สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 984 สองสกุลหารือเรื่องแต่งงาน

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 984 สองสกุลหารือเรื่องแต่งงาน

บทที่ 984 สองสกุลหารือเรื่องแต่งงาน

ฮูหยินผู้เฒ่าสิงอารมณ์ดีไม่น้อยจึงพูดจาอ่อนหวานกับนาง

“แม่นางสกุลทังผู้นั้นไม่เลวจริง ๆ ไม่ต้องเอ่ยถึงคุณชายสกุลหัวชอบ แม้กระทั่งพวกเราผู้อาวุโสเห็นเด็ก ๆ ร่าเริงเช่นนั้นก็ชอบเช่นกัน”

สิงเจียซือไม่ได้เอ่ยอะไรอีก เพียงยิ้มคล้อยตามไป

อย่างไรก็ดี ความสงสัยในใจนางกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อครู่ม้าตื่นตกใจ ตอนสกุลหัวเปลี่ยนม้าอีกตัวให้ ฮูหยินผู้เฒ่าสิงแนะให้สิงเจียซือขึ้นรถม้าของนาง นางเห็นว่าสิงเจียซือเป็นเป้าหมายสำคัญที่ต้องได้รับการปกป้อง เกรงว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก

หากบิดามารดาคุณหนูห้ายังมีชีวิตอยู่ การปฏิบัติเช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่บิดามารดาจากไป การกระทำของสิงเจียซือเริ่มสร้างความไม่พึงพอใจให้ฮูหยินผู้เฒ่าสิงมากขึ้นเรื่อย ๆ การได้รับการดูแลเช่นนี้จึงไม่ใช่เรื่องปกติ

เห็นได้ชัดว่าฮูหยินผู้เฒ่าสิงยังคงวางแผนอะไรบางอย่างอยู่

หากสกุลทังหารือเรื่องการแต่งงานกับสกุลหัวแล้ว เช่นนั้นงานแต่งไม่ควรมาถึงสกุลสิง กล่าวกันตามเหตุผล ประโยชน์ของนางย่อมไม่สูงเพียงนั้น เหตุใดยังรู้สึกว่าสิงเจียซือยังอยู่ในตัวเลือกแต่งงานอยู่เล่า?

เมื่อคนสกุลสิงกลับมาถึงจวน ฮูหยินรองสิงจึงถามว่าจะทำอย่างไรกับม้าสกุลหัวตัวนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าสิงโบกมือแล้วกล่าว “ใช้แล้ว เจ้าก็ไปเลือกของขวัญตอบแทนสักชิ้นจากคลังเก็บของ ส่งไปขอบคุณสกุลหัวเถอะ”

ฮูหยินรองสิงยิ้มแล้วกล่าว “เจ้าค่ะ ท่านแม่”

วันรุ่งขึ้น จวนหัวพาแม่สื่อไปสู่ขอแต่งงานที่จวนทัง

เหตุการณ์นี้สร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งเมือง

ไม่นานนัก ทุกคนในสกุลสิงก็ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ฮูหยินรองสิงพาสิงเจียเวยเข้าไปข้างในแล้วค้อมคำนับ “คารวะท่านแม่”

ฮูหยินผู้เฒ่าสิงโบกมือ “ลุกขึ้นเถอะ! ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการถามอะไร”

“ท่านแม่ ข้างนอกล้วนเล่าลือออกไปแล้ว สกุลหัวทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?” ฮูหยินรองสิงเอ่ย “สกุลสิงเราอย่างไรก็มีหน้ามีตา สกุลหัวทำเช่นนี้ ไม่เท่ากับเห็นสกุลสิงเราเป็นตัวตลกหรือ”

“เรื่องไม่ทันได้กระจ่างเจ้าก็ตกอกตกใจแล้ว” ฮูหยินผู้เฒ่าสิงเอ่ยอย่างเย็นชา “หลายปีเพียงนี้ ยังไม่คืบหน้าแม้แต่น้อย ข้าจะวางใจมอบสกุลสิงให้เจ้าดูแลได้อย่างไร?”

“ท่านแม่ ลูกกังวลเรื่องเจ้าห้า กังวลเรื่องหน้าตาสกุลสิงเรานะเจ้าคะ” ฮูหยินรองสิงกล่าว

สิงเจียเวยเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ “ท่านย่าอย่าได้โกรธ ท่านแม่ก็มีนิสัยเช่นนี้ ได้ยินเรื่องนี้ก็เกรงว่าท่านย่าจะโมโห ทั้งยังกลัวว่าจะกระทบต่อร่างกายของท่านย่า ถึงได้ใจร้อนไปบ้าง”

“พอแล้ว เรื่องนี้ข้าตัดสินใจ พวกเจ้าก็ไม่ต้องก่อเรื่องอีก” ฮูหยินผู้เฒ่าสิงเอ่ย “ระยะนี้ข้าอยากอยู่เงียบ ๆ สักสองสามวัน พวกเจ้าไม่มีเรื่องก็ไม่ต้องมา”

ฮูหยินรองสิงเม้มปาก “อ้อ เช่นนั้นเจ้าห้า…”

“นางอยากออกไปข้างนอกก็ปล่อยนางไป เพียงแต่ต้องมีคนคอยจับตามองนาง อย่าได้ให้นางไปจากสกุลสิง อย่างน้อยจนกว่าจะแต่งงาน นางก็อยู่ได้แค่สกุลสิงเท่านั้น”

สิงเจียซือฟังสาวใช้ทั้งสองรายงาน จากนั้นก็เอ่ยด้วยความยินดี “ดูเหมือนว่าการแต่งงานระหว่างสกุลทังกับสกุลหัวจะแน่นอนแล้ว เช่นนั้นก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้าอีก”

เพียงแต่ ไม่นานนางก็นึกถึงท่าทีของฮูหยินผู้เฒ่าสิงขึ้นมาได้และรู้สึกว่าตนเองมองข้ามบางอย่างไป

“ฉิงโหรว ฉิงฮุ่ย พวกเจ้าไปถามสถานการณ์ทางเรือนฮูหยินผู้เฒ่าดู” สิงเจียซือกล่าว “ข้าอยากรู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่ากำลังทำอะไร”

ฉิงโหรวกับฉิงฮุ่ยรับคำสั่งแล้วออกไป

ไม่นานนัก ทั้งสองก็กลับมารายงานว่าฮูหยินรองสิงไปหาฮูหยินผู้เฒ่า หลังจากนั้นฮูหยินผู้เฒ่าก็ปิดประตูสนิท กล่าวว่านางต้องการอยู่เงียบ ๆ สักสองสามวัน หลายวันจากนี้ไม่ต้องการให้ผู้ใดรบกวน

“ดูเหมือนฮูหยินผู้เฒ่าจะถูกโจมตีเข้าอย่างจัง” สิงเจียซือเอ่ย

“คุณหนู ท่านอยากไปปลอบหรือไม่เจ้าคะ?”

“ไม่ต้อง” สิงเจียซือเอ่ยเรียบ ๆ “ข้าอยากออกไปสูดอากาศสักหน่อย ที่จวนคงไม่ขวางข้าแล้วกระมัง?”

“ได้ยินว่าคุณหนูออกไปข้างนอกได้ เพียงแต่ต้องมีผู้คุ้มกันติดตามไปด้วยเจ้าค่ะ” ฉิงโหรวเอ่ย

สิงเจียซือขมวดคิ้ว “ดูเหมือนข้าจะยังมีประโยชน์”

เพียงแต่ก็เป็นเช่นนั้น แม่นางจากสกุลชนชั้นสูงมีไว้เพียงเพื่อแต่งงาน แม้ว่าคนสกุลสิงจะไม่ชอบนางมากเพียงใด อย่างไรนางก็ยังคงเป็นแม่นางสกุลสิง อีกทั้งหน้าตาก็ยังพอไปวัดไปวาได้ นับเป็นหมากในการเจรจาต่อรองที่ไม่เลวจริง ๆ จึงไม่อาจปล่อยให้หลุดมือไป

โม่ชิงเหยียนถูกลดขั้นลงสามขั้นในคราวเดียว อีกทั้งยังถูกโยกย้ายไปอยู่ส่วนท้องถิ่น ครอบครัวเขาก็ต้องติดตามไปรับตำแหน่งใหม่ด้วยกัน ขบวนใหญ่เคลื่อนออกจากเมืองหลวงไป

ที่เนินสิบลี้นอกเมือง ทุกคนในสกุลโม่หันกลับไปมองทางเมืองหลวง แต่ละคนมีสีหน้าเศร้าโศก

จากไปครานี้ ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเมื่อใด

“ท่านแม่ ลำบากท่านแล้ว” โม่ชิงเหยียนเอ่ยกับฮูหยินผู้เฒ่าโม่

ถานซื่อส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “ลูกหนอลูก แม่ไม่เข้าใจเรื่องในราชสำนัก ทว่าครั้งอยู่กรมอาญา พระชายาลู่มาพบแม่”

“พระชายาลู่เคยพบท่านหรือ?”

ถานซื่อพยักหน้า “ถึงแม้พระชายาลู่จะไม่ได้กล่าวสิ่งใด ทว่าแม่ยังสัมผัสได้ถึงน้ำใจของนางที่มีต่อแม่ บัดนี้สกุลโม่ถูกดึงลงน้ำขุ่น ทว่านี่เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น แม่เข้าใจสถานการณ์โดยรวมดี”

กองคาราวานกองหนึ่งเคลื่อนใกล้เข้ามา

หัวหน้ากองคาราวานกล่าว “พวกเรากำลังจะไปเมืองจื้อ ทุกท่านจะไปที่ใด?”

“พวกเราก็จะไปเมืองจื้อเช่นกัน” โม่ชิงเหยียนเอ่ย

“ข้าเห็นพวกท่านมีญาติสตรีมากมาย ต้องการร่วมทางกันหรือไม่? พวกเราไปเมืองซานหลินแล้วใช้เส้นทางน้ำกันเถิด”

“ไม่มีสิ่งใดยอดเยี่ยมกว่านี้แล้ว” โม่ชิงเหยียนประกบมือขึ้น “ไม่รู้ว่าสหายท่านนี้มีชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไร?”

“ข้าแซ่ฉิน ท่านเรียกข้าว่านายท่านรองฉินก็พอ”

ถานซื่อกล่าวถาม “ลูกชาย มีอะไรหรือ?”

โม่ชิงเหยียนลดเสียงลงกระซิบ “ท่านนี้คือคนของพระชายา”

“เจ้าแน่ใจหรือ?” ถานซื่อพลันประหลาดใจ

“นายหญิงของกองคาราวานสกุลฉินเป็นมือขวาของพระชายา แรกเริ่มที่พระชายาเริ่มทำการค้า อีกฝ่ายเป็นผู้มีส่วนช่วยเหลือนางอย่างมาก ผ่านไปหลายปี กองคาราวานแผ่ขยายไปทั่วทุกแห่งหน ขนาดของกิจการไม่ได้น้อยไปกว่ากิจการของพระชายา ข้าติดตามทำงานกับท่านอ๋องลู่มาหลายปีเพียงนี้ พอได้ยินเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกองคาราวานสกุลฉินกับพระชายามาบ้างเป็นครั้งคราว ข่าวนี้เชื่อถือได้อย่างแน่นอน”

“เช่นนั้น นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือ…”

“ท่านแม่ ท่านช่างกล้าคาดเดา เป็นอย่างที่ท่านคิด” โม่ชิงเหยียนกระซิบเบา ๆ “เดิมทีข้าไม่ได้ตั้งใจจะบอกท่านเพื่อเลี่ยงไม่ให้ข่าวรั่วไหล เพียงแต่เห็นท่านกังวลเพียงนี้ ข้าจะบอกให้ท่านรู้ ท้ายที่สุดแล้ว การออกจากเมืองหลวงครานี้ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายสำหรับเรา”

ถานซื่อติดตามสามีฝ่าพายุคลื่นลมมาไม่น้อย ไม่จำเป็นต้องให้โม่ชิงเหยียนกล่าวให้ชัดเจน นางก็เข้าใจความนัยจากคำพูดของเขาในบัดดล

“เอาละ พวกเรารีบเดินทางกันเถอะ!”

ใต้เท้าผู้เฒ่าโม่และนายท่านรองฉินกำลังพูดคุยกัน พวกเขากำลังพูดคุยกันเรื่องขนบธรรมเนียมของเมืองจื้อ

“กองคาราวานฉินของเราก็มีกิจการมากมายในเมืองจื้อ ใต้เท้าทุกท่านจะไปรับตำแหน่งที่เมืองจื้อ เช่นนั้นภายหน้าขอใต้เท้าทุกท่านคอยดูแลแล้ว” นายท่านรองฉินกล่าวพลางหัวเราะฮ่า ๆ “แน่นอนว่ากองคาราวานสกุลฉินเราย่อมติดต่อกับเมืองหลวง หากพวกท่านต้องการส่งหนังสืออะไร สามารถใช้บริการของทางเราได้เช่นกัน ความเร็วนั้นเร็วยิ่งกว่าจุดส่งสารของทางการพวกท่านอย่างแน่นอน”

“เช่นนั้น ภายหน้าจะต้องร่วมมือกับนายท่านรองฉินให้มากแล้ว” ใต้เท้าผู้เฒ่าโม่กล่าว “แน่นอนว่า หากนายท่านรองฉินมีอะไรให้พวกเราออกหน้า เพียงแค่เอ่ยปากมา ขอเพียงพวกเราบิดาบุตรช่วยได้ ย่อมทำโดยไม่เกี่ยงงอน”

“ใต้เท้าทั้งสองท่านช่างตรงไปตรงมายิ่งนัก” นายท่านรองฉินแย้มยิ้ม “ฮูหยินทุกท่านร่างกายบอบบาง ขึ้นรถม้าก่อนเถอะ! พวกเราบุรุษจะขี่ม้า ดื่มด่ำกับบุญคุณความแค้น เช่นนี้จะไม่สุขใจได้หรือ?”

ความหดหู่ที่ต้องออกจากเมืองหลวงหายไปกว่าครึ่งด้วยเสียงหัวเราะอย่างเบิกบานใจของนายท่านรองฉิน

ทุกคนในสกุลโม่มองไปข้างหน้าและพลันรู้สึกว่า แม้แสงสายัณห์ไม่สว่างเรืองรอง ทว่ากลับเปี่ยมไปด้วยความหวัง

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท