บทที่44 ต่อไปคุณไม่ต้องมาพักผ่อนเป็นเพื่อนผมแล้ว
น้ำเสียงของสวี่รั่วฉิงไร้เดียงสาและดึงดูดผู้ที่ได้ฟัง
ดวงตาสีดำเหลือบมองไปยังลี่ถิงเซิ่งครู่หนึ่ง“ประธานลี่ เป็นยังไงบ้างคะ?ในเมื่อคุณเป็นคนจ่ายเงิน หากคุณไม่พอใจ ฉันจะได้รีบเปลี่ยนไปลองชุดต่อไป”
พนักงานที่อยู่ด้านข้างตกใจกับคำพูดของสวี่รั่วฉิงเป็นอย่างมาก
ผู้หญิงคนนี้กลับกล้าพูดแบบนี้กับประธานลี่ !
และสิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือ ประธานลี่ไม่มีทีท่าว่าจะโกรธแม้แต่น้อย
เขายังคงนั่งพิงโซฟาอย่างสบายอารมณ์ ขาที่ยาวเรียวประสานกันพลางยิ้มมุมปากเล็กน้อย:“เอาชุดนี้แหละ”
……
ในคฤหาสน์ส่วนตัวของลี่ถิงเซิ่ง
หลังจากที่สวี่รั่วยีดูแลเรื่องความสวยความงามเรียบร้อยแล้ว และเมื่อสาวใช้ออกไปกันหมด ตนก็กลับเข้ามาในห้องนอนของตนเอง
พรุ่งนี้สองสามีภรรยาสามีภรรยาฮิลล์จะจัดงานเลี้ยงส่วนตัวภายในโรงแรมในเมืองหลินชวน พวกเขาเชิญคนในแวดวงแฟชั่นที่อยู่ในเมืองหลินชวนเป็นจำนวนมาก ยกเว้นเธอ
เมื่อสวี่รั่วยีทราบเรื่อง สีหน้าของเธอก็ขาวซีด มือกำชายเสื้อของตนเองไว้แน่น
เธอปลอบใจตนเองว่า แบรนด์ซิลวี่เป็นแบรนด์เสื้อผ้าไม่เกี่ยวข้องใดๆกับน้ำหอม แต่สวี่ซื่อกรุ๊ปเป็นบริษัทที่โดดเด่นด้านน้ำหอม คงอาจจะเป็นเพราะว่าสองสามีภรรยาสามีภรรยาฮิลล์ไม่เข้าใจสวี่ซื่อกรุ๊ป
ก่อนหน้านี้เนื่องจากเรื่องของสองสามีภรรยาสามีภรรยาฮิลล์และเรื่องของแอนนา ทำให้เธอไปโวยวายที่ลี่ซื่อกรุ๊ป ทำให้ช่วงนี้เมื่อ ลี่ถิงเซิ่งกลับมาบ้านก็ไม่ค่อยพูดคุยกับเธอสักเท่าไหร่ ทั้งยังชักสีหน้าใส่เธออีกต่างหาก
เธอคิดว่างานเลี้ยงของสามีภรรยาสามีภรรยาฮิลล์ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่เธอกับลี่ถิงเซิ่งจะได้โอกาสปรับความเข้าใจกัน
แต่ไหนแต่ไรมาลี่ถิงเซิ่งไม่เคยพาเธอออกงาน
แม้ว่าเขาจะไม่เคยพาเธอออกงานต่อสาธารณะแต่เขาก็ไม่เคยปฏิเสธต่อผู้คนว่าเธอไม่ใช่คู่หมั้นของเขา
แสดงให้เห็นว่าในใจของถิงเซิ่งยังมีเธออยู่ ในใจลึกๆของสวี่รั่วยีดีใจไม่น้อย
เธอยังคงทำสงครามเย็นกับลี่ถิงเซิ่งอยู่ หากเธอขอไปร่วมงานกับเขาเขาคงปฏิเสธเป็นแน่
หลังจากที่สวี่รั่วยีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็โทรหาคุณนายสวี่“แม่คะ หนูอยากได้บัตรเชิญเพื่อไปร่วมงานเลี้ยงของสองสามีภรรยาสามีภรรยาฮิลล์ในวันพรุ่งนี้ค่ะ”
แม้ว่าอำนาจของสวี่ซื่อกรุ๊ปในเมืองหลินชวนจะสู้ลี่ซื่อกรุ๊ปไม่ได้ แต่สำหรับเรื่องบัตรเชิญงานเลี้ยงนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินความสามารถ
หลังจากที่คุณนายสวี่สั่งการออกไป ไม่เกินสองชั่วโมงบัตรเชิญงานเลี้ยงของสองสามีภรรยาก็มาถึงมือของสวี่รั่วยี
เธอกำชับสาวใช้ว่า:“ช่างเสื้อ ช่างผม ช่างแต่งหน้านัดไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?งานเลี้ยงวันพรุ่งนี้สำคัญกับฉันมาก ห้ามมีอะไรผิดพลาดอย่างเด็ดขาด”
“คุณสวี่ วางใจเถอะค่ะ”
“ใช่แล้ว ยังมีเรื่องน้ำหอม”เมื่อสวี่รั่วยีพูดถึงเรื่องน้ำหอม ก็รู้สึกกลัดกลุ้มใจ
น้ำหอมที่แอนนาผสมไว้ให้คงใช้ไม่ได้แล้ว ส่วนน้ำหอมที่ได้มาจากสวี่รั่วฉิงก็ใช้จนหมดแล้ว
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมลี่ถิงเซิ่งถึงไม่ได้เรียกร้องให้เธอนอนข้างกายเขา
แต่เขากลับพักผ่อนได้อย่างสบาย
สวี่รั่วยีขมวดคิ้ว หรือว่าลี่ถิงเซิ่งมีน้ำหอมที่สามารถช่วยให้นอนหลับสบายแล้ว?
แต่เธอก็ได้ซื้อตัวสาวใช้ในบ้านของลี่ถิงเซิ่งหมดแล้ว และทราบมาว่าในห้องนอนของลี่ถิงเซิ่งไม่มีอะไรที่ส่งกลิ่นหอม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงน้ำหอมเลย แม้แต่เสื้อสูทของเขาก็ไม่มีกลิ่นใดๆปะปนอยู่เลย
สวี่รั่วยียิ่งคิดยิ่งแปลกใจ แต่ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆลี่ถิงเซิ่งจึงไม่ยอมให้เธอนอนเป็นเพื่อนเขาในยามกลางคืน
สาวใช้ที่รู้ใจได้พูดขึ้นว่า
“คุณสวี่ค่ะ ฉันได้ทำตามที่คุณสั่งแล้วนะคะ ฉันได้ติดต่อนักผสมน้ำหอมฝีมือหนึ่งของต่างประเทศมาผสมน้ำหอมให้คุณเป็นเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะไม่สามารถผสมน้ำหอมกลิ่นที่คุณเคยใช้เหมือนเป๊ะ แต่คุณลองดูก็ไม่เสียหายอะไร”
สวี่รั่วยีครุ่นคิด ตอนนี้ก็คงจะมีเพียงวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น
เมื่อบรรยากาศยามค่ำคืนคืบคลานเข้ามา แสงจันทร์ก็ส่องเข้ามายังห้องโถงที่หรูหรา
เมื่อสวี่รั่วยีได้ยินว่ามีคนเข้ามา จึงรีบยกค็อกเทลที่ตนผสมเองเดินไปยังด้านหน้าประตู
ลี่ถิงเซิ่งถอดเสื้อสูทออกแล้วยื่นให้กับพ่อบ้าน
“ผมเคยบอกคุณแล้วไง ว่าไม่ต้องรอ”
เมื่อลี่ถิงเซิ่งเห็นว่าในมือของสวี่รั่วยีถือแก้วค็อกเทลอยู่ ก็ชิมเล็กน้อยและพูดเพียงว่า “ต่อไปไม่ต้องผสมแล้วนะ คุณเอาเวลาไปผสมน้ำหอมน่าจะดีกว่า”จากนั้นขาของเขาก็กำลังเดินก้าวไปยังห้องหนังสือ สวี่รั่วยีเรียกหยุดเขาด้วยความกลัว
“ถิงเซิ่ง ทำไมช่วงนี้คุณถึงไม่ให้ฉันพักผ่อนเป็นเพื่อนคุณแล้วล่ะ?”สวี่รั่วยีถามผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างห่วงใย ส่วนนิ้วมือจับเสื้อของตนแน่น “โรคนอนไม่หลับของคุณ……ไม่มีฉันอยู่เป็นเพื่อน ฉันเป็นห่วงคุณมากนะคะ ช่วงนี้คุณยุ่งมากใช่ไหมคะ ก็เลยไม่มีเวลาพักผ่อน?ต้องการให้ฉันช่วยลดภาระไหมคะ?”
ลี่ถิงเซิ่งหยุดฝีเท้าลง
“สวี่รั่วยี ผมเคยบอกคุณแล้วไงว่าต่อไปไม่ต้องมาพักผ่อนเป็นเพื่อนผม”
ในสายตาของชายหนุ่ม ไม่มีความห่วงใยออกมาเลยแม้แต่น้อย
สวี่รั่วยีกำมือของตนแน่น “ถิงเซิ่งช่วงนี้คุณยุ่งไหมคะ?คุณก็รู้ว่า……พวกเราเป็นห่วงอาการนอนไม่หลับของคุณ ไม่ว่าจะฉันหรือคุณย่า ……”
ลี่ถิงเซิ่งมองไปยังสวี่รั่วยีด้วยสายตาที่ซับซ้อน
คนที่สวี่รั่วยีเรียกว่าคุณย่านั้นเป็นย่าแท้ๆของลี่ถิงเซิ่งคุณนายใหญ่ตระกูลลี่
สวี่รั่วยีสามารถเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์ส่วนตัวของลี่ถิงเซิ่งได้ ไม่เป็นแต่เป็นเพราะการสนับสนุนของคุณนายลี่แต่เป็นเพราะการสนับสนุนของคุณนายใหญ่ตระกูลลี่ด้วย
คุณนายใหญ่ตระกูลลี่กับคุณนายลี่แตกต่างกัน มีความห่วงใยที่จริงใจต่อลี่ถิงเซิ่ง
ไม่เห็นนั้นท่าทีที่ลี่ถิงเซิ่งมีต่อสวี่รั่วยีคงไม่เป็นเช่นนี้ เพราะหากอาศัยแต่คำพูดของคุณนายลี่ เขาก็จะยอมให้เธอเข้ามาอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวคงเป็นไปไม่ได้
เนื่องจากลี่ถิงเซิ่งรู้สึกงัวเงียจึงคลึงที่ขมับ น้ำเสียงฟังดูห่างเหิน
“สวี่รั่วยี คุณไม่จำเป็นต้องอ้างคุณยายเพื่อมาข่มขู่ผม”มือข้างหนึ่งของลี่ถิงเซิ่งกลับเข้าไปอยู่ในกระเป๋ากางเกง
ริมฝีปากของสวี่รั่วยีสั่นเทา และมองดูเงาหลังของลี่ถิงเซิ่งที่เดินจากไป ทำให้ความรู้สึกสงสัยยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก
เมื่อสักครู่นี้เธอเห็นอย่างชัดเจนว่าแม้ว่าลี่ถิงเซิ่งจะรู้สึกง่วงงัวเงีย แต่มันเกิดจากการทำงานหนักไม่ใช่การอดหลับอดนอน!
เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถึงได้ทำให้ลี่ถิงเซิ่งไม่ต้องการเธอแล้ว?
เพราะนั้นเป็นข้ออ้างที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เธอได้อยู่ข้างกายของลี่ถิงเซิ่ง
สวี่รั่วยีรู้สึกถึงสถานการณ์ที่อันตราย
หากมีคนที่สามารถทำให้ลี่ถิงเซิ่งนอนหลับได้อย่างสบาย คนๆนั้นก็คือศัตรูหมายเลขหนึ่งของเธอ
สวี่รั่วยีเผยแววตาที่เต็มไปด้วยแผนการออกมา
เธอจะไม่ยอมให้ตำแหน่งคุณผู้หญิงที่เธอได้รับมาหลุดลอยไปอย่างเด็ดขาด!
……
เช้าวันรุ่งขึ้น
“แม่ครับคืนนี้แม่จะออกไปกับป่าปี๊เหรอครับ?”
“สวี่อี้ฝัน บอกแม่มาซะดีๆ ลูกแอบบุกรุกระบบอินเตอร์เน็ตลี่ซื่อกรุ๊ปใช่ไหม!”
สวี่อี้ฝันยักไหล่อย่างราบเรียบ:“ก็ระบบความปลอดภัยของระบบอินเตอร์เน็ตของป่าปี๊ไม่ค่อยดี จะมาโทษผมไม่ได้นะครับ”
สวี่รั่วฉิงนิ่งเงียบ แต่ในใจก็แอบแขวะ เด็กคนนี้น่าจะฉลาดเหมือนเธอ!
“คืนนี้แม่จะไปพบปะกับลูกค้า ก็คล้ายๆกับงานเลี้ยงที่แม่บุญธรรมเคยพาพวกลูกๆไปนั้นแหละ ประมาณสามสี่ทุ่มก็กลับมาแล้ว ลูกก็ดูแลน้องสาวของลูกให้ดีๆล่ะ”
สวี่อี้หานยิ้มหวาน:“แม่ไม่ต้องปิดบังผมหรอกครับ!พวกเรารู้ว่าแม่จะไปกับป่าปี๊!”
สวี่รั่วฉิง:“……”
ไม่รู้ว่าทำไมหล่อนถึงได้รู้สึกว่าลูกๆทั้งสองคนของหล่อนชอบลี่ถิงเซิ่งเป็นพิเศษ?
หรือว่าความสัมพันธ์ทางสายเลือดตัดอย่างไรก็ตัดไม่ขาด?