ตอนที่ 350 น่าเสียดาย (2)
เงาทั้งสองร่างพุ่งชนม่านพลังจิตใจ เกิดเป็นเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง
ครู่ต่อมา ห่างออกไปช่วงหนึ่งก็มีประกายแสงสีแดงพุ่งขึ้นมา
หวังจินหยางพยายามหยุดการถอยหลัง ปล่อยปราณออกมาเข้มข้นมากขึ้น เสียงไหลเวียนเลือดนั้นชัดเจนยิ่งกว่าเดิม ฟันดาบลงไปทันที!
ประกายดาบยังไม่ทันมาถึง บนพื้นดินก็ปรากฏรอยแยกขนาดใหญ่แล้ว!
หลี่หานซงทะยานขึ้นไปบนฟ้าเช่นกัน ออกสองหมัดโจมตีอย่างรวดเร็ว ทว่ากลับถูกกดไว้อยู่ตลอด หวังจินหยางระเบิดพลังฟันดาบครั้งแล้วครั้งเล่า ผ่านไปหลายครั้งหลี่หานซงก็ถูกอัดจนร่วงสู่พื้นดิน เหยียบพื้นเกิดเป็นหลุมลึก เศษดินหินที่ระเบิดกระจัดกระจายไปทั่ว
ตอนนี้หวังจินหยางพุ่งตัวเข้ามาแล้ว ดาบยาวในมือไม่มีประกายสีแดงอีกต่อไป ยกดาบฟันโจมตีหมัดทั้งสองข้างของหลี่หานซง!
ประกายไฟกระเซ็นออกไปอีกครั้ง สิ่งที่กีดขวางรอบบริเวณบางส่วนถูกติดไฟอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็มีปรมาจารย์ใช้พลังจิตใจดับไฟทันที
คล้อยหลังจากการฟันโจมตี หลี่หานซงจมลงในดิน ทั้งสองคนสู้กันไปมาจนจมลึกลงไปใต้ดิน
พวกผู้ชมทยอยชะโงกหน้าเข้าไปดู ฟางผิงกลับใช้พลังจิตใจแปลงเป็นเส้นใยล่องลอยออกไปอยู่รอบๆ ชมการแข่งขันต่อ
ข้างล่างนั้นมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระลอก
ผ่านไปไม่กี่วินาที เงาร่างหนึ่งก็พุ่งขึ้นมา!
ฝีเท้าของหวังจินหยางโซซัดโซเซเล็กน้อย ปากกระอักเลือดออกมา ปราณทั่วร่างหายไปแล้ว เวลานี้ทุกคนเพิ่งเห็นอย่างชัดเจนว่าบนหน้าอกของเขามีรอยหมัดประทับอยู่ กระดูกอกคล้ายยุบลงไปอยู่บ้าง เสื้อผ้าตรงกลางนั้นระเบิดเป็นรอยกว้างนานแล้ว
พวกผู้ชมสับสนอยู่บ้าง นี่คือชนะหรือแพ้กัน?
ไม่นานทุกคนก็ได้คำตอบ
ผ่านไปสักพัก ในหลุมลึกนั้นหลี่หานซงเพิ่งจะกระโดดออกมาจากใต้ดินได้
เทียบกับหวังจินหยาง หลี่หานซงเหมือนจะไม่มีบาดแผลภายนอกเท่าไหร่ แต่เมื่อผู้ชมได้เห็นเขาอยู่ต่อหน้าก็อดหวีดร้องออกมาไม่ได้
ตอนนี้ใบหน้าของหลี่หานซงราวกับถูกดาบผ่าครึ่งอยู่ ประกายแสงสีทองทะลักออกมา กำลังซ่อมแซมรอยแผลอย่างไม่หยุดหย่อน
แต่ยังไงก็ไม่มีพลังฟื้นฟูของยอดฝีมือร่างทอง ตอนนี้จึงไม่ได้ซ่อมแซมเสร็จสมบูรณ์ รอยแหวกฟันจากดาบจึงเห็นอย่างชัดเจน ทำให้คนหวาดผวาอย่างยิ่ง
หวังจินหยางฟันเข้ากะโหลกของเขา!
—
“ขี้โกงชัดๆ!”
ฟางผิงอดพึมพำไม่ได้ หลี่หานซงเจ้าหมอนี้ วิชาศีรษะเหล็กเจ๋งจริงๆ ด้วย!
ถูกดาบของหวังจินหยางฟันเข้า นึกไม่ถึงว่าจะไม่ถูกผ่าเป็นสองท่อน อาการบาดเจ็บก็ไม่หนักเท่าไหร่ ดูเหมือนจะน่ากลัว ในความเป็นจริงกลับไม่ร้ายแรงอะไร หัวเหล็กนี้ทำให้คนอิจฉาตาร้อนจริงๆ
ระหว่างที่ฟางผิงพูด คนที่อยู่รอบๆ ก็กลอกตามองเขา
คนอื่นพูดยังพอได้ นายพูดทำสากกะเบืออะไรก่อน!
—
ในสนาม
หวังจินหยางมองหลี่หานซง หลี่หานซงไม่พูดมากเช่นกัน หมุนตัวเดินออกไปข้างนอก
เขาแพ้แล้ว!
แม้อาการบาดเจ็บจะไม่ได้หนักถึงขั้นเป็นอันตรายแก่ชีวิต แต่กะโหลกมีรอยแตกเล็กน้อยแล้ว ตอนนี้สู้ต่อไปอีก คงต้องเสี่ยงชีวิตแล้ว
หลี่หานซงออกจากสนามไป ผู้ตัดสินก็กระโดดลงมาจากข้างบน ตะโกนว่า “หวังจินหยางเป็นฝ่ายชนะ จะต่อเลยหรือเปล่า?”
หวังจินหยางสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง พยักหน้าว่า “ต่อเลยครับ!”
คนที่สองของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ฉินเจ๋อยอดฝีมือที่อยู่ในร้อยอันดับไม่คิดจะชักช้า พยักหน้าเล็กน้อยให้หลี่หานซงที่เดินผ่านกัน ก่อนจะกระโดดขึ้นกลางอากาศ!
ขึ้นไปบนเวทีแล้ว ฉินเจ๋อก็ระเบิดพลังเต็มที่ ปราณพรั่งพรูออกมาทันที ฟันดาบลงไป!
“เปรี้ยง!”
หวังจินหยางยกดาบตอบโต้ กลับต้องถอยไปหลายก้าว ขมวดคิ้วเล็กน้อย ตรงหน้าอกนั้นมีเลือดทะลักออกมา
ฉินเจ๋อที่อยู่ตรงข้ามเผยสีหน้าหนักแน่น ไม่คิดจะลังเล โจมตีอย่างบ้าคลั่งต่อไป
หวังจินหยางหลบไปข้างหลังหลายครั้ง ดาบยาวในมือกลับไม่จู่โจมออกไปอีก
โรมรันกันหลายนาที จู่ๆ หวังจินหยางก็ชักดาบออกไป ประกายดาบขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ฟันลงไปทันที!
“อึก!”
ฉินเจ๋อกระอักเลือดออกมา ลอยกระเด็นออกไปหลายช่วง ก่อนจะถลาเข้ามาอีกครั้ง
หวังจินหยางสำลักไอออกมา หมุนดาบโจมตีต่อ เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง บนร่างของฉินเจ๋อเต็มไปด้วยรอยดาบที่เป็นแผลลึกแทบมองเห็นกระดูก ท้ายที่สุดจึงไร้แรงต่อสู้อีก จำเป็นต้องออกจากสนามไป
—
พ่ายแพ้ไปสองคนติดต่อกัน อันที่จริงหวังจินหยางเป็นลูกธนูปลายไม้ที่ใกล้หมดแรงแล้ว
ฟางผิงที่อยู่บนอัฒจันทร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “หากสู้ต่อไปต้องบาดเจ็บถึงรากฐานภายในแน่”
หวังจินหยางแข็งแกร่งมาก จุดนี้ฟางผิงยอมรับ
หลี่หานซงฝีมือไม่ด้อยไปกว่าเหยาเฉิงจวิน บางทีอาจจะแข็งแกร่งกว่า แน่นอนว่าทั้งสองคนยังไม่เคยประมือกัน ยากที่จะพูด สาเหตุที่เหยาเฉิงจวินด้อยกว่าฟางผิง นั่นเพราะว่าพลังจิตใจที่แข็งแกร่งของเขาถูกกำราบไว้
แต่เจอกับหลี่หานซง นั่นเป็นความได้เปรียบอย่างหนัก ใครชนะใครแพ้เป็นเรื่องที่พูดยาก
หวังจินหยางแข็งแกร่งกว่าหลี่หานซงไปอีกหนึ่งช่วง แต่เอาชนะหลี่หานซงก็บาดเจ็บไม่น้อย มาเจอวิชาต่อสู้ที่ทุ่มสุดกำลังของฉินเจ๋ออีก ตอนนี้หากสู้ต่อไป อวัยวะภายในจะบาดเจ็บถึงขั้นร้ายแรง
ทั้งมหาวิทยาลัยปักกิ่งยังมีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่สูงสุดอยู่อีกหนึ่งคน!
แม้จะสู้พวกฉินเจ๋อไม่ได้ แต่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่สูงสุดก็ไม่ใช่คนที่หวังจินหยางเอาชนะได้ง่ายในขณะที่ตัวเองบาดเจ็บหนัก
ถังเฟิงส่ายหน้าเล็กน้อย “อาจจะเพราะว่าไม่อยากเจอกับเธอ เหยาเฉิงจวินได้รับบาดเจ็บ เธอกลับไม่เป็นอะไรมาก เอาชนะเหยาเฉิงจวินเขายังพอมีหวัง ฝีมือโดยรวมของโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งสู้พวกเราไม่ได้ แต่ถ้าต้องสู้กับพวกเรา…คงยากแล้ว”
ครั้งนี้หากมหาวิทยาลัยหนานเจียงแพ้ก็ต้องเจอกับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ พวกเฉินเหวินหลงนั้นแทบไม่มีอาการบาดเจ็บอะไร ฟางผิงยังเอาชนะเหยาเฉิงจวินได้อีก หวังจินหยางต้องรับศึกหนักอยู่แล้ว
กลับกันเอาชนะมหาวิทยาลัยปักกิ่งได้ ต่อไปจะได้เจอกับโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง บางทีอาจจะมีโอกาสเข้ารอบชิงชนะเลิศ
ระหว่างที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน หวังจินหยางก็เลือกแข่งขันต่อ
ครั้งนี้ต่อสู้อย่างยากลำบาก
หวังจินหยางหลบการโจมตีของอีกฝ่ายกลางคันไปหลายครั้ง เริ่มหลบหลีกเป็นหลัก แต่ยังคงถูกอีกฝ่ายโจมตีโดนหลายหมัด อาการบาดเจ็บที่หน้าอกร้ายแรงยิ่งกว่าเดิม
ท้ายที่สุดหวังจินหยางก็ระเบิดพลังออกมาอีกครั้ง ออกดาบซัดอีกฝ่ายจนราบคาบ เอาชนะคนที่สามของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง
“ต่อ…”
หวังจินหยางยังไม่ทันพูดจบ บนอัฒจันทร์ อธิการเฒ่าของมหาวิทยาลัยหนานเจียงก็เอ่ยขึ้นก่อน “ยอมแพ้ซะ!”
หวังจินหยางหันไปมอง อธิการของหนานเจียงส่ายหัวเบาๆ หากต่อสู้อีก หวังจินหยางต้องเสียเวลาช่วงสำคัญในการฝึกวิชาไป บาดเจ็บหนักเกินไป ไม่ใช่เรื่องที่ยาบำรุงจะรักษาได้ง่ายๆ เหมือนกับไป๋รั่วซีที่ก่อนหน้านี้อวัยวะภายในบาดเจ็บหนักเกินไป ต้องพักรักษาเกือบครึ่งปีเต็มๆ
หวังจินหยางเผยแววตาขัดแย้งกันอยู่บ้าง ไม่คิดฝืนต่ออีก สาวเท้าลงจากเวทีไป ถอนหายใจอย่างเงียบๆ
—
หวังจินหยางถอนตัวไปแล้ว ทางมหาวิทยาลัยปักกิ่งก็โล่งใจ
การแข่งขันหลังจากนี้ทุกคนแทบจะคาดเดาผลลัพธ์ได้
เรื่องจริงก็เป็นดังคาด ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ตอนปลายสองคนสู้กับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ตอนต้นหนึ่งคนและขั้นสามอีกสามคน…ทั้งยังไม่ใช่ขั้นสามสูงสุด การต่อสู้เช่นนี้แทบไม่อาจเกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย
แม้ว่าหลานอู๋เฟิงจะต่อสู้สุดชีวิตกลับยังคงไม่อาจต้านยอดฝีมือขั้นสี่ตอนปลายได้ ท้ายที่สุดจึงถูกกระบี่แทงทะลุแขนขวา ทรุดลงกับพื้นทันที
สามคนที่เหลือ แม้จะพยายามสุดความสามารถก็จบแค่ไม่กี่กระบวนท่าเท่านั้น
การแข่งขันครั้งสุดท้ายของกลุ่ม B ต่อสู้จนทำให้คนสะท้อนใจอยู่บ้าง
หวังจินหยางเอาชนะยอดฝีมือขั้นสี่สูงสุดสามคนได้ มหาวิทยาลัยหนานเจียงยังคงพ่ายแพ้ ความแตกต่างของฝีมือโดยรวมมหาวิทยาลัย แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน
แต่ยังไงก็มีคนหนึ่งช่วยออกรบได้ ไม่ถึงกับล้มเหลวเช่นกัน
ผ่านไปหลายนาที ผู้ตัดสินก็ตะโกนว่า “มหาวิทยาลัยปักกิ่งเป็นฝ่ายชนะ!”
นักศึกษาปักกิ่งที่อยู่ด้านนอกสนามกีฬาไม่ได้ส่งเสียงดีใจอะไร
การต่อสู้ครั้งนี้พวกเขาล้มลุกคุกคลานไม่น้อย
ฟางผิงจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เอาชนะได้ห้ารวด ซัดโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งจนราบคาบ
โรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งมีชื่อเสียงมากกว่ามหาวิทยาลัยหนานเจียงซะอีก
แต่มหาวิทยาลัยปักกิ่งสู้กับหนานเจียง ถูกคนๆ เดียวเอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่สูงสุดถึงสามคน ท้ายที่สุดต้องสู้จนไปถึงคนที่สี่ นี่ถึงเอาชนะอย่างยากลำบากได้ ถึงกระทั่งเกือบมีโอกาสแพ้กลางคันอยู่เช่นกัน
ตอนนี้ไม่ว่าจะมองยังไงก็เห็นได้ชัดว่ามหาวิทยาลัยปักกิ่งสู้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่ได้
—
“พี่หวัง เป็นแบบนี้ไม่ใช่ว่าพรุ่งนี้หรือวันมะรืน พวกเราจะต้องเจอกันน่ะสิ”
แข่งขันมาจนถึงเวลานี้แล้ว มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจอกับมหาวิทยาลัยหนานเจียง มหาวิทยาลัยปักกิ่งเจอกับโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งเป็นเรื่องที่แน่นอนแล้ว
ทำได้เพียงรอดูการจับฉลากว่าใครแข่งก่อนแข่งหลังเท่านั้น
พรุ่งนี้และวันมะรืนจะมีการแข่งหนึ่งรอบต่อหนึ่งวัน
พูดจบ ฟางผิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “อาการบาดเจ็บของพี่จะหายเร็วขนาดนั้นได้หรือเปล่า?”
ตอนนี้หวังจินหยางใบหน้าแทบไร้สีเลือด หัวเราะว่า “รอดูก็แล้วกัน”
ฟางผิงหัวเราะ ลูบดาบที่อยู่ระหว่างเอว ส่ายหัวเล็กน้อย “ดาบนี้อาจไม่ได้ชักออกเสมอไป”
หวังจินหยางบาดเจ็บไม่น้อย หลี่หานซงก็เช่นกัน
หลี่หานซงต้องสู้กับเหยาเฉิงจวินอีก แม้ว่าจะชนะก็อาจไม่มีแรงเหลือเยอะเสมอไป
กลับเป็นเขา จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับบาดเจ็บหนักจริงๆ ตารางแข่งขันที่แน่นขนัดเช่นนี้ ไม่ได้แข่งกันที่ฝีมือเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเรื่องความอึดด้วย
คนอื่นมีพลังฟื้นฟูไม่เท่าเขา ถึงการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศแล้ว อาจไม่สามารถลงมือเต็มกำลังได้ด้วยซ้ำ
หวังจินหยางชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไรอีก
————————
………………………………..