บทที่ 1049 ที่มาของซ่งซู
บทที่ 1049 ที่มาของซ่งซู
“ซูอวี้ ข้ากำชับให้บ่าวรับใช้พาลูกทั้งสองของเจ้ามาแล้ว เจ้าคงไม่ถือที่ข้าตัดสินใจเองกระมัง?” มู่ซืออวี่ถาม
เจิ้งซูอวี้ยิ้มฝาดเฝื่อน “หากไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าจะตายอย่างไรก็คงไม่รู้เสียด้วยซ้ำ ชีวิตของพวกเราแม่ลูกเป็นของเจ้า เจ้าอยากทำอะไรพวกเราล้วนไม่ขัดข้อง ขอบคุณเจ้านัก ซืออวี่”
มู่ซืออวี่กล่าว “เจ้าเป็นพี่น้องของข้า เป็นพี่น้องครั้งหนึ่งเป็นพี่น้องตลอดไป เรื่องของเจ้าก็คือเรื่องของข้า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ข้าไม่กล้าแหวกหญ้าให้งูตื่นก่อนที่จะหาหนทางแก้ไขได้ จึงไม่ได้บอกเจ้า เพียงแต่ความเข้าใจของเราพี่น้องยังดีอยู่ หากเมื่อครู่ไม่ใช่เพราะเจ้าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นางคงไม่ถูกหลอก ไม่ต้องเอ่ยถึงว่าจะผ่านคอขวดนี้ไปได้”
ซ่งซูถูกปิดปากไว้แล้วจึงพูดไม่ได้
นางถลึงตามองมู่ซืออวี่อย่างโกรธจัด แทบอยากจะฉีกทึ้งกันทั้งเป็น
เพียงแต่ที่นี่เป็นถิ่นของมู่ซืออวี่
ฉินเหวินหานคุกเข่าลงคำนับมู่ซืออวี่ “ขอบคุณพระชายาขอรับ”
ฉินเหวินหานไม่รู้ว่ามู่ซืออวี่ตามเขากลับมา เขาเพิ่งบอกทุกอย่างตามความเป็นจริงไปเมื่อไม่นาน แต่นางกลับพบหนทางแก้ไขรวดเร็วถึงเพียงนี้ หากบอกนางตั้งแต่เนิ่น ๆ บางที…
“นายท่านฉิน ผู้อื่นล้วนกล่าวว่าผู้ทำการค้าก็เหมือนกับจิ้งจอก ท่านก็เป็นพ่อค้าใหญ่ ไยจึงถูกนางปีศาจผู้หนึ่งกัดกินแทบตายได้เล่า? ทำการค้ามาหลายปีเพียงนี้สูญเปล่าไปหมดแล้วหรือ?” มู่ซืออวี่เอ่ย “จัดการกับปีศาจเช่นนี้ อย่าได้กล่าวถึงศีลธรรมเป็นอันขาด จดจำไว้ว่าสงครามไม่หน่ายเล่ห์กล”
“พระชายาชี้แนะได้ถูกต้องแล้ว”
เด็กทั้งสองคนถูกพาเข้ามา
ท่านหมอกรีดข้อมือของซ่งซูให้เลือดไหลเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในการถอนพิษ
สาวใช้สองคนปิดตาของเด็กทั้งสองเอาไว้
“เจ็บ…” ลูกสาวตัวน้อยเอ่ยเสียงแผ่วเบา
“เด็กดี ประเดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว” เจิ้งซูอวี้ในฐานะผู้เป็นมารดา ได้ยินลูกร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด หัวใจพลันกระตุกวูบ
นางมองซ่งซูด้วยความโกรธแค้น
หากซ่งซูลงมือกับนาง นางยอมรับได้ เพียงแต่ในฐานะมารดา สิ่งที่ทนไม่ได้ที่สุดสำหรับนางคือการที่ลูกได้รับความไม่เป็นธรรม
เมื่อหนอนกู่สีแดงก่ำโผล่ออกมาจากบาดแผลของลูก เจิ้งซูอวี้ก็แทบเป็นลมล้มพับไป
ฉินเหวินหานรีบเข้าไปพยุงนาง
เจิ้งซูอวี้ผลักเขาออกไป แววตาเต็มไปด้วยความเฉยชา
ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด นางก็ไม่อยากได้ยิน
นางรู้เพียงสามีภรรยาเป็นหนึ่งเดียวกัน เรื่องสำคัญเพียงนี้ นึกไม่ถึงว่าเขาจะปิดบังนาง
ถึงแม้มู่ซืออวี่จะบอกว่าเขาทำเช่นนั้นเพราะไม่อยากเสี่ยง กลัวว่านางปีศาจผู้นั้นจะฆ่านางกับลูก แต่อย่างไรเจิ้งซูอวี้ก็ยังคงรับไม่ได้ที่ถูกปิดบังนานถึงเพียงนี้
ซ่งซูดิ้นรน คิดจะกัดลิ้นฆ่าตัวตาย
หากนางตายแล้ว เด็กสองคนนั้นก็จะตายไปพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้คุ้มกันลับที่ควบคุมนางไว้ไม่ใช่พวกกินพืช เขาหักกรามนางในทันทีทำให้ไม่สามารถกัดลิ้นเพื่อฆ่าตัวตายได้
“จุ๊ ๆ นี่เป็นคนงามผู้หนึ่ง พวกเจ้ากลับไม่รู้จักรักหยกถนอมบุปผาแม้แต่น้อย” มู่ซืออวี่มองซ่งซู “ซ่งซู ชื่อจริงจางเฉี่ยวเอ๋อร์ เป็นโสเภณีผู้หนึ่ง”
ซ่งซูมองมู่ซืออวี่ด้วยสายตาเหลือเชื่อ
“เจ้านึกไม่ถึงว่าข้าจะรู้ข้อมูลของเจ้าหรือ?” มู่ซืออวี่กล่าว “ข้าขอลองเดาว่าเพราะเหตุใด เพราะตัวตนที่แท้จริงของเจ้าตายไปแล้ว บัดนี้เจ้าอาศัยอยู่ภายใต้ตัวตนของผู้อื่นหรือ?”
กู่พิษในร่างกายของเด็กทั้งสองได้รับการถอนออกแล้ว
มู่ซืออวี่ไม่อยากให้เด็ก ๆ ได้ยินสิ่งที่ไม่เหมาะควร จึงให้สาวใช้พาพวกเขาไปดูแล
หลังจากเด็ก ๆ ไปแล้ว มู่ซืออวี่ยังคงอธิบายที่มาของซ่งซูต่อ
“ซ่งซูผู้ที่เจ้าสวมรอยตอนนี้ตายแล้วกระมัง? ซ่งซูเป็นลูกสาวของท่านหมอผู้หนึ่งจริง ๆ คุ้นเคยกับยามาตั้งแต่เด็ก วันหนึ่งนางได้ช่วยเด็กสาวผู้เป็นโรคทางเพศสัมพันธ์ผู้หนึ่งเอาไว้ ดูแลเป็นอย่างดี ทั้งยังเลี้ยงไว้ที่โรงหมอ ผู้เป็นหมอมีใจเมตตา เด็กสาวผู้นี้ก็เป็นผู้มีมโนธรรม หลังจากได้รับการรักษาแล้วจึงรั้งอยู่ที่โรงหมอทำงานจิปาถะให้พ่อลูกทั้งสอง เพียงแต่เด็กสาวผู้นี้มีหน้าตาสวยงามจึงดึงดูดภัยมาถึงตัว ไม่นานก็ถูกอันธพาลเจ้าถิ่นต้องตา เพื่อที่จะไม่ดึงพ่อลูกทั้งสองเข้ามาเกี่ยวข้อง เด็กสาวผู้นี้จึงหนีไปในคืนนั้น นึกไม่ถึงว่า อันธพาลจับตามองนางอยู่ก่อนแล้วจึงฉุดนางไป ไม่เพียงเท่านั้น ยังไปทุบทำลายโรงหมอ ฆ่าพ่อลูกคู่นั้นทิ้ง”
“วันนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น บ้านอันธพาลถูกไฟไหม้ ไร้ข่าวคราวของเด็กสาว อย่างไรก็ตาม โรงหมอกลับปรากฏหญิงสาวสวมหน้ากากผู้หนึ่งขึ้นมา นางเรียกตนเองว่าซ่งซู เพราะได้รับบาดเจ็บ นางจึงต้องปกปิดใบหน้าเอาไว้ ท่านหมอซ่งก็ปรากฏตัวในโรงหมอเช่นกัน เขาเหมือนกับท่านหมอซ่งคนก่อนไม่มีผิดเพี้ยน หากข้าเดาไม่ผิด ไฟไหม้ไม่ใช่อุบัติเหตุ หากแต่เกิดจากฝีมือของคน ท่านหมอซ่งตัวปลอมผู้นั้นเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของเจ้า พวกเจ้าฆ่าคนแล้ว ทั้งยังคิดจะสวมรอยผู้อื่น ดังนั้นจึงอาศัยอยู่ที่นั่นด้วยตัวตนของพ่อลูกคู่นั้น”
“เพียงแต่ พวกเจ้าไม่มีที่อยู่จึงสวมรอยเป็นพ่อลูกสกุลซ่งจริง ๆ หรือว่าพวกเจ้าวางแผนจะฮุบสกุลฉินตั้งแต่แรกแล้ว? ผู้สมรู้ร่วมคิดของเจ้ามีที่มาอย่างไร? พวกเจ้าอยู่ในองค์กรใด เข้าร่วมองค์กรนี้ตั้งแต่เมื่อใด ก่อนที่เจ้าจะพบกับพ่อลูกสกุลซ่ง หรือหลังจากพบพ่อลูกคู่นั้น? เจ้าจริงใจกับพ่อลูกสกุลซ่งเพียงใด? เจ้าเฝ้ามองพวกเขาถูกฆ่าด้วยตาตนเองใช่หรือไม่?”
สายตาของซ่งซูเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
มู่ซืออวี่เอ่ยกับผู้คุ้มกันลับ “ให้นางพูด”
ผู้คุ้มกันลับจัดกรามนางให้กลับเข้าที่
“พระชายาฉลาดเพียงนี้ ถึงขนาดให้ฮูหยินฉินใช้กลยุทธ์ทุกข์กายทำลายแผนของเรา เช่นนั้นท่านว่าพวกเราเริ่มวางแผนตั้งเมื่อใดเล่า?”
“ได้ ตอนนี้ข้ายังพอมีเวลาพูดคุยกับเจ้า” มู่ซืออวี่เอ่ย “ขอข้าลองวิเคราะห์ดูหน่อย ในฐานะโสเภณี เจ้าคงทำงานหนักเพื่อเจ้านายมาเป็นเวลานานแล้ว เพียงแต่เจ้าติดโรคจากการร่วมหลับนอน คิดว่าตนใกล้ตาย เจ้าจึงหลบหนีจากขอบเขตการค้นหาขององค์กรนั้น คิดไม่ถึงว่าจะมีคนใจดีช่วยเจ้าเอาไว้ อีกทั้งทักษะทางการแพทย์ของพ่อลูกคู่นั้นก็ไม่เลว ทำให้ผู้ที่ชะตากำหนดไว้แล้วว่าต้องตายอย่างเจ้าได้ต่อลมหายใจ ช่วงเวลานั้นเจ้าสบายใจมากกระมัง! เพียงแต่ชีวิตก็เท่านี้ มันสั้นเกินไป ท้ายที่สุด เจ้าก็พบว่า หากเจ้าอยากมีชีวิตที่ดีจะต้องโหดเหี้ยม จะต้องฆ่าคน ในยามนั้นเองคนจากองค์กรเดียวกันก็มาพบเจ้า ในเวลานี้ เจ้าจึงร่วมมือกันสังหารทั้งครอบครัวอันธพาล”
“พระชายาฉลาดเพียงนี้ ที่ข้าอยากพูดท่านก็พูดไปหมดแล้ว ยังจะมีอะไรให้ข้าพูดอีกเล่า?” ซ่งซูกล่าว “ตอนนี้ข้าอยู่ในมือของพวกท่านแล้ว พวกท่านจะเอาอย่างไร?”
“แน่นอนว่าข้าอยากเจอบิดาเจ้า” มู่ซืออวี่เอ่ย “อย่างไรก็เป็นภรรยารองสกุลฉินมานานเพียงนี้ นายท่านฉินก็ควรพบพ่อตาหน่อยไม่ใช่หรือ?”
“ข้าตกอยู่ในมือพวกท่านแล้ว เขาจะต้องรู้แน่นอน ไม่มีทางถูกพวกเจ้าหลอกได้”
“หากเขาตัดใจทิ้งลูกสาวผู้นี้ไม่ได้เล่า?” มู่ซืออวี่กล่าว “ก่อนหน้านี้ข้าเคยส่งคนไปที่ร้านยาของพวกเจ้า ปรากฏว่ายังพบท่านหมอซ่งผู้นั้นจริง ๆ จากที่คนของข้ารายงาน ท่านหมอซ่งผู้นี้ยังเยาว์วัยทีเดียว ดูเหมือนบิดาของเจ้าจะดูแลตนเองเป็นอย่างดี ข้าต้องขอคำแนะนำจากเขาในการดูแลตนเองหน่อยแล้ว”
“พวกเจ้าต้องการอะไร?” เสียงของซ่งซูเยียบเย็นลงเล็กน้อย
“ดูเหมือนเจ้าจะใส่ใจบิดาผู้นี้ทีเดียว ที่แท้เป็นบิดา หรือว่าเป็นคนรักกันนะ?” มู่ซืออวี่กล่าว “ไม่รีบร้อน เจ้าใกล้จะได้พบเขาแล้ว ถึงยามนั้น ข้าอยากเห็นนักว่าความรักระหว่างพวกเจ้าพ่อลูกจะเป็นอย่างไร? เจ้าไม่ได้ชอบใช้คนรักของผู้อื่นข่มขู่คนหรือ? บังเอิญจริง ๆ ข้าเองก็ชอบวิธีนี้ทีเดียว”