บทที่ 53 พ่ายอย่างจนตรอก
เฉินเสี่ยวหราน ไม่ขยับ
เธอจะรู้ได้อย่างไรความสามารถของสวี่รั่วฉิงเป็นอย่างไร
สวี่รั่วฉิงไม่เร่งเธอ มอง เฉินเสี่ยวหรานเงียบๆ
ไม่กี่นาทีต่อมา เฉินเสี่ยวหราน ยากที่จะยอมรับได้ในบรรยากาศเงียบกริบ หน้าดำคร่ำเคร่ง มือสั่นเทาหยิบน้ำหอมขวดนั้นที่สวี่รั่วฉิงปรุงขึ้นมา
เพียงแค่ดมนิดเดียว สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป
ทำงานในแวดวงปรุงน้ำหอมมาหลายปี เป็นครั้งแรกที่เฉินเสี่ยวหราน ได้กลิ่นน้ำหอมที่มีหลายชั้นครั้งนี้
การผสมผสานก่อนปรุง ระหว่างปรุงและหลังปรุง ล้ำเลิศมาก
เกรงว่าจะเป็นระดับนักปรุงน้ำหอมระดับนานาชาติ
ถ้าหากลี่ซื่อกรุ๊ปออกน้ำหอมตัวนี้ ไม่ใช่แค่เมืองหลินชวน เกรงว่าทั่วโลกก็จะจดจำน้ำหอมนี้ได้
เฉินเสี่ยวหราน กัดริมฝีปากแน่น เธอไม่ยอม
เธอไม่ยอมงานของผู้หญิงที่เพิ่งเข้ามาทำงานในลี่ซื่อกรุ๊ปไม่กี่สัปดาห์ คาดไม่ถึงจะมีผลงานที่เอาชนะเธอได้ง่ายๆ เธอจะยอมทบถูกลูบคมอย่างนี้ได้อย่างไร
สวี่รั่วฉิงส่ายหน้า ลึกๆ รู้สึกจนใจ
แผนกน้ำหอมของลี่ซื่อกรุ๊ป เธอไม่สนใจเท่าไหร่ เป้าประสงค์ที่เธอมาที่ลี่ซื่อกรุ๊ป ก็เพื่อแก้แค้นสวี่รั่วยีเป็นสำคัญ ไม่มีผลประโยชน์ขัดกันกับ เฉินเสี่ยวหราน แต่อย่างใด
ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินเสี่ยวหราน ต้องทำอย่างนี้ให้ได้ รอเธอปรุงน้ำหอมรักษาอาการนอนไม่หลับให้ลี่ถิงเซิ่งเสร็จแล้ว ก็คงจะไม่ใช้ห้องทดลองโมเลกุลของลี่ซื่อกรุ๊ปอีก
“ผู้ดูแลเฉิน คุณมีอะไรอยากจะพูดอีกมั้ย” สายตาที่เย็นชาของลี่ถิงเซิ่ง ส่องสะท้อนกลับมาที่เฉินเสี่ยวหรานซึ่งมีท่าทีไม่ปกติตรงหน้า
เฉินเสี่ยวหราน พูดอะไรไม่ออก
“น้ำหอมของผู้ช่วยแอนผมเคยแยกแยะมาแล้ว” ลี่ถิงเซิ่งหลับตา เสียงเย็น “ระดับของเธอเป็นอย่างไรกันแน่ ผมรู้ดีกว่าคุณ นักปรุงน้ำหอมที่ปรุงน้ำหอมได้เป็นที่พอใจของสามีภรรยาฮิลล์ ทำไมต้องขโมยน้ำหอมที่ห่างชั้นกับของเธอมากล่ะผู้ดูแลเฉิน”
เฉินเสี่ยวหราน ใบหน้าซีดเผือด
“ประธานลี่ ฉัน…” เฉินเสี่ยวหราน พยายามอธิบาย “ต่อให้น้ำหอมของฉันสู้ผู้ช่วยแอนไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้พิสูจน์ผู้ช่วยแอนไม่ใช่คนขโมยน้ำหอมขวดนั้น!”
สวี่รั่วฉิงเบ้ปากนิดหนึ่ง
เธอไม่เคยเห็นคนที่ถึงทางตั้นแล้วยังปากแข็งอย่างเฉินเสี่ยวหราน มาก่อน
“ผู้ดูแลเฉิน ฉันถามหน่อย น้ำหอมถูกขโมยเมื่อวานใช่มั้ยคะ”
“ใช่ ใช่!”
“เมื่อคืนวาน” สวี่รั่วฉิงถาม
“ใช่ เมื่อคืนวานนี่แหละ ตอนห้าโมงฉันเลิกงาน วันนี้เก้าโมงเช้ามาถึงบริษัท น้ำหอมก็ถูกขโมยไปแล้ว”
สวี่รั่วฉิงยิ้มนิดหนึ่ง “ประธานลี่ ผู้ช่วยหลี่ พวกคุณได้ยินแล้วยังคะ อย่างนั้นก็พิสูจน์ได้ว่าฉันบริสุทธิ์”
หลี่อานถอนหายใจ เขาทนดู เฉินเสี่ยวหรานทำตัวโง่ๆ ต่อไปไม่ไหวจริงๆ
“ผู้ดูแลเฉิน ถ้าสถานการณ์จริงเป็นอย่างที่คุณพูด อย่างนั้นผู้ช่วยแอนไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยขโมยน้ำหอมแน่”
เฉินเสี่ยวหราน ตะลึงไปอีกครั้ง
ทำไมแม้แต่เลขาที่อยู่กับประธานลี่ยังอยู่ข้างแอนนา
หลี่อานอธิบาย “เมื่อวานผู้ช่วยแอนอยู่ที่ออฟฟิศตลอด จนกระทั่งเช้ามืดถึงกลับ ประธานลี่กับผมเป็นพยานได้ หรือผู้ดูแลเฉิน ยังสงสัยประธานลี่ปกป้องผู้ช่วยแอนหรือครับ”
ตั้งแต่เริ่มต้น แผนของ เฉินเสี่ยวหราน ไม่มีทางสำเร็จ
ลี่ถิงเซิ่งเห็นแก่เธอทุ่มเทเพื่อลี่ซื่อกรุ๊ปมาหลายปี ถึงไว้หน้าเธอ
เพียงแต่ดูภายนอกทักษะของเธอสู้คนอื่นไม่ได้ แต่ไม่ได้พูดตรงๆ เป้าหมายของเธอคือใส่ร้ายสวี่รั่วฉิง
ใครจะไปรู้ เฉินเสี่ยวหรานโง่มาก แม้แต่ความหมายแฝงในคำพูดของลี่ถิงเซิ่งยังฟังไม่ออก
สุดท้ายยังดันทุรังจนถูกหลี่อานเปิดโปง
เฉินเสี่ยวหราน ริมฝีปากสั่น กุมสองมือแน่น
“ผู้ดูแลเฉิน ฉันไม่มีความแค้นอะไรกับคุณ ทำไมต้องใส่ร้ายฉันคะ” สวี่รั่วฉิงพูดเบาๆ “อีกอย่างไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ครั้งก่อนคุณเอาเครื่องหอมมาให้ฉัน คุณเติมเปปเปอร์มินท์ใช่มั้ย รู้อยู่เต็มอกฉันปรุงน้ำหอม เพื่อให้คนนอนหลับสบาย แต่คุณให้เครื่องหอมที่ใส่เปปเปอร์มินท์ เจตนาเพราะอะไร ยังต้องให้ฉันพูดชัดเจนกว่านี้มั้ย”
“เธอ เธอดมรู้ได้ยังไง!” เฉินเสี่ยวหราน พูดเสียงดัง “เครื่องหอมนั่น ฉันเติมเครื่องหอมอื่นๆ แล้ว กลบกลิ่นเปปเปอร์มินท์!”
“ฉันเป็นนักปรุงน้ำหอม ผู้ดูแลเฉิน” สวี่รั่วฉิงมองเฉินเสี่ยวหราน ถ้าไม่ใช่เครื่องหอมขวดนั้นที่เธอให้ คงไม่ระวังเธอเร็วขนาดนั้น “ฉันอาศัยฝีมือเลี้ยงชีพ และอาศัยการดมกลิ่นหาเงิน ถ้าแม้แต่เปปเปอร์มินท์ที่เธอใช้เครื่องหอมอื่นกลบกลิ่นยังดมไม่ออก อย่างนั้นจะปรุงน้ำหอมที่ทำให้ลูกค้าชอบได้อย่างไรล่ะ”
พูดจบ สวี่รั่วฉิงก้มหน้า มองนาฬิกา ปาเต๊ก ฟิลลิปบนข้อมือ สี่โมงห้าสิบพอดี
สวี่รั่วฉิงยิ้มอ่อนโยน น้ำเสียงอ่อนหวาน “ประธานลี่ ในเมื่อเรื่องราวชัดเจนแล้ว อย่างนั้นฉันไม่อยู่ต่อแล้ว ขอเลิกงานก่อนนะคะ”
วันนี้เป็นวันเกิดของสวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หาน เธอตั้งใจจองมื้อฉลองวันเกิดที่ร้านอาหารมิชลินให้เด็กๆ สองคน
แต่น่าเสียดายเฉินเสี่ยวหราน มาหาเรื่องพอดี เธอจำเป็นต้องรีบเคลียร์เรื่องนี้ให้เร็วที่สุด
“ผู้ดูแลเฉิน ฉันบอกแล้ว วันนี้ฉันมีธุระ ต้องรีบจบศึกนี้โดยเร็ว”
สวี่รั่วฉิงพูดเบาๆ แล้วกระแทกรองเท้าส้นสูงจากไป เหลือแต่ เฉินเสี่ยวหราน เผชิญหน้ากับสายตาโกรธของลี่ถิงเซิ่งแต่เพียงผู้เดียว
“ประธานลี่ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ…ในบริษัทมีข่าวลือเกี่ยวกับผู้ช่วยแอนเยอะแยะ ฉันแค่…”
ลี่ถิงเซิ่งตัดบทคำพูดไร้สาระของเฉินเสี่ยวหราน
“ผู้ดูแลเฉิน คุณทำงานให้บริษัทมาหกปีแล้ว เดี๋ยวไปที่แผนกบุคคลรับเงินชดเชยสิบสองเดือน ขอลาออกเองเถอะ”
พูดจบ ลี่ถิงเซิ่งหลุบตา ไม่อยากจะมอง เฉินเสี่ยวหรานอีก
ในบริษัทของเขา ไม่มีทางยอมให้มีคนกดลูกน้องเพื่อให้ได้อำนาจ
เฉินเสี่ยวหราน ได้ยินเช่นนั้น ก็ตัวสั่น
“ประธานลี่ ให้โอกาสฉันอีกครั้งเถอะค่ะ น้ำหอมที่ฉันปรุงซีซั่นนี้ ยอดขายจะต้องดีมากแน่ สร้างกำไรมหาศาลให้บริษัท!”
“น้ำหอมที่คุณปรุง หายไปแล้วไม่ใช่หรือ”
ลี่ถิงเซิ่งน้ำเสียงเย็นชา
เขาวางปากกาในมือลง ดวงตาเย็นเยียบกวาดตามองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า
“เฉินเสี่ยวหราน ผมเมตตาคุณมากแล้ว”
……
สวี่รั่วฉิงขับรถมาถึงโรงเรียน รับเด็กสองคนมาฉลองวันเกิดที่ร้านอาหาร
พอสวี่อี้หานเห็นแม่ ก็โผเข้าไปในอ้อมกอดของหญิงสาว ปากเล็กๆ หอมแก้มของเธอ “แม่คะ วันนี้มารับช้า เพราะงานมีปัญหาหรือเปล่าคะ”
สวี่รั่วฉิงยิ้มอ่อนโยน อุ้มสวี่อี้หานขึ้นมา อีกมือจูงมือสวี่อี้ฝาน เดินไปทางลานจอดรถ
“ใช่แล้ว วันนี้ตอนแม่ทำงานถูกคนใส่ร้าย ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ฉลาดล่ะก็ ยังไม่รู้จะเสียเวลาไปอีกเท่าไหร่” สวี่รั่วฉิงเปิดประตูรถ ช่วยเด็กสองคนคาดเข็มขัดนิรภัย เตรียมออกรถ มือถือก็ดังขึ้น
สวี่รั่วฉิงย่นคิ้ว เห็นเป็นเบอร์ของผู้ช่วยหลี่ก็รีบรับ “ฮัลโหล ผู้ช่วยหลี่ บริษัทมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”
หลี่อานยิ้ม “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรครับ เมื่อครู่ประธานลี่แจ้งว่า ต่อไปคุณเป็นหัวหน้าแผนกน้ำหอม”
สวี่รั่วฉิงอึ้งไปนิดหนึ่ง
เดี๋ยวก่อน ถ้าเป็นหัวหน้าแผนกน้ำหอม ก็หมายความว่าต้องย้ายตำแหน่ง และหมายความว่าต้องห่างกับลี่ถิงเซิ่งมากขึ้น ไม่ได้เจอลี่ถิงเซิ่งตลอดเวลา แล้วเธอจะได้ข่าวสวี่รั่วยีจากลี่ถิงเซิ่งได้อย่างไรกัน