บทที่ 310 การตัดสินใจครั้งสุดท้าย
เมื่อเวลาราวๆ ห้าทุ่ม สวีเป่าหมิงก็ส่งผู้อำนวยการฉินกลับไป ส่วนตัวเขาก็กลับไปอ่านรายชื่อที่ห้อง
ข้อมูลที่เขาได้มานั้น ไม่เพียงแต่ประกอบด้วยชื่อ แต่ยังมีข้อมูลโดยละเอียดและการตรวจสอบอีกด้วย นี่เป็นชุดข้อมูลที่กองทัพได้รับจากช่องทางพิเศษต่างๆ
โดยพื้นฐานแล้ว ทุกคนมีสถานะพอๆ กัน ทว่าเมื่อเขาย้อนดูรายชื่อก็ได้พบกับชื่อที่แสนจะคุ้นเคย
เมื่อสวีเป่าหมิงเห็นชื่อของไป๋ตงหลินในหน้าข้อมูลของไป๋เยี่ย ทั้งตัวเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อทันที
ไป๋ตงหลินก็เอากับเขาด้วย!
ร้ายกาจมาก ถึงขั้นใช้ชื่อลูกชาย ไม่คิดเลยว่าเกือบจะถูกหมอนี่หลอกแล้ว
สวีเป่าหมิงคิดแล้วก็เริ่มสับสน
พูดตามตรง ตอนแรกเขาไม่ได้สนใจไป๋ตงหลินเลย เพราะว่าไป๋ตงหลินออกจากกองทัพแล้ว เขาเองก็คิดว่าทั้งชีวิตนี้คงจะไม่ได้ติดต่อกับไป๋ตงหลินอีกต่อไปแล้วด้วย
น่าเสียดายที่ต่อมาเขากลับได้รู้ว่าที่มณฑลจิ้นซีมีมหาเศรษฐีนามว่าไป๋ตงหลินจากงานเลี้ยงที่ปักกิ่งวันนั้น
ตอนนั้นเขาเองก็ประหลาดใจมาก แต่หลังจากที่ไปสืบมาในภายหลัง ก็พบว่านั่นคือไป๋ตงหลินจริงๆ
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าหลังจากที่ไป๋ตงหลินออกจากกองทัพจะมีโอกาสได้เป็นมหาเศรษฐีเช่นนี้ ไหนจะคลั่งไคล้กับการกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ในปักกิ่งและผูกมิตรไมตรีกับนักธุรกิจใหญ่
ตอนนั้นคงเป็นเพราะเขาเองก็กังวลว่าไป๋ตงหลินจะมาแก้แค้น จึงแอบใช้เส้นสายจัดการอีกฝ่ายไป
จากนั้นไป๋ตงหลินก็ไปต่างประเทศ ได้ข่าวว่าเขาเดินทางไปหลายประเทศ แต่ก็ไม่ได้มีพัฒนาการอะไรนัก นั่นทำให้สวีเป่าหมิงโล่งใจขึ้น
ไป๋ตงหลิน…ไป๋ตงหลิน…
สวีเป่าหมิงพึมพำชื่อนั้นไม่หยุด ไม่นานนักที่มุมปากของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มอันชั่วร้าย ไป๋ตงหลินนะไป๋ตงหลิน อยู่เมืองนอกดีๆ ไม่ได้หรือไง ทำไมต้องกลับมายุ่งเรื่องที่ปักกิ่งด้วย คิดเหรอว่าจะมาชุบตัวที่นี่ได้
ถ้าชุบตัวได้จริง คงไม่ต้องหลบหนีอยู่หลายปีแบบนี้หรอก
สวีเป่าหมิงคิดแล้วก็แหงนหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนนอกหน้าต่าง โดยที่ไม่รู้ว่าภายในใจของเขากำลังคิดอะไรอยู่
เช้าวันรุ่งขึ้น สวีเป่าหมิงก็เริ่มติดต่อกับพันธมิตรที่จะร่วมลงทุนซื้อโรงพยาบาล 980
ครั้งนี้เขาออกปากให้ทุกคนระดมทุนกัน เดิมทีเขาวางแผนว่าตนจะลงทุนสักหนึ่งพันห้าร้อยล้าน แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนเป็นสองพันล้าน และขอให้อีกสี่คนลงทุนเพิ่มอีกคนละหนึ่งร้อยล้าน
นั่นทำให้ทุกคนสับสนเล็กน้อย อย่างไรเสียเงินหนึ่งร้อยล้านหยวนก็ไม่ใช่จำนวนเงินที่จะหากันได้ง่ายๆ
สวีเป่าหมิงเอ่ย “ผมว่าเรื่องนี้เราทำประกันไว้จะดีกว่า”
แน่นอนว่าหากโรงพยาบาล 980 ได้รับการพัฒนาแล้ว มันจะเป็นทรัพย์สินมีค่าและจะทำเงินได้มากแน่นอน
“เหล่าสวี มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาเงินจำนวนนั้นมานะ นี่เป็นเงินจากกองทุนของพวกเรา ถ้าคุณทำผิดขั้นตอนก็เกิดปัญหาได้นะ!”
“ถูกต้อง เหล่าสวี คุณแน่ใจใช่ไหม ถ้าคุณแน่ใจ ผมจะขายกิจการของผม จะได้มีเงินไว้ใช้ปรับปรุงที่นั่นทีหลัง”
สวีเป่าหมิงได้ฟังทุกคนพูดคุยกันก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ความแน่นอนน่ะมันไม่มีอยู่หรอกครับ แต่ผมจะไม่เอาเปรียบทุกคนแน่ ผมขายโรงงานทิ้งหมดแล้วเพื่อหาเงิน เพราะฉะนั้นทุกคนวางใจได้เลยครับ ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักประกัน แต่เหล่าสวีคนนี้จะทำให้สำเร็จครับ!”
ชายสูงอายุคนหนึ่งกระแอม “เหล่าสวี่ สิ่งสำคัญตอนนี้คือคุณต้องหันไปดูพ่อต่อคุณบ้าง อย่าทำให้เขากังวลไปมากกว่านี้เลย ยังไงเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ทุกคนเองก็กำลังเสี่ยงไปกับคุณ ถ้าเกิดปัญหาขึ้นล่ะก็…”
ครั้งนี้ทุกคนร่วมระดมเงินทุนส่วนตัวเพื่อซื้อโรงพยาบาล 980 จริงอยู่ที่ทุกคนล้วนเป็นมหาเศรษฐี แต่ทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องจริงๆ นั้นจะมีสักกี่พันล้านหยวน ลองถามคนทั้งประเทศดูสิ
การหาเงินหลักร้อยล้านนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด ต้องเตรียมการให้พร้อม เพราะถ้าทำไม่สำเร็จ คุณจะต้องเสียเงินจำนวนมากแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น สวีเป่าหมิงเองก็ไม่ได้รู้จักนายทุนใหญ่ๆ เหล่านั้น คนที่เขาหามาได้ก็ล้วนเป็นคนที่มีฐานะพอๆ กันกับเขา และเขาเองก็ต้องการถือครองสิทธิ์มากกว่าคนอื่นๆ ไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่ไปหาคนพวกนี้มาหรอก
ดังนั้นทุกคนจึงใช้ความพยายามอย่างมากในการระดมทุน สวีเป่าหมิงเองก็ขายโรงงานของตนเองทิ้ง
เมื่อสวีเป่าหมิงได้ยินชายคนหนึ่งพูดเรื่องพ่อตา เขาก็สวนทันที “เขาคือปู่ของลูกชายผมนะ เขาจะปล่อยให้ผมโดนเอาเปรียบได้ไงครับ เพราะฉะนั้นทุกคนวางใจเถอะครับ ไม่ต้องเครียด เดี๋ยวเที่ยงนี้ผมจะไปที่ที่หนึ่ง ทุกคนวางใจได้เลย”
เวลาผ่านเลยไปอย่างช้าๆ ใกล้ถึงกำหนดการที่โรงพยาบาล 980 จะถูกโอนย้ายแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพก็ยังไม่ได้ให้คำตอบสุดท้ายว่าจะจัดการกับโรงพยาบาล 980 อย่างไร
