สูตรโกงฉบับเด็กเรียน – บทที่ 307 เข้าร่วมกองทัพ

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

บทที่ 307 เข้าร่วมกองทัพ

หากที่ดินของโรงพยาบาล 980 ในเขตกองทัพถูกประมูลออกไป สวีเป่าหมิงคงจะไม่มีข้อได้เปรียบอะไรเลย

คนที่รับราชการทหารมาจะมีเงินสักเท่าไหร่กัน

ต่อให้จะมีทุนสนับสนุนมากมาย ทว่าก็คงแข่งกับนายทุนเหล่านั้นไม่ได้แน่นอน

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันก็ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าโรงพยาบาล 980 จะถูกโอนย้ายสิทธิ์อย่างไรบ้าง แม้แต่พ่อตาของสวีเป่าหมิงเองก็ยังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือพอ

ตอนนี้สวีเป่าหมิงจึงได้แต่อาศัยแบ็คอัพในกองทัพเพื่อตามหานายทุนสักคน จากนั้นก็ช่วยกันซื้อที่ดินผืนนั้นไว้

ถ้าเขาไม่มีแบ็คอัพ เขาก็คงไม่มีอะไรแล้ว

โรงพยาบาล 980 ครอบคลุมพื้นที่มากกว่าแปดหมื่นตารางเมตร มีพื้นที่สิ่งก่อสร้างกว่าห้าหมื่นตารางเมตร ซึ่งไป๋เยี่ยได้ประเมินราคากับผู้รับผิดชอบไปแล้ว ตีว่าอย่างน้อยๆ น่าจะมีราคาหนึ่งพันล้านหยวน

ทว่านี่ก็ยังไม่ใช่ราคาสุดท้าย เพราะว่า…ที่ดินแปดหมื่นตารางเมตรนั้นยังมีปัจจัยอื่นๆ ด้วย จึงยากต่อการประเมินราคา

การครอบครองที่ดินมากกว่าหนึ่งร้อยเอเคอร์ซึ่งในอนาคตจะกลายเป็นทำเลทองในกรุงปักกิ่งที่มีที่ดินราคาสูงลิ่วไม่ใช่เรื่องตลกเลย

เพราะฉะนั้นสวีเป่าหมิงจึงกระตือรือร้นมาก เขาคิดว่านี่คือพรที่พระเจ้าประทานให้ ได้พบสิ่งดีๆ เช่นนี้หลังปลดประจำการ นับเป็นโชคชะตาที่ถูกลิขิตไว้แล้วจริงๆ

สวีเป่าหมิงจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก

ด้วยแบ็คอัพในกองทัพของเขา ทำให้ผู้คนจากแวดวงต่างๆ ในปักกิ่งต่างต้อนรับเขา โดยเฉพาะเมื่อตอนที่ข่าวเรื่องที่ดินดังกล่าวแพร่สะพัดออกมา ทำให้เขากลายเป็นคนดัง

สวีเป่าหมิงคิดว่าเรื่องนี้ถูกลิขิตไว้แล้ว

ไม่ว่าคนทำจะเป็นคุณหรือผม ก็ไม่ต่างกันหรอก

ทว่าสวีเป่าหมิงก็ไม่ใช่คนประมาทเลินเล่อ กลับกัน เขาเป็นคนระมัดระวังและรอบคอบมาก ไม่อย่างนั้นหลายปีที่ผ่านมานี้เขาคงจะไม่มีงานทำ

อันที่จริงแล้ว ทุกคนล้วนมีความสามารถในการเอาตัวรอดและมีความระแวงอยู่แล้ว

ในสังคมนี้ไม่มีใครเป็นคนดีหรือคนไม่ดี ทุกคนล้วนทำเพื่อให้ตนเองมีชีวิตรอด

สิ่งที่แตกต่างคือ บางคนจะยอมทำทุกอย่างเพื่อตนเอง ในขณะที่บางคนจะเลือกเส้นทางที่เหมาะสมกับตนเองมากกว่า

หากมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์การวิวัฒนาการของมนุษย์ จะพบว่าหากนำพฤติกรรมต่างๆ ของมนุษย์ไปเทียบกับสัตว์ เราก็จะค้นพบว่าบางครั้งความชั่วร้ายของคนเรา แท้จริงแล้วเป็นเพียงสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดของสัตว์เท่านั้นเอง

ชักจะออกทะเลเกินไปแล้ว กลับมาที่เรื่องของสวีเป่าหมิงก่อนดีกว่า

กล่าวได้ว่าสวีเป่าหมิงนั้นเอาใจใส่เรื่องโรงพยาบาล 980 มาก

นอกจากนี้เขายังไปทำความรู้จักกับบรรดาคนที่สนใจจะซื้อโรงพยาบาล 980 เผื่อไว้ด้วย

หลังจากที่ตรวจสอบข้อมูลครบแล้ว สวีเป่าหมิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะเขายังไม่เจอคู่แข่งที่รับมือยากจนเกินไป

แต่ถึงกระนั้น การปรากฏตัวของไป๋ตงหลินก็ทำให้สวีเป่าหมิงระแวงไม่น้อยเลย อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกผิดต่อเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นก็ได้ อย่างไรก็ตาม สวีเป่าหมิงก็ไม่ได้คิดว่าตนเองเป็นฝ่ายผิดแต่อย่างใด

เพียงแต่เขาต้องระวังตัวให้มากขึ้น เพราะอาจจะถูกไป๋ตงหลินขัดแข้งขัดขาได้

ไป๋เยี่ยมาหาถังฮั่นที่บริษัทน่าย่าเพื่อปรึกษากันถึงเรื่องโรงพยาบาล 980

ทันทีที่ถังฮั่นได้ยินชื่อโรงพยาบาล 980 เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง เขาไม่คิดเลยว่าไป๋เยี่ยจะสนใจสถานที่แห่งนั้น

ถังฮั่นขมวดคิ้วพลางเอ่ย “สถานที่ที่คุณบอกดึงดูดความสนใจของคนเยอะมาก คุณไม่กลัวเรื่องความปลอดภัยหน่อยเหรอ”

ถังฮั่นพูดจบก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะมองไป๋เยี่ยแล้วพูดต่อ “คุณจะซื้อที่ตรงนั้นจริงๆ เหรอ”

ไป๋เยี่ยพยักหน้า เดิมทีเขาคิดจะเปลี่ยนสถานที่ แต่ตอนนี้เขาไม่อยากเปลี่ยนแล้ว ขั้นแรกคือเขาต้องวางแผนว่าต่อไปที่ดินตรงนั้นจะทำอะไรได้บ้าง อย่างเช่น บ้านพักคนชรา หรือไม่ก็สวนสาธารณะ

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเรื่องของสวีเป่าหมิงด้วย ไป๋เยี่ยไม่อยากปล่อยให้ที่ดินผืนนั้นตกเป็นของคนที่กลั่นแกล้งพ่อของเขา ให้ตายเขาก็จะซื้อที่ดินนั่นมาให้ได้

ถังฮั่นใช้ความคิดอยู่พักใหญ่ก่อนจะเอ่ยปาก “มันก็พอเป็นไปได้อยู่หรอก ถ้าอย่างนั้น พวกเราต้องเตรียมเงินให้พร้อมก่อน ส่วนเรื่องเจรจาน่ะ เดี๋ยวผมจะช่วยคุณเอง”

ในวันเดียวกันนั้น ผู้บริหารฝ่ายการเงินของน่าย่าก็พาไป๋เยี่ยไปธนาคารเพื่อจัดการเรื่องสินเชื่อจำนองก่อน เพราะว่าต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงควรเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าก่อน

ถึงอย่างนั้น ไป๋เยี่ยไม่เพียงแต่ต้องมีเงินไว้ซื้อโรงพยาบาล 980 แต่เขายังต้องใช้เงินในการก่อสร้างสถาบันวิจัยในอนาคตด้วย เขาจึงยิ่งต้องเตรียมการให้พร้อม

ในฐานะที่น่าย่าเป็นบริษัทชั้นนำในปักกิ่งซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีระดับสูง จึงดำเนินการสมัครสินเชื่อและรับใบรับรองการคืนภาษีจำนวนมากได้สะดวกมาก

ไม่ใช่แค่ไป๋เยี่ยที่กำลังเตรียมการ ด้านสวีเป่าหมิงเองก็กำลังเตรียมตัวเหมือนกัน เพียงแต่จุดประสงค์หลักของสวีเป่าหมิงคือเขาต้องการหานายทุนมาเข้าร่วมด้วย จากนั้นก็พัฒนาที่ดินผืนนั้น ทั้งสองฝ่ายก็จะได้กำไร หากเป็นไปตามแผน จะต้องมีคนมาเข้าร่วมเยอะแน่นอน

ทว่ากองทัพยังไม่ได้ออกประกาศชัดเจนว่าจะให้ประมูลหรือจัดการที่ดินด้วยวิธีอื่นๆ

ระหว่างนี้ เหล่าหลิวก็มาหาไป๋ตงหลินเพื่อถามให้แน่ชัดว่าเขาไม่ได้อยากซื้อที่ดินผืนนั้นไว้

ไป๋ตงหลินยิ้มและปฏิเสธไป โดยให้เหตุผลว่าตอนนี้เขาไม่มีเงินพอที่จะซื้อที่ดินในปักกิ่ง

ในขณะเดียวกัน ไป๋เยี่ยก็ได้รับคำเชิญจากเขตกองทัพอีกครั้งหนึ่ง

ไป๋เยี่ยเองก็มีแผนในใจอยู่แล้ว เขาตื่นเต้นกับคำเชิญจากเขตกองทัพมากกว่าแต่ก่อน เพราะท้ายที่สุดแล้ว โรงพยาบาล 980 ก็ยังอยู่ในมือของกองทัพ

จ้าวหู่ชิวมารับไป๋เยี่ยถึงที่ เรื่องครั้งก่อนทำให้จ้าวหู่ชิวรู้สึกอึดอัดใจมาก จึงไม่ได้คุยกับไป๋เยี่ยตลอดทางเลย

นั่นทำให้ไป๋เยี่ยมองจ้าวหู่ชิวด้วยสายตาขุ่นเคืองเล็กน้อย…

ความรู้สึกตอนที่ไป๋เยี่ยมาถึงจุดหมายนั้นแตกต่างจากตอนมาที่นี่ครั้งแรกยิ่งนัก

ทัศนคติของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ใบหน้าของเฉินเจิ้นปั่งที่ดูตึงเครียดตลอดเวลาก็เริ่มผ่อนคลายลง อีกทั้งเขายังยิ้มมากขึ้นด้วย

เฉินเจิ้นปั่งไม่ได้พาไป๋เยี่ยไปที่ห้องทำงาน แต่กลับขอให้จ้าวหู่ชิวขับรถพาพวกเขาไปเที่ยวชมรอบๆ เขตกองทัพ

ไป๋เยี่ยเห็นทหารกำลังฝึกซ้อม เสียงของพวกเขาดังกระหึ่มจนทำให้รู้สึกฮึกเหิมไปด้วย

จากนั้นเฉินเจิ้นปั่งก็พาไป๋เยี่ยไปที่สนามยิงปืน พร้อมกับให้ไป๋เยี่ยลองยิงปืนพกด้วยตนเอง

หลังจากใช้เวลาไปทั้งเช้า ไป๋เยี่ยก็เข้าใจเรื่องกองทัพมากขึ้น เฉินเจิ้นปังนั่งอยู่ในรถพลางมองกลุ่มทหารที่กำลังฝึกอยู่ไกลๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณเห็นไหม พวกเขาคือทหารที่ปกป้องประเทศชาติของเราด้วยเลือดเนื้อและหยาดเหงื่อโดยที่ไม่หลั่งน้ำตาเลยแม้แต่น้อย”

“แค่เหงื่อออกก็ยังไม่เป็นไร แต่ถ้าเลือดไหล…คงไม่มีใครอยากเห็นภาพนั้นหรอก เพราะฉะนั้นเสี่ยวเยี่ย ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะช่วยทางสร้างระบบการแพทย์ให้กับพวกเขาเหล่านั้นได้!”

