ตอนที่ 660 ระเบิด!
แต่ที่น่าโมโหคือ เงาลวงตาของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลหลังจากที่พูด ‘เป็น…เจ้า…’ คำนั้นแล้ว ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกแล้วจึงสลายตัวหายไป
สวี่ชิงหล่างคุกเข่าลงกับพื้น และที่ไม่ไกลมาก หนอนสีดำดูเหมือนกำลังคลานมาทางนี้ สภาพแวดล้อมของที่นี่เหมือนกระเพาะของมนุษย์ อยากได้ความสกปกรกขยะแยงมากแค่ไหนก็มีมากเท่านั้น
สวี่ชิงหล่างขยับลูกกระเดือก แล้วกระอักเลือดออกมา ยื่นมือลูบซี่โครงของตัวเองซึ่งหักไปสองสามซี่ พร้อมกับเผยความหวาดกลัวในดวงตา ค่ายกลทั้งสามที่ตัวเองสร้างไว้ถูกทำลายในพริบตาไม่ว่า ถ้าหากไม่มีพลังปกป้องของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลเมื่อครู่ ตัวเองจะมีชีวิตรอดจากการโจมตีก่อนหน้านี้หรือไม่ก็ยังไม่รู้!
สวี่ชิงหล่างคาดเดาและจินตนาการในหัวนับครั้งไม่ถ้วนว่าเงาดำที่อยู่ข้างในมีพลังทำลายล้างมากแค่ไหน แต่กลับคาดคิดไม่ถึงว่าจะน่ากลัวมากถึงขั้นนี้! ทันใดนั้นจึงกวาดตาสำรวจไปรอบๆ สวี่ชิงหล่างกลับไม่เห็นว่าเงาดำนั่นไปอยู่ที่ไหนแล้ว ความรู้สึกอันตรายที่ไม่สามารถจับต้องและมองไม่เห็นแบบนี้ ทำให้สวี่ชิงหล่างขนลุกชูชันขึ้นมา
‘ครืน!’ ทางด้านซ้าย สวี่ชิงหล่างหมุนตัว แต่ในใจของเขากลับสิ้นหวัง มันเร็วเกินไป!
‘ปึ้ง!’ เงาร่างขนาดเล็กปรากฏอยู่ตรงหน้าสวี่ชิงหล่าง บดบังการโจมตีของเงาดำ เงาดำล่าถอยไปอีกครั้ง ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางความมืด
เด็กผู้ชายที่อยู่อีกด้านหนึ่งของทางเดินในถ้ำได้ยินความเคลื่อนไหวจากข้างในก็รีบมาทันที จึงสามารถช่วยป้องกันการโจมตีนี้ให้สวี่ชิงหล่างได้พอดี
สวี่ชิงหล่างหายใจหอบใหญ่ มองเงาร่างขนาดเล็กที่อยู่ตรงหน้าพลางเอ่ยว่า “ขอบใจ มันเร็วมากเกินไป”
“ไม่เพียงแต่…เร็วเท่านั้น”
เด็กผู้ชายพูด พร้อมกับแขนทั้งสองข้างของตัวเองที่ห้อยตกลงไปอย่างช้าๆ บนแขนทั้งสองข้าง เกิดรอยข่วนลึกเห็นถึงกระดูกอย่างน่าตกใจ!
ควรทราบว่า เขาเป็นร่างผีดิบอายุหลายร้อยปีตัวจริงเสียงจริง! พลังต้านทานการโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้ถึงขั้นนี้!
ถ้าหากเป็นกายเนื้อของคนทั่วไป คาดว่าคงเหมือนมนุษย์กระดาษถูกเงาดำนั่นพุ่งทะลุจนพรุนโดยไม่ชักช้าแม้แต่นิดเดียว
เวลานี้ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่รู้สึกตื่นเต้นและหวาดกลัวมากที่สุด ไม่ใช่ใครอื่น คือหญิงสาวตัวดำนั่นเอง เพราะสมาธิของเธอส่วนใหญ่อยู่ที่การควบคุมเถาวัลย์ในร่างของเถ้าแก่ ไม่สามารถขยับตัวได้ และห้ามเสียสมาธิ ซึ่งหมายความว่าถ้าหากเงาดำนั่นเข้ามาหาเธอ เธอไม่สามารถที่จะหลบหลีกได้อย่างสิ้นเชิง แน่นอนว่าดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาว่าเธออยากหลบหรือไม่อยากหลบ เพราะถึงอยากหลบก็หลบไม่พ้น
ส่วนเถ้าแก่โจวก็ยังลอยอยู่ในน้ำอย่างเงียบสงบ เถาวัลย์ที่อยู่บนตัวอย่างหนาแน่นเชื่อมต่อกับผนังสีเขียว พิษผีดิบกำลังซึมซาบเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างจริงจัง เพียงแต่ร่างกายนี้ก่อนหน้านี้เป็นเช่นไร ตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น โครงเรื่องเหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่นที่เอะอะได้รับพลังแล้วเกิดใหม่จากเถ้าถ่านหรือนิพพานแล้วเกิดใหม่แบบนั้น ดูเหมือนจะไม่ปรากฏบนตัวของเขา
สวี่ชิงหล่างค่อยๆ ลุกขึ้น เขาพยายามสื่อสารขอพลังจากเทพเจ้าแห่งท้องทะเลใหม่ ไม่ช้าเกล็ดงูเริ่มปกคลุมทั่วร่างของเขาอีกครั้ง แต่พลังลดน้อยกว่าก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก เพราะรู้สึกถึงความเจ็บปวดและฉีกขาดที่ส่งผ่านมาจากเกือบทุกอณูบนร่างของเขา
ความสามารถในการแบกรับพลังของแต่ละคนล้วนมีข้อจำกัด เทพเจ้าที่อยู่ในทะเลอันไกลโพ้น ในฐานะที่ใกล้จะกลายเป็นมังกรน้ำ ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกายหรือพลังล้วนมีความน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง แต่กายเนื้อของสวี่ชิงหล่างมีความอ่อนแอเกินไป ถ้าหากรับพลังของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลแบบก่อนหน้านั้นอีก ตัวเขาเองจะระเบิดตาย กายเนื้อและวิญญาณจะถูกบีบให้หายไปในพริบตา
ทว่าตอนนี้สิ่งที่น่ากระอักกระอ่วนที่สุดอยู่ที่ ทั้งๆ ที่รู้ว่าที่นี่อันตราย ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวประหลาดที่ออกมาจากผนังสีเขียวนั่นไม่ควรไปหาเรื่อง แต่ทุกคนก็ยังไม่กลับ! ทำไมถึงไม่กลับ แล้วทิ้งเถ้าแก่ไว้ที่นี่คนเดียว เด็กผู้ชายไปไหนไม่ได้ เพราะอิงอิงอยู่ข้างบน ถ้าหากเธอรู้ว่าเด็กผู้ชายสนใจแต่ตัวเองหนีเอาตัวรอดทิ้งเถ้าแก่ของเธอเอาไว้ ผีดิบสาวน่าจะบดขยี้เลือดวิญญาณของเขาเพื่อให้เขาตายตกไปด้วยกัน!
“ต้องรออีกนานไหม” เด็กผู้ชายพูดตะคอก เขาหลับตา ไม่กล้ามองผนังสีเขียว เขาไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองถลำลึกลงไปอีก ก้อนหินสีเขียวนั่น สำหรับผีดิบแล้ว มีพลังดึงดูดที่ร้ายแรง!
หญิงสาวตัวดำหัวเราะอย่างขมขื่น แม่งเอ๊ย ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน! แต่เถ้าแก่ของนายอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้ว ฉันลงมาทำงานอยู่ตั้งนาน เขา เขากลับ เขากลับไม่มีการตอบสนองแม้แต่นิดเดียว แล้วนายจะให้ฉันทำอย่างไร!
ต่อจากนี้ คือความเงียบที่แสนยาวนาน ภายในบ่อ นอกจากเสียงน้ำไหลแล้ว ก็ไม่มีเสียงอย่างอื่น
เงาดำนั่นก็ไม่โผล่ออกมาอีก แต่ไม่ว่าจะเป็นสวี่ชิงหล่าง เด็กผู้ชาย หรือหญิงสาวตัวดำ ต่างไม่มีใครทำตัวผ่อนคลายแม้แต่นิดเดียว อันที่จริงความเงียบก่อนที่จะเกิดเรื่อง ถึงจะเป็นความน่ากลัวที่สุด และทำให้คนรู้สึกทรมานที่สุด
และในตอนนี้เอง เสียงความเคลื่อนไหวดังมาจากทางถ้ำหลุมอีกครั้ง เป็นพวกอิงอิงที่มาแล้ว
‘ครืน!’ เสียงดังขึ้นอีกครั้ง
“ระวัง!” สวี่ชิงหล่างตะโกนทันที
“โอ๊ย!” อิงอิงร้องเสียงดังอู้อี้ ทนายอันกลับส่งเสียงร้องน่าเวทนา
เด็กผู้ชายกับสวี่ชิงหล่างเห็นดังนั้น จึงรีบพุ่งไปที่ปากถ้ำทันที เงาดำปรากฏตัวอีกครั้งด้วยความเร็วที่น่ากลัวเหมือนเดิม เด็กผู้ชายรีบใช้หมัดทุบเข้าไป!
‘ปึ้ง!’ เสียงเสียดสีแสบแก้วหูดังเข้ามา ใบหน้าของเด็กผู้ชายแทบจะบิดเบี้ยว นิ้วมือทั้งห้ามีเลือดไหลอาบไปทั่วเลือดของผีดิบเป็นสีดำ และนิ้วมือของเขาก็สั่นไม่หยุด แม้แต่แขนก็ยังสั่นกระตุกไปหมด ร่างของผีดิบที่แข็งแกร่งและมั่นใจ เมื่ออยู่ต่อหน้าเงาดำกลับกลายเป็นความบอบบาง
อิงอิงคุกเข่าอยู่ในถ้ำหลุม และด้านหลังของเธอ ทนายอันถูกกระแทกจนใบหน้าและจมูกบวม แต่สิ่งที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองคือ ตอนที่ทนายอันเข้ามาเขาเดินอยู่ข้างหลังอิงอิง ควรทราบว่าเวลานี้ไหล่ทั้งสองข้างของอิงอิงมีแผลลึกจนถึงกระดูกปรากฏออกมา ถ้าหากทนายอันอยู่ข้างหน้า คาดว่าตอนนี้คงกลายเป็นเศษดินโคลนที่คอยปกป้องดอกไม้ไปแล้ว
“เถ้าแก่!” อิงอิงไม่สนใจบาดแผลบนร่างกาย คลานขึ้นมาอีกครั้งเตรียมจะเดินเข้าไป ก่อนหน้านี้ตามแผนของทนายอัน ไม่อยากให้ผีดิบทั้งสองของฝ่ายตนเข้าใกล้ตรงนั้นมากนัก เพราะอันตรายเกินไป ถ้าหากเผลอถลำลึกลงไปจะยุ่งไปกันใหญ่
แต่หลังจากที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่รุนแรงด้านล่าง หากจะรออยู่ข้างบนต่อไปคงไม่สมควร จึงได้แต่ลงมาอย่างจำยอม
“ผนังขยับแล้ว!” หญิงสาวตัวดำตะโกนขึ้นมาในทันใด ใช่แล้ว ผนังขยับแล้ว ผนังสีเขียวทั้งหมดที่ดูแข็งแรงค่อยๆกลายเป็นของเหลว ให้ความรู้สึกเหมือนเยลลีและเริ่มไหลออกมา
จากผิวขรุขระที่มีก่อนหน้าเริ่มกลายเป็นราบเรียบ ขณะเดียวกันเริ่มแผ่ขายออกไปด้านนอกจากตำแหน่งเดิม หญิงสาวตัวดำถอยหลังสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อมองโจวเจ๋อที่อยู่ลอยอยู่ตรงหน้า เธอจึงลังเล ก่อนจะกัดฟันเดินไปข้างหน้าเพื่อลากโจวเจ๋อกลับมา ของเหลวสีเขียวหนึ่งหยดตกบนผิวหนังของเธอ “โอ๊ย!” เธอร้องออกมาอย่างน่าสงสาร แขนของเธอเหมือนถูกทิ่มกลายเป็นรูขนาดเท่าเล็บมือ เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงเกินไป ตอนที่หลอมละลายจึงทำให้แผลไหม้ในเวลาเดียวกัน ไม่มีเลือดไหลออกมาสักหยด
หญิงสาวตัวดำไม่กล้าเดินไปข้างหน้าต่อ จึงได้แต่เดินถอยหลัง ถึงแม้จะพูดว่าโจวเจ๋อตายแล้ว เธอก็ต้องตาย แต่หากเดินต่อไปข้างหน้าหรือไม่ถอยหลังละก็ เธอจะต้องถูกหลอมละลายเป็นขี้ตะกอนอยู่ท่ามกลางของเหลวสีเขียวทันที
“เหล่าโจว!” สวี่ชิงหล่างตะโกน
เด็กผู้ชายไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว พุ่งไปยังทิศทางที่โจวเจ๋ออยู่
‘ครืน!’ เงาดำปรากฏอีกครั้ง เด็กผู้ชายถูกโจมตีระหว่างทาง ทั้งตัวของเขาลอยกระเด็นไปอยู่ข้างสวี่ชิงหล่างร่างกายสั่นสะท้าน เร็วเกินไปแล้ว และการโจมตีนี้ยังมีความเฉียบคมเกินไป!
“เถ้าแก่!” อิงอิงคลานออกมา เธอเห็นเถ้าแก่กำลังจะถูกปกคลุมไปด้วยของเหลวสีเขียวอยู่รอมร่อ จึงลืมทุกอย่างด้วยความร้อนใจ อยากจะพุ่งเขาไปช่วยเถ้าแก่ของตัวเองกลับมา แต่ของเหลวสีเขียวนี้จู่ๆ ก็เริ่มเดือดปุดๆ ขึ้นมา ให้ความรู้สึกเหมือนหินหนืด
กลิ่นอายที่เต็มไปด้วยความน่ากลัวเริ่มลอยฟุ้งไปทั่ว ภายในบ่อทั้งหมดถูกเติมเต็มไปด้วยแก๊สเหลวก็ไม่ปานถึงแม้จะเป็นคนทั่วไปก็ยากที่จะทนรับไหว และในดวงตาของเด็กผู้ชายกับอิงอิงก็เริ่มถูกแทนที่ด้วยความมึนเมาอย่างช้าๆ นี่คือแรงยั่วยุที่ร้ายกาจ สำหรับผีดิบตัวหนึ่งยากที่จะปฏิเสธกับดักของสวนเอเดน
“จริงๆ เลย! เหล่าสวี่ รออะไรล่ะ พาพวกเขาออกมา!” ทนายอันตะคอกเสียงดัง
สวี่ชิงหล่างสูดลมหายใจลึกๆ ดึงเด็กผู้ชายไปข้างหลัง ในดวงตาของเด็กผู้ชายเดี๋ยวสดใสเดี๋ยวเคลิบเคลิ้ม แต่เนื่องจากมีประสบการณ์ครั้งที่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้ถลำลึกลงไปอย่างสมบูรณ์
อิงอิงกลับถูกทนายอันคว้าคอ ทนายอันใช้แขนข้างเดียวลากอิงอิงไปข้างหลังโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
“ไม่แน่เขาอาจจะไม่ตาย อาจจะไม่ตาย เธอถ้าลุ่มหลงเข้าไป จะไม่มีใครช่วยเขาได้จริงๆ!”
ดูเหมือนคำพูดเหล่านี้จะปลุกเร้าอิงอิง ม่านตาที่เคลิบเคลิ้มแต่เดิมเริ่มกระเพื่อมขึ้นมา ในที่สุดสวี่ชิงหล่างกับทนายอันต่างคนต่างลากผีดิบที่อยู่ตรงหน้าถอยมาจากถ้ำตรงนั้นได้สำเร็จ ถอยหลังไปจนถึงด้านล่างของถ้ำ หลังจากเว้นระยะห่างได้ช่วงหนึ่งแล้ว เด็กผู้ชายกับอิงอิงจึงฟื้นสติกลับมา ทั้งสองคนสบตากัน มองเห็นความดีใจในดวงตาของอีกฝ่าย ห่างจากการถลำเข้าไปอีกแค่นิดเดียวเท่านั้นจริงๆ
ทนายอันใช้แขนข้างเดียวชูโทรศัพท์ส่องเข้าไปในถ้ำ พบว่าถ้ำตรงนั้นถูกก้อนหินสีเขียวปกคลุมโดยสมบูรณ์ ถูกปิดตายอยู่ในนั้น
“นั่นคืออะไรกันแน่” ทนายอันถามสวี่ชิงหล่าง
“มองไม่เห็น ใช่ที่ออกมาจากผนังใช่ไหม ดูเหมือนจะเป็นสัตว์ตัวหนึ่ง มีขนเยอะมาก” สวี่ชิงหล่างนึกถึงอุ้งมือเล็กที่โผล่ออกมาจากด้านในผนังสีเขียวในตอนแรก
“สัตว์ อย่างนั้นก็คือปีศาจ”
“ปีศาจ” สวี่ชิงหล่างย้อนนึกภาพของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลก่อนที่จะหายตัวไป แล้วพยักหน้าอย่างสงสัย “น่าจะใช่ ดูเหมือนเทพเจ้าแห่งท้องทะเลจะรู้จัก แต่สภาพร่างกายของผมตอนนี้ ไม่สามารถติดต่อเขาได้ชั่วคราว” ต้องรอร่างกายหายดีแล้วถึงสามารถติดต่อเทพเจ้าแห่งท้องทะเลเพื่อคลายความสงสัย แต่ก็คงจะนานเกินไป
“รอนานขนาดนั้นไม่ไหว พวกเราต้องหาวิธีขุดเอาเถ้าแก่ออกมา” ทนายอันกล่าว
“ขุดยังไง” เด็กผู้ชายถาม เพราะคนที่มีพลังมากที่สุดก็คือพวกเขาผีดิบสองคน แต่พวกเขาเข้าใกล้ตรงนั้นแล้วอาจจะมีปัญหา ทนายอันตอนนี้เป็นเอี้ยก้วยไปแล้ว สวี่ชิงหล่างก็ ‘ร่างกายเปราะบาง’
“จะขุดยังไง หรือว่าผมต้องหา ‘บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน’ สักเล่มมาศึกษาว่าต้องขุดยังไง หรือว่าหาตัวอู๋เสียกับเมินโหยวผิง[1]ให้ไปติดต่อข้างนอกเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ ไปหาระเบิดมาให้ผมสิ! ในเหมืองแร่นี้ต้องมีระเบิดแน่นอน เหมืองแร่สองสามแห่งที่อยู่ใกล้ๆ ก็ลองไปค้นหาให้ผมที ไม่สนว่าข้างล่างจะเป็นพวกเสือสิงห์กระทิงแรดอะไร ผมจะระเบิดมันให้ตายไปเลย!”
……………………………………………………………………….
[1] อู๋เสียกับเมินโหยวผิง เป็นตัวละครใน ‘บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน’