บทที่ 7 ถึงเธอจะหน้าตาสวย แต่ก็อย่าคิดให้มันสวยหรูเกินไป
นิ้วเรียวยาวของสวี่รั่วฉิงค่อย ๆ เคาะตัวหนังสือขึ้นบนแป้นพิมพ์ขึ้นมาประโยคหนึ่ง
“ได้รับเงินแล้ว”
แล้วก็ใช้เม้าท์เลือกส่งออก แล้วกดส่งไป
สวี่รั่วยีที่ได้รับอีเมลตอบกลับของสวี่รั่วฉิง ก็ดีอกดีใจเป็นอย่างมาก
แล้วความหงุดหงิดที่โดนลี่ถิงเซิ่งปฏิบัติอย่างเย็นชาใส่ ก็ลดไปได้หลายส่วน
แอนนานักปรุงน้ำหอมอันดับหนึ่งของโลก ตอนนี้มีแต่เธอเท่านั้นที่จะสามารถแก้ไขปัญหาให้กับตัวเองได้
ขอแค่แอนนาปรุงน้ำหอมสูตรนั้นออกมาได้ ลี่ถิงเซิ่งก็คงจะไม่รังเกียจเธอเหมือนอย่างตอนนี้แล้ว!
สวี่รั่วยีโดนความดีอกดีใจพุ่งขึ้นมาจนสมองเบลอไปแล้ว และแทบจะไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าที่อยู่ที่สวี่รั่วฉิงส่งมานั้นเป็นตึกสำนักงานใหญ่ลี่ซื่อกรุ๊ป!
“คุณแม่ จะช่วยผู้หญิงชั่วคนนั้นปรุงน้ำหอมจริง ๆ เหรอคะ?” สวี่อี้หานเห็นยอดค่าตอบแทนสูงบนโทรศัพท์ของแม่แล้ว ก็แบะปากเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมแม่จะต้องช่วยผู้หญิงชั่วคนนั้นปรุงน้ำหอมด้วย เธอคู่ควรด้วยเหรอคะ?”
คนอื่นเขามาขอให้แม่ปรุงน้ำหอมให้ ไม่เพียงแต่ต้องจ่ายเงินจำนวนมาก ยังจะต้องมาเยี่ยมเยียนถึงที่ด้วย
แต่ผู้หญิงชั่วคนนั้น แค่ส่งอีเมลมาไม่กี่ฉบับแม่ก็จะปรุงน้ำหอมให้แล้ว นี่มันช่างให้เธอเอารัดเอาเปรียบจริง ๆ!
สวี่อี้หานกำหมัดเล็ก ๆ ของตัวเองไว้แน่น แล้วก็หึเสียงเย็นทีหนึ่ง
สวี่รั่วฉิงเก็บโทรศัพท์กลับมาอย่างน่าขำ แล้วก็ปิดคอมพิวเตอร์ลง มือเรียวขาวใสขยี้ผมของสวี่อี้หานเบา ๆ ที่มุมปากมีรอยยิ้มที่มีความหมายว่าทุกอย่างอยู่ในแผนการแฝงอยู่ “มีเงินเข้ามาทำไมจะไม่เอาล่ะ? และที่สำคัญแม่ก็ไม่มีทางที่จะช่วยเธอปรุงน้ำหอมตามที่เธอต้องการอย่างแท้จริงด้วย”
สวี่อี้ฝานและสวี่อี้หานมองสบตากันทีหนึ่ง แล้วเอียงหัวเล็กน้อย นี่แม่หมายความว่ายังไงกันเนี่ย?
สวี่รั่วฉิงไม่ได้อธิบายกับเจ้าตัวเล็กทั้งสองคน หลังจากที่เก็บกวาดข้าวของบนโต๊ะหนังสือเสร็จแล้ว ก็จูงมือเจ้าตัวเล็กทั้งสองไว้ “เอาล่ะ งานของแม่ทำเสร็จแล้ว! ตอนนี้เราควรจะไปอาบน้ำเตรียมตัวนอนกันได้แล้ว!”
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงอาบน้ำให้สวี่อี้ฝานและสวี่อี้หานเสร็จ และก็พาเข้านอนเรียบร้อยแล้ว ก็มาเปิดโคมไฟขึ้น แล้วยกโน้ตบุ๊คมาและเริ่มต้นตรวจค้นดูขอบเขตงานของลี่ถิงเซิ่งที่อยู่ในบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปในหลายปีมานี้อย่างละเอียด
ในเมื่อลี่ถิงเซิ่งยอมตอบตกลงในคำขอสมัครตำแหน่งผู้ช่วยของตัวเองแล้ว แน่นอนว่าหน้าที่รับผิดชอบในงานเธอก็จะต้องทำให้ดีอยู่แล้ว
ในตอนที่สมัครนั้นตัวเองได้เอ่ยถึงสองสามีภรรยาฮิลล์แล้ว ก็จะต้องเอาน้ำหอมที่สามารถให้สองสามีภรรยาฮิลล์ชื่นชมตัวเองมากขึ้นออกมาได้
ไม่งั้นถ้าอยากจะให้สองสามีภรรยาฮิลล์มาร่วมงานกับลี่ถิงเซิ่งได้ ความยากก็จะสูงมากแน่
สวี่รั่วฉิงกดหัวคิ้วที่เหนื่อยล้าของตัวเองไปอย่างน่าปวดหัว เธอคิดวิเคราะห์อย่างยากลำบากว่าจะปรับแก้ไขยังไงดี แล้วผ่านไปไม่นานก็เผลอนอนหลับไป
วันรุ่งขึ้น สวี่รั่วฉิงใส่แว่นกันแดดสีดำไว้อันหนึ่ง พอเหยียบเข้ามาในตึกสำนักงานลี่ซื่อกรุ๊ป ก็เดินไปถึงหน้าฟร้อน แล้วเอานิ้วมือเคาะโต๊ะทีหนึ่ง แล้วก็พูดกับพนักงานต้อนรับด้วยความมีเสน่ห์มากมายขึ้นว่า “มีพัสดุของฉันไหม?”
พนักงานต้อนรับเงยหน้าขึ้นมาดู
นี่มันผู้หญิงคนเมื่อวานที่มาโหวกเหวกโวยวายว่าจะขอเข้าพบประธานลี่ไม่ใช่เหรอ!
วันนี้ทำไมมาอีกแล้วล่ะ ยังมาถามว่ามีพัสดุของเธออีกหรือเปล่า
ผีเท่านั้นที่รู้ว่าเธอชื่ออะไร?
แล้วก็ไม่ได้เป็นพนักงานของลี่ซื่อกรุ๊ปสักหน่อย ใครจะส่งพัสดุมาให้เธอที่นี่ได้ล่ะ? คงจะไม่ใช่เพราะว่าเมื่อวานโดนประธานลี่พาตัวไปแล้ว ก็ได้ใจขึ้นมา สมองก็เลยมีปัญหาไปแล้วหรอกมั้ง
แววตาที่พนักงานต้อนรับมองไปที่สวี่รั่วฉิงยังไงก็มีแววรังเกียจอยู่บ้าง
“คุณผู้หญิงท่านนี้ บริษัทของเรารับแค่พัสดุของพนักงาน คุณไม่ได้เป็นพนักงานของเราสักหน่อย ใครจะส่งพัสดุมาที่บริษัทได้ล่ะ?”
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงฟังจบแล้ว ปากแดงระเรื่อก็คลี่ออก นิ้วมือเรียวยาวถอดแว่นกันแดดออก แล้วก็เปิดเผยรูปโฉมที่ทำให้พนักงานต้อนรับถึงกับต้องสูดลมหายใจเข้าทีหนึ่งออกมา
เรียวปากแดงบนล่างกระทบกับเบา ๆ นิ้วมือยันอยู่บนโต๊ะหน้าฟร้อน “เมื่อวานประธานลี่รับฉันเข้ามาเป็นผู้ช่วยของเขาแล้ว ถ้าหากไม่เชื่อละก็ คุณสามารถโทรศัพท์หาเขาได้ หรือว่า……โทรหาผู้ช่วยของเขา”
พนักงานต้อนรับจ้องมองสวี่รั่วฉิงอย่างอึ้ง ๆ
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ท่ามกลางความมีเสน่ห์แฝงไว้ด้วยความสง่างาม เสื้อเชิ้ตOLสีขาวทำให้เห็นรูปร่างที่เรียวบางของเธอ
แต่กลับมีดวงตาที่สว่างสดใสชัดเจนคู่หนึ่ง ที่มองทีเดียวก็สามารถมองถึงก้นบึ้งได้เลย
“เป็นไง จ้องจนอึ้งไปเลยเหรอ?” พอสวี่รั่วฉิงเห็นท่าทางที่นิ่งอึ้งของพนักงานต้อนรับ เรียวปากแดงก็คลี่ยิ้มที่มีเสน่ห์ออกมา “ฉันรู้ว่าตัวเองสวยมาก แต่ถ้าคุณดูจนอึ้งไปแบบนี้ คนที่เดือดร้อนจะเป็นฉันได้ รีบยืนยันกับผู้ช่วยของประธานลี่สักหน่อย ถามว่าวันนี้จะมีผู้ช่วยใหม่มารายงานตัวใช่หรือเปล่า”
พอพนักงานต้อนรับตั้งสติกลับมาได้ ก็มองสวี่รั่วฉิงอย่างสงสัยทีหนึ่ง
สวี่รั่วฉิงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างใจกว้าง ไม่ได้สนใจแววตาที่คนรอบข้างมองมาที่ตัวเองเลยสักนิด
หน้าตาสะสวยยังจะโทษเธออีกเหรอ?
พนักงานต้อนรับโทรศัพท์ออกไปสายหนึ่ง และอย่างรวดเร็วโทรศัพท์ก็มีคนรับสายแล้ว
“ผู้ช่วยหลี่ ที่หน้าฟร้อนมีผู้หญิงคนหนึ่งมาบอกว่าเป็นผู้ช่วยของประธานลี่ จะปล่อยให้เข้าไปไหมคะ?”
“ให้เธอขึ้นมาเถอะ ต่อไปเธอจะมาเป็นผู้ช่วยของประธานลี่ และจะทำงานร่วมกับผม”
พนักงานต้อนรับอึ้งไปครู่หนึ่ง ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ที่ดูแล้วมีแต่เปลือกนอก แต่กลับเป็นผู้ช่วยของประธานลี่จริง ๆ
เธอวางโทรศัพท์ลงอย่างเขินอาย แล้วไอเบา ๆ ขึ้นทีหนึ่ง “ผู้ช่วยหลี่บอกว่า ให้คุณขึ้นไปได้ค่ะ”
สวี่รั่วฉิงจ้องมองเธอแล้วยิ้มอ่อน ๆ จ้องจนเธอขนลุกซู่
“ยังมีอะไรอีกคะ?” น้ำเสียงพนักงานต้อนไม่ค่อยดีเท่าไหร่
นิ้วมือของสวี่รั่วฉิงเคาะขอบโต๊ะเบา ๆ ทีหนึ่ง “มีพัสดุด่วนของฉันไหม? ชื่อผู้รับคือแอนนา ช่วยเช็กให้หน่อยค่ะ”
ผ่านไปไม่กี่นาที สวี่รั่วฉิงก็เป็นเหมือนกับผู้ชนะคนหนึ่ง เดินเชิดลำคอที่ยาวราวกับหงส์ของเธอ แล้วถือพัสดุที่สวี่รั่วยีส่งมาให้ แล้วเดินเข้าลิฟต์ไป
ในห้องทำงานประธานกรรมการของลี่ถิงเซิ่ง ยึดครองพื้นที่ชั้นบนสุดของตึกสำนักงานใหญ่ของลี่ซื่อกรุ๊ปไป
สวี่รั่วฉิงเพิ่งก้าวออกจากลิฟต์ ก็เห็นหลี่อานยืนรอตัวเองอยู่ในที่ไม่ไกลนัก
หลี่อานเหล่มองพัสดุที่อยู่ในมือสวี่รั่วฉิงทีหนึ่ง “มาที่ห้องทำงานผมหน่อย สำหรับการจัดการตารางงานของประธานลี่ คุณจะต้องทำความเข้าใจสักหน่อย”
แววตาของเขาวิเคราะห์พิจารณาสวี่รั่วฉิงตั้งแต่หัวจรดเท้า
เมื่อวานสวี่รั่วฉิงออกไปจากห้องทำงานของประธานลี่ เขายังนึกว่าประธานลี่ไม่มีทางเอาผู้หญิงคนนี้มาเป็นผู้ช่วยแน่ แต่ใครจะไปนึกว่าต่อมาประธานลี่จะบอกกับเขาอย่างง่ายดายว่า ผู้หญิงที่แซ่อานคนนี้โดนรับเข้าทำงานแล้ว
โดนรับเข้าแล้วเหรอ? หลี่อานติดตามอยู่ข้างกายลี่ถิงเซิ่งมาหลายปีนี้ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นคนที่พึ่งแค่รูปลักษณ์ก็สามารถได้รับความโปรดปรานของประธานลี่ได้
หลี่อานเอาสมุดจดบันทึกเล่มหนา ๆ เล่มหนึ่งยื่นให้กับสวี่รั่วฉิง “คุณสวี่ นี่เป็นการจัดตารางงานในครึ่งปีของประธานลี่ ต่อไปคุณรับผิดชอบจัดตารางงานและเรื่องส่วนตัวทั้งหมดของประธานลี่ อย่างเช่นต้องพูดคุยกับใคร ต้องสังสรรค์กับใคร ต้องไปร่วมงานราตรีอะไรบ้าง และต้องไปเข้าร่วมการรับเชิญของใครบ้าง”
การจัดการเรื่องส่วนตัวก็จะต้องให้เธอมารับผิดชอบเหรอ? สวี่รั่วฉิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา
“ผู้ช่วยหลี่ ฉันขอถามอะไรหน่อยซิ การจัดการเรื่องส่วนตัว จะต้องส่วนตัวถึงขั้นไหนเหรอคะ?”
“ส่วนตัวจนถึงขั้นที่คุณสามารถนึกออกได้”
“หรือว่ารวมไปถึงเรื่องบนเตียงด้วยเหรอ?”
มุมปากของหลี่อานกระตุกขึ้นทีหนึ่ง เขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วก็วิเคราะห์ผู้ช่วยประธานลี่ที่เพิ่งมาใหม่ตรงหน้าคนนี้อีกครั้ง “แอนนา ถึงหน้าตาคุณจะสะสวย แต่ก็อย่าคิดให้มันสวยหรูมากเกินไปเลย”
ผู้หญิงที่อยากจะปีนขึ้นเตียงของประธานลี่มีไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ แต่ว่าเมื่อพวกเธอเจอเข้ากับคนคนนั้นที่เรียกตัวเองว่าเป็นว่าที่ภรรยาของประธานลี่สวี่รั่วยีเข้า ก็พ่ายแพ้กันไปหมด
สวี่รั่วฉิงโล่งอกไปได้ทีหนึ่ง แล้วความเคร่งเครียดก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง
ตัวเองอยากจะแก้แค้นสวี่รั่วยี แล้วแย่งเอาทุกอย่างที่เป็นของตัวเองกลับคืนมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอยากจะใช้ร่างกายของตัวเองมาเป็นข้อแลกเปลี่ยนหรอกนะ
ถ้าหากว่าไม่ใช่ลี่ถิงเซิ่ง ตอนนั้นเธอก็คงจะไม่ต้องโดนสวี่รั่วยีหมายหัวไว้หรอก
พูดจนสุดแล้ว ลี่ถิงเซิ่งก็เป็นสาเหตุหลักที่ผลักดันให้สวี่รั่วยีมาปองร้ายตัวเอง
พอหลี่อานเห็นปฏิกิริยาของสวี่รั่วฉิง ก็เม้มปากขึ้นทีหนึ่ง
ผู้หญิงอย่างแอนนานี่คิดยังไงอยู่นะ พอได้ยินว่าไม่ต้องขึ้นเตียง ทำไมกลับดูโล่งใจไปอย่างนี้ล่ะ?
หลี่อานส่ายหน้าเล็กน้อย หรือว่าเธอกลัวว่าประธานลี่จะมีความชอบอะไรที่บอกกับคนอื่นไม่ได้? เพราะฉะนั้นถึงได้รู้สึกกลัวเหรอ?