“คุณชายคาง ผมไม่ชอบหน้าคนคนนี้ คุณก็ถือโอกาสแสดงน้ำใจดีกว่า”อู๋ฝานอัดอึดใจเป็นอย่างมาก และพูดกับคางเหวินซิงอย่างเงียบๆ
เขาพูดมากมายขนาดนี้แล้ว หลี่โม่ยังไม่ถูกไล่ออกไป ถ้าอย่างนั้นก็กลายเป็นเรื่องตลกไม่ใช่หรอกเหรอ ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่ได้ชอบหลี่โม่ด้วย คิดแค่ว่าสามารถที่จะไล่หลี่โม่ออกไปได้เร็วหน่อย
“คุณไม่ชอบหน้าคนก็จะไล่คนออก งั้นผมก็ไม่ชอบหน้าคุณ งั้นผมก็ไล่คุณออกไปได้ใช่มั้ย?”
คางเหวินซิงแสยะยิ้ม อีกฝ่ายมีเรื่องกับใครไม่มี ดันมามีเรื่องกับอาจารย์ของเขา เขาก็ย่อมยืมอยู่ข้างหลี่โม่ เขาเริ่มเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูให้เข้ามาแล้ว
“คุณชายคาง คุณอย่าพูดเล่น”อู๋ฝานกลับคาดไม่ถึงว่าคางเหวินซิงจะโกรธขนาดนี้ คิดว่าคางเหวินซิงล้นเล่นกับเขา และพูด
คางเหวินซิงชี้ไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ข้างหลังของอู๋ฝาน และพูดว่า: “ผมไม่ได้พูดเล่น ผมไม่ชอบหน้าคุณจริงๆ”
อู๋ฝานหันมองไปข้างหลัง ตกใจในทันที คนจำนวนมากขนาดนี้โผล่ขึ้นมาข้างหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นแบบนี้ คือจะไล่เขาออกจากงานเหรอ?
“คุณชายคาง ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง ผมแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง”อู๋ฝานพูดด้วยยิ้มอย่างขมขื่นไม่มีที่สิ้นสุด
คางเหวินซิงกลับพูดว่า: “คุณล้อเล่น แต่ผมจริงจัง คุณอย่าเหยียบเข้ามาอีก รีบไสหัวไปพ้น”
ทุกคนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ในเวลานี้พวกเขาคิดเพียงอย่างเดียวว่าคางเหวินซิงไม่ชอบหน้าอู๋ฝานเท่านั้นเอง
เดิมทีอู๋ฝานยังต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง ก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลากตัวออกไปแล้ว ในใจของเขาไม่เต็มใจเป็นอย่างมาก คนธรรมดาอย่างหลี่โม่ไม่ถูกไล่ออกไป ทำไมเขาถึงถูกไล่ออกไปได้?
ถ้าเรื่องราวนี้เผยแพร่ออกไป ก็จะกลายเป็นเรื่องตลกไม่ใช่เหรอ เขาลำบากใจเป็นอย่างมาก
“ทุกคน ทำให้พวกคุณตกใจแล้ว ก่อนหน้านี้ผมเคยมีเรื่องขัดแย้งกับเขาเล็กน้อยเท่านั้นเอง”คางเหวินซิงก็มองออกว่าผู้คนที่อยู่ในงานเริ่มที่จะระวังตัวเองแล้ว เขาก็หาข้อแก้ตัวแบบขอไปที
หลังจากที่ทุกคนปล่อยวาง ก็แอบถอนหายใจ พวกเขายังคิดว่าคางเหวินซิงเป็นคนไม่ชอบหน้าใครก็จะไล่ออกแบบนั้นจริงๆ
คางเหวินซิงยิ้มแหยมองดูหลี่โม่ ดูเหมือนจะพูดว่า อาจารย์ ผมทำได้ถูกหรือเปล่า?
