สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 967 ฮูหยินใหญ่สกุลหัวมาทาบทามสู่ขอ

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 967 ฮูหยินใหญ่สกุลหัวมาทาบทามสู่ขอ

บทที่ 967 ฮูหยินใหญ่สกุลหัวมาทาบทามสู่ขอ

สิงเจียซือกำลังใช้ยาทาลงบนใบหน้า เมื่อได้ยินคำพูดของสาวใช้ นางจึงหยุดมือ

“คนสกุลหัวมาหรือ?”

“ใกล้ถึงแล้วเจ้าค่ะ”

“รู้หรือไม่ว่าเป็นผู้ใด?”

“ดูเหมือนจะเป็นฮูหยินใหญ่สกุลหัวเจ้าค่ะ”

ภาพสตรีจิตใจโอบอ้อมอารีผู้หนึ่งปรากฏขึ้นในหัวของสิงเจียซือ

รูปร่างหน้าตาของสตรีนางนั้นไม่ได้โดดเด่น ค่อนข้างดูธรรมดาเสียด้วยซ้ำ นางพูดจานุ่มนวลกับทุกคน จิตใจอ่อนโยน

อันที่จริงหากกล่าวถึงแม่สามี อีกฝ่ายเป็นตัวเลือกที่ดีจริง ๆ นางนิสัยดี ย่อมไม่กลั่นแกล้งลูกสะใภ้ ชีวิตที่อยู่ในมือนางย่อมง่ายดายยิ่งกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม…

สกุลหัวไม่ใช่ครอบครัวที่ดี

สิงเจียซือวางผ้าเช็ดหน้าในมือลง แล้วลูบหน้าตนแรง ๆ ทำให้ใบหน้าของนางบวมแดงขึ้นมาอีกครั้ง

“คุณหนู…” ฉิงโหรวมองดูท่าทีของนางอย่างตื่นตระหนก “เบา ๆ เจ้าค่ะ อย่าได้ทำให้ใบหน้าท่านเสียโฉมจริง ๆ เลยนะเจ้าคะ”

“เอาละ ข้าจะออกไปประเดี๋ยว พวกเจ้าไม่ต้องตามข้ามา มิเช่นนั้นพวกเจ้าจะถูกลงโทษ”

ฉิงโหรวกับฉิงฮุ่ยมองหน้ากันไปมา

“คุณหนู ยังคงให้พวกเราตามท่านไปเถอะนะเจ้าคะ!” ฉิงโหรวเอ่ย “พวกเราเป็นสาวใช้ของท่าน หากท่านถูกลงโทษ พวกเราก็ต้องถูกลงโทษเช่นกัน”

ด้านนอกศาลาริมน้ำ แม่นมเฒ่าต้อนรับฮูหยินคนหนึ่งที่เดินเข้ามาจากด้านนอก ด้านหลังฮูหยินผู้นั้นมีบ่าวรับใช้เฒ่าหลายคน ขบวนค่อนข้างใหญ่โตทีเดียว

ฮูหยินใหญ่หัวมองหมู่เรือนสกุลสิงแล้วกล่าวว่า “ข้าไม่ได้มาเยี่ยมเยียนหลายปีแล้ว สวนแห่งนี้ยังคงเงียบสงบ และสง่างามเหมือนตอนนั้น”

“สิ่งของนั้นเป็นของตาย ขอเพียงเก็บรักษาให้ดีก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คนกลับมีชีวิต บ่าวเคยมารับฮูหยินคราก่อน ยามนั้นผมของบ่าวยังคงเป็นสีดำ บัดนี้ล้วนขาวโพลนแล้ว เห็นได้ว่ากาลเวลานั้นโหดร้ายต่อคนเป็นอย่างยิ่ง”

“แม่เฒ่าช่างกล่าวถูกจริง ๆ คราก่อนที่พบกัน ข้ากับฮูหยินใหญ่จวนท่านยังนัดหมายไปชมบุปผาด้วยกันเสียดิบดี ผลที่ได้คือแยกจากกันชั่วนิรันดร์ ผ่านมาหลายปีเพียงนี้แล้ว ลูกชายข้าก็ต้องหารือเรื่องการแต่งงาน แม่นางจวนท่านก็ถึงวัยแต่งงานเช่นกัน ประเดี๋ยวจะได้มีงานแต่งดี ๆ เกิดขึ้นแล้ว”

“ฮูหยินใหญ่ของเราชะตาอาภัพ ไม่ได้ล้ำค่าเท่าฮูหยิน ฮูหยินยังเยาว์วัยงดงามเช่นนี้หลังผ่านมาหลายปี ราวกับว่าสวรรค์โปรดปรานท่านเป็นพิเศษเลยนะเจ้าคะ”

ฮูหยินใหญ่หัวยิ้มบาง ๆ จู่ ๆ นางก็หยุดฝีเท้า สายตามองไปยังฝั่งตรงข้าม

แม่นมเฒ่าสังเกตเห็นจึงมองตามสายตานางไป พบเพียงสิงเจียซือที่ใบหน้าบวมแดงอยู่ตรงนั้น

“คุณหนูห้า ท่านออกมาได้อย่างไร?” แม่นมเฒ่าเหลือบมองฮูหยินใหญ่หัวด้วยความตระหนก โบกมือให้บ่าวรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ ส่งสัญญาณให้พวกนางพาสิงเจียซือกลับไปที่ห้อง

ฮูหยินผู้เฒ่ากำชับไว้แล้ว เรื่องในวันนี้สำคัญอย่างยิ่ง ไม่อาจปล่อยให้คุณหนูห้าออกมาก่อปัญหาเป็นอันขาด คนเหล่านั้นทำงานแลกข้าวแบบใดกัน เหตุใดแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ยังทำได้ไม่ดี?

อันที่จริงแล้ว สิงเจียซือรู้ดีว่าฮูหยินใหญ่หัวมาเยือน เรื่องสำคัญเช่นนี้ย่อมไม่อาจปล่อยนางออกมาสร้างปัญหาเป็นอันขาด ผู้คนทั้งจวนต้องคอยจับตาดูนางอย่างแน่นอน ดังนั้นนางจึงใช้ทางลัด แม้กระทั่งบ่าวรับใช้ผู้เดียวยังไม่พบเห็นนาง

เห็นได้ว่าทนไม้ทนมือตั้งแต่ยังเล็กก็เป็นข้อดี จะได้ฆ่าพวกเขาแบบให้รับมือไม่ทัน

“เจียซือคารวะฮูหยินใหญ่หัว”

“นี่เจียซือหรือ?” ฮูหยินใหญ่หัวมองสิงเจียซืออย่างอ่อนโยน “ไม่พบเพียงไม่กี่ปี แม่นางน้อยโตเสียแล้ว”

สิงเจียซือเงยหน้าขึ้น เผยสภาพตนอย่างเปิดเผย “เจียซือไม่ได้พบฮูหยินหัวหลายปีแล้ว ยังจำตอนที่ไปเล่นที่จวนหัวได้ ฮูหยินหัวดีกับเจียซือยิ่งนัก เจียซือคิดถึงฮูหยินหัวมาโดยตลอด”

“เด็กดี…”

“ถึงแม้เจียซือจะกลับมาแล้ว กลับไม่อาจรั้งอยู่นาน ยังเกรงว่าจะไม่มีโอกาสได้พบกับฮูหยินหัวอีกแล้ว วันนี้ได้พบกัน ความปรารถนาของเจียซือจึงได้เป็นจริง”

ฮูหยินหัวกล่าวยิ้ม ๆ “เจ้ามีใจแล้ว”

“ฮูหยิน ฮูหยินผู้เฒ่ายังรอท่านอยู่นะเจ้าคะ” แม่นมเฒ่าขัดจังหวะบทสนทนาระหว่างทั้งสองอย่างรวดเร็ว

สิงเจียซือบอกว่านางจะไม่รั้งอยู่ที่นี่นาน ผู้ใดที่มีหูและสมองย่อมเข้าใจความหมาย หากนางยังกล่าวต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าคงโมโหขึ้นมาอีกครั้ง

“เจียซือ หากมีเวลาว่างก็มาเล่นที่จวนหัว ข้ามีเรื่องมาหาท่านย่าเจ้า ต้องไปก่อนแล้ว”

“ฮูหยินค่อย ๆ เดิน”

หลังจากแม่นมเฒ่าพาฮูหยินหัวและบ่าวรับใช้ไป ฉิงโหรวก็เดินเข้ามาหาแล้วเอ่ยขึ้น “คุณหนู ท่านคิดว่าฮูหยินหัวจะเข้าใจสิ่งที่ท่านจะสื่อหรือไม่?”

“นางเฉลียวฉลาดเพียงนั้น จะไม่เข้าใจได้อย่างไร?”

“เช่นนั้นนางจะยังเลือกท่านเป็นสะใภ้ของนางหรือไม่?”

“ข้ากล่าวชัดเจนเพียงนี้ คิดว่าคงไม่มาหาข้าอีกแล้ว” สิงเจียซือเอ่ย “แตงที่ฝืนเด็ดนั้นไม่หวาน จวนหัวใช่ว่าจะหาลูกสะใภ้ไม่ได้ จะบีบบังคับผู้อื่นให้ทำเรื่องที่ไม่อยากทำได้อย่างไร?”

“แต่คุณหนูเจ้าคะ บ่าวรู้สึกว่าแม้ไม่มีเรื่องแต่งงานกับสกุลหัว ฮูหยินผู้เฒ่าก็ไม่มีทางปล่อยท่านไป จะต้องหาสกุลอื่นให้ท่านต่อไปเป็นแน่เจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นข้าก็จะก่อปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่า จนกว่าทั่วทั้งเมืองหลวงจะทนข้าไม่ได้อีกต่อไป หากสกุลสิงคิดจะรักษาหน้าตาไว้ พวกเขาย่อมไม่กล้ารับความเสี่ยงนี้”

ฉิงโหรวกับฉิงฮุ่ยไม่ได้มองโลกในแง่ดีอย่างสิงเจียซือ

พวกนางปรนนิบัติรับใช้อยู่ในเรือนฮูหยินผู้เฒ่ามาหลายปี ย่อมเข้าใจนิสัยฮูหยินผู้นั้น หากนางตัดสินใจแล้ว ทุกคนในจวนล้วนต้องเชื่อฟัง ไม่อนุญาตให้ผู้ใดขัดขืน หากคนผู้นั้นไม่เชื่อฟังนางเพียงใด นางยิ่งอยากสั่งสอนให้คนผู้นั้นเชื่อฟังนางแต่โดยดีเหมือนผู้อื่นและกลายเป็นหุ่นเชิดในที่สุด

“เอาละ เรื่องก็จัดการเรียบร้อยแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ!” สิงเจียซือเกาหน้าตนเอง “คันเสียจริง”

หนึ่งชั่วยามให้หลัง ฉิงโหรวก็นำข่าวล่าสุดมา บอกว่าฮูหยินใหญ่หัวกลับไปแล้ว

“ผู้ใดส่งนางออกไป”

“ยังคงเป็นแม่นมเจี่ยงเจ้าค่ะ”

“แม่นมเจี่ยงมีสีหน้าอย่างไร?”

“ดูแล้วก็เหมือนยามปกตินะเจ้าคะ ใบหน้าแต้มรอยยิ้มน้อย ๆ”

สิงเจียซือพลันรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา

นางโบกพัดใส่หน้าเบา ๆ

ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว นางย่อมไม่ได้ร้อน เพียงแต่ใบหน้าของนางกลับคันยุบยิบและร้อนอยู่หน่อย ๆ หากนางโบกพัดใส่ใบหน้าจึงจะรู้สึกดีขึ้น

“คุณหนู ในจวนไม่ได้มีท่านเป็นคุณหนูเพียงผู้เดียว ฮูหยินหัวเข้าใจความนัยของท่าน จะต้องไม่เลือกท่านอย่างแน่นอน คงเลือกคุณหนูสี่แล้ว สำหรับสกุลสิง จะกล่าวไปแล้ว ได้เกี่ยวดองกับสกุลหัวเป็นเรื่องดี แม่นมเจี่ยงจะยินดีก็เป็นของธรรมดา”

“กล่าวได้มีเหตุผล”

ข้างนอกมีเสียงดังเข้ามา ไม่นานนัก สาวใช้ชั้นรองก็เดินเข้ามากล่าว “คุณหนู เมื่อครู่ฮูหยินผู้เฒ่าเพิ่งส่งคำกล่าวมาว่า เย็นนี้มีงานเลี้ยงของสกุล ทุกคนต้องเข้าร่วมงานเลี้ยง ไม่อาจไม่ไปเจ้าค่ะ”

“ข้ารู้แล้ว”

ฉิงฮุ่ยเอ่ย “ดูเหมือนว่าจะประกาศเรื่องนี้นะเจ้าคะ”

คืนนั้น สิงเจียซือไปที่ลานหลักตรงเวลา

“น้องห้า ดูเหมือนหน้าเจ้าจะสาหัสจริง ๆ นะ!” สิงเจียเวยกล่าวเย้ยหยัน “น่าเสียดาย เจ้าใช้ลูกไม้เสียมากมาย ยังคงกลายเป็นว่าใช้ตะกร้าไม้ไผ่ตักน้ำ ไม่ได้อะไรกลับมา”

“ท่านหมายความว่าอย่างไร?” สิงเจียซือขมวดคิ้ว

“ข้าพูดอะไรไปหรือ? เจ้าได้ยินผิดแล้ว” สิงเจียเวยเดินนวยนาดเข้าไปในห้องโถงใหญ่

สตรีผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับแฝดชายหญิง คนผู้นั้นคือฮูหยินสี่สิง หรือก็คืออาสะใภ้สี่ของสิงเจียซือ

ฮูหยินสี่สิงเห็นสิงเจียซือจึงกล่าวว่า “เจ้าห้า ใบหน้าเจ้าไม่เป็นไรกระมัง?”

สิงเจียซือเอ่ยกับฮูหยินสี่สิง “ขอบคุณอาสะใภ้สี่ที่เป็นห่วง ข้าไม่เป็นไร”

นายท่านสี่สิงเป็นบุตรนอกสมรส สถานะภายในจวนของบ้านสี่ไม่สูงนัก ปกติฮูหยินสี่สิงเป็นคนถ่อมตน เพียงดูแลสามีและลูก ๆ ของนางในเรือนเท่านั้น ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในบ้านสายตรง

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท