บทที่ 1162 สวรรค์ประทานโชคหนึ่งร้อยครั้ง
Ink Stone_Fantasy
สงครามใหญ่ระหว่างแดนลับเชื่อมวิถีและสื่อหยวนหงเหมิงแผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว ดึงดูดความสนใจจากทั่วยุคสมัยไร้สิ้นสุดได้ นี่คือสงครามใหญ่เต็มรูปแบบครั้งแรกนับตั้งแต่มหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่สิ้นสุดลง ถึงแม้จะเกิดศึกวุ่นวายขึ้นตลอด แต่ในสายตาของเหล่ายอดมหามรรคล้วนเป็นการทะเลาเบาะแว้งเล็กๆ น้อยๆ แต่ตอนนี้ต่างกันออกไปแล้ว ทั้งสองกลุ่มอำนาจมียอดมหามรรคอยู่ไม่ต่ำกว่าห้าคน ส่วนจำนวนอริยะมหามรรคก็มีเกินร้อยขึ้นไป
ไม่ใช่แค่สรรพสิ่งที่จับตามองอยู่ แม้แต่เหล่าผู้สร้างมรรคาก็สังเกตการณ์อยู่เช่นกัน
แดนลับเชื่อมวิถีเป็นตัวแทนของมหาเทวาพ้นนิวรณ์ พวกเขาสามารถใช้โอกาสนี้สืบดูจุดยืนของมหาเทวาพ้นนิวรณ์ได้
เทพผู้สร้างไม่ยุ่งเรื่องทางโลก มหาเทวาพ้นนิวรณ์จึงมีตำแหน่งสูงสุดในยุคสมัยไร้สิ้นสุด เนื่องด้วยมีเทพผู้สร้างอยู่ มหาเทวาพ้นนิวรณ์จึงไม่กล้าประมาทวู่วามเกินไป ดังนั้นจึงไม่เคยกระทำความผิดพลาดใดๆ เลย ดูเหมือนจะปฏิบัติต่อสรรพสิ่งอย่างเท่าเทียม แต่ไหนเลยจะมีความเท่าเทียมอย่างสมบูรณ์ได้!
สื่อหยวนหงเหมิงกล้าเป็นหัวเรือใหญ่ในการหยั่งเชิงจุดยืนของมหาเทวาพ้นนิวรณ์ทั้งที กลุ่มอิทธิพลต่างๆ ย่อมให้การสนับสนุน ดังนั้นในศึกครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายต่างปราศจากพันธมิตรร่วมศึก ไม่มีกลุ่มอิทธิพลขั้วที่สามกล้าสอดเท้าเข้ามายุ่งก็นับเป็นเรื่องน่าประหลาดใจเช่นกัน
นับแต่โบราณมา สงครามใหญ่เช่นนี้มีน้อยครั้งนักที่จะเป็นการต่อสู้อย่างตัวต่อตัวระหว่างสองกลุ่มอิทธิพลเท่านั้น
ผู้ทรงพลังส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าศึกนี้จะเป็นตัวกำหนดแนวโน้มรูปการณ์ในอีกหมื่นล้านปีให้หลัง
หากแดนลับเชื่อมวิถีพ่ายแพ้ เช่นนั้นก็แปลว่ามหาเทวาพ้นนิวรณ์ถูกกฎระเบียบผูกมัดควบคุม ไม่กล้ากระทำการส่งเดช
หากสื่อหยวนหงเหมิงพ่ายแพ้ ก็แปลว่าไม่อาจยั่วยุกลุ่มอำนาจของผู้สร้างมรรคาได้ง่ายๆ
….
ณ อาณาเขตเต๋าแห่งที่สาม หานเจวี๋ยลืมตาขึ้นมา
มีอายุหนึ่งพันสามร้อยล้านปีแล้ว ครั้งนี้ปิดด่านนานถึงห้าร้อยล้านปีเต็ม เมื่อผ่านไปห้าร้อยล้านปี เขาก็ได้รับรางวัลทางเลือกระบบสองครั้ง เป็นอย่างที่คิดไว้ หลังอายุครบพันล้านปี จะได้รับรางวัลทางเลือกระบบในทุกพันล้านปี ที่สำคัญคือรางวัลทางเลือกครบรอบพันล้านปีไม่ได้แตกต่างไปจากที่ผ่านมาเลย ตอนนี้พอเขาย้อนนึกดูแล้วยังคงรู้สึกพูดไม่ออกนัก
ส่วนสวรรค์ประทานโชคก็มีถึงหนึ่งร้อยเก้าครั้งแล้ว
วันนี้สามารถนำมาใช้รวดเดียวร้อยครั้งได้สักที
ห้าร้อยล้านปีที่ผ่านมา กฎเกณฑ์สูงสุดของโลกปฐมยุคเพิ่มจำนวนขึ้นถึงสิบห้าสายแล้ว เขาเปิดเผยให้เห็นเพียงเก้าสายเท่านั้น ส่วนกฎเกณฑ์สูงสุดที่เหลือถูกซ่อนเร้นเอาไว้ ต้องซ่อนไพ่ตายเอาไว้บ้าง
หานเจวี๋ยสอดส่องดินแดนเวิ้งว้างก่อน
สงครามใหญ่ระหว่างแดนลับเชื่อมวิถีและสื่อหยวนหงเหมิงยังดำเนินอยู่ สู้กันมาหลายร้อยล้านปีแล้วยังคงยากจะตัดสินแพ้ชนะได้ ทั้งสองฝ่ายเชื่อมโยงกับโลกขนาดใหญ่และอาณาเขตมากมายเกินไป อริยะมหามรรคก็มีมากมายเช่นกัน ยากจะตัดสินผลแพ้ชนะได้ในระยะเวลาสั้นๆ ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา
หานเจวี๋ยสอดส่องดูฉู่เสี่ยวชี เด็กคนนี้ก่อตั้งกลุ่มอิทธิพลของตนขึ้นแล้ว กลายเป็นแม่ทัพทรงกำลังใต้สังกัดของอู๋เซียงเทียนเซี่ย เด็กคนนี้ยังคงไม่ทราบว่าอาจารย์ของตนก็เป็นเทพมารอนธการเช่นกัน หานเจวี๋ยตั้งตารอคอยนักว่าในวันหน้าฉู่เสี่ยวชีจะเข้าหน้าหวงจุนเทียนติดได้อย่างไร
สวินเซิ่งจุนหลานชายอีกคนหนึ่งของหานเจวี๋ยก็กลับมาแล้ว ปัจจุบันนี้ช่วยตระกูลหานขยายอำนาจอย่างเอาการเอางานนัก
ความทรงจำในชาติก่อนของเด็กคนนี้ตื่นขึ้นมาแล้ว
ตัวตนของเขาก็คือหนึ่งในสิบยอดฟ้าแห่งงานชุมนุมฟ้าบุพกาลครั้งแรก มหามรรคอัมพรโจวซ่ง
ช่วงมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ในสมัยก่อนหลังจากได้ประจักษ์ในพลังของหานเจวี๋ย หานฮวงและหานหลิงได้กระตุ้นความคิดของเขาขึ้นมา ภายหลังจึงเข้าสู่สังสารวัฏอย่างเงียบเชียบ เดิมทีตัวเขามีตบะระดับยอดมหามรรคระยะสมบูรณ์ หากมิใช่ผู้สร้างมรรคาก็ยากจะสังเกตพบการกระทำของเขาได้
หลังจากสวินเซิ่งจุนตื่นรู้ในเจตจำนงของมหามรรคอัมพรโจวซ่งก็ตกใจมาก เขาไม่คาดคิดเลยว่าตนก็คือมหามรรคอัมพรโจวซ่ง
เนื่องด้วยเหตุนี้เขาถึงได้เจียมเนื้อเจียมตัวระงับตนเป็นอย่างดี ไม่ได้ทรยศต่อตระกูลหาน เขาตระหนักได้ว่าแม้ยอดมหามรรคจะดูเหมือนอยู่เหนือสรรพสิ่งแล้ว ทว่าไม่อาจพ้นไปจากแผนการของผู้สร้างมรรคาได้
หานเจวี๋ยก็ไม่ได้ต่อต้านมหามรรคอัมพรโจวซ่งเช่นกัน เชื้อสายมากมายในตระกูลหานล้วนมีอดีตชาติกันทั้งสิ้น ไม่ได้มีแค่มหามรรคอัมพรโจวซ่งเท่านั้น ขอเพียงเด็กคนนี้ไม่ก่อเรื่องวุ่นวายก็พอ อีกอย่างจุดจบของสวินเซิ่งจุนก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ยังไม่เปลี่ยนแปลงไป
แต่ในอนาคตจะเปลี่ยนไปหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
หานเจวี๋ยสอดส่องดูคนอื่นๆ ต่อ คนที่เขาใส่ใจล้วนอยู่ดีมีสุข ไม่เผชิญเหตุร้ายเหนือความคาดหมาย
หานฮวงก่อกฎเกณฑ์สูงสุดสายที่สองขึ้นมาแล้ว ส่วนบรรพชนเต๋ากำลังเริ่มดำเนินการก่อสร้างสายที่สามขึ้น
ทั้งสองเริ่มทิ้งระยะห่างกันแล้ว เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในมรรคา
ถึงแม้คุณสมบัติของหานฮวงจะเลิศล้ำกว่าบรรพชนเต๋า แต่ความเข้าใจในกฎเกณฑ์ยังสู้บรรพชนเต๋าไม่ได้ ถึงอย่างไรบรรพชนเต๋าก็เคยเป็นอันดับหนึ่งแห่งฟ้าบุพกาลมาก่อน ก่อตั้งลัทธิเต๋าขึ้นมา หานฮวงไม่อาจอาศัยคุณสมบัติไล่ตามได้ทัน
ดูสถานการณ์แล้วบรรพชนเต๋าคงสำเร็จเป็นผู้สร้างมรรคารายแรกแห่งยุคสมัยไร้สิ้นสุดเสียแล้ว
ในเรื่องนี้หานเจวี๋ยไม่ได้ถือสาอะไร ถึงอย่างไรทั้งสองก็นับว่ามีไมตรีต่อกัน ถึงแม้จะติดต่อกันน้อยมากก็ตาม
หานเจวี๋ยถอนสายตากลับมา ยกสองมือขึ้นถูกันไปมา
“ขออริยะสวรรค์เกรียงไกรคุ้มครองให้ได้ตัวเลือกสวรรค์ประทานโชคดีๆ ด้วยเถิด”
หานเจวี๋ยพึมพำกับตัวเอง โชคจากสวรรค์ประทานโชคมีต้นกำเนิดมาจากโลกปฐมยุค ตอนนี้โลกปฐมยุคแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ สวรรค์ประทานโชคจะต้องเลิศล้ำกว่าในอดีตที่ผ่านมาแน่นอน
เริ่มเลย!
[เริ่มใช้งานสวรรค์ประทานโชค ผู้มีมหาโชคแต่กำเนิดจะปรากฏขึ้นในหมู่เชื้อสายของท่านแบบสุ่มเลือก]
[หานวั่งเชื้อสายของท่านตื่นรู้ในมหาโชคแต่กำเนิด….ดาวภูตสวรรค์ริษยา]
[หรูเต้าหลงเชื้อสายของท่านตื่นรู้ในมหาโชคแต่กำเนิด…ดาวเลิศศักดา]
….
[หานโม่เชื้อสายของท่านตื่นรู้ในมหาโชคแต่กำเนิด…ดาวโองการสวรรค์]
….
[หานทั่วบุตรชายของท่านตื่นรู้ในมหาโชคแต่กำเนิด…ดาวปฐมเทพสงคราม]
[ฉู่เสี่ยวชีหลานชายของท่านตื่นรู้ในมหาโชคแต่กำเนิด…ดาววิถีกรรม]
….
[หานชิงเอ๋อร์บุตรีของท่านตื่นรู้ในมหาโชคแต่กำเนิด…ดาวหมื่นกระบี่ก่อกำเนิด]
[หานเอ๋อร์เชื้อสายของท่านตื่นรู้ในมหาโชคแต่กำเนิด…ดาวอุทกล่องนิภา]
[หานทั่วบุตรชายของท่านตื่นรู้ในมหาโชคแต่กำเนิด…ดาวเกณฑ์ชะตา]
….
แจ้งเตือนข้อมูลแถวแล้วแถวเล่าเด้งขึ้นมาตรงหน้าหานเจวี๋ย
พอครบหนึ่งร้อยครั้งถึงได้หยุดลง
หานทั่วถูกเลือกจากสวรรค์ประทานโชคถึงสามครั้งในคราวเดียว ถูกรางวัลครั้งใหญ่แล้ว
หานชิงเอ๋อร์และหานอวิ๋นจิ่นล้วนตื่นรู้ในสวรรค์ประทานโชคแล้วเช่นกัน หานหลิงได้มหาโชคเพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง หานฮวงได้สวรรค์ประทานโชคเพิ่มมาอีกสองอย่าง
ฉู่เสี่ยวชีได้รับสวรรค์ประทานโชคสองครั้ง ส่วนสวรรค์ประทานโชคที่เหลือล้วนกระจายไปในหมู่เชื้อสายไม่มีซ้ำคนอีก มีแต่ชื่อซ้ำกันเท่านั้น
หานเจวี๋ยยิ้มอย่างพอใจ ดูเหมือนสวรรค์ประทานโชคจะไม่มีขีดจำกัดในการสะสม สามครั้งมิใช่ขีดจำกัดแน่นอน
บุตรหลานได้รับประโยชน์สูงสุดนับเป็นเรื่องดี ถึงอย่างไรเชื้อสายรุ่นหลังก็ห่างลำดับชั้นกันมากเกินไป ชักจูงได้ลำบาก
หานเจวี๋ยเงยหน้ามองออกไป หานทั่ว หานชิงเอ๋อร์ หานหลิง หานอวิ๋นจิ่นและฉู่เสี่ยวชีล้วนตกอยู่ในสภาวะตื่นรู้ พวกเขาอยู่ในขั้นตอนเปลี่ยนผ่านศักยภาพ
หานฮวงกลับล้าหลังไปแล้ว บางทีนี่อาจจะเป็นชะตากระมัง เขาได้ครอบครองความได้เปรียบจากสวรรค์ประทานโชคทำให้นำหน้าคนในตระกูลไปก่อนแล้ว
หานเจวี๋ยลุกขึ้นยืน เดินออกไปนอกอารามเต๋า
เขาไปหาสิงหงเสวียนก่อน
พอสิงหงเสวียนได้เห็นเขาก็ดีใจนัก ถึงอย่างไรก็ไม่ได้พบกันมาห้าร้อยล้านปีแล้ว
“เหตุใดถึงปิดด่านนานขนาดนี้กันเล่า ท่านไร้พ่ายแล้วมิใช่หรือ” สิงหงเสวียนเบะปากเอ่ยวาจา
นางรู้สึกเบื่อหน่ายหมดสนุกแล้ว ชีวิตอมตะไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดเลย
ตอนนี้นางรู้สึกว่าทุกสิ่งล้วนหมดความหมายไปแล้ว
หานเจวี๋ยเอ่ยยิ้มๆ “ข้าต้องรักษาสถานะไร้พ่ายไว้ ไหนเลยจะมีผู้ไร้พ่ายชั่วนิรันดร์ได้”
สิงหงเสวียนเอ่ยถาม “จริงสิ ท่านคิดอย่างไรกับศึกใหญ่ระหว่างแดนลับเชื่อมวิถีกับสื่อหยวนหงเหมิง”
มหาเทวาพ้นนิวรณ์คือผู้กุมอำนาจที่ได้รับแต่งตั้งโดยหานเจวี๋ย สื่อหยวนหงเหมิงคือเทพมารอนธการ ความเห็นของหานเจวี๋ยจึงสำคัญมาก
“ปล่อยไปตามธรรมชาติเถอะ ผู้ใดชนะก็ไม่สำคัญ ข้าคร้านจะยุ่งแล้ว อีกอย่างในหมู่บุตรธิดาก็มีการทะเลาะต่อสู้เช่นกัน วันหน้าข้าก็ต้องยุ่งด้วยอย่างนั้นหรือ ทุกคนต่างมีเป้าหมายของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องยึดติดเลย” หานเจวี๋ยหัวเราะเบาๆ กล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงสบายๆ
………………………………………………………………