บทที่ 1044 สกุลฉินโดนโจมตีอย่างหนัก
บทที่ 1044 สกุลฉินโดนโจมตีอย่างหนัก
เมืองฮู่เป่ย
มู่ซืออวี่เดินอยู่ในเมืองฮู่เป่ย มองดูผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา นางมักจะรู้สึกเสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ใช่แล้ว! สภาพจิตใจของผู้คนดูย่ำแย่ลง ไม่แจ่มใสมีชีวิตชีวาอย่างเมื่อก่อน นอกจากนี้ ยังมีความโศกเศร้า ราวกับว่ากำลังมีความทุกข์ด้วย
มู่ซืออวี่พาทุกคนไปถึงหน้าประตูจวนฉิน
“พระชายาลู่รึ?” บ่าวรับใช้จวนฉินได้ยินคำจากชิงไต้ จึงเหลือบมองมู่ซืออวี่และลู่จื่ออวิ๋นด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปรายงาน
“บ่าวรับใช้ในจวนฉินเหล่านี้ก็แปลกพิกลเช่นกัน” ลู่จื่ออวิ๋นกล่าว “พวกเขาดูตื่นเต้นมาก ราวกับกำลังคาดหวังว่าท่านแม่จะปรากฏตัว หรือจวนฉินเกิดอะไรขึ้นแล้ว?”
“ประเดี๋ยวก็จะรู้เอง”
ไม่นานนัก แม่นมข้างกายเจิ้งซูอวี้ก็ออกมาต้อนรับ
“พระชายา ในที่สุดท่านก็มาหาฮูหยินของเราแล้ว” พอแม่นมเฒ่าเห็นมู่ซืออวี่ก็คุกเข่าลงโดยพลัน
บ่าวรับใช้คนอื่น ๆ ตามมาพร้อมทั้งคุกเข่าลงเช่นเดียวกัน
มู่ซืออวี่พยุงแม่นมเฒ่าขึ้น “ฮูหยินพวกเจ้าไม่อยู่หรือ?”
หากเจิ้งซูอวี้อยู่ที่บ้าน นางจะต้องออกมาทักทายอย่างแน่นอน
“ฮูหยินอยู่เจ้าค่ะ” แม่นมเฒ่ายืนขึ้นโดยมีมู่ซืออวี่คอยพยุง “เพียงแต่ฮูหยินของเราป่วยจนไม่อาจมาคารวะพระชายาด้วยตนเองได้ พระชายาโปรดอภัย”
มู่ซืออวี่เดินตามแม่นมเฒ่าเข้าไป
“นางเป็นโรคอะไร?”
“ฮูหยินป่วยเป็นโรคทางใจเจ้าค่ะ” แม่นมเฒ่าถอนหายใจ “เรื่องนี้กล่าวไปแล้วก็ยาวยิ่ง ในเมื่อพระชายาอยู่ที่นี่แล้วก็อยู่เป็นเพื่อนฮูหยิน คอยปลอบใจนางเถิดเจ้าค่ะ จะดีที่สุดหากพระชายาตัดสินให้ฮูหยินของเราได้”
“ดูเหมือนครานี้เรื่องจะยุ่งยากเล็กน้อย” มู่ซืออวี่เอ่ย “มิเช่นนั้นฮูหยินของพวกท่านคงไม่ป่วยเป็นโรคทางใจ ข้าเห็นคนในเมืองก็มีทีท่ากังวลเช่นกัน เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
“เรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับสกุลฉินของเราเช่นกัน ประเดี๋ยวพระชายาพบฮูหยินก็สอบถามนางได้เจ้าค่ะ นางจะอธิบายทุกอย่างให้ท่านฟังเอง”
มู่ซืออวี่เข้าไปในเรือนของเจิ้งซูอวี้
“เหตุใดเรือนหลังนี้จึงไม่เหมือนคราวที่แล้ว?” มู่ซืออวี่มองไปรอบๆ “ไกลจากประตูใหญ่ยิ่งนัก อีกทั้งยังโดดเดี่ยวเพียงนี้ ในฐานะนายหญิงสกุลฉิน เหตุใดนางจึงย้ายมาอยู่ที่นี่?”
“เฮ้อ…” ใบหน้าของแม่นมเฒ่าเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
“ข้ามองออกแล้ว คราวนี้เกิดเรื่องกับสกุลฉินแล้วใช่หรือไม่?”
“เจ้าค่ะ”
มู่ซืออวี่เข้าไปในเรือน
บ่าวรับใช้ทั่วทั้งเรือนคุกเข่าลงคำนับ
มู่ซืออวี่มองดูบ่าวรับใช้ในเรือนและสัดส่วนของเรือน
บ่าวรับใช้ไม่น้อย เรือนได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้นายหญิงของสกุลต้องอับอาย
สาวใช้เปิดม่านเชิญมู่ซืออวี่และลู่จื่ออวิ๋นเข้าไป
มู่ซืออวี่มองเข้าไปในห้อง มองดูรอบ ๆ ก่อนจะเห็นเจิ้งซูอวี้นอนอยู่บนเบาะนุ่ม
เจิ้งซูอวี้สวมผ้าคาดหน้าผาก เอนตัวอยู่ตรงนั้นอย่างไร้ชีวิตชีวา ดวงตาของนางปรือปรอย ดูเหมือนนางจะหลับไปแล้ว ทว่าขนตาของนางยังคงขยับ
ดวงหน้าของเจิ้งซูอวี้ซีดเซียว ไร้เรี่ยวแรง ดูเหมือนจะไม่สบายมาได้ระยะหนึ่งแล้ว
“สหายเก่ามาถึงแล้ว เจ้ากลับไม่มาทักทายข้าแม้แต่น้อย มัวหลบซ่อนอยู่ที่นี่ หรือว่ารู้ว่าข้าไม่สนใจเจ้า เลยทำเป็นไม่สนใจข้าเช่นนี้?” มู่ซืออวี่เดินเข้าไป
เจิ้งซูอวี้ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของมู่ซืออวี่ แววตาของนางเผยความประหลาดใจและสับสน จากนั้นนางก็ลุกขึ้นนั่งอย่างยินดี อย่างไรก็ตาม นางลุกขึ้นกะทันหันเกินไปจึงเกือบจะล้มลง โชคดีที่สาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ นางคอยพยุงเอาไว้
“เจ้ากลับมาได้อย่างไร?” เจิ้งซูอวี้กล่าว “ข้ารู้แล้ว เป็นเพราะสถานการณ์ในลานหรรษากระมัง?”
“เจ้าเขียนจดหมายถึงข้า ข้าอ่านแล้วก็จดจำไว้ในใจ เพียงแต่ระหว่างทางข้าต้องจัดการเรื่องอื่นทำให้ล่าช้าไปบ้าง เจ้าเป็นอะไรไปหรือ? เหตุใดดูอ่อนแอเพียงนี้ ข้าแทบจำเจ้าไม่ได้แล้ว”
“เจ้ามาก็ดีแล้ว ข้ากำลังคิดถึงเจ้าอยู่พอดี” เจิ้งซูอวี้เอนตัวอยู่ตรงนั้น “ข้าทำให้เจ้าขบขันแล้ว ที่บ้านข้ามีปีศาจ เพื่อปีศาจผู้นั้น ข้ากลับทำให้ตนเองล้มป่วย หลายวันมานี้กลับไม่ดีขึ้นเลย…”
“ปีศาจอะไร?”
“สามีของข้าแต่งภรรยารอง” เจิ้งซูอวี้เอ่ยด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “บุรุษหนอ สามภรรยาสี่อนุก็เป็นเรื่องธรรมดา เขาอยู่กับข้ามาหลายปีแล้ว หากไม่มีอนุก็นับว่าน่าแปลก เราไม่อาจคาดหวังให้ทุกคนเป็นอย่างท่านอ๋องลู่ที่รักท่านปานขุนเขาปานมหาสมุทรได้ ข้าเข้าใจจึงไม่อยากเอาจริงเอาจังกับตนเองอีก”
“นางมาจากที่ใด?” มู่ซืออวี่ถาม “เจ้าบอกข้ามาให้ละเอียด หากเอ่ยถึงแล้วไม่สบายใจก็ให้บ่าวรับใช้มาอธิบายให้ข้าฟัง ข้าอยากรู้นักว่าเป็นนางปีศาจมาจากที่ใดจึงทำให้เจ้าทุกข์ตรมเพียงนี้”
“ไม่สำคัญ ข้าปล่อยวางไปนานแล้ว” เจิ้งซูอวี้กล่าว “เจ้าไม่อยู่ ข้าไม่มีผู้ใดให้พูดคุย ตอนนี้เจ้ามาแล้ว จะได้เล่าความขุ่นเคืองทั้งหมดของข้าให้ฟัง จะได้ไม่เจ็บแค้นตายจนไม่มีผู้ใดรู้เห็น สตรีนางนั้นชื่อซ่งซู อายุสิบแปด รูปร่างหน้าตามีเสน่ห์ หากเจ้าพบนาง เจ้าจะรู้ว่าเหตุใดบุรุษจึงชอบสตรีอย่างนาง…”
ซ่งซูปรากฏตัวได้อย่างไร จนกระทั่งตอนนี้เจิ้งซูอวี้ยังคงไม่เข้าใจ ในวันที่หิมะตกวันหนึ่ง จู่ ๆ ฉินเหวินหานก็พาสตรีหน้าตางดงามผู้หนึ่งกลับมา ทั้งยังบอกว่าเขาจะแต่งนางเป็นภรรยารอง
เจิ้งซูอวี้ไม่มีวันลืมความสิ้นหวังและใจสลายในเวลานั้นได้ นางต้อนรับสามีของนางกลับบ้านด้วยความยินดี ทว่าเขากลับพาสตรีหน้าตาสะสวยผู้หนึ่งกลับมา อีกทั้งยังโพล่งออกมาว่าจะแต่งนางเป็นภรรยารอง ไม่แบ่งแยกน้อยใหญ่
สตรีนางนั้นไม่ได้ทำให้เจิ้งซูอวี้ลำบากใจ ยกน้ำชาให้นางอย่างว่าง่าย นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ซ่งซูก็มีสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจเรื่องในจวน แม้กระทั่งการจัดการพ่อบ้านยังมอบให้ซ่งซูด้วย ไม่เพียงเท่านั้น กิจการของสกุลฉินก็ตกอยู่ในมือของอีกฝ่าย ดูเหมือนนางกำลังจะประกาศสถานะของตนให้ทุกคนได้เห็น
แรกเริ่มเจิ้งซูอวี้ยังไปหาฉินเหวินหานเพื่อขอคำอธิบาย
แต่ฉินเหวินหานกลับหลบเลี่ยงไม่ยอมพบนาง
เขาและซ่งซูละเล่นโล้สำเภาอยู่ทุกคืน
สิ่งที่เจิ้งซูอวี้ไม่อาจทนได้มากที่สุดคือตอนที่เด็ก ๆ ไปหาฉินเหวินหาน ฉินเหวินหานกลับดุด่าพวกเขาอย่างไร้เหตุผล เขาแปลกไป ราวกับว่าการแสดงเป็นพ่อที่รักใคร่ลูกนั้นเป็นเรื่องโกหกมานานปี สามีของนางถูกความงามล่อลวงจนเลอะเลือนไปแล้ว
“ซ่งซูผู้นี้มีที่มาอย่างไร?”
“ไม่อาจทราบได้”
“ปกตินางไม่สร้างปัญหาให้เจ้าหรือ?”
“ไม่ ราวกับไม่เห็นว่าข้ามีตัวตน” เจิ้งซูอวี้ยิ้มหยัน “นี่คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของนาง กล่าวได้เพียงว่า นางมีความสามารถอยู่บ้าง”
“ข้ากลับสงสัยคนผู้นี้อยู่ไม่น้อย” มู่ซืออวี่เอ่ย “ซ่งซูผู้นี้ ข้าจะไปพบดูสักที ดูซิว่านางเป็นปีศาจภูเขาตนใด ตอนนี้ข้าอยากถามเจ้าอีกอย่างหนึ่ง”
“อะไรหรือ?”
“ข้ากลับมาคราวนี้ พบว่าคนในเมืองดูหนักใจราวกับกำลังเดือดร้อน เมืองฮู่เป่ยเป็นหนึ่งในสามเมืองที่ร่ำรวยที่สุดทั่วทั้งอาณาจักรฮุ่ย ราษฎรไม่ควรใช้ชีวิตและทำงานอย่างสงบสุขโดยไร้กังวลหรือ?”
“เครื่องเล่นในลานหรรษามีปัญหา ตอนนี้ปิดไปแล้ว ที่นั่นเลี้ยงปากท้องคนสามในสิบส่วนของเมืองฮู่เป่ย นอกจากนี้กิจการของสกุลฉินเราก็ย่ำแย่ลงกิจการแล้วกิจการเล่า แน่นอนว่าสี่ในห้าส่วนที่เหลือก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย เรียกได้ว่าเศรษฐกิจปีนี้เสียหายอย่างหนัก ชีวิตของราษฎรจึงได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้”