ตอนที่ 345 ความแข็งแกร่งของมหาวิทยาลัยชื่อดัง (1)
ศึกชิงสิบอันดับ เพราะต้องแบ่งเป็นสองกลุ่ม ตารางการแข่งขันจึงกระชั้นชิดมากขึ้น
ช่วงเช้าของวันที่สิบสามมีการแข่งขันสองรอบ ช่วงบ่ายมีอีกสองรอบเช่นกัน
พวกฟางผิงถูกจัดอยู่ในกลุ่ม A แปดโมงของบ่ายวันที่สิบสาม มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจอกับมหาวิทยาลัยจิงหนาน บ่ายสามโมงมหาวิทยาลัยจิงหนานเจอกับโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง
ทางกลุ่ม B มีการแข่งขันสองรอบเช่นกัน
ช่วงเช้าสิบโมง มหาวิทยาลัยหนานเจียงเจอกับมหาวิทยาลัยตงหนาน บ่ายโมงเป็นการแข่งระหว่างมหาวิทยาลัยปักกิ่งและครุศาสตร์หวาตง!
ตารางการแข่งขันถูกปล่อยออกมา ชั่วขณะนั้นจึงเกิดความโกลาหลวุ่นวายขึ้นทันที!
หนึ่งวันสี่รอบ ตอนนี้มหาวิทยาลัยและโรงเรียนเตรียมทหารชื่อดังต่างลงสนามกันหมด!
เวลานั้นตั๋วเข้าชมการแข่งขันก็หายากยิ่งกว่าทองพันชั่ง!
การแข่งขันวันที่สิบสาม มหาวิทยาลัยปักกิ่งแทบไม่ได้คิดอะไรมากมาย ทั้งยังเกลียดวุ่นวาย จึงขายตั๋วแบบหนึ่งวัน ราคาหนึ่งพันหยวน
เมื่อตารางการแข่งขันออกมาในบ่ายของวันที่สิบสอง ในอินเทอร์เน็ตก็มีคนเปิดขายตั๋วถึงหนึ่งหมื่นหยวน กลางดึกราคาถึงกระทั่งโดดไปใบละสามหมื่นหยวน!
—
ฟางผิงดูแคลนระบบขายตั๋วของมหาวิทยาลัยปักกิ่งอยู่บ้าง
เพื่อประหยัดปัญหา คนพวกนี้ไม่มีวิธีหาเงินเข้ามือตัวเองด้วยซ้ำ
การแข่งขันสี่รอบต่อหนึ่งวัน ทั้งยังเป็นระดับกลางทั้งหมด หนึ่งรอบราคาสองร้อยห้าสิบหยวน สรุปแล้วขั้นสี่อย่างพวกเขาเป็นแค่พวกปัญญาอ่อน?
ตามตารางการแข่งขัน แต่ละแห่งต้องสู้กันสี่รอบ หนึ่งกลุ่มห้าทีมต้องประลองทั้งหมดสิบรอบ
สองกลุ่มก็เป็นยี่สิบรอบ วันละสี่รอบต้องใช้เวลาห้าวัน
รวมกับการแข่งขันเข้ารอบต่อจากนี้ การแข่งอันดับสามอันดับสี่และอันดับหนึ่งอันดับสอง ความต้องการของรัฐบาลคือสิ้นสุดการแข่งขันภายในเดือนนี้ ไม่อาจสิ้นเปลืองเวลาของนักศึกษาเกินไปได้ การแข่งที่กระชั้นชิดหมายความว่าการต่อสู้ของทุกคนจะเข้มข้นขึ้น เวลาฟื้นฟูสั้นลง
มหาวิทยาลัยที่ซวยอย่างจิงหนาน หนึ่งวันสู้สองรอบ นี่ไม่มีข้องดเว้นเช่นกัน
—
วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม
วันนี้นอกจากผู้ชมจะมาเยอะขึ้น ภายนอกประตูมหาวิทยาลัยปักกิ่งยังมีหลายคนมารวมตัวกัน ชูธงสนับสนุนทีมของตัวเอง
การแข่งขันแลกเปลี่ยนของผู้ฝึกยุทธ์ดำเนินมาถึงตอนนี้ มหาวิทยาลัยบางส่วนหรือบางคนก็มีแฟนคลับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากคนจะอยู่ในสนามเยอะแล้ว ประจวบกับเป็นวันอาทิตย์ คนที่เลือกดูผ่านการถ่ายทอดสดก็เยอะเหมือนกัน
วันที่สิบสามผู้ที่นำทัพคนแรกคือมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้
ตอนที่รถของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้หยุดลง ข้างสนามก็มีเสียงดังก้องขึ้นมาทันที!
“เซี่ยงไฮ้ๆ เอาชนะรวดเดียวห้าคน!”
“มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้อันดับหนึ่ง ไม่มีใครโค่นล้มได้!”
“ฟางผิง ฉันรักคุณ!”
“ซัดมหาวิทยาลัยจิงหนานให้ราบคาบ!”
“…”
ตอนนี้เสียงตะโกนดังขึ้นอีกครั้ง สั่นสะเทือนจนฟางผิงปวดหูอยู่บ้าง
เห็นคนในรถมองตัวเอง ฟางผิงจึงเผยสีหน้าดำคล้ำ “ไม่ใช่หน้าม้า!”
หน้าม้าปู่แกสิ อธิการเฉินเป็นเจ้าหนี้ของเขาอยู่เลย เขาไม่มีหน้าทำเรื่องแบบนี้หรอก ครั้งนี้เป็นแฟนคลับจริงๆ!
ยังไงเซี่ยงไฮ้ก็เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดัง ทั้งแม้ว่าการแข่งขันแลกเปลี่ยนครั้งนี้จะเคยสู้แค่หนึ่งครั้ง แต่หมัดของฟางผิงซัดเวทีจนแตกเป็นเสี่ยงๆ น่าเกรงขามยิ่งกว่าอะไรจึงทำให้เกิดแฟนคลับขึ้นมาไม่น้อย
พวกเขาหัวเราะ เฉินเหวินหลงกลับลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “หรือนายจะลงสนามก่อนเหมือนเดิม?”
“ไม่ นายลงก่อน จะให้ข้างนอกเห็นแค่ฝีมือของฉันเพียงคนเดียวไม่ได้ ยอดฝีมือของเซี่ยงไฮ้มีนับไม่ถ้วน! ครั้งนี้สู้กับจิงหนาน ไม่ใช่เรื่องยาก โรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งและมหาวิทยาลัยหวากั๋วถึงจะเป็นงานหินกว่า ถึงเวลานั้นจะลำบากอยู่บ้าง ความเกรงขามลดหลั่นไป ถึงเวลานั้นฉันจะนำทัพอีกที”
สู้กับจิงหนานและไท่ซาน ฟางผิงจะให้เฉินเหวินหลงลงสนามก่อนเช่นกัน
ยอดฝีมือในร้อยอันดับแรก จะอ่อนแอได้ยังไง!
ตอนนี้ชื่อเสียงของเฉินเหวินหลงไม่ชัดเจน ไม่ได้หมายความว่าเขาอ่อนแอ คนเดียวเอาชนะจิงหนานหรือไท่ซานรวดเดียวก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป
ทางมหาวิทยาลัยปักกิ่งให้ฉินเจ๋อลงมือ หลี่หานซงไม่ได้ลงสนาม เพราะอยากให้คนพวกนี้ได้แสดงฝีมือเช่นกัน
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ไม่อาจแข็งแกร่งแค่คนใดคนหนึ่งได้
ต่อให้หวังจินหยางจากหนานเจียงแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่อาจมีคนคิดว่าฝีมือของหนานเจียงสูสีกับปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ได้จริงๆ
เฉินเหวินหลงสูดลมหายใจเข้าลึก ยังมีความกดดันอยู่เช่นกัน
ไม่ใช่ว่ากลัวแพ้ แต่กลัวว่าจะไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายรวดเดียวได้
ตอนที่ลงจากรถ เฉินเหวินหลงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า “เฉินเฮ่าหรานฝีมือไม่อ่อนด้อย ต้องออมมือหรือเปล่า?”
เฉินเฮ่าหรานเป็นหลานชายของปรมาจารย์ เรื่องนี้ไม่สำคัญ ประเด็นอยู่ที่อีกฝ่ายเป็นพี่ชายของเฉินอวิ๋นซี
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เกรงขามต่อภายนอก แต่ภายในยังคงดูแลคนของตัวเองด้วยเช่นกัน
“ไม่จำเป็น เพื่อแสดงการให้เกียรติ ถ้าสามารถซัดในหมัดเดียวได้ก็อย่าต้องใช้หมัดที่สองเลย!”
ฟางผิงพูดอย่างเรียบนิ่ง ยังไงเฉินเหวินหลงก็ไม่ติดหนี้ใครอยู่แล้ว ต้องกลัวไปทำไม
“ได้ เข้าใจแล้ว”
เฉินเหวินหลงพยักหน้า เขารับตำแหน่งผู้บัญชาการกอง เทียบกับฟางผิงแล้วเห็นผลประโยชน์ส่วนตัวน้อยกว่า ค่อนข้างซื่อตรงและยุติธรรม
—
สนามกีฬามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่ง
ครั้งนี้มหาวิทยาลัยปักกิ่งไม่ได้จัดศึกสิบอันดับภายในห้องอีกแล้ว เลือกที่จะจัดข้างนอกแทน
เมื่อเลือกจัดการแข่งข้างนอก ผู้ชมจึงเยอะมากขึ้น แม้จะมีรั้วลวดหนามกั้นอยู่ คนที่ซื้อตั๋วสามารถเข้าได้ คนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องไม่อาจเข้ามาในมหาวิทยาลัย แต่ตอนนี้นอกรั้วลวดหนามก็มีนักศึกษาของปักกิ่งจำนวนมากโอบล้อมอยู่เช่นกัน
อาจเพราะว่าก่อนหน้านี้ความได้เปรียบเรื่องเจ้าภาพของปักกิ่งไม่เด่นชัดเท่าไหร่ แม้ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงช่วงที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งจะลงสนาม แต่ตอนที่พวกฟางผิงมาถึงสนามกีฬา นอกสนามยังคงมีเสียงตะโกนดังชัดเจน
“มหาวิทยาลัยปักกิ่งกวาดเรียบทั้งหมด!”
“มหาวิทยาลัยปักกิ่งไม่ยอมแพ้ก็สู้ซะ!”
“…”
ฟางผิงได้ยินก็ขยี้หู แค่นหัวเราะว่า “มหาวิทยาลัยปักกิ่งโง่กันทั้งหมด สโลแกนแบบนี้ก็ตะโกนออกมา โง่จริงซะด้วย”
นักศึกษาจากปักกิ่งที่อยู่ใกล้ๆ เขาใบหน้าขึ้นสีทันที อยากจะอัดฟางผิงสักหมัด!
ฉันตะโกนว่ากวาดเรียบทั้งหมดต่างหาก!
ฟางผิงไม่สนใจพวกเขา เดินเข้าสู่สนามด้วยท่าทีสบายๆ ตอนนี้กลางสนามกีฬายังคงตั้งเวทีขนาดใหญ่ไว้ฝั่งหนึ่ง
แต่เวทีครั้งนี้มีประโยชน์เป็นแค่ของตกแต่งเท่านั้น
กฎการแข่งจัดอันดับมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ไม่ยอมแพ้ ออกจากเวทีก็ไม่นับว่าแพ้ แต่ไม่อนุญาตให้ออกจากสนามกีฬา
—
“ทีมผู้เข้าแข่งขันของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มาถึงแล้ว!”
“อาจารย์ของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ส่งรายชื่อลำดับการลงสนามแล้ว ครั้งนี้ฟางผิงจะลงสนามก่อนเหมือนเดิมหรือเปล่า?”
“เอาล่ะ ตอนนี้มหาวิทยาลัยจิงหนานก็ส่งรายชื่อลำดับลงสนามมาแล้วเหมือนกัน งั้นพวกเรามาดูลำดับของทั้งสองฝ่ายดีกว่า!”
“มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้…เฉินเหวินหลงนำทัพคนแรก! มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เปลี่ยนกลยุทธ์แล้ว หัวหน้าทีมฟางผิงไม่ได้ลงสนามคนแรก เพราะได้รับความกดดันหรือเพื่อเพิ่มหลักประกันกันแน่?”
“เฉินเหวินหลงเป็นยอดฝีมืออันดับที่หกสิบแปดของขั้นสี่! เทียบกับฉินเจ๋อจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เฉินเหวินหลงอยู่อันดับสูงกว่า แต่พวกเราไม่เคยเห็นเฉินเหวินหลงลงมือมาโดยตลอด ครั้งล่าสุดยังเป็นวันที่สิบแปดพฤศจิกายน เฉินเหวินหลงออกหน้าท้าประลองจางชิ่งเฉียง อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหวาหนาน นั่นเป็นการประลองอย่างลับๆ พวกเราไม่สามารถรู้ได้ จากข่าวลือเฉินเหวินหลงเอาชนะอีกฝ่ายภายในสามหมัด เห็นได้ชัดว่าฝีมือไม่ธรรมดา! ตอนนี้สมาชิกที่อยู่ในร้อยอันดับของขั้นสี่ หลี่หานซงจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งใช้หมัดเป็นอาวุธ เฉินเหวินหลงก็ใช้หมัดเช่นกัน ทั้งสองฝ่ายต่างมีฉายาหมัดเทวดา ตกลงใครแข็งแกร่งกว่ากันแน่?”
“เอาล่ะ พวกเรามาดูลำดับการลงสนามของจิงหนานบ้าง คนแรกคือ…เฉินเฮ่าหราน!”
“เฉินเฮ่าหรานเป็นประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ของมหาวิทยาลัยจิงหนาน ฝีมือขั้นสี่ตอนปลาย แม้ระดับขั้นจะต่ำกว่าเฉินเหวินหลงอยู่เล็กน้อย แต่ฝีมือของเฉินเฮ่าหรานแข็งแกร่งเช่นกัน ก่อนหน้านี้ประมือกับวิทยาลัยสตรีเซี่ยงไฮ้ เฉินเฮ่าหรานเอาชนะห้ารวด ซัดวิทยาลัยสตรีเซี่ยงไฮ้ราบคาบอย่างสบายๆ!”
“…”
ตอนนี้เสียงของพิธีกรสูงขึ้นมาหลายส่วน เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
พิธีกรอธิบายการจัดทัพลงสนามของทั้งสองฝ่ายแล้ว ไม่นานก็มียอดฝีมือตะโกนว่า “สมาชิกทีมทั้งสองฝ่ายขึ้นเวที!”
เฉินเหวินหลงและเฉินเฮ่าหรานเดินขึ้นเวทีจากคนละฝั่ง
กลางอากาศนั้นยอดฝีมือประกาศต่อว่า “ศึกสิบอับดับไม่จำกัดแค่บนเวที ไม่อนุญาตให้สองฝ่ายออกจากสนามกีฬา ไม่อนุญาตให้เข้าไปอยู่ในเขตผู้ชม สามารถยอมแพ้ได้หรือตัดสินจากอีกฝ่ายหมดแรงเป็นที่สิ้นสุด! ห้ามจงใจฆ่าคน ยอมแพ้แล้วไม่อนุญาตให้ลงมือต่อ! นอกจากนี้ก็ไม่มีข้อจำกัดอย่างอื่นแล้ว!”
ประกาศกฎระเบียบแล้ว ยอดฝีมือกลางอากาศรอทั้งสองคนคารวะกันเสร็จสิ้นก็ตะโกนว่า “เริ่มได้!”
“เปรี้ยง!”
สิ้นเสียงเฉินเหวินหลงก็กระโดดขึ้นในอากาศ ยกหมัดซัดไปทันที!
ตอนนี้เฉินเหวินหลงสวมสนับมือไว้ บนสนับประกายแสงอย่างเยือกเย็น ภายใต้การเคลื่อนที่ของปราณ กลิ่นคาวเลือดก็พรั่งพรูออกมา
เฉินเฮ่าหรานไม่ได้เข้าไปใกล้ ชั่วพริบตาที่เฉินเหวินหลงกระโดดขึ้น เฉินเฮ่าหรานก็ทะยานตัวขึ้นเช่นกัน เคลื่อนไหวร่างอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงแผ่นหลังไวๆ บนเวที
เสียงดังก้องไม่ได้มาจากการประมือของทั้งสองฝ่าย แต่เป็นการกระโดดขึ้นไปของเฉินเหวินหลง เหยียบเวทีจนเกิดการสั่นสะเทือนอย่างหนัก
แม้ว่าเวทีจะเป็นโลหะผสม แต่ใต้เวทียังคงเป็นพื้นดิน
ตอนนี้เวทีขนาดใหญ่มีการสั่นสะเทือนเล็กน้อยจึงเริ่มจมลงไปในดิน
เฉินเหวินหลงไม่ได้ชำนาญเรื่องความเร็ว แต่วิชาเสริมสร้างร่างกายกลับฝึกจนถึงขีดจำกัดหนึ่งแล้ว พื้นฐานร่างกายแข็งแกร่ง ทำให้เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วอย่างมาก
———————