บทที่ 16 แม่นางฟ้าที่แสนดี
เมื่อสวี่รั่วยีพูดจบ ก็ตกใจที่เมื่อสักครู่ตัวเองพูดเสียงดัง ไม่สมกับเป็นคุณหนูผู้ดีอีกต่อไป เธอจึงรีบปิดปากเงียบ แล้วแสร้งไอสองสามครั้งเหมือนไม่สบาย จากนั้นก็หลุบตาลงต่ำด้วยท่าทางน่าสงสาร
เมื่อกี้บุ่มบ่ามมากเกินไปแล้ว!
แม้ว่าสวี่รั่วยีจะป่าวประกาศกับคนอื่นไปทั่วว่าตัวเองเป็นคู่หมั้นของลี่ถิงเซิ่ง และเป็นว่าที่คุณนายลี่
แต่ลี่ถิงเซิ่งก็ไม่เคยยอมรับต่อหน้าสาธารณชนเลยสักครั้ง
สิ่งนี้ทำให้สวี่รั่วยีว้าวุ่นอยู่เสมอ
โดยเฉพาะตอนนี้ หลังจากที่ลี่ถิงเซิ่งได้ยินที่เธอพูดออกมาเมื่อสักครู่ คิ้วคมเข้มก็ปรากฏแววรังเกียจออกมาจางๆ
เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เม้มริมฝีปากเบาๆ พร้อมกับปรายตามองเธอ
หัวใจของสวี่รั่วยีหล่นวูบ
“อ๋า ที่แท้ก็เป็นคู่หมั้นของประธานลี่นี่เอง บังเอิญจังเลยนะ” สวี่รั่วฉิงยิ้มสวยออกมา ดวงตาเป็นประกายสดใสไร้ความหวาดหวั่นใดๆทั้งสิ้น
“ในเมื่อคุณสวี่คือคู่หมั้นของประธานลี่ งั้นก็ไม่จำเป็นต้องขอโทษอะไรหรอก ถึงยังไงนอกจากคุณกับฉันแล้ว ก็ไม่มีใครรู้เรื่องที่คุณสวี่สร้างความเสียหายให้ชื่อเสียงของฉัน เรื่องนี้ก็ให้มันจบแค่นี้เถอะ ยังไงซะในระหว่างที่คุณสวี่ยังไม่แต่งงานฉันก็ยังต้องทำงานอยู่ที่นี่ ถ้าหากถูกประธานลี่กลั่นแกล้งขึ้นมาคงไม่สนุกแน่”
หลี่อานที่ยืนอยู่ข้างๆยืนอึ้ง
คู่หมั้นหมิ่นประมาทผู้ช่วย? ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ายังไงประธานลี่ก็ต้องเข้าข้างคุณสวี่รั่วยีอยู่แล้ว!
คำพูดที่ผู้ช่วยแอนพูดออกมาเมื่อสักครู่ต้องไปกระตุกต่อมโมโหของประธานลี่แน่!
หลี่อานแอบส่งสายตาหวังดีให้สวี่รั่วฉิง
ใครจะไปรู้ว่าจะไม่ได้รับปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมาเลย!
สวี่รั่วฉิงอยู่ห่างจากลี่ถิงเซิ่งไม่ถึงเมตร กลิ่นหอมอ่อนๆบนตัวของเธอจึงโชยเข้ามาในประสาทสัมผัสของเขาอย่างต่อเนื่อง จนกัดกร่อนความคิดของเขา
น้ำหอมราคาแพงบนตัวของสวี่รั่วยี กลายเป็นของไร้ราคาไปทันที จนทำให้ลี่ถิงเซิ่งรู้สึกอยากอ้วกออกมา
เขาเงยหน้าขึ้นมา แล้วเหลือบมองหลี่อานอย่างเย็นชา “ไปเปิดหน้าต่าง”
พูดจบ สายตาของลี่ถิงเซิ่งก็หันกลับมามองสวี่รั่วฉิงอีกครั้ง
ผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างน่าสนใจ ทั้งๆที่ในใจอยากให้สวี่รั่วยีเอ่ยขอโทษเธอ แต่ปากกลับไม่พูดออกไปตรงๆ!
แถมจู่ๆก็วกเข้ามาพูดเรื่องที่เขาจะกลั่นแกล้งเธอด้วย
มุมปากของลี่ถิงเซิ่งแอบแฝงไปด้วยรอยยิ้มมีความหมาย ดวงตาลึกล้ำหรี่ลง มองข้ามท่าทางกระอักกระอ่วนของสวี่รั่วยี พร้อมกับเอ่ยพูดเนิบนาบว่า
“ผู้ช่วยแอน กล้าดีนี่ กล้าพูดว่าเจ้านายจะกลั่นแกล้งตัวเองต่อหน้าเจ้านายเลยเหรอ?”
ลี่ถิงเซิ่งเอ่ยเตือน ในน้ำเสียงกลับพกพาความขี้เล่นมาด้วย
สวี่รั่วยีที่ถูกชายหนุ่มมองข้าม รู้สึกกรุ่นโกรธจนแทบระเบิดออกมา แต่ติดภาพลักษณ์คุณหนูแสนดีผู้อ่อนโยน จึงไม่กล้าระเบิดอารมณ์
ไม่อย่างนั้นเธอคงฟาดหน้านังผู้หญิงชั้นต่ำคนนี้ไปตั้งนานแล้ว!
เพราะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน สวี่รั่วยีจึงรู้สึกไม่สบายใจ
ตั้งแต่หกปีก่อนที่เธอวางแผนทำร้ายสวี่รั่วฉิง เธอก็มักจะอ้างสถานะคู่หมั้นเพื่อคบกับลี่ถิงเซิ่งมาตลอด
เวลาหกปีเต็ม แต่กลับไม่เคยเห็นแววตาของลี่ถิงเซิ่งมองผู้หญิงคนไหนเหมือนที่มองนักปรุงน้ำหอมคนนี้เลยสักครั้ง!
แววตาที่เหมือนกับนักล่าเวลาเจอเหยื่อ ค่อยๆตะล่อมช้าๆ สุดท้ายก็พุ่งจู่โจม
หน้าตาของแอนนาก็เป็นที่น่าอิจฉาของผู้หญิงจริงๆนั่นแหละ ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือ ทุกการกระทำและการเคลื่อนไหวล้วนแล้วแต่น่ามอง เหมือนมีพรสวรรค์เรื่องดึงดูดเพศชายอย่างไรอย่างนั้น!
สายตาที่สวี่รั่วยีมองสวี่รั่วฉิง นอกจากความอิจฉาแล้ว ยังมีความมาดร้ายอีกด้วย
เธอจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาแย่งลี่ถิงเซิ่งไปทั้งนั้น
เขาต้องเป็นของเธอคนเดียว ใครก็แย่งไปไม่ได้!
“ประธานลี่ คุณเข้าใจประเด็นสำคัญผิดไปหรือเปล่า?” สวี่รั่วฉิงหมดคำจะพูด
ประเด็นของเธอก็คือเธอกำลังโยนความผิดไปให้สวี่รั่วยี ถ้าหากวันไหนเธอเจอเหตุไม่คาดฝัน สวี่รั่วยีก็จะตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรกยังไงล่ะ
ลี่ถิงเซิ่งหยักยิ้มมุมปากกว้างกว่าเดิม
เขารู้ว่าแอนนาเป็นคนรอบคอบตั้งแต่ได้อ่านจดหมายที่ส่งมาคฤหาสน์แล้ว
ลี่ถิงเซิ่งไม่เคยรู้สึกสนุกและทนเล่นละครกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย แต่แอนนาที่น่าค้นหาคนนี้กลับทำให้เขาเกิดความสนใจ
“ถิงเซิ่ง……..” สวี่รั่วยีรู้สึกเสียหน้า จึงเอ่ยเรียกเสียงออดอ้อน
เพื่อไม่ให้ลี่ถิงเซิ่งโกรธ เธอยอมขอโทษแอนนาก็ได้
แต่ว่าเธอต้องขอโทษแอนนา ในขณะที่ตอนนี้มีคนอื่นอยู่ในห้องด้วย ไหนจะคำพูดเยาะเย้ยถากถางของแอนนาเมื่อกี้นี้อีก
เธอเคยต้องมาทำอะไรแบบนี้ซะเมื่อไหร่!
ลี่ถิงเซิ่งแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินน้ำเสียงออดอ้อนของสวี่รั่วยี “สวี่รั่วยี เวลาผมมีน้อย”
หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ไม่ว่างมาเสียเวลากับเธอ ควรรีบพูดขอโทษแล้วกลับบ้านไปซะ
เมื่อสวี่รั่วยีเข้าใจความหมายที่ลี่ถิงเซิ่งต้องการจะสื่อ สีหน้าก็ซีดเผือด
บรรยากาศภายในห้องทำงานตกอยู่ในความเงียบ
สวี่รั่วฉิงเลิกคิ้วเรียวสวยขึ้นอย่างสงสัย
ความสัมพันธ์ระหว่างลี่ถิงเซิ่งกับสวี่รั่วยี ไม่เหมือนที่เธอคิดเอาไว้เหรอ?