เรื่องนี้ทำให้ทุกคนยิ่งกังวลใจ ทว่าในตอนนี้เอง เฉินเจิ้นปั่งก็จัดการประชุมขึ้น
หัวข้อการประชุมคือเรื่องแผนการจัดการกับโรงพยาบาล 980 ขั้นสุดท้าย
แผนเดิมคือจะจัดให้มีการประมูล แต่การปรากฏตัวของไป๋เยี่ยนั้น ทำให้เฉินเจิ้นปั่งต้องเปลี่ยนใจชั่วคราว ดังนั้นเขาจึงไปขอคำแนะนำจากผู้บังคับบัญชาสูงสุด
แต่เขากลับไม่คาดคิดเลยว่า เมื่อเจ้านายรู้เรื่องไป๋เยี่ยจะก่อตั้งสถาบันวิจัยกระดูกควบคู่ไปกับสถาบันวิจัยการแพทย์ฉุกเฉินในโรงพยาบาล 980 แววของพวกเขาก็ฉายแววเป็นประกายขึ้นมาทันที
หลังจากถามไถ่กันถึงรายละเอียดเรื่องแผนการจัดตั้งทีมแพทย์ภาคสนามแล้ว เฉินเจิ้นปั่งก็เล่าสิ่งที่ไป๋เยี่ยได้ทำที่เมียนมา ผลการทดสอบในเขตกองทัพและการประเมินของผู้เชี่ยวชาญหลายคนให้เจ้านายของเขาฟัง
หากไป๋เยี่ยช่วยกองทัพจัดตั้งทีมแพทย์ภาคสนามได้จริงๆ มันจะเป็นประโยชน์อันยิ่งใหญ่สำหรับประเทศชาติ กองทัพและประชาชน!
หลังจากที่ผู้นำหลายคนระดมสมองกันแล้ว ก็ได้มีการตัดสินใจครั้งสุดท้าย!
ทางกองทัพจะมอบโรงพยาบาล 980 ให้ไป๋เยี่ยไปฟรีๆ แต่ไป๋เยี่ยจะต้องช่วยกองทัพฝึกฝนบุคลาการทางการแพทย์และสร้างทีมแพทย์ภาคสนามเป็นข้อแลกเปลี่ยน
เมื่อสร้างทีมสำเร็จแล้ว ไม่ว่าเงินกี่พันล้านก็ไม่อาจเทียบเคียงได้!
หากว่ากันตามตรง ทุกๆ ปีกองทัพเสียเงินให้กับการแพทย์ไม่น้อยเลย เพราะฉะนั้นดีลนี้จึงถือว่าไม่ขาดทุนเลย!
แน่นอนว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะมอบที่ดินให้กับไป๋เยี่ยเลย แต่ถึงกระนั้นไป๋เยี่ยก็จะมีสิทธิ์ใช้ที่ดินฟรีห้าสิบปี และจะมีเพียงอาคารที่ถูกก่อสร้างบนที่ดินผืนนี้เท่านั้นที่จะถูกนำไปประมูล!
สิทธิ์การใช้ที่ดินฟรีห้าสิบปีนั้นแตกต่างกับการแจกที่ดินฟรีอย่างไร
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือระยะเวลาระหว่างห้าสิบและเจ็ดสิบปี
หลังจากที่เฉินเจิ้นปั่งหารือกับผู้นำหลายคนแล้ว ในที่สุดเขาก็ได้ตัดสินใจวิธีการจัดการกับโรงพยาบาล 980 เป็นครั้งสุดท้าย
ตอนนี้บรรยากาศในสำนักงานเงียบมาก ทุกคนต่างรอให้เฉินเจิ้นปั่งประกาศผล