สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 977 เรื่องนี้ยังไม่จบ

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 977 เรื่องนี้ยังไม่จบ

บทที่ 977 เรื่องนี้ยังไม่จบ

สิงเจียซือได้ยินว่าฮูหยินผู้เฒ่าสิงไปยังจวนสกุลหัวก็เบิกบานใจยิ่ง

นางนั่งลงหน้ากระจก มองดูใบหน้าที่ดีขึ้นถึงเจ็ดส่วน หลงเหลือไว้เพียงรอยจาง ๆ เท่านั้น หญิงสาวอุ้มเจ้าสมบัติขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า “เจ้าสมบัติ วันนี้เป็นวันดี พวกเราอยากได้อย่างไรย่อมได้อย่างนั้นเป็นแน่ ใช่หรือไม่?”

เจ้าสมบัติร้องเมี้ยวขึ้นมา คลอเคลียอยู่ในอ้อมแขนของสิงเจียซือ

เจ้าสมบัติไม่ได้ติดโรคอะไรจึงไม่ต้องทุกข์ทรมานกับการทำให้ตนเองเสียโฉม เมื่อใช้ยาที่หมอหลวงจ่ายให้เทียบแล้วยังมีประโยชน์กว่ายาที่ท่านหมอผู้นั้นให้ดังคาด มันจึงค่อย ๆ หายดีและกลับมามีหน้าตาน่ารักเช่นเคย

สิงเจียซือกำลังอารมณ์ดีจึงพาฉิงโหรวกับฉิงฮุ่ยไปที่ห้องครัวและสั่งอาหารสองสามอย่าง

อย่างไรนางก็มีเงิน อยากกินอะไรล้วนกินได้ทั้งสิ้น

แม่ครัวในครัวกำกับบ่าวรับใช้ปรุงอาหาร เริ่มแรกยังไม่เห็นสิงเจียซืออยู่ในสายตา หลังจากพูดคุยกันมาช่วงระยะหนึ่ง ถึงได้รู้ ‘ความสามารถ’ ของสิงเจียซือ แต่ละคนจึงพยายามประจบเอาใจนาง

แน่นอนว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความใจกว้างของสิงเจียซือด้วย สาวใช้ทั้งสองของนางเก่งกาจในการเอาชนะใจผู้คนยิ่ง

“คุณหนู ฮูหยินผู้เฒ่ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ” ฉิงโหรวเอ่ยกับสิงเจียซือที่กำลังดื่มเหล้า

“นางโมโหฟึดฟัด สีหน้าไม่น่าดูชมเป็นพิเศษใช่หรือไม่?”

“บ่าวว่านางค่อนข้างอารมณ์ดีทีเดียวนะเจ้าคะ” ฉิงโหรวเอ่ย “คุณหนู ข้าเกรงว่าเรื่องที่ท่านต้องการอาจไม่เป็นจริงแล้ว”

สิงเจียซือวางจอกสุราในมือลง คิ้วขมวดมุ่นพลางกล่าวว่า “นี่ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย เรื่องราวคุณชายสกุลหัวนั่นใหญ่โต ยังจะแต่งต่อไปได้อย่างไร? หรือว่าสกุลหัวรับปากอะไรกับนาง?”

“คุณหนู แม่นมจ้าวมาเจ้าค่ะ” สาวใช้ขั้นสองเข้ามารายงาน

“เชิญนางเข้ามา”

แม่นมจ้าวเป็นแม่นมขั้นสองในเรือนฮูหยินผู้เฒ่า นอกจากแม่นมเฒ่าที่ติดตามออกเรือนมาแล้ว นางมีสถานะสูงสุด อย่าได้เห็นว่าคนเหล่านี้เป็นบ่าวรับใช้ในสกุลสิง เพราะอยู่ข้างนอกอีกฝ่ายก็ยังมีทรัพย์สินเป็นของตน

“คุณหนู ฮูหยินผู้เฒ่ามีคำกล่าวมาบอกท่าน นางกล่าวว่าพรุ่งนี้คุณหนูใหญ่จวนหัวจะออกเรือน คุณหนูทั้งสองในจวนล้วนต้องไปร่วมงานเจ้าค่ะ”

“ข้ารู้แล้ว”

“นอกจากนี้ ฮูหยินผู้เฒ่ายังให้ห้องครัวปรุงลูกชิ้นให้คุณหนูด้วยเจ้าค่ะ” แม่นมจ้าวเอ่ย บ่าวรับใช้ด้านหลังนางจึงยกลูกชิ้นมาให้

“หากไม่มีอะไรจะกำชับ บ่าวต้องขอตัวแล้วเจ้าค่ะ”

“ออกไปเถอะ!”

หลังจากแม่นมจ้าวจากไปแล้ว ฉิงโหรวจึงเอ่ยขึ้น “ลูกชิ้น? นี่ตั้งใจจะปลอบคุณหนูให้สบายใจหรือเจ้าคะ?”

สิงเจียซือเขี่ยลูกชิ้นสองสามครั้งแล้วเอ่ยกับฉิงโหรว “ยกออกไป! ลูกชิ้นนี่พวกเจ้ากินเถอะ อย่าได้สิ้นเปลือง”

“คุณหนู พรุ่งนี้ท่านจะไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนหัว ท่านตั้งใจจะใส่ชุดใดไปเจ้าคะ?”

“อาภรณ์ชุดใหม่ยังไม่เสร็จอีกหรือ?” สิงเจียซือเอ่ยถาม “ส่งคนไปถามอาสะใภ้รองดูที หากยังไม่เสร็จก็ขอเงินมา ข้าจะไปซื้อเสื้อผ้าจากหอซือเป่า แล้วค่อยไปซื้อเครื่องประดับที่หอทอง”

ไม่นานนัก ฉิงโหรวกับฉิงฮุ่ยก็นำเสื้อผ้าชุดใหม่สี่ชุดและเครื่องประดับผมหนึ่งชุดกลับมา

“เครื่องประดับนี่…”

“ฮูหยินผู้เฒ่ามอบให้เจ้าค่ะ” ฉิงฮุ่ยกล่าว “ตอนที่พวกบ่าวกลับมาเจอแม่นมเฒ่าข้างกายฮูหยินผู้เฒ่า แม่นมกำลังจะมาพอดีเจ้าค่ะ กล่าวว่าฮูหยินผู้เฒ่าให้รางวัลคุณหนู จึงให้บ่าวรับมาเจ้าค่ะ”

“เครื่องประดับชิ้นนี้งามทีเดียว ทั้งยังหนักไม่น้อย แสดงให้เห็นว่าข้างในแน่นเพียงใด” ฉิงโหรวเอ่ย “จากสถานการณ์ในตอนนี้ของสกุลสิง จะต้องไม่มีเงินมากพอซื้อเครื่องประดับที่ดีเพียงนี้เป็นแน่ ดูจากลวดลายที่เป็นที่นิยมเมื่อก่อนแล้ว คงเป็นสินเดิมของฮูหยินผู้เฒ่า ฮูหยินผู้เฒ่าต้องการชดเชยให้คุณหนู ถึงได้มอบสินเดิมที่อยู่ก้นกล่องทั้งหมดของตนออกมา”

“นำไปเก็บเถอะ!” สิงเจียซือเอ่ย “นางต้องการชดเชย ข้าก็จะยอมรับไว้ นางเป็นย่าแท้ ๆ ของข้า มอบของเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ข้า ไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธ”

“อาภรณ์เหล่านี้ท่านว่าเป็นอย่างไรเจ้าคะ?” ฉิงฮุ่ยเอ่ยถาม “คุณหนูชอบชุดใดเจ้าคะ? บ่าวว่าล้วนงามทุกชุดเลยเจ้าค่ะ”

“เจ้าไปถามทีว่าพรุ่งนี้คุณหนูสี่จะใส่สีอะไร”

“คุณหนูกังวลว่าจะใส่เสื้อผ้าแบบเดียวกันกับคุณหนูสี่หรือเจ้าคะ?”

“ไม่ใช่ ข้าเพียงแต่อยากใส่เสื้อผ้าเหมือนนาง” สิงเจียซือเอ่ย “ไม่ว่าอย่างไร การที่พี่สี่หน้าตาสวยงามก็เป็นเรื่องจริง ข้าเทียบนางไม่ติด”

“บ่าวไม่คิดอย่างนั้นเจ้าค่ะ คุณหนูก็ไม่ได้ย่ำแย่กว่าคุณหนูสี่เลยนะเจ้าคะ”

สิงเจียซือมีกลิ่นอายรอบกายเป็นเอกลักษณ์ นั่นเป็นสิ่งที่คุณหนูสกุลใหญ่หลายคนไม่มี คุณหนูสี่หน้าตางดงามมาก ทว่านางก็เหมือนกับคุณหนูสกุลใหญ่คนอื่น ๆ ไม่มีคุณสมบัติใดโดดเด่นออกมา

นอกจากนี้ ในเรื่องรูปโฉมโนมพรรณ คุณหนูห้าก็ไม่ได้ย่ำแย่ เหตุที่นางดูไม่งดงามชวนตะลึง นั่นเป็นเพราะผิวของนางไม่เนียนละเอียดอย่างคุณหนูผู้สูงศักดิ์คนอื่น ๆ

“ฮูหยินผู้เฒ่าส่งเครื่องประดับมาให้ข้า มีคนเห็นหรือไม่?”

“น่าจะไม่มีเจ้าค่ะ”

“ไม่ควรเป็นเช่นนั้น” สิงเจียซือเอ่ย “ฮูหยินผู้เฒ่าดีต่อข้าเพียงนี้จะไม่มีคนเห็นได้อย่างไร?”

“บ่าวเข้าใจแล้ว”

ฉิงโหรวและฉิงฮุ่ยหลบออกไป

ไม่นานนัก ฉิงโหรวก็นำข่าวกลับมารายงานว่าพรุ่งนี้สิงเจียเวยจะสวมชุดสีน้ำเงิน

ฉิงฮุ่ยกลับมาช้าเล็กน้อย ทั้งยังนำข่าวใหม่มาให้ นั่นคือหลังจากคุณหนูสี่ได้ยินเรื่องที่ฮูหยินผู้เฒ่าส่งเครื่องประดับไปให้คุณหนูห้า คุณหนูสี่ก็ไปเอะอะโวยวายที่เรือนฮูหยินรองสิง ฮูหยินรองสิงให้คุณหนูสี่อดทน ผลที่ได้คือคุณหนูสี่เห็นว่าฮูหยินรองไม่ออกหน้าให้ตนเอง นางจึงไปยั่วยุบ้านสามกับบ้านสี่ แน่นอนว่าบ้านสี่ไม่สนใจ ทว่าบ้านสามนั้นสายตาคับแคบจึงตามสิงเจียเวยไปขอเครื่องประดับกับฮูหยินผู้เฒ่า

“ให้ข้าลองเดา” สิงเจียซือกินผลไม้แห้งพลางเอ่ยว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าจะต้องไม่ให้อย่างแน่นอน ตอนนี้ข้ามีประโยชน์กับนาง นางจึงต้องเอาใจข้า พี่สี่ยามนี้ไม่คู่ควรให้เอาใจ นับประสาอะไรกับเครื่องประดับ แม้กระทั่งต่างหูก็เกรงว่าจะไม่ได้ด้วยซ้ำ ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ให้ อีกทั้งยังจะดุด่าพี่สี่กับอาสะใภ้สาม ทั้งสองคนเดิมทีก็โกรธมาจากทางฮูหยินผู้เฒ่า ตอนออกมาแล้วอาสะใภ้สามจะต้องระบายความโกรธใส่พี่สี่อย่างแน่นอน”

“คุณหนูเยี่ยมยอดไปเลยเจ้าค่ะ ตรงตามที่ท่านว่า เหตุที่บ่าวกลับมาช้าเป็นเพราะบ่าวดูละครอยู่ทางนั้นเสียนาน ฮูหยินสามโมโหมาก นางแทบจะข่วนหน้าคุณหนูสี่เชียวเจ้าค่ะ”

“ต่อไปก็ถึงคราวที่อาสะใภ้รองต้องออกหน้าแล้ว” สิงเจียซือกล่าว “สองบ้านทะเลาะกันเช่นนี้ ความขุ่นข้องหมองใจที่สั่งสมมาจนกระทั่งบัดนี้คงถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เกรงว่าจะไม่สงบลงภายในสองสามวัน”

ฉิงโหรวกับฉิงฮุ่ยพยักหน้าน้อย ๆ

บ่าวทั้งสองมองหน้ากันไปมา

ในระยะเวลาสั้น ๆ พวกนางทั้งสองก็ได้รับอิทธิพลจากคุณหนูแล้ว ก่อนหน้านี้พวกนางอยู่ที่เรือนฮูหยินผู้เฒ่าล้วนทำตัวสงบเสงี่ยม ตอนนี้ที่ใดมีละครให้ชมก็วิ่งไปที่นั่น ประหนึ่งเป็นเด็กอย่างไรอย่างนั้น

สิงเจียซืออุ้มเจ้าสมบัติขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า “ใต้เท้าลู่บอกว่าเจ้าชอบกินปลาแห้ง ทั้งยังต้องเป็นชนิดที่ปรุงสุกแล้ว เจ้าพิถีพิถันเช่นนี้ ข้าเลี้ยงเจ้าไม่ไหวหรอก มิเช่นนั้นกินของธรรมดาหน่อยเป็นอย่างไร?”

“เมี้ยว…” เจ้าสมบัติเปล่งเสียงร้องอย่างเกียจคร้าน ประหนึ่งกำลังออดอ้อนหรือไม่ก็กำลังต่อว่า

สิงเจียซือหัวเราะออกมา

ถึงแม้หมู่นี้นางจะมีเรื่องให้กังวล ทว่าก็ยังรู้สึกผ่อนคลายเมื่อเห็นเจ้าสมบัติ แน่นอนว่าสิ่งมีชิวิตที่น่ารักเช่นนี้มักจะทำให้ผู้คนรู้สึกดี เช่นเดียวกับการมองคนหน้าตาดี หญิงสาวจึงอดไม่ได้ที่จะมองให้มากหน่อย

“คุณหนู มีคนส่งจดหมายมาขอรับ” บ่าวรับใช้ผู้หนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก

ฉิงโหรวก้าวออกไปขวางข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

“ผู้ใดอนุญาตให้เจ้าเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต?”

“ข้างนอกไม่มีคน…” บ่าวชายผู้นั้นรีบร้อนอธิบาย “คุณหนู บ่าวคือคนที่จมน้ำ ท่านให้ท่านหมอเขียนใบสั่งยาให้บ่าว ตอนนี้บ่าวหายดีแล้วจึงอยากมากล่าวขอบคุณคุณหนูขอรับ”

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท