ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – บทที่ 1073 ตำนานเก้าฟ้าบุพกาล

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 1073 ตำนานเก้าฟ้าบุพกาล

จ้าวซวงเฉวียนแข็งแกร่งยิ่งกว่าตอนที่สู้กับหานหลิงก่อนหน้านี้ กลิ่นอายทั่วร่างนั้นแทบจะไร้พ่าย ก้าวข้ามยอดมหามรรคไปแล้ว

ครึ่งก้าวสู่ผู้สร้างมรรคา!

หานเจวี๋ยนึกถึงศัตรูแข็งแกร่งคนหนึ่งในอดีตที่หลงนึกว่าตนบรรลุผู้สร้างมรรคาแล้ว แต่แค่อยู่ในระดับเดียวกับจ้าวซวงเฉวียนเท่านั้น

ยอดมารร้ายฟ้าบุพกาลตนนั้นก็แข็งแกร่งยิ่ง ระดมกำลังมารร้ายให้เข้ามาล้อมวงปิดล้อมสำนักเลิศนพวิถีอย่างไม่ขาดสาย ส่วนเขาก็สู้ตัวต่อตัวกับจ้าวซวงเฉวียน

หานเจวี๋ยมองเห็นดวงจิตประหลาด เขาปะปนอยู่ในหมู่มารร้าย ลอบแทงข้างหลังอย่างบ้าคลั่ง เขาจะฉวยโอกาสตอนที่เหล่ามารร้ายเข่นฆ่าแอบเขมือบไปสักตนเป็นระยะๆ

เกิดสงครามใหญ่ขึ้นในฟ้าบุพกาล พลังวิเศษสารพัดทำลายล้างฟ้าดิน ไม่มีผู้ใดพบเห็นการกระทำของดวงจิตประหลาดเลยจริงๆ

เจ้าตัวนี้…

เจ้าเล่ห์มาก!

หานเจวี๋ยนึกรังเกียจในใจ จู่ๆ ก็ค่อนข้างเสียใจขึ้นมา

ในอดีตไม่น่าปล่อยเขาออกไปเลย

รอจนเขากลับมาแล้วจะต้องจับโยนใส่คุกสวรรค์ปฐมยุคเพื่อกันไม่ให้ทรยศหักหลังตนในวันข้างหน้า

ไม่นานนัก หานเจวี๋ยพบว่าจ้าวซวงเฉวียนต้องการสังหารยอดมารร้ายฟ้าบุพกาลจริงๆ

ความทรงจำของเจ้าอัษฎาฟ้าบุพกาลตื่นขึ้นมาแล้ว เหตุใดยังต้องการสังการยอดมารร้ายฟ้าบุพกาลอีกเล่า

ช้าก่อน!

หานเจวี๋ยพลันตระหนักถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

การปรากฏตัวขึ้นของยอดมารร้ายอาจมิใช่เพื่อกำจัดผู้สร้างมรรคา แต่เพื่อส่งเสริมเจ้าอัษฎาฟ้าบุพกาล!

ด้วยคุณสมบัติของจ้าวซวงเฉวียนหากต้องการก้าวสู่ผู้สร้างมรรคาก็ต้องใช้เวลานานมากจริงๆ

นานจนยุคสมัยไร้สิ้นสุดอาจจะล่วงเลยผ่านไป!

ต่อให้เป็นดวงจิตอนธการแต่หากคิดจะสำเร็จเป็นผู้สร้างมรรคาก็ไม่ได้ง่ายดายถึงเพียงนั้น

ก่อนที่เจ้านวฟ้าบุพกาลจะบุกเบิกฟ้าบุพกาลขึ้น ตบะในระดับสูงสุดของฟ้าบุพกาลแปดรายก่อนก็ไม่เคยบรรลุถึงผู้สร้างมรรคาเลย

ดังนั้นเจ้านวฟ้าบุพกาลจึงผสานตบะส่วนหนึ่งไว้ในจิตมาร ทำให้ดูเหมือนอับจนหนทางถึงขั้นที่ต้องการจัดการผู้สร้างมรรคารายอื่นๆ แต่ความจริงต้องการจะช่วยเกื้อหนุนเจ้าอัษฎาฟ้าบุพกาลกระมัง

‘สิ่งที่ข้าคิดเป็นความจริงหรือไม่’

[จำเป็นต้องหักอายุขัยห้าร้อยล้านล้านล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

ดำเนินการต่อ!

[ใช่]

เป็นอย่างที่คิด!

สายตาที่หานเจวี๋ยมองจ้าวซวงเฉวียนแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมา

จ้าวซวงเฉวียนเป็นชนรุ่นหลังในมรรคาสวรรค์ ก่อนหน้านี้ก็เคยมีความประทับใจในตัวเขาเช่นกัน แต่หากปล่อยให้เจ้าอัษฎาฟ้าบุพกาลสำเร็จเป็นผู้สร้างมรรคาได้ เช่นนั้นก็มิใช่เรื่องดีแล้ว

ก่อนหน้านี้เขาเคยทำนายดูแล้ว หลังจากเก้าฟ้าบุพกาลคืนชีพจะลงมือจัดการผู้สร้างมรรคารายอื่นๆ

พวกเขาคิดว่ามีเพียงตนที่เป็นผู้ปกครองเหนือทุกสิ่ง ไม่ยินยอมให้ตัวตนอื่นใดขึ้นมานั่งเทียบเสมอกับพวกเขาได้

น่าเสียดาย เจ้านวฟ้าบุพกาลไม่ทราบเลยว่าหานเจวี๋ยใกล้จะไล่ตามเขาทันแล้ว

หากมองจากค่าตัวแล้ว ตบะของเจ้านวฟ้าบุพกาลลดลงไปมาก ตอนนี้สูญเสียความหวังในการพิสูจน์เทพผู้สร้างไปชั่วขณะ

หานเจวี๋ยไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย แค่ต้องคว้าโอกาสเอาไว้เร่งทะลวงขั้นให้ได้

จากนั้นหานเจวี๋ยก็หลับตาลง เฝ้ารอให้ครบกำหนดปิดด่านก่อน

พอเห็นว่าเขาฝึกบำเพ็ญต่อ ซั่นเอ้อร์ก็รีบพาเก้าเทวดาราออกมาจากอารามเต๋า มาจับกลุ่มวิจารณ์กับเหล่าศิษย์คนอื่นๆ ในอาณาเขตเต๋าอย่างตื่นเต้นยิ่งนัก ขาดก็แค่ถือเมล็ดแตงไว้ในมือเท่านั้น

การต่อสู้นี้ดำเนินต่อไป จ้าวซวงเฉวียนและยอดมารร้ายฟ้าบุพกาลจะระเบิดพลังขึ้นมาทุกครั้งที่ตกเป็นรอง ผลัดกันรุกผลัดกันรับ

หากให้หานเจวี๋ยมาชมการต่อสู้ต้องรู้สึกเบื่อหน่ายแน่นอน แต่สำหรับเก้าเทวดาราแล้วกลับได้อรรถรสยิ่งนัก ทำให้จิตใจของพวกเขาเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ

หนึ่งล้านปีต่อมา ศึกใหญ่ครานี้ถึงได้สิ้นสุดลง

ยอดมารร้ายฟ้าบุพกาลหนีไปได้ มารร้ายทั้งหมดในสนามรบถูกทำลายล้าง

เวลาล่วงเลยไปเรื่อยๆ

อีกด้านหนึ่ง

ภายในอารามเต๋า

[ระบบตรวจสอบพบว่าท่านมีอายุครบสองร้อยล้านปีบริบูรณ์แล้ว ชีวิตก้าวหน้าไปอีกขั้น ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง ออกจากปิดด่านทันที กวาดล้างผู้สร้างมรรคารายอื่น จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน หินวิญญาณปฐมยุคหนึ่งก้อน]

[สอง เก็บตัวบำเพ็ญ รักษาปณิธานเดิม จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน หินวิญญาณปฐมยุคหนึ่งก้อนรวมถึงโอกาสยกระดับอาณาเขตเต๋า]

หานเจวี๋ยตาเป็นประกาย

โอกาสยกระดับอาณาเขตเต๋า!

รอมาร้อยล้านปีในที่สุดก็ได้ของดีแล้ว!

หานเจวี๋ยเกือบลืมไปแล้วว่าอาณาเขตเต๋ายังสามารถยกระดับได้อีก

ดูเหมือนการฝึกบำเพ็ญในระยะนี้ของเขาจะได้รับผลตอบแทนแล้ว

เขาเลือกตัวเลือกที่สองในทันที แจ้งเตือนใหม่ปรากฏขึ้นตรงหน้า

[ท่านเลือกเก็บตัวบำเพ็ญ รักษาปณิธานเดิม ได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน หินวิญญาณปฐมยุคหนึ่งก้อนรวมถึงโอกาสยกระดับอาณาเขตเต๋า]

[เริ่มยกระดับอาณาเขตเต๋าหลัก]

[เริ่มยกระดับอาณาเขตเต๋าแห่งที่สอง]

[เริ่มยกระดับอาณาเขตเต๋าแห่งที่สาม]

จิตใจหานเจวี๋ยเบิกบานขึ้นมา เขามองเหล่าเชื้อสายที่กำลังฝึกบำเพ็ญอยู่ เริ่มเทศนาธรรมให้ทันที บังคับดึงเหล่าเชื้อสายเข้าสู่สภาวะตระหนักมรรค

การเทศนาธรรมครั้งนี้ดำเนินต่อเนื่องนับพันปี

เมื่อหานเจวี๋ยสิ้นสุดการเทศนาธรรมก็ลุกขึ้นเดินออกไปเยี่ยมเยือนเหล่าคู่บำเพ็ญของตน

ผ่านไปนานพักใหญ่

เก้าเทวดาราและซั่นเอ๋อร์ทยอยตื่นขึ้นมา เมื่อพวกเขาหวนนึกถึงมรรคที่ได้ตระหนักรู้ในปัจจุบันก็รู้สึกราวกับฝันไป

“ท่านปฐมบรรพชนร้ายกาจโดยแท้”

โม่จั้งเอ่ยด้วยความสะท้อนใจ สามารถดึงพวกเขาเข้าสู่สภาวะตระหนักมรรคได้ ทักษะเช่นนี้อยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขา

พวกเขาล้วนเป็นอริยะมหามรรคแล้ว มิใช่คนธรรมดา

ต่อให้อริยะมหามรรคมิใช่จุดสูงสุดในฟ้าบุพกาลแต่ก็นับว่าใกล้แล้ว

ซั่นเอ้อร์เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “รอจนท่านปฐมบรรพชนมอบสิทธิ์เข้าใช้แบบจำลองการทดสอบให้พวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าก็สามารถไปลองทดสอบพลังของท่านปฐมบรรพชนดูได้”

เชื้อสายคนหนึ่งถามขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น “แบบจำลองการทดสอบคืออะไร”

ซั่นเอ้อร์อธิบายอย่างง่ายๆ ไปรอบหนึ่ง เก้าเทวดาราได้ยินก็ตื่นเต้นขึ้นมา อยากลองใช้แบบจำลองการทดสอบใจแทบขาดแล้ว

รอจนหานเจวี๋ยกลับมา เก้าเทวดาราต่างมองไปที่เขาด้วยสายตาร้อนแรง

หานเจวี๋ยมองทะลุความคิดของพวกเขา จึงมอบสิทธิ์เข้าถึงแบบจำลองการทดสอบให้พวกเขาทันที

ไม่นานนัก เก้าเทวาดาราก็จมจ่อมอยู่ในแบบจำลองการทดสอบ

หานเจวี๋ยสังเกตการณ์อยู่ครู่หนึ่ง พบว่าเจ้าตัวแสบพวกนี้ล้วนเลือกท้าทายเขาก่อน

รนหาที่ตาย

หานเจวี๋ยเอ่ยเยาะในใจ

เขาไม่ได้ไปรบกวน แต่กลับมานั่งบนแท่นบัวดำแล้วเริ่มตรวจดูจดหมาย

จดหมายไม่ต่างไปจากที่ผ่านมามากนัก แต่หานเจวี๋ยอ่านอย่างเชื่องช้ายิ่ง

เขากำลังรอให้อาณาเขตเต๋ายกระดับเสร็จสิ้น

[มหาเทวาพ้นนิวรณ์ต้องการเข้าฝันท่าน ยอมรับหรือไม่]

หานเจวี๋ยเห็นแจ้งเตือนนี้เด้งขึ้นมาก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็เลือกยอมรับ

แดนความฝันคือดินแดนเวิ้งว้าง

สำหรับมหาเทวาพ้นนิวรณ์หานเจวี๋ยยังมีความประทับใจให้เล็กน้อย ถึงอย่างไรคนผู้นี้ก็เป็นที่พึ่งของจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย

“สหายเต๋าหาน ขอบังอาจถามว่าเจ้ามีความมั่นใจในการต่อกรกับฟ้าบุพกาลหรือไม่”

มหาเทวาพ้นนิวรณ์เปิดปากถามเข้าประเด็นทันที ฟ้าบุพกาลที่กล่าวถึงย่อมเป็นเจ้านวฟ้าบุพกาล

หานเจวี๋ยส่ายหน้าเอ่ยไปว่า “ข้าเพิ่งจะพิสูจน์ผู้สร้างมรรคาได้ ไหนเลยจะเทียบเขาติด”

มหาเทวาพ้นนิวรณ์จ้องมองเขาแล้วกล่าวว่า “ข้าค้นพบความลับข้อหนึ่ง ตำนานเก้าฟ้าบุพกาลเป็นความจริง”

“เก้าฟ้าบุพกาลคือสิ่งใด”

หานเจวี๋ยถามอย่างแปลกใจ มหาเทวาพ้นนิวรณ์จึงเล่าให้ฟัง

เป็นเก้าฟ้าบุพกาลแบบเดียวกับที่หานเจวี๋ยรับรู้มา เขาถึงขั้นที่ไม่ได้รู้มากไปกว่าหานเจวี๋ยด้วยซ้ำ

“ฟ้าบุพกาลมีพี่ชายอีกแปดคน หากว่าฟ้าบุพกาลฟื้นคืนชีพให้พวกเขา เช่นนั้นย่อมจะกวาดล้างพวกเราจนสิ้นซาก อันสิ่งที่เรียกว่ายุคสมัยไร้สิ้นสุดเดิมทีก็ไม่ได้จัดเตรียมเพื่อพวกเราแต่เตรียมไว้เพื่อแปดฟ้าบุพกาลนั้น ยุคสมัยไร้สิ้นสุดก็แค่จะมีฟ้าบุพกาลเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น”

มหาเทวาพ้นนิวรณ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงตึงเครียดหนักใจ

สีหน้าหานเจวี๋ยแปรเปลี่ยนมหันต์ พึมพำว่า “หากเป็นเช่นนี้…”

“สหายเต๋าหาน ข้ารู้ว่าเจ้าแข็งแกร่งมาก ล้ำหน้าพวกเราไปแล้ว เรื่องนี้ข้าบอกกับเจ้าเพียงคนเดียว ข้าไม่ไว้ใจผู้สร้างมรรคาคนอื่นๆ แต่ข้าเฝ้ามองเจ้าฝ่าฟันเติบโตมาโดยตลอด ทัศนคติที่เจ้ามีต่อผู้คนรอบตัวทำให้ข้าวางใจยิ่งนัก หากต้องเลือกว่าจะให้เจ้าหรือตัวตนอื่นเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด ข้ายินดีให้เป็นเจ้ามากกว่า!

“ขอเพียงเจ้ามีกำลังพอจะปราบปรามฟ้าบุพกาลได้ ข้าจะช่วยเจ้าเอง!”

………………………………………………………………

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

Status: Ongoing
ชาติก่อนอายุสั้น ไม่ทันได้ใช้ชีวิต ชาตินี้จึงขอพากเพียรบำเพ็ญเซียน ลาภยศสตรีมีหรือจะสู้การเป็นอมตะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท