บทที่ 328 วารสารเดอะแลนซิต
ปัจจุบัน วารสาร ‘เดอะแลนซิต’ เป็นวารสารที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในวงการแพทย์ สิ่งพิมพ์ของเดอะแลนซิตได้รับความสนใจจากผู้คนนับไม่ถ้วน
เพราะว่าเดอะแลนซิตมุ่งนำเสนอความจริงเกี่ยวกับการแพทย์มาโดยตลอด และไม่เคยตีพิมพ์บทความเท็จเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อื่น ส่วนบรรดาเรื่องอื้อฉาวในวงการแพทย์ในอดีตก็มักจะเล็ดลอดออกมาจากปากคนวงในเองเสียมากกว่า
ทำให้เดอะแลนซิตมีทั้งคนรักและคนเกลียดนับไม่ถ้วน แต่ถึงกระนั้น เดอะแลนซิตก็ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทุกสาขาอาชีพ เพราะพวกเขามักจะนำเสนอบทความที่น่าสนใจและตรงกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
เดอะแลนซิตไม่ใช่แค่วารสารวิชาการที่ตีพิมพ์การวิจัยเพียงอย่างเดียว แต่มีจุดขายอยู่ที่การใช้สำนวนภาษาตรงไปตรงมา
นอกจากนี้เดอะแลนซิตยังมีชื่อเสียงในด้านการวิจารณ์ประเด็นทางการแพทย์สำคัญๆ อย่างตรงไปตรงมา หัวหน้ากองบรรณาธิการของเดอะแลนซิต ‘ริชาร์ด’ ถือเป็นบุคคลที่นำเสนอภาพลักษณ์ดังกล่าวของวารสารออกมาได้อย่างเด่นชัด เขาเคยวิจารณ์องค์การอนามัยโลกลงในเดอะแลนซิตอย่างเปิดเผย โดยการคัดค้านประสิทธิภาพของการรักษาโรคโดยใช้ยาโฮมีโอพาธีย์ ไม่ให้วิธีนี้กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกการรักษา พร้อมทั้งเปิดเผยสถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิรักในปี 2003 ทั้งยังไม่สนับสนุนอุตสาหกรรมใดๆ ที่ข้องเกี่ยวกับกองทัพและการทหาร…
หลายๆ คนจะพบว่า อันที่จริงเดอะแลนซิตไม่ได้สูงส่งเกินเอื้อมแต่อย่างใด กลับกัน เดอะแลนซิตเปรียบดั่งเด็กวัยคะนองดื้อรั้น คอยส่งเสียงแทนผู้คน บอกเล่าสถานการณ์จริงและเปิดเผยข้อเท็จจริงต่างๆ
เพราะฉะนั้น เดอะแลนซิตจึงมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ดึงดูดผู้อ่านกลุ่มสำคัญให้มาสนับสนุน
เนื่องจากเดอะแลนซิตไม่เพียงแต่ตีพิมพ์บทความวิจัยต้นฉบับเท่านั้น แต่ยังมีบทวิจารณ์ บทบรรณาธิการ บทวิจารณ์หนังสือ เรื่องสั้นและรายงานจริงอื่นๆ อีกด้วย
หลังจากที่วารสารเดอะแลนซิตฉบับนี้ถูกตีพิมพ์ออกไปและถูกแจกจ่ายไปยังคนจำนวนมากแล้ว กลับปรากฏภาพพื้นหลังสีเลือดและตัวเลขสีแดงสดบนหน้าปก
‘บทเรียนจากสถิติผู้เสียชีวิต: วิทยาการของเราก้าวหน้าพอแล้วหรือ – เสียงจากแพทย์ศัลยกรรมกระดูกจากประเทศจีน’
หัวข้อที่อยู่บนหน้าปกคือการแนะนำเนื้อหาสำคัญที่สุดของวารสารฉบับนี้
เมื่อทุกคนได้อ่านหัวข้อแล้วก็รีบพลิกหน้าสารบัญหาบทความดังกล่าวและเริ่มอ่านทันที
สิ่งพิมพ์ใดๆ ย่อมมีกลุ่มผู้อ่านที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น ก่อนที่จะเขียนนวนิยายขึ้นมาสักเล่มก็ต้องพิจารณาก่อนว่าผู้อ่านเป็นคนกลุ่มใด มีสถานะอย่างไรและมีความชอบแบบใดบ้าง
เช่นเดียวกับวารสารและนิตยสาร ย่อมมีกลุ่มผู้อ่านขาประจำอยู่แล้ว ผู้อ่านวารสารเดอะแลนซิตส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ผู้มีสถานะและการศึกษาที่สูงพอตัว ซึ่งสถานะที่ว่านี้จะเป็นตัวชี้ให้เห็นถึงกลุ่มผู้สนใจที่แตกต่างกัน
เมื่อทุกคนเห็นหน้าปกสีเลือดของเดอะแลนซิตก็อดชะงักไปชั่วขณะไม่ได้ ในใจพลันนึกสังสัยว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นหรือไม่
ทุกคนรีบพลิกหน้าปกในทันใด หัวข้อของบทความคือ ‘ความภาคภูมิใจของเราอาจจะเป็นคมมีดสังหาร’
ในบทความแสดงข้อมูลและข้อเท็จจริงจำนวนมาก ในปี 1999 เกิดเหตุก่อการร้ายในปาเลสไตน์ มีผู้อยู่ในเหตุการณ์เพียงสิบสองคนเท่านั้น ทว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอาวุธไม่ถึงสิบคน จำนวนผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่มาจากสะพานถล่มหลังเหตุจลาจลมากกว่า
ในตอนนั้นมีคนจำนวนมากได้รับบาดเจ็บจากการแตกหักของกระดูก ทว่า…องค์ความรู้ด้านการศัลยกรรมกระดูกยังก้าวหน้าไม่พอ จึงมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงแปดสิบเก้าเปอร์เซ็นต์
ในปี 2001 เกิดสึนามิขนาดเล็กที่อินโดนีเซีย…
ในปี 2002…
ในปี 2004 เกิดสึนามิและแผ่นดินไหวในแถบมหาสมุทรอินเดีย ทำให้ประเทศอินโดนีเซียได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภัยพิบัติอันกะทันหันนี้ คร่าชีวิตผู้คนนับแสนคน ซึ่งแปดสิบเปอร์เซ็นต์เกิดจากการรักษาพยาบาลที่ไม่เหมาะสม…
จากสถิติล่าสุดในเดือนธันวาคม ปี 2017 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในชีวิตประจำวันและจลาจลทั่วโลกประมาณ 3.5 ล้านคนทุกปี และมีจำนวนผู้บาดเจ็บที่ต้องได้รับการรักษาพยาบาลอยู่ที่หนึ่งร้อยถึงห้าร้อยเท่าเท่าของข้างต้น คิดเป็นหนึ่งร้อยถึงหนึ่งพันล้านคน ซึ่งรวมถึงการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ ด้วย
สุดท้ายแล้ว วิธีการรักษาที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสมก็ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นและก่อให้เกิดผลร้ายแรงตามมาอีกมากมาย
กระดูกหักขั้นรุนแรงถือเป็นเคสที่พบเจอได้ปกติในอุบัติเหตุเหล่านั้น และเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต
ผู้บาดเจ็บจากอาการกระดูกหักขั้นรุนแรงส่วนใหญ่มักจะเสียชีวิต มีอัตราการรักษาสำเร็จน้อยกว่าสิบเปอร์เซ็นต์ และมีอัตราการรักษาที่เกิดประสิทธิผลน้อยกว่าสามสิบเปอร์เซ็นต์…
วิทยาการของเราก้าวหน้าพอแล้วหรือ
มีอะไรที่เรามองข้ามไปบ้าง
การบาดเจ็บของกระดูกถือเป็นการบาดเจ็บที่ไม่อาจทนได้จริงๆ เมื่อได้เห็นสถิติตรงหน้าแล้ว เราต่างควรตระหนักและเข้าใจว่าเรายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ
ผู้คนอ่านบทความไปได้เพียงครึ่งเดียวก็ไม่กล้าอ่านต่อแล้ว เพราะว่า…ตัวเลขเหล่านี้กำลังเย้ยหยันพวกเขาอยู่
พวกเขาล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์และบุคลากรทางการแพทย์สาขานี้ แต่พวกเขากลับทำอะไรไม่ได้เลย
ยิ่งในตอนนี้ คนส่วนใหญ่ในแวดวงศัลยกรรมกระดูกก็เพิ่งจะเข้าร่วมการประชุมที่ไฮเซนเบิร์กและร่วมสรุปแนวทางปฏิบัติของการแพทย์สาขาศัลยกรรมกระดูกในที่ประชุม และได้ตีพิมพ์แนวทางนั้นออกมาแจกจ่ายให้ผู้เข่าร่วมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สิ่งที่เขียนไว้ในรายงานล้วนเป็นความสำเร็จของวงการศัลยกรรมกระดูกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีทั้งผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม จำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาให้หายขาดและจำนวนเคสหายากและซับซ้อนที่ได้รับการรักษา
ทว่า!
หลังจากนั้นทุกคนก็ได้อ่านวารสารเดอะแลนซิตฉบับนี้
การเปรียบเทียบระหว่างสองฝั่งทำเอาทุกคนรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกถูกเยาะเย้ย
คาโปเป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการของคอลัมน์สังคมศาสตร์ในนิตยสาร ‘ไทม์แมกกาซีน’ เขามักจะให้ ความสนใจกับนิตยสารฉบับอื่นๆ และข่าวสารสำคัญๆ ทั่วโลกเสมอ
แม้เขาจะไม่เข้าใจเรื่องการแพทย์ แต่เขาก็กังวลกับประเด็นนี้มากเช่นกัน เพราะว่าเรื่องนี้ใกล้ตัวมาก และเป็นเรื่องที่ผู้คนกังวลมากที่สุด
เช่นเดียวกับการประชุมที่เยอรมนีซึ่งดึงดูดความสนใจของคนทั้งแวดวง คาโปไม่มีทางพลาดโอกาสนี้อย่างแน่นอน ถึงเขาจะไม่ได้มาเข้าร่วมการประชุม แต่เขาก็ได้ส่งนักข่าวไปสัมภาษณ์ด้วย
ตอนนี้ทั้งโลกกำลังส่งเสริมอนาคตอันสดใสของวงการศัลยกรรมกระดูก ทั้งยังชื่นชมในสิ่งที่มอริสและมหาวิทยาลัยไฮเซนเบิร์กทำ ถึงขั้นสรรเสริญในความก้าวหน้าของการปรับปรุงมาตรฐานทางการแพทย์
กลับกัน เดอะแลนซิตกลับเป็นผู้ส่งเสียงแทนบุคลากรทางการแพทย์สาขาศัลยกรรมกระดูกจากประเทศจีนในเวลาที่ไม่เหมาะสมนัก
พวกคนอังกฤษเป็นพวกโง่เง่าหรือ
หรือว่าสำนักวารสารจะเสียสติไปแล้ว
หรือว่าหัวหน้ากองบรรณาธิการไม่ได้ตรวจสอบบทความต้นฉบับกันแน่!
ไม่มีทาง!
วารสารอันทรงอิทธิพลเช่นนี้ย่อมมีการตรวจทานอย่างเข้มงวดเกินกว่าที่ทุกคนคิดไว้ ทว่าบทความดังกล่าวกลับถูกหยิบมาตีพิมพ์
เป็นเพราะอะไรกันแน่
แน่นอนว่าคาโปรู้ดีว่านั่นหมายความว่าอย่างไร สิ่งที่อยู่ในบทความคือความจริงทั้งนั้น ในฐานะที่เป็นสื่อ ยิ่งไม่ควรกล่าวสรรเสริญเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ควรจะแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย
ต้องสะท้อนจินตภาพที่อิงตามความเป็นจริง มีประสิทธิภาพและมีคุณค่าต่อสังคมมากที่สุดออกมาในรูปแบบดั้งเดิมที่ทุกคนคุ้นชิน
คาโปคิดได้ดังนั้นก็เหลือบมองบทความตรงหน้าและต่อสายหาเลขาของเขาทันที “จองตั๋วไปปักกิ่งให้ผมที”