บทที่40 สิ่งที่รอกลับเป็นการกล่าวโทษตัวเธอเอง
สวี่รั่วฉิงพยักหน้า น้ำเสียงเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ:“ผู้ช่วยหลี่ ฉันขอตัวไปเติมเครื่องสำอางก่อนนะคะ”
หลี่อานรู้สึกแปลกใจ เธอเป็นคนสวยขนาดนี้ แต่ก็ยังคงให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของตัวเองตลอดเวลา
“คุณวางใจเถอะครับ ผมมีเรื่องที่จะต้องรายงานประธานลี่พอดี”
สวี่รั่วฉิงยิ้มขอบคุณ
เมื่อหลี่อานเห็นสวี่รั่วฉิงเดินจากไป ก็ครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินไปยังห้องทำงานของลี่ถิงเซิ่ง
เขาเคาะประตูเบาๆ อีกไม่กี่วินาทีต่อมาเสียงเจ้านายที่เย็นชาและคุ้นเคยก็ดังขึ้น จากนั้นเขาจึงผลักประตูไม้ออก
“ประธานลี่ครับ กำหนดการของแผนงานในครั้งก่อนจัดการเรียบร้อยแล้วครับ”หลี่อานใช้สองมือยื่นเอกสารให้กับผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงาน
นิ้วมือเรียวยาวรับเอกสารขึ้นมากวาดสายตาดูครู่หนึ่ง จากนั้นก็วางลงข้างๆ
จากนั้นลี่ถิงเซิ่งก็เหลือบมองหลี่อานครู่หนึ่ง ขมวดคิ้วเข้าหากัน “คุณยังมีเรื่องอะไรอีกไหม?”
หลี่อานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเล่าเรื่องที่ได้ยินมาเมื่อสักครู่นี้ให้ลี่ถิงเซิ่งฟัง
“ประธานลี่ครับ คุณนายลี่ทำให้ผู้ช่วยแอนนารู้สึกอึดอัดใจครับ”
เมื่อหลี่อานพูดจบ ก็เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของลี่ถิงเซิ่งขรึมลง
เขากลืนน้ำลายหนึ่งอึก
แม้ว่าหลี่อานจะรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างลี่ถิงเซิ่งกับคุณนายลี่จะไม่ค่อยดีนัก แต่ว่าอย่างน้อยพวกเขาก็เป็นแม่ลูกกัน การที่ตนซึ่งเป็นคนนอกช่วยอธิบายให้กับผู้ช่วยแอนนา ราวกับว่าเขากำลังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามีปัญหามากยิ่งขึ้น
นัยตาดำของลี่ถิงเซิ่ง เผยรอยยิ้มที่ลึกซึ้งออกมา
เขาเงยหน้าขึ้น และสายตาคู่นั้นก็มองไปที่หลี่อาน
“หล่อนให้ผู้ช่วยแอนนาไปพบทำไม?แล้วทำไมผมไม่ทราบเรื่องนี้ล่ะ?”
ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและไม่พอใจ
ผู้หญิงที่ปกติไม่ค่อยสนใจเขาสักเท่าไหร่ แต่พอเขามีผู้หญิงแปลกหน้าอยู่ข้างกาย ก็ยื่นมือเข้ามาคิดจะควบคุม?
ลี่ถิงเซิ่งเผยรอยยิ้มที่เย้นหยันออกมา
ในความทรงจำของลี่ถิงเซิ่ง คุณนายลี่แม้ว่าจะเป็นแม่ของเขา แต่ก็ติดต่อหาเขาน้อยมาก
หากไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ผู้หญิงคนนั้นไม่มีทางโทรศัพท์หาเขาอย่างเด็ดขาด
คราวที่แล้วที่คุยกันหล่อนยังบีบบังคับให้เขาแต่งงานกับสวี่รั่วยีอยู่เลย
สายตาของลี่ถิงเซิ่งเผยความรังเกียจที่มีต่อคุณนายลี่ออกมา เขาใช้นิ้วมือสีขาวเคาะที่ขอบโต๊ะครั้งแล้วครั้งเล่า และไล่ถามขึ้นว่า:“หล่อนให้แอนนาไปพบเมื่อไหร่กัน?แอนนาบอกกับคุณเหรอ?”
หลี่อานพยักหน้า และเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้ตามความเป็นจริง
“วันนี้ผู้ช่วยแอนนามาถึงบริษัทและเห็นว่ายังเหลือเวลาอีกนิดหน่อยก่อนจะเริ่มงาน ทั้งสองจึงได้พูดคุยกัน ผู้ช่วยแอนนาคิดว่าคุณเป็นคนเล่าเรื่องของเธอให้คุณนายลี่ฟัง คุณนายลี่จึงให้เธอไปพบที่บ้าน และดูถูกเธอยกใหญ่ ยังบอกอีกว่าเธอต้องการ……”
หลี่อานหยุดชะงักครู่หนึ่ง จึงจะกล้าพูดคำว่า“หลอกล่อ”สองคำนี้ออกมา
“เธอต้องการอะไรนะ?”ลี่ถิงเซิ่งถามขึ้นอีกครั้ง
หลี่อานสูดหายใจเข้าลึก หลับตาแล้วพูดขึ้นเสียงดังว่า:“คุณนายลี่ยังบอกอีกว่าผู้ช่วยแอนนาต้องการที่จะล่อลวงคุณ ……”
ลี่ถิงเซิ่งนิ่งเงียบอยู่สองสามวินาที ในหน้าไม่พอใจเมื่อสักครู่นี้เผยรอยยิ้มอย่างมีเลศนัยออกมา
ล่อลวง?
แอนนาล่อลวงเขา?
รอยจูบนั้นของแอนนางั้นเหรอ อย่าพูดเลยว่าล่อลวง เกรงว่าแม้แต่จูบคงจะเป็นครั้งแรกของเธอ
ผู้หญิงที่แสร้งทำเป็นสุขุมเซ็กซี่ แต่ภายในนั้นไร้เดียงสา
ลี่ถิงเซิ่งเม้มริมฝีปาก จู่ๆในหัวก็เผยภาพที่แอนนาพยายามจูบตนอย่างเร่าร้อนแต่กลับถูกเขาเป็นฝ่ายควบคุมแทนด้วยท่าทีที่เกรี้ยวกราด
ใบหน้าและหูแดงก่ำราวกับลูกท้อ
แววตาที่สดใสเป็นประกายเนื่องจากขาดแคลนอากาศจึงเกิดละอองน้ำขึ้น
อีกทั้งริมฝีปากที่ทางลิปสติกสีแดงฉูดฉาด……
เนื่องจากลิปสติกส่วนใหญ่ถูกเขากลืนกินไปจนหมด จึงเหลือเพียงสีเดิมของริมฝีปากที่ดึงดูดผู้คนไม่น้อย
ทำให้เขาอยากจะจูบเธออีกครั้ง
และแล้วสายตาของลี่ถิงเซิ่งก็ครึมขึ้นอีกครั้ง
หลี่อานตะลึง ไม่รู้ว่าประธานลี่คิดถึงเรื่องอะไร ถึงได้ยิ้มออกมาแบบนั้น?
หรือว่าผู้ช่วยแอนนาต้องการที่จะล่อลวงเขาจริงๆเหรอ?
หากเป็นเช่นนั้นผู้ช่วยแอนนาก็ใจกล้าไม่น้อยเลย นับตั้งแต่วันแรกที่ผู้ช่วยแอนนามาสมัครงาน เขาก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่ากลัว เพราะแม้แต่สวี่รั่วยียังไม่กล้าที่จะเย้าแหย่ประธานลี่เลย แต่ผู้ช่วยแอนนากลัวกล้าเย้าแหย่ประธานลี่ราวกับเล่นอยู่กับแมว
“เธอยังพูดอะไรอีกไหม?”
หลี่อานตอบกลับมา:“ผู้ช่วยแอนนาก็ไม่ได้พูดอะไรมากครับ เพียงแต่รู้สึกน้อยใจ ……เฮ้อ ผู้ช่วยแอนนาเป็นคนที่มีพรสวรรค์จริงๆ สงสัยคุณนายลี่จะเข้าใจผิด เพราะพรสวรรค์และรูปลักษณ์ภายนอกของผู้ช่วยแอนนา ……”
เขาพูดมาเพียงครึ่งเดียวก็หยุดลง
“ทำไมไม่พูดต่อล่ะ?”
หลี่อานเม้มปาก เขาจะบอกประธานลี่ได้ยังไงว่าผู้ช่วยแอนนาคิดว่าตนเองนั้นมีจิตใจเมตาเกินไป หรือแม้แต่ที่เธอพูดว่า “ฉันเป็นคนหน้าตาสะสวย”คำพูดพวกนี้ออกไป
หลี่อานพูดอย่างกระอักกระอ่วน“ประธานลี่ครับคำพูดส่วนหลังนี้ผมไม่ได้พูดเองนะคะ ผู้ช่วยแอนนาเป็นคนพูด”
ลี่ถิงเซิ่งยิ้ม
ยิ่งทำให้เขารู้สึกสงสัยเข้าไปใหญ่ว่า สรุปแล้วผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรกันแน่ ถึงทำให้แม้แต่ผู้ช่วยของเขาเองก็ยากที่จะเอ่ยปาก
หลี่อานพูดขึ้นอย่างหน้าไม่อายว่า:“ผู้ช่วยแอนนาพูดว่า ตัวเธอเองหน้าตาสะสวย ทำให้เพศเดียวกันอิจฉาไม่น้อย ……”
ลี่ถิงเซิ่งนิ่งเงียบครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะออกมา
“เธอเข้าใจพูดจริงๆ”นิ้วมือของลี่ถิงเซิ่งเคาะไปที่โต๊ะ จากนั้นก็พิงที่พนักเก้าอี้ เลิกคิ้วขึ้น แล้วริมฝีปากบางของเขาก็พูดขึ้นว่า:“เรื่องนี้ผมรับทราบแล้ว คุณออกไปก่อนเถอะ”
หลี่อานพยักหน้า
หลังจากที่หลี่อานเดินจากไป ลี่ถิงเซิ่งก็นั่งพิงอยู่ที่เก้าอี้ และยังคงครุ่นคิดอยู่กับประโยคที่ว่า“เดิมทีฉันก็เป็นคนหน้าตาสะสวยอยู่แล้ว”ริมฝีปากก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยพบไม่เคยเห็นผู้หญิงที่กล้าชื่นชมตัวเองขนาดนี้
ดีนะที่เธอยังมีสิทธิ์นี้
หลังจากนั้น ลี่ถิงเซิ่งก็หยิบโทรศัพท์ส่วนตัวของตนเองขึ้นมา และโทรหาคุณนายลี่
ไม่นานอีกฝ่ายก็รับสาย
เสียงของหญิงวัยกลางคนดังเข้ามาให้หูของเขา
ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้วจนกลายเป็นปมเล็กน้อย แววตาเผยความรังเกียจออกมา “ผมจะบอกคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะครับว่า ห้ามมายุ่งเรื่องของแอนนาอีก หากผมรู้ว่าคุณเรียกคนของผมไปดูถูกเหยียดหยามอีก อย่าหาว่าผมไม่เห็นแก่ความเป็นแม่ลูกก็แล้วกัน”
คุณนายลี่ตื่นตะลึง มือของเธอสั่นเล็กน้อย “ลี่ถิงเซิ่ง หมายความว่ายังไง!ลูกเป็นลูกชายของแม่ แม่จะไม่เข้าไปยุ่งได้ยังไง?ลูกมีคู่หมั้นอยู่แล้ว และให้ผู้ช่วยผู้หญิงแบบนั้นมานั่งทำงานห้องเดียวกับลูก!แล้วลูกจะให้รั่วยีคิดยังไง!”
เดิมทีเมื่อคุณนายลี่เห็นลี่ถิงเซิ่งโทรศัพท์มาหาก็คิดว่าลูกชายของตนจะโทรมาอธิบาย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมากล่าวโทษตนเอง
เธอโมโหจนโทรศัพท์แทบจะร่วงหล่นพื้น
หลังจากที่ลี่ถิงเซิ่งฟังคุณนายลี่พูดจบ อุณหภูมิที่เผยออกมาจากสายตาก็ลดลง
“คุณอย่าได้คืบเอาศอก คุณให้สวี่รั่วยีมาพักอยู่กับผม ก็ถือว่าผมไว้หน้าคุณมากพอแล้ว แต่หากหล่อนกล้ามาก้าวก่าย ลี่ซื่อกรุ๊ป และเข้ามาวุ่นวายกับการบริหารงานของผม ผมจะไล่เธอออกจากชีวิตของผม สำหรับเรื่องคู่หมั้น?ผมคิดว่าการที่ผมจะแต่งงานกับใครมันก็เป็นเรื่องของผม คงไม่จำเป็นต้องให้คุณมาก้าวก่าย”
ริมฝีปากของคุณนายลี่สั่น:“ลูก ลูก——!แม่จะบอกลูกให้นะลี่ถิงเซิ่ง เมื่อหกปีก่อนรั่วยีเป็นคนช่วยชีวิตลูก!ถ้าหากลูกยังมีความเมตตาอยู่บ้างก็ควรที่จะยอมรับว่าเธอเป็นคู่หมั้นของลูก ไม่ใช่มัวแต่ปกป้องผู้หญิงที่ชื่อแอนนา!”