บทที่ 914 วิวัฒนาและยกระดับ คุณชายคาดการณ์ได้แม่นดั่งเทพเจ้า!
ฟ้าดินเปลี่ยนสี ม่านแสงสาดส่องไม่หยุด ภาพการณ์มหัศจรรย์เช่นนี้แม้แต่ต้นหลิวยังมิอาจปกปิด
มันรีบลากก้อนหินไปจากที่นี่ มาอยู่นอกอาณาจักร
ขืนยังไม่ไป คงอึกทึกครึกโครมกันไปใหญ่ สร้างความแตกตื่นให้ชาวเมืองชิงซาน
ตามคาด สุ้มเสียงหลังจากนั้นดังสนั่น
เสียงกู่ร้องดังไม่หยุดหย่อนในอวกาศนอกอาณาจักร กฎระเบียบสูงส่งอัศจรรย์โลดแล่น ร่างของต้นหลิวและก้อนหินใกล้กลายเป็นแสงเต็มที เจิดจ้าแยงตาถึงขีดสุด ส่องสว่างไปทั่วอวกาศนอกอาณาจักร
ดินโกลาหลและน้ำพิสุทธิ์ไร้รากที่คุณชายรดอยู่รอบ ๆ ประสานเป็นหนึ่งกับพวกมันอย่างรวดเร็ว พวกมันวิวัฒนาและยกระดับอย่างที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ภาพที่บังเกิดน่าพรั่นพรึงอย่างยิ่ง
เพียงครู่เดียว จังหวะแห่งเต๋ามหัศจรรย์ก็ไหลเวียนอยู่บนตัวพวกมัน ราวกับพวกมันนั้นคือมหาเต๋า กำลังหลอมรวมเป็นหนึ่งกับมหาเต๋า
พวกมันตกใจกันทั้งคู่ คุณชายก็คือคุณชาย ไม่อาจคาดเดาง่าย ๆ ได้เลย ฝีมือของท่านน่าสะพรึงยิ่งนัก!
เมื่อมีพลังจนถึงระดับพวกมัน ไฉนเลยจะยกระดับขึ้นไปได้ง่าย ๆ
ต่อให้พยายามไปอีกตราบนานเท่านานก็ยากจะเห็นผล
ทว่าคุณชายเพียงแต่พรวนดินรดน้ำให้พวกมันนิดหน่อย พวกมันก็วิวัฒนาและยกระดับขึ้นอย่างใหญ่หลวง!
ต้นหลิวส่องแสงจรัสทั่วร่าง ประกายสีเขียวเปล่งปลั่งไม่หยุด ขุมปราณชีวิตมากล้นไหลเวียนไปมา ราวกับสามารถถมอวกาศนอกอาณาจักรให้เต็มได้!
ก้อนหินนั้นยิ่งทวีความแข็งแกร่งทนทาน แสงที่กะพริบอยู่คล้ายว่าสามารถหยุดยั้งพลังทั้งมวล ไม่มีพลังใดสามารถบดขยี้ร่างหินของมัน!
ภาพการณ์มหัศจรรย์น่าพรั่นพรึงเช่นนี้ดำเนินไปอย่างยาวนาน จนในที่สุดก็ค่อย ๆ สงบลง
ส่วนต้นหลิวและก้อนหินวิวัฒนายกระดับขึ้นอย่างสมบูรณ์!
“พี่หลิว คุณชายทำเพื่อสิ่งใด?!”
หลังเสร็จสิ้นวิวัฒนาการ ก้อนหินก็หันไปถามต้นหลิวทันที
เรื่องนี้กะทันหันไปหน่อย จนมันคิดไม่ตกว่าเหตุใดคุณชายถึงประทานดินโกลาหลและน้ำพิสุทธิ์ไร้รากให้พวกมัน จนพวกมันวิวัฒนาและยกระดับขึ้นเช่นนี้
ต้นหลิวมิได้เอ่ยวาจา เมื่อได้ครุ่นคิดก็เริ่มจับต้นชนปลายถูก
“คุณชายคงทำเพื่อเจ้า!”
มันหันมองก้อนหิน เอ่ยอย่างมีความหมาย
ปัญหาของก้อนหินยังมิได้รับการแก้ไข วิญญาณหลักของก้อนหินยังเป็นภัยต่อก้อนหินอย่างมาก
คราวก่อนพวกมันจัดการจิตเพียงเสี้ยวหนึ่งของวิญญาณหลักก้อนหินไปเท่านั้น
เพื่อการนี้ ระยะนี้ต้นหลิวฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง ก่อนนี้คุณชายวาดภาพให้มันหนึ่งภาพ เป็นผลให้มันวิวัฒนายกระดับขึ้น
ทว่าการวิวัฒนาและยกระดับเช่นนี้ยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ต้นหลิวต้องการทำให้สมบูรณ์โดยไว แล้วบุกไปยังพื้นที่สีเทา ภายในแดนธุลีเพื่อกำจัดวิญญาณหลักก้อนหิน จัดการปัญหาก้อนหินให้จบสิ้น
“คุณชายล่วงรู้ทุกอย่าง เก่งกล้าสามารถ เห็นได้ชัดว่าท่านตระหนักถึงปัญหาของเจ้า ที่คราวนี้ช่วยให้เจ้ากับข้าวิวัฒนาการและยกระดับขึ้นจนพลังทวีคูณคงเพื่อช่วยเจ้านั่นแหละ!”
ต้นหลิวเอ่ยเสียงเข้ม
มันกล่าวต่อ “ดูท่าพวกเราประเมินกำลังของแดนธุลีต่ำไป เดิมข้าคิดว่ารอให้ตนเองวิวัฒนาและยกระดับสมบูรณ์แล้วจะพาเจ้าบุกเข้าไปยังแดนธุลีได้ จากนั้นก็จัดการแก้ไขปัญหาของเจ้าให้จบสิ้น…บัดนี้ดูแล้ว ข้าไร้เดียงสาเกินไป”
หากการวิวัฒนาและยกระดับอย่างหนก่อนช่วยให้มันแก้ไขปัญหาของก้อนหินได้ คุณชายคงมิจำเป็นต้องทำเช่นนี้
เห็นได้ชัดว่าการวิวัฒนาและยกระดับอย่างหนก่อนไม่พอให้มันมีพลังจนต่อกรกับทั้งแดนธุลีได้ คุณชายถึงช่วยให้พวกมันวิวัฒนาและยกระดับขึ้นอีกครั้ง เพื่อให้พวกมันทรงพลังยิ่งขึ้น
“หรืออาจเพราะเวลาไม่ทันการแล้ว…”
ต้นหลิวกล่าวถึงความเป็นไปได้อีกข้อ “ข้าพยายามมากพอ ทว่าคิดจะวิวัฒนายกระดับของหนก่อนให้สมบูรณ์ยังต้องใช้เวลาอีกนานโข คุณชายอาจสังหรณ์บางอย่างได้ล่วงหน้าถึงได้ลงมือช่วยให้เจ้ากับข้าแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว!”
การวิวัฒนาและยกระดับที่เกิดจากภาพวาดมิใช่น้อย ๆ หากแต่เป็นการวิวัฒนาและยกระดับอย่างใหญ่หลวง มันต้องการทำให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ย่อมมิใช่เวลาสั้น ๆ
อาจเพราะเวลาที่ใช้นานเกินไป คุณชายสังหรณ์ใจว่าอาจเกิดเรื่องไม่คาดคิดกับก้อนหินถึงได้ลงมือ ช่วยให้พวกมันวิวัฒนายกระดับได้ไวขึ้น
ใช่แล้ว พวกมันในครานี้วิวัฒนายกระดับได้อย่างสมบูรณ์ ขอบเขตพลังอยู่ในระดับลึกล้ำเกินหยั่ง!
และพวกมันก็มิได้ใช้เวลานานปานนั้นด้วย
“คุณชายดีกับข้าเหลือเกิน!”
ก้อนหินน้ำตาไหล ซาบซึ้งใจเหลือคณา สิ่งที่ต้นหลิวกล่าวมาเป็นคำอธิบายที่สมเหตุสมผลที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย มันก็มองว่านี่คือเหตุผลที่คุณชายออกโรง
ตู้ม!
เวลานั้นเองมิติระเบิดฉับพลัน หลุมดำมหึมาปรากฏ ร่างหนึ่งก้าวออกจากในนั้นอย่างแช่มช้า
ร่างนี้สูงใหญ่เหลือคณา ดวงดารายังดูกระจิริดดุจธุลีเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เขาคือยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ผู้หนึ่ง พลังปราณในตัวน่าประหวั่นพรั่นพรึง ทุกลมหายใจเป็นผลให้อวกาศนอกอาณาจักรสั่นคลอน ดาราระเบิดดวงแล้วดวงเล่ากลายเป็นเศษฝุ่น สาดกระจายไปทั่ว
ปริภูมิเวลาหยุดหมุนเวียนเมื่ออยู่ข้างกายเขา กฎระเบียบกล้าแกร่งมากมายถูกเขาเหยียบไว้ใต้เท้า เขาเปรียบเสมือนจ้าวผู้คุมกฎ อยู่เหนือกฎระเบียบทั้งปวง!
หลังเขาปรากฏตัว นัยน์ตาก็จับจ้องอยู่ที่ก้อนหิน เห็นได้ชัดว่าเขามาเพราะก้อนหิน
“คนจากฝ่ายแดนธุลีหรือ”
ต้นหลิวส่องประกายทั่วตัว เผยร่างมนุษย์ขณะจ้องมองร่างสูงใหญ่
หากมาเพราะก้อนหิน มันนึกไปถึงวิญญาณหลักก้อนหินขึ้นมาทันที จากสถานการณ์ตอนนี้ ผู้ที่หมายหัวก้อนหินมีเพียงวิญญาณหลักก้อนหินเท่านั้น
ร่างสูงใหญ่หน้าตาเย็นชา นัยน์ตาทอประกายดุดันไม่หยุด
เขามาจากแดนธุลีจริง เป็นยอดฝีมือตนหนึ่งในแดนธุลี และได้รับคำสั่งจากวิญญาณหลักก้อนหินมานำตัวก้อนหินกลับไป
คราวก่อนวิญญาณหลักก้อนหินแพ้ราบคาบ ตระหนักได้ว่าลวดลายบนตัวก้อนหินไม่ธรรมดา ใช่ว่ามันจะชนะได้ง่าย ๆ จึงเปลี่ยนใจไม่คิดข่มจิตสำนึกก้อนหิน แล้วค่อยควบคุมก้อนหินให้กลับไปยังแดนธุลี
มันเปลี่ยนแผน ส่งยอดฝีมือแดนธุลีมาที่นี่แล้วจับตัวก้อนหินกลับไป
ขอเพียงนำตัวก้อนหินกลับไปที่แดนธุลี มันก็ไม่มีสิ่งใดต้องกังวลอีก
มันขอให้จ้าวแดนธุลีช่วยมันลบล้างลวดลายบนตัวก้อนหินได้ และจิตสำนึกของก้อนหินก็จะถูกลบล้าง มันจะประสานเป็นหนึ่งกับร่างหินนี้ได้สมบูรณ์
จ้าวแดนธุลีกล้าแกร่งน่าพรั่นพรึงเหลือแสน ขอเพียงท่านยอมลงมือ มันเชื่อว่าต่อให้ลวดลายนั้นพิสดารเพียงใดก็เปล่าประโยชน์ ต้องถูกลบล้างอย่างสิ้นเชิง!
“คุณชายคาดการณ์ได้แม่นยำดุจเทวดาจริง ๆ!”
ก้อนหินมองร่างสูงใหญ่นั่นก่อนจะคิดอย่างสะท้อนใจ
ต้นหลิวเดาได้ถูกต้อง คุณชายรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอันตรายกับมัน ถึงได้ประทานดินโกลาหลและน้ำพิสุทธิ์ไร้รากเพื่อเพิ่มพลังให้พวกมัน จนสามารถต่อกรกับภยันตรายเช่นนี้ได้ไหว
พลังปราณจากตัวร่างสูงใหญ่น่ากลัวเกินไป หากเป็นพวกมันก่อนวิวัฒนายกระดับคงยากจะต่อกรกับร่างสูงใหญ่ได้ไหว
ตู้ม!
ร่างสูงใหญ่ไม่ได้เอ่ยวาจาอื่น ลงมือทันที ฝ่ามือมหึมาส่องประกายสีเทาน่าพรั่นพรึง ราวกับผืนนภาถล่มลงมา ก่อนจะยื่นไปคว้าก้อนหิน
เขาแข็งแกร่งสยดสยองอย่างแท้จริง ฝ่ามือที่ยื่นเข้ามานี้ แม้แต่ยอดฝีมือสูงสุดจากโลกหลังฉากอย่างประมุขแห่งสรวงสวรรค์ที่ก้าวสู่ขั้นหกแล้วยังสู้มิไหว ไม่อาจต้านทานได้เลย ต้องถูกจับไปในพริบตา
“เจ้าลุยเลย”
ต้นหลิวมิได้เคลื่อนไหว ปล่อยให้ก้อนหินลงมือ
หากเป็นก้อนหินในอดีตย่อมสู้มิไหว ไม่ใช่คู่มือของร่างสูงใหญ่
ทว่าก้อนหินผู้ผ่านวิวัฒนายกระดับมาแล้วต่อสู้กับร่างสูงใหญ่ได้แน่!