปแล้วรอทำแบบนี้อยู่สินะ!
ยอดฝีมือร่างทองของกระทรวงการศึกษาประกาศกฎแล้ว ก็ไม่สนใจว่าพวกเขาจะยอมรับหรือเปล่า เอ่ยต่อทันที “จับฉลากแบ่งกลุ่ม ทีมที่ฝีมือแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะถูกแบ่งไปอยู่กลุ่มไหนล้วนเข้ารอบได้ทั้งนั้น!”
มหาวิทยาลัยอย่างครุศาสตร์หวาตงพวกนี้แทบจะหลุดปากด่าบุพการีออกมา!
มีฝีมือก็อย่าโกงสิ!
แบ่งให้มหาวิทยาลัยปักกิ่ง มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ โรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง มหาวิทยาลัยหนานเจียง มหาวิทยาลัยจิ่วโจว มหาวิทยาลัยหวากั๋วห้าแห่งในหกแห่งนี้อยู่กลุ่มเดียวกัน นั่นถึงจะนับว่าพวกคุณสุดยอด! มีแค่แบบนี้ มหาวิทยาลัยสี่แห่งอื่นถึงจะมีโอกาสเข้ารอบ
ไม่งั้นทำได้แค่แข่งชิงอันดับหลังๆ แล้ว
หากไม่เหนือความคาดหมาย เกรงว่าสองกลุ่มจะแบ่งเฉลี่ยหกสถาบันนี้ ทั้งมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้และมหาวิทยาลัยปักกิ่งน่าจะไม่อยู่กลุ่มเดียวกันอย่างแน่นอน
ทุกคนถึงกระทั่งคาดเดาได้ถึงจุดนี้ มหาวิทยาลัยปักกิ่งเป็นอันดับหนึ่ง เป็นเรื่องที่ยอมรับโดยทั่วกัน แม้ว่าฝีมือของโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งจะไม่อ่อนด้อย แต่เทียบกับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้แล้ว ใครแข็งแกร่งใครอ่อนแอ ไม่อาจตัดสินออกมาได้ง่ายดายจริงๆ ฝีมือของฟางผิงยังไม่ถูกเปิดเผย ตอนนี้ไม่สามารถแบ่งออกมาได้ ดังนั้นมีโอกาสที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้และโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน
หากเป็นแบบนี้เพื่อความสมดุล ให้มหาวิทยาลัยหนานเจียงที่มีหวังจินหยางได้แสดงศักยภาพ มีโอกาสสูงที่จะถูกแบ่งไปอยู่กลุ่มเดียวกับมหาวิทยาลัยปักกิ่ง
ส่วนโรงเรียนเตรียมทหารจิ่วโจวและมหาวิทยาลัยหวากั๋ว ให้โรงเรียมเตรียมทหารสองแห่งประมือกันมีโอกาสน้อย ดังนั้นโรงเรียนเตรียมทหารจิ่วโจวน่าจะอยู่กลุ่มเดียวกับมหาวิทยาลัยปักกิ่งเช่นกัน
เวลานี้มหาวิทยาลัยหวากั๋วทำได้แค่อยู่กลุ่มเดียวกับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ กลุ่มของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้คงต้องเป็นสามทีมนี้อย่างแน่นอนแล้ว
ส่วนที่เหลือ นั่นไม่เป็นไร อาจจะจับฉลากวัดดวงกันจริงๆ
ผู้ฝึกยุทธ์ที่เข้าร่วมการแข่งขันก็ไม่ได้มีคนโง่ ยังไม่ทันจับฉลาก ฟางผิงก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “พี่หวัง ดูท่าพวกเราคงต้องได้เจอกันแล้ว”
มหาวิทยาลัยปักกิ่งและมหาวิทยาลัยหนานเจียงถูกแบ่งอยู่กลุ่มเดียวกัน แม้ว่าจะยัดโรงเรียมเตรียมทหารจิ่วโจวเข้าไป ประธานสมาคมของโรงเรียนเตรียมทหารจิ่วโจวก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหวังจินหยางอยู่ดี
ถ้ามหาวิทยาลัยหนานเจียงแพ้ให้มหาวิทยาลัยปักกิ่ง งั้นพวกฟางผิงที่เข้ารอบเป็นอันดับแรกก็จะได้ปะทะกับมหาวิทยาลัยหนานเจียง
หากเหนือความคาดหมาย มหาวิทยาลัยหนานเจียงเอาชนะมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ฟางผิงคิดว่าการแข่งรอบชิงชนะเลิศคงเป็นมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้และมหาวิทยาลัยหนานเจียงแล้ว
ส่วนมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ได้อันดับสองของกลุ่มเล็ก แพ้ให้กับโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งนั้น ฟางผิงแทบไม่ได้คิดซะด้วยซ้ำ
หวังจินหยางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ฉันหวังให้พวกเราเจอกันในรอบชิงชนะเลิศมากกว่า”
หลี่หานซงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “งั้นเกรงว่าคงไม่มีหวังแล้ว”
ระหว่างที่พูดก็มองไปทางเหยาเฉิงจวินและฟางผิง “พวกนายทั้งสองคนต้องรอดูแล้วว่าใครจะได้ประมือกับฉันก่อน แต่แบบนี้ก็ดี ต่อสู้กันให้ครบ ใครแข็งแกร่งใครอ่อนแอก็จะกระจ่างใจ คนจะได้ไม่ครหาว่าไม่ได้ประมือกัน ไม่รู้แพ้หรือชนะ”
กฎการแข่งขันแบบนี้ สี่อันดับแรกล้วนมีโอกาสปะทะกันหมด
ก่อนอื่นอันดับแรกของทั้งสองกลุ่มต้องชนะทั้งคู่
พวกเขาพูดคุยกันอย่างออกรส ยอดฝีมือจากกระทรวงการศึกษาที่อยู่ด้านข้างเผยสีหน้าดำคล้ำ!
พวกนายเก่งกันจริงๆ เชื่อหรือเปล่าว่าฉันจะแบ่งพวกนายไปอยู่กลุ่มเดียวกัน!
ยังไม่ทันจับฉลากก็เริ่มถกเถียงสถานการณ์ต่อสู้หลังจากนี้แล้ว นี่คือประชันไอคิวกันหรือไง?
คนหนุ่มสาวสมัยนี้ไม่เข้าใจการปกป้องของคนรุ่นก่อนสักนิด
เพื่อลดการสิ้นเปลืองภายในของพวกเธอจึงเปิดโอกาสให้ปะทะกันมากหน่อย เห็นว่าเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับพวกเราหรือไง?
ยอดฝีมือขั้นแปดขั้นเก้าหลายคนปรึกษากันอยู่ค่อนวัน สุดท้ายจึงเลือกระบบการแข่งขันแบบนี้ออกมา ทั้งยังจัดสมาชิกทั้งสองกลุ่มออกมาเรียบร้อยแล้ว พวกเธอไม่รู้จักซาบซึ้งเลยสักนิด?
เห็นพวกเขาคุยกันอย่างครึกครื้น ยอดฝีมือร่างทองจำเป็นต้องตัดบทว่า “เอาล่ะ เริ่มจับฉลาก!”
พวกฟางผิงเผยท่าทีไม่ใส่ใจนัก ฟางผิงจับฉลากก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มไปพลาง “เหยาเฉิงจวิน ฉันยังคิดอยู่เลยว่าใครจะได้เป็นคู่ต่อสู้คนแรกของฉัน นึกไม่ถึงว่าจะเป็นนาย ถ้านายแพ้ อันดับสามของขั้นสี่นี้คงถูกฉันคว้าไปแล้ว น่าเสียดายที่ตอนนั้นนายไม่ได้ท้าประลองอันดับหนึ่ง”
เหยาเฉิงจวินเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “มีความสามารถก็มาเอาไปเถอะ!”
หลิวซื่อเจี๋ยประธานสมาคมมหาวิทยาลัยหวากั๋วที่อยู่ด้านข้างเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ทั้งสองคนมั่นใจกันจริงๆ แต่ควรจะถามหวากั๋วของพวกเราด้วยว่าตกลงหรือเปล่า!”
ฟางผิงเบะปาก ฉันไม่ได้ให้ความสำคัญนายด้วยซ้ำ
“จับฉลาก!”
ยอดฝีมือร่างทองเอ่ยด้วยความโมโหอยู่บ้าง หากพูดไม่หยุดอีก ฉันจะจัดให้พวกเธออยู่กลุ่มเดียวกันจริงๆ แล้ว แม้ผลลัพธ์จะออกมาแย่ ถูกหัวหน้าจัดการก็ยอม!
พวกเขาราวกับนึกถึงเรื่องนี้ได้ พากันไอแห้งๆ เริ่มสงบปากสงบคำจับฉลาก
ฟางผิงแทบจะขี้เกียจดู เป็นดังคาดมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ โรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งและมหาวิทยาลัยหวากั๋วอยู่กลุ่มเดียวกัน
เรื่องจริงพิสูจน์แล้วว่าฟางผิงคาดเดาไม่ผิดแม้แต่น้อย
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ โรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง มหาวิทยาลัยหวากั๋ว มหาวิทยาลัยจิงหนาน มหาวิทยาลัยไท่ซานถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน
ฝั่งตรงข้าม นอกจากพวกมหาวิทยาลัยปักกิ่ง มหาวิทยาลัยหนานเจียง โรงเรียนเตรียมทหารจิ่วโจว ก็มีครุศาสตร์หวาตงและมหาวิทยาลัยตงหนานที่ถูกยัดเข้าไป
ฟางผิงมองข้ามคนอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง จับฉลากแล้วก็เอ่ยว่า “รัฐมนตรี ในกลุ่มเล็กก็ต้องจับฉลากสู้กันเหรอครับ? จัดการให้พวกเราประมือกับโรงเรียมเตรียมทหารอันดับหนึ่งก่อนได้หรือเปล่า…”
ฟางผิงพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ยอดฝีมือร่างทองถลึงตาใส่เขา ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะกดเสียงว่า “พวกเธอเจอกันเกมสุดท้าย!”
“แค่กๆๆ…”
หลายคนกระแอมไอออกมา แม่งเหอะ โกงมาจนถึงขั้นนี้แล้ว ยังจะจับฉลากเพื่ออะไร พวกคุณไม่จับลำดับให้จบๆ ไปเลยล่ะ เห็นได้ชัดว่าเพื่อไม่ให้ยอดฝีมือของทั้งสองสถาบันได้รับบาดเจ็บจากฝ่ายตรงข้ามตั้งแต่ทีแรก ดังนั้นเบื้องบนจึงแทรกแซงจัดการให้สองสถาบันพบกันในรอบสุดท้ายไปเลย
ประเด็นอยู่ที่ในเมื่อเป็นแบบนี้ควรจะจัดลำดับมาตรงๆ เลย มาจับฉลากตัดสิน ทุกคนคิดว่าเป็นเรื่องเกินความจำเป็น
ฟางผิงนึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับเช่นกัน หัวเราะแห้งๆ ไม่ถามอะไรอีก
ช่างเถอะ แล้วแต่ละกัน มหาวิทยาลัยอื่นๆ จะสู้กับใครก็เหมือนกัน
ผลปรากฏว่าพอจับฉลากลำดับออกมาจริงๆ ฟางผิงกลับปวดหัวอยู่บ้าง ในกลุ่มเล็กนั้นการแข่งขันครั้งแรกของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ได้พบกับมหาวิทยาลัยจิงหนาน!
เรื่องนี้…ให้เฉินเหวินหลงสู้ชนะรวดเลยดีหรือเปล่า?
ฟางผิงครุ่นคิดเรื่องนี้ก่อนจะมองไปทางชั้นสอง แม้จะไม่เห็นเฉินเย่าถิง แต่ฟางผิงรู้ว่าชายชราอยู่ชั้นสอง ไม่แน่ว่าอาจกำลังใช้แววตาสังหารจับจ้องเขาอยู่
และที่แย่กว่านั้นคือพรุ่งนี้เช้าจิงหนานต้องสู้กับเซี่ยงไฮ้ ช่วงบ่ายจิงหนานยังต้องสู้กับโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งอีก นี่หากโดนลงมือหนักเข้า อาจจะถูกซัดจนพินาศด้วยซ้ำ?
เฉินเฮ่าหรานที่อยู่ตรงข้ามเหมือนจะสีหน้าซีดเผือดอยู่บ้าง ฟางผิงไม่รู้ว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่า
“น่าเสียดาย แต่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ทนรับกับฝันร้ายสักวัน ผลกระทบก็จะลดน้อยลงแล้ว”
ฟางผิงภาวนาให้กับจิงหนานด้วยความจริงใจ หวังว่าเฉินเฮ่าหรานจะยืนหยัดได้นานหน่อย
————————