“คุณเห็นไหม ในการฝึกฝนแต่ละวันล้วนมีคนบาดเจ็บทั้งนั้น ไม่ต้องพูดถึงตอนออกไปทำภารกิจหรอก คุณเองก็ไปเมียนมามาแล้ว เมื่อเกิดภัยพิบัติ คนกลุ่มแรกที่ไปถึงสถานที่นั้นก็คือทหาร คนที่บาดเจ็บจนต้องเสียเลือดเสียเนื้อก็คือพวกเขา”

ทันทีที่เฉินเจิ้นปั่งพูดจบ สีหน้าของเขาก็ฉายแววตื้นตันใจก่อนที่เขาจะพูดต่อ “ผมเป็นผู้บัญชาการ ก็เปรียบเสมือนว่าผมเป็นพ่อแม่ของพวกเขานั่นแหละ”

“คนเหล่านี้ มีใครไม่ใช่แก้วตาดวงใจของพ่อแม่บ้าง เมื่อพวกเขาเข้ามาในกองทัพ พวกเขาต้องทำตามคำสั่ง ต้องเรียกผมว่าผู้บัญชาการ ส่วนผมต้องรับผิดชอบชีวิตของพวกเขา”

“เพราะฉะนั้นแล้ว ไป๋เยี่ย ผม เฉินเจิ้นปั่ง ขอเชิญให้คุณมาเข้าร่วมเขตกองทัพปปักกิ่งและช่วยทางเราจัดตั้งทีมแพทย์ภาคสนาม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเหล่าทหารที่ต้องอยู่แนวหน้า ให้พวกเขาได้รู้ว่าต่อให้พวกเขาจะล้มลุกคลุกคลานยังไง ก็ยังมีคนคอยช่วยพวกเขาอยู่!”

เฉินเจิ้นปั่งพูดจบก็ทำท่าแสดงความเคารพให้ไป๋เยี่ย

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

Status: Ongoing
สูตรโกงฉบับเด็กเรียน แฟนตาซีระบบเรื่องใหม่จากผู้เขียนเดียวกับ “เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ”ถูกหลอกดูดเงินจนหมดบัญชี สิ่งที่ได้มากลับเป็นระบบเด็กเรียน?! เป็นเด็กเรียนน่ะไม่น่ากลัวเท่าไหร่หรอก แต่เกรงว่าเด็กเรียนผู้นี้จะต้องใช้สูตรโกงเสียแล้ว![สวัสดี คุณไป๋เยี่ยที่เคารพ สมาชิก QQ เดือนนี้ของท่านกำลังจะหมดอายุโปรดต่ออายุสมาชิกทันทีเพื่อคงเลเวลสมาชิกของท่านไว้]ไป๋เยี่ย แค่อยากจะต่ออายุสมาชิก QQ เท่านั้นแต่เขากลับถูกตัดเงิน! ตัดเงิน!! ตัดเงิน!!!จนยอดเงินในบัญชีธนาคารเหลืออยู่เพียง 0.01 หยวน?!นี่หรือว่า…เขาจะเจอมิจฉาชีพหลอกดูดเงินเข้าแล้ว?!!แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีหน้าต่างประหลาดปรากฏขึ้นตรงหน้า[ติ๊ง! ต่ออายุสมาชิกสำเร็จ เลเวลสมาชิกปัจจุบัน: 1][ติ๊ง! ยินดีด้วย ท่านได้เปิดใช้แผนสมาชิกตลอดชีพแล้ว โปรดรับสิทธิประโยชน์สมาชิกของท่าน]และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการทำภารกิจเด็กเรียนเพื่อพิชิตการเป็นสุดยอดแพทย์แผนจีนผันตัวกลายเป็นเด็กเรียนเบอร์ต้นๆ ของมหาวิทยาลัยเพื่อรักษาชีวิตของตนเองไว้ฟันฝ่าอุปสรรคทำภารกิจที่ระบบมอบหมายให้สำเร็จและขวนขวายหาวิชาความรู้ด้วยตนเองท้ายที่สุดแล้วเขาจะเอาตัวรอดได้ด้วยตนเองหรือจะต้องใช้ ‘สูตรโกง’ กันนะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท