บทที่ 25 สายเลือดนอกตระกูลของประธานลี่?
ดวงตากลมโตของสวี่อี้ฝานเจือไปด้วยความรำคาญเสียงประตู
เขามองชายหนุ่มแปลกหน้าผ่านกล้องวงจรปิด พร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น “คุณเป็นใคร?”
เด็กคนนี้คงเป็นลูกของญาติแอนนาสินะ? ระวังตัวเก่งเหมือนกันนี่นา ค่อนข้างเหมือนแอนนาเลย หลี่อานคิดอยู่สักพัก ก็อธิบายว่า “ฉันเป็นเพื่อนร่วมงานของผู้ช่วยแอน เป็นเลขาและผู้ช่วยของประธานลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย ตอนนี้ผู้ช่วยแอนกำลังทำโอทีอยู่ที่บริษัท ประธานลี่เลยให้ฉันมารับนายไปส่งที่โรงเรียน”
เลขาของคุณพ่อ? สวี่อี้ฝานจ้องหลี่อานที่อยู่อีกฟากของประตูอย่างนิ่งๆ เพื่อจดจำหน้าตาของเขาเอาไว้
“พี่คะ ใครน่ะ? เช้าขนาดนี้มาเคาะประตูทำไม…….” สวี่อี้หานได้ยินเสียงเคาะประตูเหมือนกัน จึงวิ่งด้วยเท้าเปล่าๆมาที่หน้าประตู มือเล็กยกขึ้นขยี้ตาตัวเอง พร้อมกับเอ่ยถามอย่างงัวเงีย
“คุณรอสักครู่” สวี่อี้ฝานเอ่ยพูดกับหลี่อานที่อยู่ข้างนอก
สวี่อี้ฝานหันหลังเดินไปยังห้องของพวกเขาสองพี่น้อง จากนั้นก็เปิดโน๊ตบุ๊ค เพื่อแฮ็กเข้าระบบภายในของลี่ซื่อกรุ๊ป เพื่อตรวจสอบเลขประจำตัวของหลี่อาน แล้วทำการจดจำเงียบๆ
“พี่คะ แล้วแม่ล่ะ?” สวี่อี้หานเดินตามเข้ามาด้วยความข้องใจ
สวี่อี้ฝานสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับหลี่อานอย่างใจเย็น “แม่ทำโอทีอยู่ที่บริษัท ป่าปี๊ให้คนที่อยู่ข้างนอกมารับเราไปโรงเรียน ฉันเลยอยากเช็กดูสักหน่อยว่าเขาใช่คนของผู้หญิงนิสัยไม่ดีคนนั้นไหม”
“แล้วใช่ไหม?” สวี่อี้หานเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น
“ไม่ใช่” สวี่อี้ฝานกวาดสายตาอ่านประวัติของหลี่อานอย่างรวดเร็ว
ผู้ชายที่อยู่ข้างนอกเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณพ่อ เขาติดตามคุณพ่อตั้งแต่ที่คุณพ่อรับช่วงต่อบริษัทแรกๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับสวี่รั่วยี
สวี่อี้ฝานจูงมือสวี่อี้หานกลับมาที่หน้าประตู “ผมขอถามคุณหน่อย หมายเลขประจำตัวในบริษัทของคุณคืออะไร?”
หลี่อานที่อยู่หน้าประตูชะงักงัน เจ้าเด็กนี้ รู้หมายเลขประจำตัวเขาเหรอ?
แม้หลี่อานจะสงสัย แต่ก็ต้องบอกตัวประเลขประจำตัวของตัวเองออกไป ตามที่สวี่อี้ฝานร้องขอ
สวี่อี้ฝานเช็กความถูกต้อง เมื่อพบว่าไม่มีคมผิดปกติใดๆ ถึงได้เปิดประตู
วินาทีที่หลี่อานเห็นหน้าสวี่อี้ฝาน ก็แทบทรุดลงกับพื้น
เด็กคนนี้ คือมินิประธานลี่ชัดๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะรู้อยู่แล้วว่าประธานลีไม่เคยพัวพันกับผู้หญิงคนไหน เขาคงคิดว่าเด็กคนนี้เป็นลูกนอกสมรสของประธานลี่ไปแล้ว
สวี่อี้ฝานผงกหัวให้หลี่อานเล็กน้อย หลังจากที่ทักทายกัน เจ้าภาพตัวน้อยก็เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “คุณรอที่ห้องรับแขกสักครู่นะครับ ผมกับอี้หานขอไปอาบน้ำทานข้าวก่อน”
หลี่อานหอบความรู้สึกตกอกตกใจเอาไว้ จากนั้นก็เปลี่ยนรองเท้า แล้วเดินมานั่งรอที่โซฟา
เหมือนมาก เหมือนจริงๆ
ถ้าไม่ใช่ว่าเขาติดตามประธานลี่มาหลายปี เขาคงคิดไปแล้วว่าเจ้าก้อนถั่วสองลูกนี้เป็นสายเลือดนอกตระกูลของประธานลี่
สวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานกินข้าวเช้าเสร็จ “เอาล่ะ เราไปกันเถอะ”
พฤติกรรมของเด็กสองคนนี้ ยังมีกลิ่นอายความเป็นประธานลี่อีกด้วย!หลี่อานดึงสติกลับมา “รถจอดอยู่ข้างล่าง เชิญทั้งสองคนเลย”
……
เพราะอดหลับอดนอนเมื่อคืน ตอนนี้เลยแทบจะลืมตาไม่ขึ้น
สวี่รั่วฉิงลืมตาขึ้นมาด้วยความสับสน
ทว่าภาพที่ฉายเข้ามาในสายตาของเธอเกือบทำให้เธอกรี๊ดออกมาเสียงแหลม
เธอมานอนกับลี่ถิงเซิ่งได้ยังไง!
ภายในห้องส่วนตัวกว้างๆ ลี่ถิงเซิ่งในสภาพถอดเนกไทนอนอยู่บนเตียงหลังใหญ่สีขาว บริเวณอกแกร่งโผล่ออกมาให้เห็นวับๆแวมๆ ตามลมหายใจเข้าออกของเขา
สวี่รั่วฉิงกลืนน้ำลายเบาๆ
นี่มันอะไรกัน เธอกำลังทำโอทีอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมมาอยู่ในห้องส่วนตัวของเขาได้ แถมยังนอนอยู่บนเตียงด้วยกันอีก
สวี่รั่วฉิงพยายามนึก รู้สึกเหมือนตัวเองจะลืมอะไรไปสักอย่าง
แย่แล้ว!ตอนนี้กี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย!
เธอต้องไปส่งสวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานที่โรงเรียน!
สวี่รั่วฉิงรีบลุกออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่มอย่างเร่งรีบ พร้อมกับมองหาโทรศัพท์ของตัวเองรอบๆ ทว่ากลับเห็นเข็มนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงตรง
เธอขยับตัวเสียงดัง จึงปลุกลี่ถิงเซิ่งให้ตื่นขึ้นมาจากการพักผ่อน
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมามองสวี่รั่วฉิง
“อยู่นิ่งๆ ผมขอนอนอีกหน่อย”
ลี่ถิงเซิ่งหลับตาลงอีกครั้ง ราวกับเห็นเธอเป็นหมอนข้างที่ทำให้เขานอนหลับ
ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ได้ยินเสียงไพเราะของสวี่รั่วฉิงดังขึ้นมาข้างๆว่า
“ประธานลี่ ฉันต้องกลับบ้านแล้ว” เพราะเอาแต่ทำงาน เธอจึงลืมเด็กสองคนที่บ้านไปเสียสนิท สวี่รั่วฉิงรีบร้อนเหมือนมดตกหม้อเดือด เมื่อพูดจบ ไม่รอให้ลี่ถิงเซิ่งตอบกลับอะไร ก็กระโดดลงจากเตียงไปสวมใส่รองเท้า
เปิดประตูออกมาได้ไม่ทันไร ก็เห็นหลี่อานกำลังจัดเอกสารให้ลี่ถิงเซิ่งอยู่
เมื่อเขาเห็นว่าสวี่รั่วฉิงตื่นแล้ว จึงยิ้มออกมาเล็กน้อย “ผู้ช่วยแอน ประธานลี่บอกให้ผมไปส่งลูกของญาติคุณที่โรงเรียนแล้วล่ะครับ แต่ถ้าคุณไม่สบายใจ จะโทรไปถามคุณครูที่โรงเรียนก็ได้นะครับ”
เมื่อนึกถึงเด็กฉลาดสองคนเมื่อเช้า หลี่อานก็เอ่ยชมขึ้นมาว่า “ผู้ช่วยแอน พูดตรงๆเลยนะครับ หลานคุณระวังตัวเก่งมาก ปกติคงสั่งสอนกันมาดีเลยสินะครับ”
เมื่อสวี่รั่วฉิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก็พบว่าสวี่อี้ฝานส่งข้อความเสียงมาให้เธอ
“แม่ครับ ผมกับอี้หานมาถึงโรงเรียน แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
ตอนนี้สวี่รั่วฉิงถึงได้สบายใจ
ทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “ผู้ช่วยหลี่ ใครเป็นคนพาฉัน……ไปนอนที่ห้องประธานลี่คะ?”
ผู้ช่วยหลี่หมดคำจะพูด
ปกติผู้ช่วยแอนฉลาดจะตาย ทำไมเรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้ล่ะ?
“ถ้าประธานลี่ไม่อนุญาต คุณคิดว่าคุณจะเข้าไปได้ไหมครับ?”
หลี่อานพูดจบ ก็ส่ายหน้าอย่างจนใจ จากนั้นก็ดึงสวี่รั่วฉิงเข้ามากระซิบว่า “เบาเสียงหน่อยนะ ช่วงนี้ประธานลี่ยุ่งอยู่กับงานและเรื่องงานเลี้ยง หลายวันมานี้ไม่ค่อยได้พักผ่อนเลยครับ โชคดีที่มีคุณอยู่ด้วย วันนี้ถึงได้หลับสบายอย่างที่นานๆทีจะมีครั้ง อย่าทำให้เขาตื่นเชียวล่ะครับ”
พูดจบ หลี่อานก็พยักพเยิดไปทางประตูห้องที่ปิดสนิทของลี่ถิงเซิ่ง
ผู้ช่วยแอนนี่ก็แปลก เธอต้องเก่งขนาดไหนนะถึงทำให้ประธานลี่ที่มีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับสามารถหลับสนิทได้ถึงขนาดนี้?
……
ผู้ช่วยที่เพิ่งมาใหม่ของประธานลี่ ไม่ทันไรก็ได้เป็นนักปรุงน้ำหอมที่น่าจับตามองของบริษัท โดยใช้เวลาแค่วันเดียว
สวี่รั่วฉิงเดินถือคีย์การ์ดที่ลี่ถิงเซิ่งมอบสิทธิ์ให้มาที่ห้องปรุงน้ำหอมโดยเฉพาะ ในตอนที่เตรียมทดลองน้ำหอมตัวเอง ก็ถูกพนักงานมาขวางเอาไว้
“คุณเป็นใคร? คิดจะมาใช้ห้องของพวกเราเหรอ?” พนักงานเลิกคิ้วขึ้น มองสวี่รั่วฉิงอย่างดูแคลน
คนที่ใช้หน้าตาอ่อยประธานลี่ปีนขึ้นมา แทนที่จะอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยดีๆ กลับคิดจะสอดมือเข้ามาทำหน้าที่ปรุงน้ำหอมของบริษัทอีก!
น้ำหอมของลี่ซื่อกรุ๊ป มีชื่อเสียงในเมืองหลินชวน แถมยังมีนักปรุงน้ำหอมชื่อดังในสังกัดมากมายจนนับไม่ถ้วน
หลังจากที่ลี่ถิงเซิ่งรับช่วงต่อบริษัท ลี่ซื่อกรุ๊ปก็เริ่มขยายกิจการสำคัญๆเช่นเสื้อผ้า แฟชั่น อสังหาริมทรัพย์ แต่ก็ไม่คิดจะทอดทิ้งการทำน้ำหอม
สวี่รั่วยีที่เป็นคู่หมั้นของลี่ถิงเซิ่งตามข่าวลือต่างหากล่ะ คือนักปรุงน้ำหอมมือหนึ่ง
ทุกคนมองว่าการที่ทั้งสองหมั้นกันเป็นเพราะความร่วมมือของลี่ซื่อกรุ๊ปและสวี่ซื่อกรุ๊ป
คนหนึ่งเป็นถึงประธานบริษัทน้ำหอมชื่อดังในเมืองหลินชวน อีกคนก็เป็นนักปรุงน้ำหอมมือหนึ่งในเมืองหลินชวน นี่มันคู่สร้างคู่สมเลยไม่ใช่เหรอ?