ถ้าตามข่าวลือ ทั้งสองคนรักกันมาก แต่ทำไมบรรยากาศในตอนนี้มันแปลกๆ
แม้ว่าตัวเองจะไม่เคยมีความรัก แต่ก็เคยได้ยินและเคยเห็นมาบ้าง
คนรักกันไม่ใช่แบบนี้สักหน่อย
หรือว่าน้องสาวสุดที่รักของเธอกับลี่ถิงเซิ่งมีความลับอะไรที่คนอื่นยังไม่รู้?
“แอนนา ฉันขอโทษ ต่อไปนี้ฉันจะไม่กล่าวหาอาชีพของเธอโดยที่ไม่มีหลักฐาน” ใบหน้าของสวี่รั่วยีซีดขาว กรอบตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา จนดูน่าสงสาร
แม้แต่สวี่รั่วฉิงก็เกือบจะติดกับดักอีกฝ่าย
โถ่ แม่นางฟ้าที่แสนดี
หกปีก่อนก็เป็นอย่างนี้แหละ ใช้รูปลักษณ์ซื่อๆใสๆมาหลอกเธอ จนสุดท้ายเธอก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงขอโทษ น้ำตาก็พรั่งพรูออกมาไม่หยุด
เธอร้องไห้อยู่ตั้งนาน ก็ไม่มีใครเข้ามาพูดปลอบเลยเหรอ?
สวี่รั่วยีกัดริมฝีปากตัวเอง แล้วช้อนตาขึ้นมาอย่างกล้าๆกลัวๆ “ถิงเซิ่ง ฉันขอโทษแล้ว คุณพอใจหรือยัง?”
สวี่รั่วฉิงหมดคำจะพูด
ที่ยอมก้มหัวขอโทษก็เพราะลี่ถิงเซิ่งงั้นเหรอ?
ลี่ถิงเซิ่งกวาดสายตามองสวี่รั่วยีที่กำลังร้องไห้น้ำตาอาบหน้า จากนั้นก็เอ่ยพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณขอโทษแอนนา ไม่ใช่ขอโทษผม”
พูดจบ เขาก็เอ่ยสั่งหลี่อานว่า “ให้คนขับรถพาเธอกลับไป”
สวี่รั่วยีไม่อยากจะเชื่อ
เธอขอโทษก็แล้ว ร้องไห้ก็แล้ว ลี่ถิงเซิ่งก็ยังจะไล่เธอกลับอีกเหรอ?
“ถิงเซิ่ง วันนี้ฉันขออยู่ที่นี่อีกสักหน่อย…….”
ปกติลี่ถิงเซิ่งไม่อนุญาตให้เธอมาที่ลี่ซื่อกรุ๊ป
ถึงแม้ว่าสื่อจะเล่นข่าวความสัมพันธ์ของพวกเขาสักเท่าไหร่ แต่เธอก็ไม่เคยได้มาที่ลี่ซื่อกรุ๊ปด้วยตัวเองเลยสักครั้ง จนพนักงานที่นี่แทบจะไม่รู้เลยว่าประธานของพวกเขามีคู่หมั้นแล้ว!
คงต้องระวังผู้หญิงแบบแอนนาเป็นพิเศษ
ท่าทีที่ลี่ถิงเซิ่งมีต่ออีกฝ่าย ดีกว่าท่าทีที่มีต่อสวี่รั่วยีเป็นไหนๆ
อีกฝ่ายก็แค่ผู้ช่วยปรุงน้ำหอมที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งชั่วคราว แต่เธอคือคนที่ได้อยู่ข้างๆลี่ถิงเซิ่งตั้งหกปีเลยนะ!
“สวี่รั่วยี คุณลืมแล้วเหรอ?” สายตาดุดันมองลี่ถิงเซิ่งทอดมองมาที่เธอ ไหล่ของสวี่รั่วยีสั่นระริก
สายตาของเขาเย็นชาเป็นอย่างมาก!
ลี่ถิงเซิ่งค่อยๆขยับปาก จากนั้นเสียงพูดสุดแสนจะเย็นชาก็สะท้อนเข้ามาในหูทุกคน
“ที่นี่คือลี่ซื่อกรุ๊ป ส่วนคุณคือคนของสวี่ซื่อกรุ๊ปที่อยากอยู่ต่อ เพราะคิดจะขโมยข้อมูลของบริษัทผมเหรอ