บทที่ 27 สวี่รั่วยี เก่งดีนี่
ไหล่บอบบางของสวี่รั่วยีสั่นไหวเล็กน้อย
ชุดนอนผ้าฝ้ายสีขาว ทำให้เธอดูไร้เดียงสา ประกอบกับท่าทางบอบบางกล้าๆกลัวๆของเธอในตอนนี้ ก็ยิ่งทำให้คนใช้รู้สึกสงสารจับใจ
คุณสวี่ดีซะขนาดนั้น
หกปีก่อนช่วยชีวิตคุณชายเอาไว้ก็ไม่ออกตัวเอาหน้า ตอนนี้คุณชายกลับบ้านดึกทุกวัน เธอก็ไม่โกรธ ทำแค่นั่งรอเงียบๆเท่านั้น
“ถิงเซิ่ง ฉันได้ยินมาว่าสามีภรรยาฮิลล์จะมาที่เมืองหลินชวนใช่ไหม?”
ลี่ถิงเซิ่งเงยหหน้าขึ้นมา ใช้สายตาแหลมคมมองสำรวจผู้หญิงตรงหน้าขึ้นลง จากนั้นก็พยักหน้าเบาๆให้เธอพูดต่อ
“งั้นงานเลี้ยงพบปะสามีภรรยาฮิลล์อาทิตย์หน้า คุณพาฉันไปด้วยได้ไหม? เราสองคนไม่ได้ออกงานด้วยกันนานแล้วนะ ถือโอกาสนี้……..”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมมีนัดพบปะกับสามีภรรยาฮิลล์?” ลี่ถิงเซิ่งตัดบทเธอด้วยน้ำเสียงเย็นๆ สายตาแหลมคมจับจ้องมาที่เธอนิ่งๆ “คุณส่งคนมาสืบเรื่องของผมเหรอ?”
สวี่รั่วยีรู้ตัวในชั่ววินาที ลี่ถิงเซิ่งเกลียดการคุกคามมากที่สุด คำพูดของตัวเองเมื่อกี้ จึงไปจุดไฟโกรธของเขาขึ้นมา
“เปล่านะ แม่บอกฉันมาต่างหาก คุณก็รู้ ว่าครอบครัวฉันก็ทำบริษัทน้ำหอม ยังไงก็ต้องรู้เรื่องที่สามีภรรยาฮิลล์ชื่นชอบน้ำหอมอยู่แล้ว ถ้าคุณพาฉันไปด้วย บางทีฉันอาจจะช่วยคุณได้นะ ให้ฉันปรุงน้ำหอมให้สามีภรรยาฮิลล์ก็ยังได้เลย!”
สวี่รั่วยีดันทุรังด้วยความหวังสุดท้าย ถ้านักปรุงน้ำหอมมือหนึ่งในเมืองหลินชวนอย่างเธอไม่แสดงฝีมือตอนนี้ จะไปแสดงฝีมือตอนไหน?
ริมฝีปากบางของลี่ถิงเซิ่งกระตุกเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มหยันออกมา “คุณแค่ศึกษาค้นคว้าน้ำหอมของคุณไปก็พอ ไม่จำเป็นต้องมาใส่ใจลี่ซื่อกรุ๊ปหรอก”
พูดจบ ลี่ถิงเซิ่งก็เงยหน้าขึ้นมา กวาดสายตามองสาวใช้ที่อยู่บริเวณรอบๆ “ไปส่งคุณสวี่ที่ห้องเถอะ”
พูดจบ ชายหนุ่มก็ลุกขึ้น ทว่ากลิ่นน้ำหอมที่ติดมากับตัวของเขา กลับโชยเข้ามาในจมูกของเธอ
“เดี๋ยวก่อน!” เมื่อสวี่รั่วยีได้กลิ่นน้ำหอมที่ไม่คุ้นเคยบนร่างกายของลี่ถิงเซิ่ง สีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นสงสัย
กลิ่นนี้ ไม่ใช่น้ำหอมที่วางขายแน่ๆ
“ถิงเซิ่ง ทำไมบนตัวคุณมีกลิ่นน้ำหอมผู้หญิง………” สวี่รั่วยีไม่อยากจะเชื่อ ว่าคู่หมั้นของเธอจะไปติดพันผู้หญิงคนอื่น
หกปีมานี้ ไม่ว่าเธอจะหว่านล้อมแค่ไหน ยั่วยวนเท่าไหร่ ลี่ถิงเซิ่งก็ไม่เคยใกล้ชิดกับเธอเลย
อย่าว่าแต่จูบกับเรื่องบนเตียงเลย แม้แต่กอดกันสักครั้งก็ยังไม่เคย
บนตัวของเขามีน้ำหอมผู้หญิงได้ยังไง?!
“สวี่รั่วยี” ลี่ถิงเซิ่งสะบัดมือของสวี่รั่วยีที่กำลังจับชายเสื้อของตัวเองออก แล้วเอ่ยเตือนด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “คุณกำลังล้ำเส้น”
สวี่รั่วยีหน้าซีดเผือด
เธอกัดริมฝีปากที่สั่นระริกเอาไว้ จ้องมองแผ่นหลังของลี่ถิงเซิ่งที่กำลังเดินจากไปอย่างไม่พอใจ
……
การลองน้ำหอมเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก
เมื่อต้องดมกลิ่นน้ำหอมที่คล้ายกันซ้ำๆ การดมกลิ่นก็ไม่ค่อยมีปฏิกิริยาไวเท่าไหร่แล้ว
อย่าว่าแต่ลี่ถิงเซิ่งเลย แม้แต่ตัวสวี่รั่วฉิงเองแค่ดมนานๆก็รู้สึกอยากอ้วกออกมาแล้ว
จู่ๆเธอก็รู้สึกผิดกับลี่ถิงเซิ่ง “ประธานลี่ ไม่งั้นคุณหยุดดมก่อนไหม เดี๋ยวฉันให้หลี่อานช่วยลองดมก็ได้”
เมื่อหลี่อานได้ยินแบบนั้น ก็รีบโบกมือ “ผู้ช่วยแอน คุณเว้นผมไว้เถอะ ถ้าให้ดมอีก ผมกินข้าวไม่ลงแน่”
น้ำหอมที่สวี่รั่วฉิงปรุงออกมาแน่นอนว่ามันหอมอยู่แล้ว. แต่ใครจะไปดมทุกวันขนาดนั้นไหว!
“ไม่ต้อง ยังมีอันอื่นอีกไหม? หยิบมาให้หมด” ลี่ถิงเซิ่งค่อยๆปิดฝาน้ำหอมทดลองที่เขาประเมินให้ไม่ผ่านช้าๆ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมส เอ่ยสั่งอย่างเนิบนาบ
หลายวันมานี้. เขาช่วยสวี่รั่วฉิงประเมินน้ำหอมทุกวัน
ดังนั้นสองสามวันมานี้ ลี่ถิงเซิ่งจึงพกพากลิ่นน้ำหอมติดตัวกลับมาที่คฤหาสน์ด้วย
สวี่รั่วยีเป็นผู้หญิง เลยได้กลิ่นน้ำหอมพวกนี้ไวเป็นพิเศษ
เธออึกๆอักๆไม่กล้าพูด เพราะกลัวว่าจะเป็นการชวนลี่ถิงเซิ่งทะเลาะ จึงทำได้แค่ร้องห่มร้องไห้มาฟ้องมารดาของตัวเอง
“แม่คะ แม่ว่าเขามีผู้หญิงคนอื่นไหม? คงไม่ใช่ว่าเป็นผู้ช่วยแอนอะไรนั่นหรอกนะ? เขากลับบ้านมาพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมทุกวันเลย แถมยังเป็นน้ำหอมผู้หญิงอีกด้วย แล้วไหนจะทำตัวเย็นชากับฉันมากขึ้นทุกวันอีก”
คุณนายสวี่พูดปลอบโยนว่า “มีแบรนด์น้ำหอมในเครือลี่ซื่อกรุ๊ป บางทีช่วงนี้ถิงเซิ่งอาจจะกำลังยุ่งอยู่กับเรื่องน้ำหอมก็ได้ เอาเป็นว่าเรื่องนี้แกไม่ต้องกังวล ฉันจะคุยกับแม่ของถิวเซิ่งให้แล้วกัน”
หลังจากคุณนายสวี่วางสาย ดวงตาเอ่อน้ำก็พลันเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว
ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนกล้ามาขัดขวางการแต่งงานของลูกสาวเธอ เธอจะไม่ออมมือให้แน่
เธอเอ่ยถามคุณนายลี่ว่า “ช่วงนี้ถิงเซิ่งยุ่งเหรอคะ? ฉันได้ยินมาว่าอาทิตย์หน้าเขามีงานเลี้ยงส่วนตัวกับสามีภรรยาฮิลล์. ได้ยินมาอีกว่า สามีภรรยาฮิลล์ชื่นชอบน้ำหอมมาก พอดีเลยรั่วยีเองก็ถนัดเรื่องปรุงน้ำหอม. ถ้าอย่างนั้น……ให้ถิงเซิ่งพาเธอไปด้วยได้ไหมคะ? จะได้ช่วยให้ทั้งสองร่วมงานกันสำเร็จ ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆเลยนะคะ”
เดิมทีคุณนายลี่ก็ชื่นชอบสวี่รั่วยีอยู่แล้ว คุณหนูตระกูลใหญ่แสนเรียบร้อย เหมาะสมกับลูกชายของเธอพอดีเลบ
ทั้งเมืองหลินชวน นอกจากสวี่รั่วยี ก็ไม่มีคุณหนูตระกูลไหนเหมาะสมกับลี่ถิงเซิ่งอีกแล้ว!
“สบายใจได้เลยค่ะ ฉันชอบยัยรั่วยี ต้องเป็นเธอเท่านั้นที่ได้ไปกับถิงเซิ่ง ฉันถึงจะอุ่นใจ” คุณนายลี่รับปาก
คืนนั้น ลี่ถิงเซิ่งกลับมาที่คฤหาสน์
แม่บ้านลอบมองเขาอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เดินเข้ามาหาอย่างเงอะงะ “คุณชายคะ คุณนายบอกว่าถ้าคุณกลับมาแล้ว ให้โทรไปหาเธอด้วย”
เมื่อลี่ถิงเซิ่งได้ยิน ก็ตีหน้านิ่งเล็กน้อย
แม่บ้านจึงหยุดพูดอย่างรู้งาน
ความสัมพันธ์ระหว่างลี่ถิงเซิ่งกับคุณนายลี่เฉยชาต่อกันมาตลอด
น้อยครั้งมากที่คุณนายลี่จะโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบลูกชายตัวเอง ถึงเขาจะเป็นคนบริหารลี่ซื่อกรุ๊ปก็ตาม
“ชงกาแฟไปให้ฉันที่ห้องหนังสือ” ลี่ถิงเซิ่งเอ่ยสั่ง
“ค่ะ คุณชาย”
หลายนาทีต่อมา ลี่ถิงเซิ่งก็วางสายด้วยใบหน้าเย็นชา
เขาโมโหจนกวาดทุกอย่างบนโต๊ะลงกับพื้น
เมื่อสวี่รั่วยีเห็นลี่ถิงเซิ่งมาที่ห้องตัวเอง ก็คิดว่าคุณนายลี่เกลี้ยกล่อมเขาสำเร็จ เธอกำลังจะยิ้มหวานออกมา แต่กลับต้องตกใจกลับความโกรธของลี่ถิงเซิ่งเสียก่อน
กำปั้นของลี่ถิงเซิ่งกระทบลงบนประตูอย่างรุนแรง จนเกิดเสียงดังสนั่น
“ถิง ถิงเซิ่ง คุณเป็นอะไร?”
“สวี่รั่วยี เก่งดีนี่ เป่าหูคนตระกูลลี่ให้มาเกลี้ยกล่อมผม เพื่อพาคุณไปออกงานด้วยสินะ?” ลี่ถิงเซิ่งไม่สนใจมือของตัวเองเลยสักนิด ดวงตาที่กำลังมองมาที่สวี่รั่วยี เต็มไปด้วยความร้ายกาจ
“นักปรุงน้ำหอมมือหนึ่งของเมืองหลินชวนงั้นเหรอ? คิดว่าผมไม่รู้หรือไง ว่ายอดขายน้ำหอมของคุณมีแค่เท่าไหร่เอง?”
ลี่ถิงเซิ่งไม่ได้ก้าวเข้าไปในห้องแม้แต่ก้าวเดียว ทุกๆคำพูดของเขา ล้วนแล้วแต่ทำให้สวี่รั่วยีหน้าซีด
“ผมเกลียดคนที่คิดจะมาควบคุมผมที่สุด สวี่รั่วยี คุณกระตุกต่อมโมโหผมมากเลยนะ”
“งานเลี้ยงพบปะกับสามีภรรยาฮิลล์ที่จะมีขึ้นในอาทิตย์หน้า ถ้าคุณไปโผล่ที่นั่น ผมรับรองว่าผมไล่คุณออกจากที่นี่แน่”
พูดจบ ลี่ถิงเซิ่งก็เตะบานประตูอย่างรุนแรง จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป
เหลือไว้แค่สวี่รั่วยีที่ตัวสั่นเทิ้มอยู่ในห้อง
ทำไมลี่ถิงเซิ่งต้องโกรธขนาดนั้น? ทำไมล่ะ? สวี่รั่วยีหน้าขาวซีด ริมฝีปากสั่นระริก
เธอหวังดีกับเขาแท้ๆ!
ทำไมเขาไม่ยอมชายตามองเธอเลย?
ทั้งๆที่เธอรักเขาขนาดนั้น!