สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 978 ในที่สุดก็มีข่าวดีแล้ว

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 978 ในที่สุดก็มีข่าวดีแล้ว

บทที่ 978 ในที่สุดก็มีข่าวดีแล้ว

“ที่แท้เป็นเจ้าหรือ!” ฉิงโหรวผ่อนลดการป้องกันลง แล้วหันไปมองมองสิงเจียซือ “คุณหนู เขาเป็นคนดูแลสวนเจ้าค่ะ”

สิงเจียซือโบกมือส่งสัญญาณให้ฉิงโหรวและฉิงฮุ่ยปล่อยเขา

บ่าวชายผู้นั้นประคองจดหมายส่งให้

“ผู้ใดให้เจ้ามา?”

“บ่าวก็ไม่รู้ขอรับ” บ่าวชายเอ่ย “บ่าวออกไปทำธุระ ระหว่างทางกลับก็ถูกขวางเอาไว้ จากนั้นอีกฝ่ายก็ให้จดหมายฉบับนี้มา บอกว่าเป็นจดหมายถึงคุณหนูห้าในจวน”

“คุณหนู ต้องให้บ่าวตรวจดูก่อนหรือไม่เจ้าคะ?”

“เอามาเถอะ!”

ฉิงโหรวรับจดหมายจากบ่าวชาย ส่งให้สิงเจียซือ

สิงเจียซือมองสัญลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์บนซองจดหมายแล้วหัวเราะออกมา “ไม่เป็นไร นี่เป็นของสหายข้า เรื่องนี้ต้องขอบใจเจ้าแล้ว ฉิงโหรว ตกรางวัล”

“ไม่ได้ ๆๆๆ บ่าวเป็นหนี้ชีวิตคุณหนูห้า จะขอรางวัลจากคุณหนูห้าได้อย่างไร? หากคุณหนูห้ามีคำสั่งอะไรภายหน้าก็บอกบ่าวได้ ขอเพียงเป็นเรื่องที่บ่าวทำได้ บ่าวจะทำจนกว่าร่างกายจะแหลกลาญขอรับ” สิ้นคำ บ่าวชายก็คุกเข่าลง โขกหัวสองสามครั้งก่อนหมุนกายจากไป

“คนผู้นี้เป็นคนซื่อสัตย์” ฉิงโหรวเอ่ย “เราอยู่ที่จวนก็ต้องการคนใช้สอยพอดี คนผู้นี้รู้จักซาบซึ้งบุญคุณ สามารถอุ้มชูได้”

“แล้วแต่เจ้าเถอะ” สิงเจียซือกล่าว “อย่างไรเสียข้าก็ไม่ขาดเงิน ต้องการเงินก็มาบอกข้า เรื่องอื่นเจ้าจัดการได้ตามสมควร”

สิงเจียซือเปิดจดหมายออก กวาดตาอ่านจดหมายอย่างรวดเร็ว แววตาของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

คราวนี้นางอ่านอีกครั้งโดยละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่าไม่ตกหล่นรายละเอียดใด ๆ ถึงได้รู้สึกโล่งใจและถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมาเฮือกใหญ่

“คุณหนูมีความสุขเพียงนี้ ผู้ที่เขียนจดหมายมาจะต้องเป็นสหายสนิทอย่างแน่นอน”

“เขาบอกข่าวดีข้าเรื่องหนึ่ง” สิงเจียซือเอ่ย “ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้สร้างความลำบากให้สหายเหล่านั้นของข้า เพียงแต่ส่งพวกเขาขึ้นเรือจากไป สหายของข้ากลับไปที่บ้านเกิดอย่างปลอดภัยแล้ว ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ”

“เช่นนั้นก็ดียิ่งนัก”

“ฮูหยินผู้เฒ่าบอกพวกเขาว่าข้าเป็นกุลสตรีสกุลใหญ่ บัดนี้ข้าอายุมากแล้ว ควรหารือเรื่องการแต่งงาน หากข้ายังเล่นเลื่อนลอยอยู่กับพวกเขาอีก ภายหน้าแม้อยากหาคู่ครองดี ๆ สักคนก็ไม่ได้แล้ว ดังนั้นต่อไปข้าจะไม่ไปจากเมืองหลวง พวกเขาจึงต้องเป็นฝ่ายจากไปเอง! พวกเขาเป็นคนต่างแดน ไม่ได้ซับซ้อนมากมายอย่างเรา พวกเขาจึงคิดว่าฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวไม่ผิด”

นางถึงวัยที่ควรหารือเรื่องการแต่งงานแล้วจริง ๆ ไม่ว่านางจะอยู่เผ่าพันธุ์ใด การแต่งงานก็เป็นเหตุการณ์สำคัญในชีวิต พวกเขาไม่อยากให้นางเดือดร้อน ดังนั้นเมื่อได้ยินคำแนะนำของฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว พวกเขาจึงจากไป

ขอเพียงพวกเขาไม่เป็นอะไร นางก็วางใจแล้ว

ฮูหยินผู้เฒ่าไม่มีสหายของนางเป็นเครื่องมือต่อรอง ดังนั้นก็ไม่มีอะไรควบคุมนางได้แล้ว นางจะไม่ยอมถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ต้องการ

นี่นับว่าเป็นข่าวดีจริง ๆ

นางจะไม่แต่งเข้าสกุลหัว ก่อนหน้านี้นางอดทนอดกลั้น เพราะกังวลว่าจะทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าขุ่นเคืองแล้วทำร้ายเหล่าสหาย ตอนนี้นางไม่ต้องอดกลั้นแล้ว อย่างมากก็ก่อความวุ่นวายขนานใหญ่ จากนั้นนางก็สามารถจากไปได้ทันที!

มิอย่างนั้น ระหว่างเข้าร่วมงานเลี้ยงพรุ่งนี้ นางเพียงแค่แอบหนีก็ได้ อย่างไรเสียการแต่งงานกับสกุลหัวยังไม่เริ่มดำเนินการ เป็นเพียงการบอกกล่าวกันด้วยวาจาเท่านั้น หากพิธียังไม่แล้วเสร็จก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบแม้แต่น้อย

สิงเจียซือครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ในเรื่องนี้

“ฉิงโหรว ฉิงฮุ่ย พวกเจ้ายินดีไปกับข้าหรือไม่?”

“คุณหนูอยู่ที่ใด พวกบ่าวก็ไปที่นั่นเจ้าค่ะ”

วันรุ่งขึ้น สิงเจียซือขึ้นรถม้าไปอย่างว่าง่าย

ฮูหยินผู้เฒ่าขึ้นรถม้าหนึ่งคัน ฮูหยินรอง ฮูหยินสาม และฮูหยินสี่ขึ้นรถม้าหนึ่งคัน สิงเจียซือ สิงเจียเวย และฝาแฝดคู่นั้นขึ้นรถม้าอีกหนึ่งคัน

“พี่หญิงห้า…” สิงหรูเจิ้งพี่ชายฝาแฝด ลูกหลานคนที่สิบเอ็ดของสกุลสิงตะโกนขึ้นมา “เหตุใดท่านกับพี่สี่ถึงสวมชุดเหมือนกันเล่า?”

สิงเจียเวยยิ้มน้อย ๆ “เจ้าสิบเอ็ด เจ้าไม่เข้าใจเรื่องนี้กระมัง? พวกเราเป็นพี่สาวน้องสาว เพียงแต่ เจ้าคิดว่าชุดนี้เมื่อสวมอยู่บนตัวข้าหรือสวมอยู่บนตัวพี่หญิงห้าของเจ้าดูดีกว่ากัน?”

สิงหรูเจิ้งคิดอยู่พักหนึ่งแล้วตอบ “พี่หญิงห้า”

สีหน้าของสิงเจียเวยแปรเปลี่ยนฉับพลัน นางยิ้มฝืด ๆ “จริงหรือ?”

คุณหนูสี่มองสิงเจียซือด้วยสายตาเป็นปฏิปักษ์

ใบหน้าของสิงเจียซือกลายเป็นเช่นนั้น นึกไม่ถึงว่าแต่งองค์ทรงเครื่องแล้วจะงามกว่านาง

“พี่หญิงห้าสวมแล้วดูพอดี ท่านกลับสวมแล้ว… ดูเตี้ยไปหน่อย” เจ้าสิบสองแทงทะลุเข้ากลางใจสิงเจียเวย

“เฮอะ เด็ก ๆ จะไปรู้อะไร แม่นางผู้นั้นสูงเกินไป อย่างข้านี่จึงจะกำลังพอดี” สิงเจียเวยรู้สึกหงุดหงิดมากเสียจนแม้กระทั่งหน้ากากพี่สาวน้องสาวก็สวมไว้ไม่ไหวแล้ว

สิงเจียซือแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เดิมทีก็ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

นางกำลังคิดว่าอีกประเดี๋ยวจะหลบหนีอย่างไร

ไม่นานหลังจากนั้น รถม้าก็เคลื่อนเข้าไปในจวนหัว

เหล่าสตรีจวนหัวจึงออกมารับพวกนาง

“ฮูหยินผู้เฒ่า ยินดีด้วย ๆ!”

หลังจากฮูหยินผู้เฒ่าสิงลงจากรถม้า ลูกสะใภ้หลายคนก็ลงจากรถม้า ท้ายที่สุดจึงเป็นหลานสาวและหลานชาย ส่วนผู้สืบทอดชายสกุลสิงนั้นได้รับการรับรองจากบุรุษจวนหัว ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เดียวกับฝ่ายสตรี

“นี่คือคุณหนูห้ากระมัง?” สะใภ้รองจวนหัวมองสิงเจียซือ “หน้าตาสะสวยจริง ๆ”

“ไม่สู้พวกท่านแม่นางจวนหัวหรอก” ฮูหยินผู้เฒ่าสิงเอ่ยอย่างสุภาพ

“ดูท่านกล่าวเข้าสิ แม่นางสกุลสิงแต่ละคนหน้าตางดงามยิ่งนัก งามเสียจนข้าตะลึงเชียว” ฮูหยินรองหัวกล่าว “ฮูหยินผู้เฒ่า แม่นาง และคุณชายหลายท่านนี้ รีบเข้าไปกันเถอะ!”

สิงเจียเวยเติบโตมาในเมืองหลวง ไปงานเลี้ยงต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง จึงพอรู้จักพี่หญิงน้องหญิงสองสามคน อย่างไรก็ตามวันนี้ ทุกคนราวกับถูกสั่งห้ามไม่ให้คบค้ากับแม่นางสกุลสิง สิงเจียเวยจึงเผชิญกับความเย็นชาอยู่หลายครั้ง

คุณหนูสี่โมโหเป็นอย่างมาก

“นั่นพี่หญิงทังกระมัง?” คุณหนูผู้สูงศักดิ์ผู้หนึ่งเอ่ยถามน้องหญิงที่อยู่ข้าง ๆ

ทั้งสองคนมองไปทางหญิงสาวหน้าตาสวยสดที่เดินมาจากฝั่งตรงข้าม

หญิงสาวสวมชุดกระโปรงสีแดงกุหลาบ ทั่วทั้งกายของนางเปล่งประกายอย่างมีเสน่ห์ สัญลักษณ์งดงามบนหน้าผากยิ่งขับให้นางดูละเอียดประณีต น่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น

แววตาของสิงเจียเวยพลันฉายความรู้สึกยินดีในความโชคร้ายของผู้อื่นขึ้นมา

สิงเจียซือกำลังหารือเรื่องการแต่งงานกับคุณชายของสกุลหัว อีกทั้งคุณหนูสกุลทังผู้นั้นก็เป็นคนรักของคุณชายสกุลหัว ยามนี้ทั้งสองคนกำลังเผชิญหน้ากันในงานเลี้ยง ไม่รู้ว่าละครดี ๆ เช่นใดจะเปิดฉากขึ้น!

“คุณหนูสิง” หลี่เยียนหรานเดินเข้ามา เอ่ยกับสิงเจียซือ “ข้าหลี่เยียนหราน ก่อนหน้านี้เราเคยพบกันมาก่อน ไม่รู้ว่าท่านยังจำได้หรือไม่”

“ข้าจำได้” สิงเจียซือเอ่ยด้วยท่าทีสงบ “คุณหนูหลี่มีอะไรหรือ?”

“คราก่อนข้าเห็นว่าคุณหนูสิงได้รับบาดเจ็บ เพียงแค่มาถามว่าอาการบาดเจ็บของคุณหนูสิงเป็นอย่างไรบ้าง?” หลี่เยียนหรานเอ่ย “เซียงจวินเองก็เป็นห่วงร่างกายของท่านมากเช่นกัน อย่างไรเสียท่านก็กำลังหารือเรื่องการแต่งงานกับคุณชายหัว ภายหน้าก็ต้องกลายเป็นคนครอบครัวเดียวกัน กับเรื่องคราวที่แล้ว นางรู้สึกผิดมาโดยตลอด”

สิงเจียซือมองไปทางหยางเซียงจวิน หยางเซียงจวินผู้เย่อหยิ่งมีคุณหนูผู้สูงศักดิ์หลายคนรายล้อม ดูทะนงตนมากทีเดียว

แล้วความรู้สึกผิดมาจากที่ใดกัน?

ไยนางมองไม่ออกเล่า?

คุณหนูหลี่ผู้นี้ช่างน่าสนใจจริง ๆ รีบมาเช็ดก้นให้หยางเซียงจวินกับสิ่งที่ตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดด้วย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท