เมื่อเฉินเสี่ยวถงได้ยินอย่างนั้นแล้ว ก็หันไปมองหลี่โม่ หลี่โม่ไม่พูดอะไร ไม่อย่างนั้นจางเต๋ออู่จะต้องสังเกตได้แน่
“ยังไม่มีข่าวสารอะไร นายให้เวลาฉันอีกหน่อยละกัน”
เฉินเสี่ยวถงลองยื้อเวลา เธอไม่ได้สนใจเรื่องกุญแจลับเลย แล้วตอนนี้จู่ๆจางเต๋ออู่ก็มาถามแบบนี้ เธอไม่รู้ว่าควรหาข้ออ้างอะไรมาแก้ตัว
“ให้เวลากับเธออีกหน่อย? แล้วใครมันมาให้เวลากับฉัน?”
จางเต๋ออู่เองก็โมโห แล้วก็ต่อว่าออกไป
“นายให้เวลากับฉันอีกไม่กี่วัน ฉันรับประกันว่าจะให้ข่าวสารกับนายแน่นอน”
หลังจากเฉินเสี่ยวถงลังเลไปสักพัก ถึงได้พูดออกมา
“ได้ ฉันให้เวลาเธออีกแค่สามวัน ถ้าหากว่ายังไม่มีผลลัพธ์อะไรละก็ อย่าได้โทษฉันละ”
จางเต๋ออู่ส่งเสียงในลำคอแล้วก็วางสายไป
สีหน้าของเฉินเสี่ยวถงค่อยๆหดหู่ลง เธอเองก็ฟังออกว่านี่คือสามวันสุดท้ายที่จางเต๋ออู่ให้เวลากับเธอแล้ว ถ้าหากว่าหากุญแจลับไม่เจอภายในสามวัน ครอบครัวของเธอจะต้องมีอันตรายแน่นอน
เธอไม่อยากหักหลังหลี่โม่ แต่แล้วครอบครัวเธอจะทำยังไงละ
“ครอบครัวเธออยู่ที่ไหน รีบเคลื่อนย้ายครอบครัวเธอตั้งแต่ตอนนี้เถอะ”
หลี่โม่รู้ดีว่าหลบหนีครั้งแรกได้ แต่ไม่สามารถหลบหนีได้เสมอไป เรื่องราวมาถึงจุดนี้แล้ว เขาก็ไม่สามารถนิ่งเฉยได้ เขาจะต้องปกป้องพ่อแม่ของเฉินเสี่ยวถงให้ดี
“ฉันเองก็ไม่รู้ ตอนนี้พ่อแม่ของฉันถูกจางเต๋ออู่พาตัวไปแล้ว ส่วนเขาขังพ่อแม่ฉันไว้ที่ไหน แทบจะไม่มีข่าวสารอะไรเลย” เฉินเสี่ยวถงส่ายหน้าและพูด
ถ้าหากว่าเธอรู้ เธอคงหาวิธีสืบเจอแล้ว
หลี่โม่ขมวดคิ้ว ดูแล้วเรื่องนี้คงต้องลงมือที่ตัวของจางเต๋ออู่แล้ว จางเต๋ออู่คอยตามติดราชินีอยู่เสมอ การเข้าออกโดยปกติแล้วมักจะลึกลับมาก
อยากหาพ่อแม่ของเฉินเสี่ยวถงเจอแล้วช่วยออกมา นั่นเป็นเรื่องที่ยากมาก
ในตอนนี้เอง หลี่โม่นึกถึงคนคนหนึ่ง คนคนนั้นเคยเป็นเพื่อนสนิทของจางเต๋ออู่ เขาสามารถลงมือที่ตัวเพื่อนสนิทของจางเต๋ออู่
“เธอไม่ต้องกังวล พ่อแม่ของเธอจะไม่เป็นไรแน่นอน ฉันสามารถรับประกันกับเธอได้” หลี่โม่ไม่ลืมที่จะรับประกันกับเฉินเสี่ยวถง ดูจากตอนนี้แล้ว พ่อแม่ของเฉินเสี่ยวถงนั้นก็ยังปลอดภัย เพราะว่าจางเต๋ออู่หลอกใช้เฉินเสี่ยวถง ก็ใช้สิ่งนี้มาบีบบังคับ
จางเต๋ออู่ไม่มีทางจัดการสิ่งนี้ทิ้ง แต่จะเก็บไว้เรื่อยๆ บวกกับที่จางเต๋ออู่พูดว่าจะให้เวลากับเฉินเสี่ยวถงอีกสามวัน
หลี่โม่จำเป็นจะต้องหาตำแหน่งที่พ่อแม่ของเฉินเสี่ยวถงอยู่ให้เจอภายในสามวัน
“ฉันเชื่อพี่หลี่โม่” เฉินเสี่ยวถงเงยหน้าขึ้นอย่างตื้นตันใจ สำหรับคำพูดของหลี่โม่ เธอเชื่อมั่นมาก ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น เธอไม่มีทางเชื่อแน่นอน แต่ถ้าเป็นหลี่โม่ เธอเชื่อมั่นอย่างไม่สงสัยเลย
เธอเชื่อว่าพี่หลี่โม่จะสามารถทำได้แน่นอน
หลี่โม่ลูบหัวของเฉินเสี่ยวถงด้วยรอยยิ้ม แต่เมื่อเขารู้สึกได้ถึงสายตาของกู้หยุนหลันที่จะฆ่าคนได้แล้ว เขาก็ยิ้มอย่างอึดอัด แล้วก็รีบออกมา
หลี่โม่เรียกรถคันหนึ่ง มายังที่บ้านเช่า ตามที่เขารู้มา เพื่อนสนิทของจางเต๋ออู่เป็นนักเทคโนโลยีติดบ้าน อีกฝ่ายคอยเอาแต่วิจัยสิ่งหนึ่งที่แปลกประหลาด
หลี่โม่ทำได้เพียงแค่ลงมือจากตรงนี้ ไม่แน่อาจจะได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ เมื่อหลี่โม่เข้าไป เขาก็เห็นกับดักบนพื้น กับดักพวกนี้วางไว้อย่างละเอียดอ่อน ถ้าหากว่าไม่สังเกตให้ดี จะต้องโดนกับดักแน่นอน
ยังดีที่เขาทำการป้องกันไว้ก่อน ถึงได้ไม่โดน
“นายมาละหรอ ควรจะโทรมาหาฉันก่อนสิ สิ่งที่นายให้ฉันเตรียมไว้ให้ ฉันเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เดิมทีฉันคิดว่าจะไปส่งให้นายแล้ว”
ในเวลานี้ ภายในห้องนอนส่งเสียงเกียจคร้านดังออกมา ขณะเดียวกันชายวัยกลางคนผมเผ้ายุ่งเหยิงก็เดินออกมาจากห้อง รูปลักษณ์สกปรกมาก
เมื่อเขาเห็นหลี่โม่ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างทันที เขาคิดว่าเป็นจางเต๋ออู่ ใครจะไปรู้ว่าเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง
“นายเป็นใคร ทำไมจู่ๆนายถึงได้เข้ามาที่ห้องของฉัน” ชายวัยกลางคนคนนั้นมองหลี่โม่อย่างกับเจอผี ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะตื่นตระหนกมากแค่ไหน
มุมปากของหลี่โม่กระตุกเล็กน้อย เขาคิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะตื่นตะหนกขนาดนี้
ชายวัยกลางคนติดต่อกับจางเต๋ออู่อยู่เสมอ ดังนั้นเขาจึงบอกตำแหน่งที่วางกับดักให้กับจางเต๋ออู่ และเพราะว่าหลี่โม่หลบกับดักได้อย่างง่ายดาย เขาถึงได้คิดว่าเป็นจางเต๋ออู่
ใครจะไปรู้ว่าคนที่มาไม่ใช่จางเต๋ออู่ แต่กลับเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง
หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมคือคนที่จางเต๋ออู่ส่งมาครับ”
ทันใดนั้นสมองเขาแล่น แล้วเริ่มทำการแสดงทันที
“แบบนี้นี่เอง ทำไมจางเต๋ออู่นี่ถึงไม่บอกกับฉันก่อนสักคำนะ ฉันจะเอาของให้นายเดี๋ยวนี้แหละ” ชายวัยกลางคนคนนั้นถูกการแสดงของหลี่โม่หลอกจนเชื่อ จึงหันกลับเข้าไปในห้อง และเมื่อเขาออกมาอีกครั้ง ในมือก็มีของอย่างหนึ่งเพิ่มเข้ามา
ในตอนที่หลี่โม่เห็นของชิ้นนั้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก ของชิ้นนี้ เหมือนว่าจะเป็นระเบิดติดตั้งรถ เขามองอีกฝ่ายอย่างประหลาดใจ ไอ้คนนี้ดูแล้วเป็นบุคคลที่อันตรายนี่นา
เขามองดูการตกแต่งของอีกฝ่าย ล้วนแทบจะเป็นของที่อันตรายมากทั้งนั้น
จางเต๋ออู่เอาของสิ่งนี้มาทำอะไรกัน?
“ของชิ้นนี้ใช้งานยังไงครับ?” หลี่โม่อดไม่ได้ที่จะพูด
“ง่ายมาก กดปุ่มกดนี้ทีเดียว ถึงตอนนั้นก็จะจับเวลา ไม่ถึงสิบนาทีก็จะเกิดเรื่องขึ้น” ชายวัยกลางคนคนนั้นพูดนิ่งๆ
เมื่อหลี่โม่ได้ยินอย่างนั้น ก็ไม่ชื่นชมฝีมือของอีกฝ่ายไม่ได้
ชายวัยกลางคนคนนั้นขมวดคิ้วพูดว่า “จางเต๋ออู่บอกว่าจะใช้ของสิ่งนี้ฆ่าคนคนหนึ่งไม่ใช่หรอ นายคงไม่ได้ไม่รู้หรอกนะ”
เมื่อหลี่โม่เห็นสายตาระแวดระวังของอีกฝ่าย ก็รีบยิ้มออกมา “ผมรู้แน่นอนอยู่แล้วครับ ผมเพียงแค่ถามคุณว่าสิ่งนี้มันใช้งานยังไง ไม่ได้ถามคุณเรื่องนี้สักหน่อย”
ชายวัยกลางคนถูกหลอกเป็นเรื่องเป็นรายบุคคล เขาหาวออกมาหนึ่งที “พอละ ฉันยังต้องทำวิจัยต่อ นายเอาของกลับไปเถอะ”
“ใช่สิ นี่คืออะไรครับ?” หลี่โม่เห็นของใช้เคมีอยู่บนโต๊ะเป็นกอง แล้วชี้ไปที่ยาปรุงตัวหนึ่งและถามออกไป
ชายวัยกลางคนไม่เพียงแต่ไม่โมโหแล้ว กลับยังหัวเราะ “ดูแล้วนายคงสนใจของทดสอบพวกนี้ละสิ ถ้าหากว่าเป็นจางเต๋ออู่ เขาไม่มีทางถามฉันแน่ว่าของพวกนี้คืออะไร”
เขาชอบการได้รับความสนใจจากคนมากมาย ตอนนี้หลี่โม่ถามออกมาแบบนี้ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะดีใจ แล้วแสดงความภูมิใจออกมา
หลี่โม่กลอกตาหนึ่งที ดูแล้วนักเทคโนโลยีติดบ้านคนนี้เองก็เหงามาก แม้แต่ของที่ประดิษฐ์ออกมาก็ไม่มีคนชื่นชม
“นี่คือยาพูดความจริง เพียงแค่ใช้มัน คนคนนั้นก็จะพูดความจริงออกมา จากนั้นคนอื่นถามอะไรเขา เขาก็จะพูดออกมา แล้วยังมีเวลานานถึงสิบนาที เมื่อสิบนาทีผ่านไป คนที่โดนวางยาพูดความจริง ก็จะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในเวลาสิบนาทีนั้น”
“ยังมีเทคโนโลยีมืดแบบนี้อีกด้วย?” หลี่โม่ประหลาดใจ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกยินดี เขานี่ได้หาเจอมาง่ายๆจริงๆ เขากำลังอยากจะหลอกถามถึงข้อมูลเกี่ยวกับพ่อแม่ของเฉินเสี่ยวถงอยู่พอดี เพียงแต่ว่าไม่รู้จะถามยังไง