“พวกเรานั่งลงกันก่อนเถอะ”หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้ม
เดิมทีคางเหวินซิงอยากจะเข้าไป แต่เขามองออกว่าอาจารย์ไม่อยากเปิดเผยฐานะของตัวเอง เขาก็ไม่ดีที่จะเดินเข้าใกล้เกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงถูกคนอื่นมองออก
ขณะที่หลี่โม่พาเฉินเสี่ยวถงและกู้หยุนหลันนั่งลงบนโซฟาไม่กี่วินาที ก็มีทายาทมหาเศรษฐีคนหนึ่งถือแก้วเหล้าเดินมาทางกู้หยุนหลัน
“คนสวย ให้เกียรติดื่มด้วยกันหนึ่งได้หรือเปล่าครับ?”ทายาทมหาเศรษฐีพูด พร้อมกับโพสต์ท่าที่คิดว่าตัวเองหล่อที่สุด
แต่ว่าท่าทางแบบนี้ของเขา ในสายตาของกู้หยุนหลัน แต่กลับไม่แตกต่างอะไรกับหลงตัว กู้หยุนหลันพูดปฏิเสธอย่างอ้อมค้อมว่า “ขอโทษ ฉันไม่ดื่มเหล้าไม่เป็นค่ะ”
ในใจของทายาทมหาเศรษฐีคนนั้นรู้สึกไม่สบายใจไปชั่วขณะหนึ่ง ไม่ได้รับอนุญาตจากกู้หยุนหลัน ก็นั่งลงบนโซฟาในทันที เขาค่อยๆเข้าใกล้กู้หยุนหลัน สีหน้าท่าทางมุ่งร้าย ทำให้คนมองแวบเดียวก็มองออกว่าไม่ชอบมาพากล
หลี่โม่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนตำแหน่งที่นั่งกับกู้หยุนหลัน ปกป้องกู้หยุนหลัน แสดงพลังความเป็นผู้ชายที่สุดยอดของตัวเองออกมา
สีหน้าทายาทมหาเศรษฐีดูไม่ดี เขารู้ว่าต้องจัดการกับหลี่โม่ให้ได้ก่อน มุมปากของเขากระตุกขึ้น ยกแก้วเหล้าของหลี่โม่ขึ้นมา และยิ้มเจ้าเล่ห์: “นายเป็นสามีของกู้หยุนหลันใช่มั้ย”
หลังจากที่เขาดื่มหมดไปหนึ่งแก้ว ต่อจากนั้นก็มองหลี่โม่แวบหนึ่ง
หลี่โม่ก็ดื่มหมดแก้วแล้ว และพูดอย่าราบเรียบว่า: “ใช่”
“นายรู้จักกับเธอได้ยังไง?”ทายาทมหาเศรษฐีเทเหล้าให้หลี่โม่อีกครั้ง และถาม
เขายังคงมั่นใจในความสามารถในการดื่มของตัวเอง ตราบใดที่มอมเหล้าหลี่โม่ ก็ไม่มีสิ่งกีดขวางแล้ว ถ้าหากหลี่โม่รู้ความคิดของเขา คงจะขำจนฟันร่วงอย่างแน่นอน
“ไม่สะดวกที่จะตอบ”
“นายดื่มมากได้แค่ไหน ถ้ามีคนกลุ่มหนึ่งมาขอดื่มเหล้าให้กับนาย เกรงว่านายคงจะดื่มมากไม่ไหว”
หลังจากที่ดื่มไปไม่รู้กี่แก้ว ทายาทมหาเศรษฐีคนนั้นดื่มจนหน้าแดงก่ำขึ้นมา เขาเห็นหลี่โม่สามารถดื่มได้มากขนาดนี้ ในใจก็ไม่มั่นใจแล้ว
เดิมทีเขาต้องการมอมเหล้าหลี่โม่ ใครจะรู้ว่า เขากลับถูกหลี่โม่มอมเหล้า เขาอยากจะหลอกถามความสามารถในการดื่มของหลี่โม่ แบบนี้ก็จะได้เตรียมใจให้พร้อม
“ประมาณเหล้าห้าขวดมั้ง”
คนที่รู้จักหลี่โม่ ก็รู้ว่าความสามารถในการดื่มของหลี่โม่คงจะไม่เพียงแค่นี้ เหตุผลที่หลี่โม่พูดแบบนี้ กลัวว่าพูดออกจะทำให้คนตกใจ และความสามารถในการดื่มของเขาเรียกได้ว่าหนึ่งพันแก้วไม่เมาแบบนั้น
ในใจของทายาทมหาเศรษฐีดีใจ เขาสามารถที่จะดื่มแปดขวดได้ ตอนนี้เพิ่งดื่มไปสี่ขวด เขายังคงเริ่มดื่มต่อไป หลังจากที่ดื่มหมดห้าขวด เขาบังเอิญพบว่าสีหน้าของหลี่โม่ไม่เปลี่ยนไปสักนิด ทั้งหมดไม่เหมือนท่าทางที่ดื่มเหล้า
สีหน้าของเขาดูไม่ดี กะพริบตาใส่เพื่อนเหล่านั้นของตัวเอง เพื่อนเหล่านั้นถึงได้รีบมาอย่างรวดเร็ว สถานการณ์เมื่อกี้นี้พวกเขาก็เห็นแล้ว ความสามารถในการดื่มของหลี่โม่ เกินจินตนาการของพวกเขาเล็กน้อย
พวกเขารู้ว่าความสามารถในการดื่มของคุณชายหวังอยู่ในเมืองฮ่านเรียกได้ว่าอยู่ในระดับปานกลาง ไม่นึกเลยว่าจะคอแข็งสู้หลี่โม่ไม่ได้ ถ้าพวกเขาบอกว่าไม่ตกใจ ถ้าอย่างนั้นก็น่าแปลกแล้ว
“พวกนายทั้งหลาย สลับกันมอมเหล้า”คุณชายหวังพูดกระซิบ
เขาไม่เชื่อหลี่โม่จะดื่มได้อีก ยังสามารถที่จะสู้ห้าคนได้ อ้าวเต๋อไล๋ก็ทนดูต่อไปไม่ไหว รีบดื่มแทนหลี่โม่ แต่หลังจากที่เขาดื่มแทนไปเจ็ดขวด เขาก็ดื่มไม่ไหวแล้ว
“คุณหลี่ ขอโทษด้วย”อ้าวเต๋อไล๋พูดด้วยความรู้สึกผิดมาก
หลี่โม่พูดอย่างราบเรียบว่า: “ไม่เป็นไร คุณพยายามแล้ว”
มีประโยคนี้ของหลี่โม่ ในใจของอ้าวเต๋อไล๋ก็ซาบซึ้งใจมาก
กู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงก็เป็นห่วงอย่างมาก หลี่โม่ดื่มเหล้าไปทั้งหมดเกือบจะห้าขวดแล้ว ดื่มแบบนี้ต่อไป จะเกิดปัญหาร้ายแรงได้
กู้หยุนหลันพูดโน้มน้าว: “ไม่ต้องดื่มแล้ว นายดื่มมากขนาดนี้แล้ว”
“ไม่เป็นไร ฉันรู้ดีอยู่แก่ใจ”หลี่โม่ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด
หลังจากที่กู้หยุนหลันเห็นรอยยิ้มมั่นใจของหลี่โม่ ความเป็นห่วงในใจก็หายไปอย่างกะทันหัน
อ้าวเต๋อไล๋แอบตื่นเต้น เขาดื่มเหล้าไปห้าขวดก็ดื่มไม่ไหวแล้ว ยังไงเขาก็คาดไม่ถึงว่าหลี่โม่จะสามารถดื่มได้ขนาดนี้ ดื่มมากขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นไม่เป็นอะไรเลย
ผู้คนที่อยู่ในงานหลังจากที่เห็นหลี่โม่ดื่มมากขนาดนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะถูกดึงดูดเข้ามา นี่ก็เกินจริงไปแล้ว พวกเขาเคยเห็นคนที่ดื่มเก่งมาก่อน ยังไม่เคยเห็นเก่งขนาดนี้มาก่อน
คุณชายหวังก็ตื่นตระหนกเล็กน้อย เขาสงสัยว่าชาติก่อนหลี่โม่เป็นถังเบียร์หรือเปล่า ทำไมดื่มเหล้ามากมายขนาดนี้ ก็ยังไม่มีอะไรเลย
เพื่อนๆของเขาแต่ละคนก็ดื่มไม่ไหวแล้ว ต่างก็นอนคว่ำกับโซฟาไปกันหมด เพื่อนคนหนึ่งของคุณชายหวังยิ้มอย่างขมขื่น: “เขาดื่มเก่งเกินไปแล้วจริงๆ”
เดิมทีคุณชายหวังต้องการจะมอมเหล้าหลี่โม่ แต่หลังจากที่เห็นฉากนี้แล้ว เขาก็รู้ว่าฝันดีของตัวเองสลายแล้ว เขามองหลี่โม่ด้วยความเกลียดชังแวบหนึ่ง และสุดท้ายหันหน้าเดินผ่านไป
“ไอ้พวกไร้ประโยชน์อย่างพวกแก ทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ” คุณชายหวังพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา