เซียนหมากข้ามมิติ – ตอนที่ 395 ต้องคืนหนี้สุรา

เซียนหมากข้ามมิติ

ตอนที่ 395 ต้องคืนหนี้สุรา

สตรีอย่างลู่เชียนเหยียน ความจริงนิสัยคิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้นจี้หยวนไม่ได้รังเกียจ แต่คนที่เขาไม่เกลียดและไม่ชอบมีอยู่ถมไป สอนมรรคเซียนให้คนและเป็นสหายกับคนมีความแตกต่างกันอย่างยิ่งยวด ไม่ใช่เรื่องง่ายดายโดยสิ้นเชิง

ลู่เชียนเหยียนถามเช่นนี้ อย่าว่าแต่จี้หยวนเลย ไม่ว่าผู้ฝึกมรรคเซียนคนไหนอยู่ตรงหน้านางก็ทำได้เพียงตอบแบบเดียวกัน คนอื่นอาจมีความเกรงใจอยู่บ้าง แต่จี้หยวนไม่มีทางทำเช่นนั้น คนนิสัยแบบนี้ตรงไปตรงมาต่อไปน่ะดีแล้ว

นางกำนัลหญิงดูถูกคนไร้มรรคและมีความสามารถน้อยนิด ประเภทที่เล่นลูกไม้ทำมาหากินได้ในตลาดเหล่านั้น ย่อมไม่ทำให้นางกำนัลเกิดความประทับใจได้ เทียบกันจริงๆ แล้วไม่ใช่คู่ต่อสู้ของยอดฝีมือยุทธภพอย่างนางกำนัลเลย

เมื่อได้ยินจี้หยวนเอ่ยปากปฏิเสธตามตรง นางกำนัลย่อมผิดหวังเล็กน้อย ทว่านางเตรียมใจถูกปฏิเสธอยู่แล้ว ขอร้องเซียนไหนเลยจะง่ายขนาดนั้น แต่ไม่คิดว่าท่านจี้จะไม่แม้แต่พูดเงื่อนไขอะไร เพียงพูดตรงๆ ว่าตนเองไม่รับศิษย์

ด้วยนิสัยของนางกำนัล นางไม่อาจอดทนขอร้องต่อไปได้จึงหยุดลง นางเกลียดที่คนอื่นทำตัวเหนือนาง ยิ่งไม่ชินที่ตนเองทำตัวเหนือคนอื่นด้วย ดังนั้นนางทำได้เพียงกำหมัดไม่พูดจา วันนี้มีโอกาสได้พบเทพเซียนตัวจริง ไฟในใจที่ลุกโชนก็ไม่อาจดับได้ง่ายปานนั้น

ถึงตอนนี้ภิกษุฮุ่ยถงถึงค่อยก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง

“สาธุพระวิทยาราช ท่านจี้มีบุญคุณต่อวัดต้าเหลียงอย่างใหญ่หลวง ยิ่งเป็นสหายของพระเถระแล้วด้วย วัดต้าเหลียงยังไม่ได้ต้อนรับท่านจี้อย่างดีเลย กินข้าวสักมื้อค่อยไปไม่ดีหรือ”

จี้หยวนมองภิกษุฮุ่ยถงที่มีท่าทีเซื่องซึม กลับนึกถึงตอนที่พบกันครั้งแรกและอีกฝ่ายกลัวเขาอยู่เสมอ ไปจนถึงช่วงเวลาที่บ่นว่าก่อนหน้านี้ จึงแสดงความเห็นอย่างสั้นๆ

“อาหารมังสวิรัติข้ากินไปก็ไม่อิ่ม ตอนนี้ข้าอยากกินเนื้อสัตว์แล้ว!”

เมื่อฮุ่ยถงเหม่อไปเล็กน้อย จี้หยวนพลันหัวเราะเสียงดัง

“ฮ่าๆๆๆๆๆ…ไต้ซือทุกท่านไม่ต้องแปลกใจ เพียงล้อเล่นเท่านั้น ข้าคนแซ่จี้ขอตัวล่ะ!”

ท่ามกลางเสียงหัวเราะ จี้หยวนกระโจนตัวเบาๆ เมื่อถึงระดับความสูงสิบกว่าจั้งแล้วตีลังกาสู่ลมสดชื่น บินขึ้นสู่ท้องฟ้าในทันที เงาร่างกลับค่อยๆ เจือจางสู่สายลมหลังจากนั้น และไม่นานก็จางหายไปโดยสิ้นเชิง

“สาธุ ท่านจี้เป็นเซียนพเนจรตัวจริง!”

ภิกษุฮุ่ยถงมีรอยยิ้มบนใบหน้า อาหารมังสวิรัติของวัดต้าเหลียงแม้รสชาติดีทีเดียว แต่พลันพูดว่าอยากกินเนื้อสัตว์ ความคิดนี้ยิ่งมายิ่งจริงจังขึ้นเรื่อยๆ

และบาดแผลจากเคราะห์สวรรค์บนตัวจี้หยวนไม่อาจมองข้ามได้ ถึงใช้ปราณวิญญาณและพลังรักษามันอย่างช้าๆ ด้วยการฝึกปราณที่มีย่อมฟื้นกลับคืนสภาพเดินได้ แต่บาดแผลเช่นนี้อย่างไรเสียก็ไม่ใช่บาดแผลธรรมดา ยังต้องรับมือกับมันอย่างระมัดระวัง

ในความคิดของจี้หยวนตอนนี้ สิ่งที่วาดฝันไว้คือไปแม่น้ำเทียมฟ้าสักครั้ง มังกรเฒ่าติดสุราอำพันมังกรกับเขาไว้ไม่น้อย น่าจะได้ผลอะไรอยู่บ้าง

หลังจากนั้นสองวัน เช้าตรู่ริมแม่น้ำเทียมฟ้าแห่งอาณาจักรต้าเจินมีหมอกสลัว เงาร่างของจี้หยวนไม่ได้ร่อนลงจากท้องฟ้า ทว่าเหมือนกับเดินออกมาจากไอหมอกอย่างไรอย่างนั้น แล้วปรากฏตัวที่ริมแม่น้ำด้วยรูปลักษณ์ของหมอก

แม่น้ำช่วงนี้คือบริเวณใกล้เคียงทางเข้าจวนบาดาลแม่น้ำเทียมฟ้า ตอนนี้บนผิวแม่น้ำมีเรือใหญ่หลายลำกำลังแล่นอยู่ เพราะหมอกลงอยู่บ้างจึงไม่ได้แล่นไปข้างหน้าเร็วนัก

จี้หยวนกวาดสายตามองผิวแม่น้ำครั้งหนึ่ง จากนั้นก้าวเท้าลงสู่ผิวน้ำ

เมื่อลงน้ำแล้วไม่นานจี้หยวนก็รู้ว่ามังกรเฒ่าต้องอยู่ที่บ้านอย่างแน่นอน กระแสน้ำด้านล่างในน่านน้ำใกล้เคียงให้ความรู้สึกน่าหงุดหงิดอยู่บ้าง ด้วยเวลาผ่านไปนานมาก หากไม่ได้ตั้งใจรับรู้ย่อมไม่มีทางรู้สึกถึง ความจริงเป็นเพราะลมหายใจของมังกรเฒ่าในสระมังกรนั่นแหละ

จี้หยวนเข้าไปใกล้แล้ว ยักษ์ทั้งหมดล้วนกำอาวุธพร้อมประสานมือทำความเคารพ

“คารวะท่านจี้!”

จี้หยวนตอบกลับตามมารยาทเล็กน้อย ก่อนจะยกเท้าย่ำคลื่นน้ำเดินเข้าไปใกล้อีกหลายก้าว มองส่วนในของจวนบาดาลแล้วถาม

“ประมุขมังกรของพวกเจ้าอยู่กระมัง”

ยักษ์ตนหนึ่งรีบตอบ

“ประมุขมังกรพักผ่อนอยู่ที่สระมังกร มียักษ์ไปรายงานเรื่องที่ท่านจี้มาเยือนแล้ว ท่านจี้เชิญตามข้าไปคอยข้างในเถอะ!”

“ดี!”

จี้หยวนเพิ่งก้าวเข้าไปในจวนบาดาลก็พลันนึกอะไรได้ เขยิบไปหายักษ์ที่กลิ่นอายคุ้นเคยตนหนึ่งเพื่อสั่งเสียงเบา ฝ่ายหลังพยักหน้าหงึกหงัก

จากนั้นจี้หยวนถึงเข้าไปในจวนบาดาล ด้วยการนำทางของหัวหน้ายักษ์ ไม่นานก็ได้นั่งลงกลางตำหนักด้านในจวนบาดาล บนโต๊ะน้ำชาด้านข้างวางไว้ด้วยอาหารหลายชนิด และย่อมไม่ขาดขนมขึ้นชื่อของเมืองหลวงต้าเจิน

หลังจากจี้หยวนกินขนมถั่วเขียวที่ห่อด้วยฟองอากาศไปแล้วหลายชิ้น เขาก็ถามกับยักษ์ที่คอยอยู่ข้างๆ เป็นเพื่อนเขา

“องค์ชายอิงและเทพีแม่น้ำไม่อยู่หรือ”

หากทั้งสองคนอยู่ ตอนนี้คงจะออกมาพบเขาแล้ว

“เรียนท่านจี้ เทพีแม่น้ำกับองค์ชายอิง…”

“หึ พวกเขาไปที่เกาะจันทร์งามแล้ว!”

ยักษ์ยังไม่ทันพูดจบ เสียงของมังกรเฒ่าก็ดังมาจากตำหนักหลัง จากนั้นค่อยแหวนคลื่นน้ำเดินมาใกล้จี้หยวนอย่างช้าๆ ระหว่างเข้ามาใกล้ก็ประสานมือคารวะไปด้วย

“ท่านจี้ ไม่พบกันนานเลย!”

จี้หยวนวางขนมถั่วเขียวในมือลง ยืนขึ้นพร้อมรอยยิ้มแล้วคารวะกลับ

“สวัสดีผู้อาวุโสอิง อยู่คนเดียวเบื่อแย่”

มังกรเฒ่าแค่นหัวเราะเสียงหนึ่ง จากนั้นผายมือ

“ท่านจี้เชิญนั่ง!”

แน่นอนว่าจี้หยวนรู้ว่าเกาะจันทร์งามคือที่ใด นั่นเป็นที่พักอาศัยซึ่งบุตรและธิดามังกรเสาะหาให้เจ้าแม่มังกรบนทะเลบูรพา เห็นมังกรเฒ่าคล้ายมีท่าทางไม่อยากพูดถึง จี้หยวนจึงไม่ถามมากแล้ว เมื่อนั่งลงพลันพูดเข้าประเด็น

“ผู้อาวุโสอิง พนันที่ท่านแพ้ข้าในปีนั้นยังมีผลอยู่ ข้าคนแซ่จี้มาทวงหนี้แล้ว!”

“เตรียมไว้ตั้งนานแล้ว!”

มังกรเฒ่าสุขใจยิ่งนัก โบกมือเปลี่ยนบนโต๊ะให้กลายเป็นสุราสองกา กาหนึ่งเป็นสุรากรอกปากทำจากหยกขาวและอัญมณี ส่วนอีกกาหนึ่งเป็นกาสุราสีเขียวมรกต

“สุราสองกานี้นับเป็นของล้ำค่าสองชิ้นแล้ว สีขาวเป็นเฟิงเอ๋อร์เตรียมไว้ให้ท่าน เขากลัวว่าตอนท่านมาแล้วเขาไม่อยู่จึงฝากฝังไว้กับข้า ข้างในเป็นสุราดีที่บ่มโดยจิตวิญญาณผสมกับสมุนไพรเซียน มีอยู่ประมาณยี่สิบโต่ว นับว่าหายากทีเดียว ส่วนสีเขียวมรกตย่อมเป็นสุราอำพันมังกร มีอยู่ประมาณสามโต่วกระมัง”

จี้หยวนฟังแล้วมีสีหน้ายินดี

“สามกระบวยแน่ะ ไม่น้อยเลย ไม่น้อยเลย!”

สุราสามโต่วที่ว่าเท่ากับปริมาณหนึ่งโต่วสี่ชั่ง สามโต่วก็เท่ากับยี่สิบชั่งเต็มๆ นี่เป็นถึงสุราอำพันมังกรเชียว เดิมทีจี้หยวนคิดว่าได้ดื่มสักสามสี่กาเล็กๆ ก็ใช้ได้แล้ว

มังกรเฒ่าชำเลืองมองจี้หยวนที่ยิ้มเริงร่าพลางกล่าวเสียงเรียบ

“ท่านจี้ชอบก็ดีแล้ว”

“ต้องชอบอยู่แล้ว เช่นนั้นข้าคนแซ่จี้ขอเก็บเลย!”

จี้หยวนยกแขนเสื้อ เก็บสุราพันโต่วสองกาเข้าไปในแขนเสื้อเขา จากนั้นลุกขึ้นยืน

“ข้ากินขนมแล้ว สุราก็ได้รับแล้ว เช่นนั้นข้าคนแซ่จี้ขอตัวลา!”

“เอ๋?”

มังกรเฒ่าชะงักเล็กน้อย เป่าหนวดถลึงตาพร้อมกับลุกขึ้นยืนทันที

“จี้หยวนตัวดี! ท่านมาทวงหนี้อย่างเดียวจริงๆ หรือ ได้สุราแล้วก็ไป รีบร้อนปานนี้เชียว ไม่มีเวลาสนทนากันสักหน่อยเลยหรือ”

จี้หยวนเผชิญหน้ากับสหายอย่างมังกรเฒ่า ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายเป็นมังกรแท้ ถึงแม้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายดูเหมือนกำลังโมโห เขาก็ไม่มีกะใจไปรับมือแล้ว เมื่อได้ยินคำถามจึงยังแสร้งยิ้มและแบมือ

“ไม่เช่นนั้นเล่า? ผู้อาวุโสอิงทำหน้าง้ำตลอด ข้ามองดูแล้วเหมือนไม่ต้อนรับข้าคนแซ่จี้ มิสู้ให้ท่านพักผ่อนอยู่ที่นี่ตามลำพังดีกว่า!”

มังกรเฒ่าสงบสติอารมณ์ ส่ายศีรษะก่อนจะใช้หลังมือผลักไปข้างหน้าสองครั้ง

“ช่างเถอะๆ ตามแต่ใจท่าน”

“ดี ในเมื่อตามแต่ใจข้า เช่นนั้นผู้อาวุโสอิงไปกับข้าสักครั้งเถอะ ตอนนั้นท่านกับข้าส่งฉินจื่อโจวไปถึงอารามเขาเมฆาด้วยกัน วันนี้ที่นั่นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ควรพาท่านไปดูด้วยกันเสียหน่อย”

จี้หยวนยืนขึ้นเช่นกัน จัดระเบียบเสื้อผ้าและเชื้อเชิญมังกรเฒ่า อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็หมกตัวอยู่ที่นี่จนอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“ฮ่าๆ ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านยังมีอะไรอยากพูด ข้ากำลังเบื่ออยู่พอดี ไปเถอะ!”

คราวนี้มังกรเฒ่ายิ้มแป้น หลังจากกำชักกับยักษ์ที่อยู่รอบข้างหลายคำแล้วก็ตามจี้หยวนออกจากจวนบาดาลไป ครั้นเดินออกจากจวนบาดาลแล้ว ยักษ์หนึ่งตนในบรรดายักษ์ทั้งหลายที่ทำความเคารพก้าวออกมา ในมือลากสาหร่ายเส้นเล็กละเอียดเอาไว้

“ท่านจี้ ปลาที่ท่านต้องการ!”

มังกรเฒ่าเหลือบมองข้างหลังยักษ์ ที่แท้สาหร่ายนี้เข้าไปในตัวปลาแล้วทะลุออกมาทางปาก จับปลาโพรงเงินที่มีน้ำหนักอย่างน้อยยี่สิบสามสิบชั่งมาได้สามตัว

“ไม่เลวๆ!”

เห็นปลาพวกนี้แล้วจี้หยวนยิ่งอารมณ์ดีกว่าเดิม ยังจำตอนที่ตกปลาบนผิวแม่น้ำในปีนั้นได้ นั่นก็เป็นปลาที่ยักษ์ตนนี้จับให้เช่นกัน

“ฮ่าๆ ท่านจี้สั่งแล้วไหนเลยจะกล้าไม่ใส่ใจ ข้าว่ายน้ำไปถึงน่านน้ำใกล้ๆ ตามหาปลาที่เหมาะสมหลายตัวโดยเฉพาะ ตั้งใจทำตามคำขอของท่าน ปลาที่พบล้วนตัวใหญ่ ทั้งสามตัวนี้นั่นแหละ สัดส่วนครึ่งหนึ่งอยู่ที่หัว”

ยักษ์เล่าขั้นตอนจับปลาอย่างง่ายๆ แสดงถึงความพยายามของตนเอง

จี้หยวนมองมังกรเฒ่า ชี้ยักษ์ตนนี้ก่อนกล่าว

“ดูสิ อะไรเรียกว่าคนมีความสามารถ ต้องเป็นเขาแล้วล่ะ!”

พูดแล้วจี้หยวนก็รับเชือกสาหร่ายจากมือยักษ์ที่ตื่นตะลึงเพราะได้รับคำชม เมื่อสะบัดแขนเสื้อครั้งหนึ่งแล้ว น้ำทะเลส่วนหนึ่งก็เข้าไปในแขนเสื้อด้วย

คำพูดของจี้หยวนทำให้มังกรเฒ่ามองยักษ์ตนนี้อยู่หลายครั้ง อีกทั้งพยักหน้าให้เล็กน้อยด้วย จากนั้นถึงว่ายน้ำจากไปพร้อมกับจี้หยวน ไม่นานนักก็หายไปจากสายตาของเหล่ายักษ์

หลังจากจี้หยวนและมังกรเฒ่าไปแล้ว ยักษ์รอบข้างรวมถึงผู้นำยักษ์ล้วนเข้าไปแสดงความยินดีกับสหาย สหายตนนี้ได้รับการจดจำจากทั้งมังกรเฒ่าและจี้หยวน ย่อมต้องมีอนาคตที่สดใสแน่นอน

ตอนเหยียบเมฆเหาะไปถึงรัฐปิง จี้หยวนหยิบสุราพันโต่วสีมรกตออกมาระหว่างทาง เทสุราอำพันมังกรดื่มไป อีกทั้งตั้งอกตั้งใจควบคุมร่างกายไม่ให้หลอมปราณวิญญาณพิเศษในสุรา ปล่อยให้ฤทธิ์สุราไหลเวียนอยู่ภายในกาย นอกจากนี้ยังผลักดันไปที่แขนซ้ายและมือซ้ายด้วย

ความรู้สึกสดชื่นเอ่อขึ้นมา กดความรู้สึกเจ็บปวดทุกขณะจิตนั้นได้บ้างแล้ว และทำให้จี้หยวนถอนใจโล่งอกได้เล็กๆ อำพันมังกรได้ผลจริงดังคาด

กลับเป็นมังกรเฒ่าข้างๆ ยังคิดว่าความคอแข็งของจี้หยวนเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้ว เพิ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเร่งเดินทางก็ร้อนใจเทสุราชิมอย่างอดรนทนไม่ไหว

เซียนหมากข้ามมิติ

เซียนหมากข้ามมิติ

Status: Ongoing
เพราะกระดานหมากเก่าๆ จี้หยวน พนักงานบริษัทธรรมดาๆ จึงข้ามมิติมาสู่โลกใหม่ในร่างขอทานตาเกือบบอด เพื่อเอาตัวรอดในโลกที่ไม่คุ้นเคย เขาจึงต้องใช้ไหวพริบของคนยุคปัจจุบันและกลหมากพัฒนาตัวเองให้แกร่งกล้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท