บทที่56 การแข่งขันตามฤดูกาลของวงการน้ำหอมเมืองหลินชวน
ไม่ ถึงแม้จะละทิ้งการแก้แค้น เกรงว่าจะเป็นการยากที่จะต่อต้านอำนาจของตระกูลสวี่
สวี่รั่วฉิงไตร่ตรองอยู่ชั่วขณะ และรู้สึกว่านี่ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา
เธอมีพรสวรรค์ในการปรุงน้ำหอมอีกครั้ง และเธอก็ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลสวี่ ถ้าสวี่รั่วฉิงทำเรื่องบ้าๆเช่นแบบเดียวกับเมื่อหกปีก่อน จะดีกว่าถ้าเธอถอยออกมา
ถ้าเธอทำเรื่องอะไรที่เสียสติจริง บังคับตัวเองให้ขอความช่วยเหลือจากลี่ถิงเซิ่งและเผยความลับของตัวเอง…
สวี่รั่วฉิงลดสายตาลง กัดริมฝีปากตัวเองอย่างไม่ยินยอม
เธอจะไม่แพ้ให้สวี่รั่วยี แต่เธอไม่สามารถชนะลี่ถิงเซิ่งได้
เธอประเมินความอยากรู้อยากเห็นของคนหนึ่งคนต่ำเกินไป และหากลี่ถิงเซิ่งต้องการรู้ความลับของเธอ แน่นอนว่าไม่เสียดาย
หลังจากงานเลี้ยงอาหารค่ำในวันนั้น คำพูดของลี่ถิงเซิ่งในรถ ตอนนี้ยังสามารถนึกขึ้นมาได้
อย่างไรสวี่รั่วฉิงก็เป็นผู้หญิง แม้ว่าเธอจะเรียนรู้ทักษะการป้องกันตัว แต่เธอก็ไม่สามารถต่อต้านผู้ชายได้
ถ้าหากเวลานั่นเธอไม่มีความคิดเฉียบไวเอาแต่จูบผู้ชายคนนั่น เกรงว่าคงเผยพิรุธภายใต้อาณัติของเขาไปแล้ว
เหงื่อไหลเต็มหน้าผากของสวี่รั่วฉิง แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาอยู่ในหนทางแก้แค้นสวี่รั่วยี แท้ที่จริงแล้วสิ่งที่ยากจะแก้ไขกลับเป็นลี่ถิงเซิ่ง
สวี่รั่วฉิงเปิดโน๊ตบุ๊ก หาอีเมลของสวี่รั่วยี ไตร่ตรองภายในเสี้ยววิ
“คุณสวี่ สวัสดีค่ะ ดิฉันแอนนา ไม่เจอกันนานนะคะ ไม่รู้ว่าชีวิตรักของประธานลี่และคุณสวี่ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดของคุณสวี่ ดิฉันต้องการที่จะบอกคุณสวี่ว่า ตัวดิฉันเองไม่มีความสนใจในตำแหน่งหัวหน้าแผนกน้ำหอมของลี่ซื่อกรุ๊ป เรื่องการลาออกของเฉินเสี่ยวหรานกับดิฉันไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ถ้าหากคุณสวี่ไม่สบายใจ สามารถมาหาประธานลี่เพื่อสมัครงานได้ ในวันพรุ่งนี้ดิฉันจะส่งน้ำหอมที่ปรุงเองกับมือเพื่อเป็นการขอโทษ คุณสวี่สามารถนำไปเข้าร่วมการแข่งขันตามฤดูกาลของวงการน้ำหอมเมืองหลินชวน ดิฉันรับประกันว่าคุณสวี่สามารถเป็นนักปรุงน้ำหอมมือหนึ่งในเมืองหลินชวนได้อีกครั้งด้วยน้ำหอมขวดนี้ และฉันจะปฏิเสธไม่เข้าร่วมการแข่งขันนี้ค่ะ”
ตอนนี้จังหวะยังไม่สุกงอม
เว้นเสียแต่ตัวเองจะกลายเป็นบุคคลที่ลี่ซื่อกรุ๊ปขาดไปไม่ได้ หรือ … จะกลายเป็นบุคคลที่ลี่ถิงเซิ่งขาดไปไม่ได้
มิฉะนั้นหากต้องเผชิญหน้ากับสละผู้ช่วยคนหนึ่งทิ้งหรือว่าล้มเลิกการแต่งงานกับลี่ซื่อกรุ๊ป ลี่ถิ่งเซิ่งคงไม่ลังเลที่จะเลือกอย่างหลัง เสียสละเธอ
หลังจากสวี่รั่วฉิงส่งอีเมลเสร็จแล้ว เธอก็ปิดคอมพิวเตอร์
โชคดีที่น้ำหอมที่เธอปรุงยังมีอีกมากมายในสต็อก หลังจากเลือกขวดน้ำหอมแล้ว สวี่รั่วฉิงแพ็คห่อเสร็จ เธอกรอกใบส่งของและวางแผนที่จะส่งในวันพรุ่งนี้
วันรุ่งขึ้น สวี่รั่วฉิงเข้ามาทำงานที่บริษัทพร้อมกับรอยคล้ำใต้ตาที่หนักเอาการสองวง
ในตอนเช้า เธอใช้คอนซีลเลอร์เยอะมาก แต่เธอก็ไม่สามารถปกปิดมันได้อย่างสมบูรณ์ สุดท้ายเธอก็มาพร้อมกับรอยคล้ำใต้ตาเอาเสียเลย
ระหว่างทาง หลายคนชี้มาที่สวี่รั่วฉิง
ต้องรู้ว่านับตั้งแต่สวี่รั่วฉิงเข้ามาที่บริษัท เธอก็สดใสสวยงามทุกวัน จะมีวันที่เธอสีหน้าซีดเซียวอย่างนี้ได้อย่างไร
มีคนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเข้ามาถาม “ผู้ช่วยแอน นี่มันคืออะไรกัน?”
สวี่รั่วฉิงกะพริบตาเบาๆ ขี้เกียจจะส่งสายตาให้คนเหล่านั้น
เธอโค้งริมฝีปากยิ้มและพูดแผ่วเบา “ทำงานดึกน่ะค่ะ คุณคิดว่าไงละ? ไม่อย่างนั้นคุณไปลองเป็นผู้ช่วยประธานลี่สักเดือนไหม?”
ไม่นาน คนที่สอดรู้ก็หยุด
ทุกคนรู้ว่าลี่ถิงเซิ่งเป็นคนบ้างาน ตราบใดที่เขาไม่หยุดพัก ผู้ช่วยของเขาก็อย่าคิดหยุดพัก
ยกเว้นหลี่อานไม่มีใครสามารถเป็นผู้ช่วยของลี่ถิงเซิ่งได้นานกว่าหนึ่งเดือน
สวี่รั่วฉิงผลักบานประตูสำนักงานเข้าไปพร้อมกับรอยคล้ำ
เข้าไปพบกับหลี่อานเหมือนเคย
หลี่อานเงียบไปไม่กี่วิ ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะถาม “ผู้ช่วยแอน ไม่วานคุณไม่ได้พักผ่อนดีหรือ?”
สวี่รั่วฉิงวางกระเป๋าของเธอลงและมองไปยังลี่ถิงเซิ่งที่กำลังนั่งเฉยชาอยู่หลังโต๊ะทำงาน “ไม่เลยค่ะ ยุ่งทั้งคืน ไม่ได้พักผ่อนดีเลย”
หลี่อานก็ไม่รู้ว่าสวี่รั่วฉิงกำลังยุ่งอยู่กับอะไร เห็นเธอไม่อยากพูด ก็เลยไม่อยากถามมาก
เมื่อรายงานกับลี่ถิงเซิ่งอย่างรวดเร็วเรียบง่ายแล้วก็จากไปอย่างรวดเร็ว
ในห้องเหลือเพียงสวี่รั่วฉิงและลี่ถิงเซิ่ง
ดูเหมือนลี่ถิงเซิ่งวันนี้ดูคล้ายกับอารมณ์ดี ค่อนข้างมีความสนใจ เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ผู้หญิงที่เริ่มทำงานด้วยใบหน้าที่ไม่สดชื่นและมีรอยคล้ำใต้ตาของเธอ เขายกมือขึ้นเคาะบนโต๊ะ “ยุ่งทั้งคืนเลยเหรอ?”
สวี่รั่วฉิงกลอกตา เธอวางงานในมือ เอียงศีรษะเพื่อมองชายหนุ่ม น้ำเสียงของเธอก้าวร้าวเล็กน้อย
“ประธานลี่คะ คุณฉลาดขนาดนี้ ทำไมถึงไม่รู้ว่ารอยคล้ำใต้ตาฉันเกี่ยวข้องกับคุณละคะ?”
มุมริมฝีปากของลี่ถิงเซิ่งยิ้มลึกขึ้น
เขาเห็นว่ามันจริง แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา “เกี่ยวอะไรกับผม หรือคุณฝันเลยนอนไม่หลับ?”
สวี่รั่วฉิง: “…” เธอไม่เคยเห็นผู้ชายที่ไร้ยางอายมากไปกว่าลี่ถิงเซิ่ง
หญิงสาวทำเสียงฟึดฟัดเบาๆ จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมา เสียงของเธอไพเราะนุ่มนวล อย่างตั้งใจเล็กน้อย
ดวงตาเธอมีรอยยิ้ม ราวกับว่าไม่โกรธเลย
“ประธานลี่ ฉันได้ยินมาว่าคู่หมั้นของคุณ คุณสวี่รั่วยี เป็นนักปรุงน้ำหอมคนแรก?”
ลี่ถิงเซิ่งพยักหน้า
สวี่รั่วฉิงพูดต่อ “เฉินเสี่ยวหรานเป็นนักปรุงน้ำหอมคนที่สองของเมืองหลินชวน ถึงเวลานั้นหลินชวนสามารถคุกคามนักปรุงน้ำหอมคุณสวี่ได้ เกรงว่าจะไม่มีสักคน แล้วก็ในเร็วๆนี้ในวงการน้ำหอมจะมีการแข่งขันปรุงน้ำหอม เกรงว่าคุณสวี่จะถูกขนานนามว่านักปรุงน้ำหอมคนแรก เหนื่อยจิตเหนื่อยใจแน่นอน”
สวี่รั่วฉิงมองไปที่ลี่ถิงเซิ่ง สีหน้าของชายหนุ่มไม่เปลี่ยนแปลงสักนิด
ดวงตาที่ลึกล้ำมีความหมายที่ล้ำลึกบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจ
สวี่รั่วฉิงกลืนน้ำลายลง คอน้ำเสียงของเธอยังคงมีเสน่ห์เหมือนเดิม แต่เธอพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกกลัวในภายหลัง
“ประธานลี่ในสถานการณ์ที่คุณรู้ว่าคุณสวี่ไม่ค่อยพอใจฉันนัก ยังจะส่งฉันไปที่แผนกน้ำหอมของบริษัท แต่งตั้งให้ฉันเป็นผู้จัดการ ไม่เท่ากับว่าผลักฉันเข้าไปในขุมนรกเหรอคะ? ทุกคนทราบกันทั่ว หัวหน้าแผนกน้ำหอมของลี่ซื่อกรุ๊ป ต้องเข้าร่วมการแข่งขันปรุงน้ำหอม แต่ระดับของฉันสูงกว่าคุณสวี่ แน่นอนว่าต้องชนะคุณสวี่ เมื่อเป็นเช่นนั้นเธอจะเห็นฉันเป็นเหมือนหนามในดวงตาของเธอ ฉันไม่มีผู้สนับสนุน ไม่มีคนคอยปกป้อง จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในหลินชวนได้นานเท่าไหร่?”
ดวงตาที่ลึกล้ำของลี่ถิงเซิ่งค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชา
ผู้หญิงตรงหน้าเขาฉลาดกว่าที่เขาคิด
มีไม่กี่คนที่สามารถมองขาดแผนการของเขาได้ แอนนาเป็นคนนั้น
หลังจากมองเห็นแผนของเขาแล้ว ก็พูดต่อหน้าเขา ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขา เป็นคนแรก
เสียงของลี่ถิงเซิ่งเย็นชา ริมฝีปากบางของเขาเปิดและปิด “คุณรู้ไหมว่าเมื่อกี้คำที่คุณพูดออกมา มีความหมายว่าอย่างไร?”
สวี่รั่วฉิงยิ้มเล็กน้อย ดวงตาทอแสงสว่างไสว
“ฉันรู้แน่นอน ประธานลี่คุณอยากรู้ความลับของฉัน ใช่ไหม? ถ้าคุณสวี่เล็งเป้ามาที่ฉัน ในเวลานั้น ผู้เดียวที่สามารถปกป้องฉันได้คือประธานลี่ หากฉันขอความช่วยเหลือจากคุณ แน่นอนว่าต้องมีเงื่อนไขแลกเปลี่ยน ฉันเดาว่าเงื่อนไขนั้นต้องเป็นประธานลี่ที่ขอให้ฉันบอกความลับของฉันเอง”
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงพูดจบ เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
จนถึงตอนนี้ลี่ถิงเซิ่งไม่ได้ไล่เธอออกไป และดูเหมือนว่าจะพนันถูก
ลี่ซื่อกรุ๊ปต้องการทักษะการปรุงน้ำหอมของเธอ แต่ด้วยกำลังทางด้านทุนทรัพย์ของลี่ซื่อกรุ๊ป ต้องการนักปรุงน้ำหอมในระดับเดียวกับตัวเอง ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ดูเหมือนว่าความสนใจในตัวเองของลี่ถิงเซิ่งนั้น จะไกลเกินกว่าที่ตัวเองจะจินตนาการได้
มุมริมฝีปากของสวี่รั่วฉิงยกขึ้น ในที่สุดเธอก็มีไพ่เด็ดอยู่ในมือ
