บทที่ 13 กลิ่นน้ำหอมบนตัวคุณ ทำให้ผมสะอิดสะเอียน
สวี่รั่วยีกลัวว่าตัวเองจะจำผิดไป จึงเอาพวกน้ำหอมที่สวี่รั่วฉิงเหลือทิ้งไว้ ออกมาเปรียบเทียบกันดูแล้ว ก็เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าน้ำหอมที่แอนนาปรุงออกมาเหมือนกับของที่สวี่รั่วฉิงเหลือทิ้งไว้ยังไงอย่างงั้น
ในเมื่อน้ำหอมที่แอนนาปรุงออกมาเหมือนกับที่สวี่รั่วฉิงเหลือทิ้งไว้เลย งั้นก็ไม่ต้องใช้อย่างประหยัดแล้ว
ลี่ถิงเซิ่งชอบกลิ่นน้ำหอมอย่างนี้ เธอก็จะให้ข้าวของทั้งหมดของตัวเองมีกลิ่นน้ำหอมนี้ให้หมด
สวี่รั่วยีเรียกสาวใช้เข้ามา แล้วน้ำหอมหนึ่งในนั้นยื่นให้กับเธอ แล้วสั่งต่อว่า “ช่วยฉันเอาน้ำหอมขวดนี้ไปฉีดใส่เสื้อผ้าทั้งหมดเลย!”
แล้วสาวใช้ก็ทำตามที่สวี่รั่วยีสั่งให้เอาน้ำหอมไปฉีดใส่ตู้เสื้อผ้าทุกตู้ในห้องแต่งตัวทั้งหมดของเธอ
หลังจากที่สวี่รั่วยีตรวจสอบดูแล้วก็มีรอยยิ้มพึงพอใจออกมา
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไมน้ำหอมพวกนั้นที่สวี่รั่วฉิงเหลือทิ้งไว้จะสามารถผ่อนคลายอาการนอนไม่หลับของลี่ถิงเซิ่งได้ แต่ว่าขอแค่มีน้ำหอมที่แอนนาปรุงขึ้นมา เธอก็จะสามารถพึ่งพาการผ่อนคลายอาการนอนไม่หลับของลี่ถิงเซิ่ง มาอยู่ข้างกายของเธอได้อย่างเหนียวแน่นแล้ว
นอกจากตัวเองแล้ว ยังจะมีใครสามารถผ่อนคลายอาการนอนไม่หลับของเขาได้อีก?
ไม่มีแล้ว!
สุดท้ายคนที่จะสามารถพึ่งจุดนี้จนได้กลายเป็นคุณนายน้อยลี่ ก็มีแต่ตัวเองแล้ว!
“ช่วยฉันเตรียมข้าวของในการอาบน้ำหน่อย ฉันจะไปแช่น้ำนมสักหน่อย” สวี่รั่วยีรับสั่งขึ้นเสียงอ่อน “รอถิงเซิ่งกลับมาแล้ว อย่าลืมมารายงานให้ฉันด้วยล่ะ อ๋อใช่แล้ว น้ำในอ่างอาบน้ำอย่าให้ร้อนมาก มันไม่ดีต่อผิว แล้วก็อย่าลืมหยดน้ำมันหอมกลิ่นกุหลาบลงข้างในนิดหนึ่งด้วยนะ บนเสื้อคลุมอาบน้ำก็อย่าลืมฉีดน้ำหอมใส่สักหน่อยด้วยนะ”
เธอจะต้องทำตัวให้กระปรี้กระเปร่า รอคอยลี่ถิงเซิ่งกลับมาคฤหาสน์ในตอนกลางคืน
กลางดึก ดวงจันทร์และดวงดาวเต็มท้องฟ้า
สวี่รั่วยีเปลี่ยนเป็นชุดชุดนอนคอปกสูงเรียบร้อยทำจากผ้าฝ้ายตามสไตล์คุณหนูผู้ดี ผมที่เกือบจะแห้งม้วนเป็นมวยก้อนอยู่บนหลังศีรษะ
“ถิงเซิ่งยังไม่กลับมาอีกเหรอ?” ในใจของสวี่รั่วยีร้อนรน ผ่านไปครู่หนึ่งเธอก็ดูโทรศัพท์ครั้งหนึ่ง เฝ้ารอตั้งแต่ห้าโมงเย็นรอมาจนถึงสี่ทุ่มกลางคืน ลี่ถิงเซิ่งก็ยังไม่กลับมาอีก
“คุณชายยังไม่กลับมาค่ะ” สาวใช้วิ่งขึ้นวิ่งลง เพื่อรายงานข่าวให้สวี่รั่วยี
สวี่รั่วยีสะบัดมือเล็กน้อย “ถ้าถิงเซิ่งกลับมาแล้วก็รีบมาบอกฉัน”
ลี่ถิงเซิ่งยิ่งอยู่ก็ยิ่งปฏิบัติอย่างเย็นชาต่อตัวเองแล้ว โลกภายนอกลือกันว่าพวกเขาจะแต่งงานกันแล้ว แต่ว่าทุกครั้งที่เอ่ยถึงเรื่องนี้ หน้าตาที่หล่อเหลาของชายหนุ่มก็จะเคร่งขรึมขึ้น เพื่อเตือนให้ตัวเองว่าไม่ยุ่งเรื่องคนอื่นมากเกินไป
จะพึ่งน้ำหอมที่แอนนาปรุงขึ้นมาเพื่อแย่งความรู้สึกดีที่ลี่ถิงเซิ่งมีต่อตัวเองกลับคืนมา นี่เป็นหนทางสุดท้ายแล้ว
ถ้าหากว่าแม้แต่น้ำหอมก็ไม่มีประโยชน์……
“คุณสวี่ ชุณชายกลับมาแล้วค่ะ!” สาวให้เห็นรถไมบัคสีดำคันหนึ่งขับเข้ามาในโรงจอดรถ ก็รีบวิ่งมายังห้องนอนของสวี่รั่วยีอย่างเร่งด่วน
สวี่รั่วยีดีอกดีใจเป็นอย่างมาก แล้วก็จัดการกับเสื้อผ้าบนตัวเล็กน้อย “ฉันเป็นแบบนี้สวยหรือยัง?”
“สวยแน่นอนอยู่แล้ว!” รับเงินของสวี่รั่วยีมา ก็แน่นอนว่าจะต้องทำให้สวี่รั่วยีดีใจ สาวใช้นั้นรู้จุดนี้เป็นอย่างดี
สวี่รั่วยีครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง แล้วก็ให้สาวใช้ช่วยเอาผ้าคลุมขนแกะงานถักมือมาให้ตัวเองตัวหนึ่ง แล้วคลุมไว้บนตัว ดูไปแล้วก็เหมือนกับภรรยาที่เพิ่งแต่งงานใหม่แล้วรอสามีกลับบ้านเลย
เธอเม้มปากเล็กน้อย แล้วก็ออกไปจากห้องนอนอย่างอ่อนโยนและโอ่อ่า แล้วมารอลี่ถิงเซิ่งอยู่ที่ห้องรับแขก
“คุณชายกลับมาแล้วเหรอครับ” พ่อบ้านรับเสื้อสูทที่ลี่ถิงเซิ่งยื่นมาให้ แล้วก็เอาเสื้อพาดไว้ที่ข้อพับอย่างมีเคารพนับถือ แล้วก็พยักหน้าให้ทีหนึ่งอย่างแสดงความเคารพ “คุณลำบากแล้ว จะต้องเตรียมอาหารมื้อดึกให้คุณไหมครับ? พ่อครัวในบ้านกำลังรอคุณกลับมาอยู่ครับ……”
ดวงตาเย็นชาของลี่ถิงเซิ่งกวาดมองพ่อบ้านอย่างเรียบเฉยทีหนึ่ง แล้วริมฝีปากบางก็ขยับขึ้น “ไม่ต้องแล้ว ชงกาแฟแก้วหนึ่งส่งมาให้ที่ห้องหนังสือก็พอ”
สวี่รั่วยีเดาออกนานแล้วว่าลี่ถิงเซิ่งกลับมาดึกดื่นขนาดนี้ จะต้องไปที่ห้องหนังสือต่อแน่ เธอได้ให้คนบดกาแฟของKlatch Coffee ไว้แก้วหนึ่งแล้ว แล้วก็ยกมาเองกับมือ เดินมาถึงตรงหน้าลี่ถิงเซิ่ง แล้วมีท่าทางที่อ่อนโยนอ่อนหวาน “ถิงเซิ่ง คุณกลับมาดึกขนาดนี้ คงจะเหนื่อยมากละซิ เมื่อกี้ฉันเพิ่งทำกาแฟKlatch Coffeeที่คุณชอบที่สุดเองกับมือมาแก้วหนึ่ง คุณจะลองดื่มดูก่อนหน่อยไหม?”
ร่างกายที่สูงใหญ่ของลี่ถิงเซิ่งหยุดลง เขาเอียงตัวมองสวี่รั่วยีที่เดินมาทางตัวเอง
กลิ่นหอมกลิ่นหนึ่งลอยมาตามสวี่รั่วยีที่ยิ่งเดินเข้ามาใกล้ ยิ่งดมก็ยิ่งเหม็น
มุมปากของสวี่รั่วยีคลี่รอยยิ้มที่ได้ใจออกมาอันหนึ่ง เขาคงจะได้กลิ่นกลิ่นหอมบนตัวของตัวเองแล้วละซิ?
แต่ใครจะไปนึกว่าวินาทีต่อมา คิ้วคมของลี่ถิงเซิ่งขมวดกันเป็นปมขึ้นมาอันหนึ่ง แล้วตอนที่สวี่รั่วยีเข้ามาใกล้เขาอีกครั้ง ตอนที่มือขาวเรียวเตรียมจะแตะต้องตัวเขานั้น เขาก็สะบัดกาแฟที่มือของสวี่รั่วยีถืออยู่จนคว่ำไปเลย
เสียงดัง“แคร้ง”ทีหนึ่ง แก้วกระเบื้องโบราณที่มีมูลค่าสูงก็ตกลงสู่พื้นกระเบื้องหินออ่น แล้วกลายเป็นแตกละเอียด
“ถิงเซิ่ง นี่คุณเป็นอะไรไปคะ?” สวี่รั่วยีคิดไม่ถึงเลยว่าความเป็นห่วงเป็นใยจากความประสงค์ดีของตัวเอง ทำไมถึงได้ทำให้ลี่ถิงเซิ่งเกิดความโมโหได้ขนาดนี้!
ในดวงตาโต ๆ ของสวี่รั่วยีเต็มไปด้วยน้ำตา ราวกับว่าได้รับความลำบากใจอย่างใหญ่หลวง
ใบหน้าที่ใหญ่เท่าหนึ่งฝ่ามือ เปลี่ยนเป็นสีขาวซีด ดูน่าสงสารไปหมด จนรบกวนจิตใจผู้คน
ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้วขึ้น ในแววตามีแววรังเกียจกะพริบขึ้น เขารีบเดินไปทางห้องหนังสืออย่างไม่ให้สุ้มเสียง พอเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ฝีเท้าก็หยุดลง แล้วหันตัวมา “วันนี้คุณไม่ต้องมาพักผ่อนกับผมที่ห้องแล้ว”
“อะไรนะ?” สวี่รั่วยีตกใจจนหน้าขาวซีด
เหตุผลที่สำคัญที่สุดที่เธอสามารถอาศัยอยู่ระยะยาวในคฤหาสน์ของลี่ถิงเซิ่งได้ก็เพราะว่า ลี่ถิงเซิ่งห่างเธอไม่ได้
ถ้าไม่มีเธอ ลี่ถิงเซิ่งก็ไม่มีทางที่จะผ่อนคลายอาการนอนไม่หลับได้!
แต่ว่าตอนนี้ลี่ถิงเซิ่งกลับพูดออกมาว่าไม่จำเป็นจะต้องให้ตัวเองไปนอนด้วยแล้ว นี่มันเท่ากับว่าความสำคัญที่เธอมีต่อเขาโดนพรากไปแล้วไม่ใช่เหรอ!
“ถิงเซิ่ง เป็นเพราะว่ากาแฟมีปัญหาเหรอคะ? ฉันเพิ่งบดกาแฟครั้งแรก อาจจะบดได้ไม่ดีเท่าไหร่……” ริมฝีปากของสวี่รั่วยีขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว ในน้ำเสียงที่อ่อนโยนแฝงไว้ด้วยความสะอื้น
แววตาของลี่ถิงเซิ่งเหล่มองไปที่สวี่รั่วยีอย่างเย็นชา “น้ำหอมที่คุณใช้ในวันนี้ ต่อไปไม่ต้องใช้อีก มันเหม็น”
ใบหน้าเรียวเล็กของสวี่รั่วยีเปลี่ยนเป็นขาวซีดขึ้นทันที
ในหูก็ดังอื้ออึงไม่หยุด
ลี่ถิงเซิ่งพูดว่าอะไรนะ?
น้ำหอมที่เธอใช้ในวันนี้เหม็นเหรอ? เป็นไปได้ยังไง! นี่เป็นน้ำหอมที่แอนนาวิเคราะห์จากพวกน้ำหอมที่สวี่รั่วฉิงเหลือทิ้งไว้แล้วตั้งใจสั่งทำขึ้นมา เธอเองก็ได้ดมเองกับตัวมาแล้ว ว่าไม่มีปัญหาอะไร ถึงได้กล้าใช้!
“ถิงเซิ่ง ร่างกายคุณไม่สบายหรือเปล่า? น้ำหอมที่ฉันใช้ในวันนี้ก็เหมือนกับที่ใช้ในผ่านมานี่ ต่างก็เป็นของที่คุณชอบทั้งนั้น” สวี่รั่วยีพยายามแก้ต่าง เธอเพิ่งจะเดินเข้าไปใกล้ลี่ถิงเซิ่งก้าวหนึ่ง ก็โดนน้ำเสียงเย็นชาของชายหนุ่มสกัดกั้นไว้แล้ว
“สวี่รั่วยี! ถ้าคุณไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ก็รีบไสหัวไปซะ” ลี่ถิงเซิ่งไม่ค่อยพูดคำหยาบคาบกับสวี่รั่วยี แต่ว่ากลิ่นบนตัวของหญิงสาวในตอนนี้ ทำให้เขาสะอิดสะเอียน แล้วยังอยากจะอ้วกด้วย
“ผมขอเตือนคุณครั้งสุดท้าย ต่อไปถ้าจะปรากฏตัวต่อหน้าผม อย่าให้ผมได้กลิ่นนี้อีกเด็ดขาด” หลังจากที่ลี่ถิงเซิ่งตักเตือนอย่างเย็นชาเสร็จ แล้วก็เดินไปทางห้องหนังสืออย่างไม่ระลึกถึงอะไรเลย
ทิ้งสวี่รั่วยีไว้อย่างน่าสงสารอยู่ในห้องรับแขกที่ตกแต่งหรูหราอยู่คนเดียว
ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้?
ทั้ง ๆ ที่น้ำหอมไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น ทำไมลี่ถิงเซิ่งถึงได้มีปฏิกิริยาแรงขนาดนี้ละ!
หรือว่าเขาไม่ควรจะลุ่มหลงกับกลิ่นบนตัวเธอจนโงหัวไม่ขึ้นหรอกเหรอ?
สวี่รั่วยีกัดริมฝีปากสีชมพูของตัวเองไว้อย่างแรก ใบหน้าที่ยังทำให้คนดูแล้วน่าสงสารทุกที่และทำให้คนรัก ตอนนี้กลับความโกรธยึดครอง และดูโหดเหี้ยมมากขึ้น
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีแล้ว สวี่รั่วยีก็กลับมาถึงห้องของตัวเองอย่างโมโห แล้วเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาและหาอีเมลของแอนนาจนเจอ
ในเมื่อรับเงินของเธอไปแล้ว แต่ว่าน้ำหอมที่ปรุงออกมาไม่เพียงไม่ช่วยให้เธอได้ลี่ถิงเซิ่งกลับมา กลับยิ่งทำให้ชายหนุ่มรังเกียจเธอมากยิ่งขึ้นไปอีก!
“น้ำหอมของคุณมันเรื่องอะไรกัน! คุณแอบใส่ของอะไรที่ไม่ควรใส่ลงไปด้วยใช่หรือเปล่า! ทำไมถึงไม่ได้รับผลเท่าที่ควรล่ะ!”
สวี่รั่วฉิงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และคลุมเสื้อคลุมอาบน้ำไว้ แล้วนั่งอยู่บนโซฟาอย่างพึงพอใจ และถือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเอาไว้
ดวงตาแอปริคอทที่สว่างสดใสจ้องมองอีเมลที่สวี่รั่วยีส่งมา แล้วก็หัวเราะขึ้นเบา ๆ สองที
ดูท่าลี่ถิงเซิ่งคงจะได้ลิ้มลองความพิเศษเฉพาะของน้ำหอมขวดนั้นแล้ว!
สำหรับคนทั่วไปมาพูดแล้ว น้ำหอมที่เธอตั้งใจปรุงขึ้นมาไม่ได้แตกต่างอะไรกับของที่ผ่านมา
แต่สำหรับคนที่ประสาทรับกลิ่นละเอียดอ่อนเป็นพิเศษมาพูดแล้วนั้น มันก็จะไม่เหมือนกันแล้ว!