ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 665 ปีศาจใหญ่ที่แปลกประหลาด!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 665 ปีศาจใหญ่ที่แปลกประหลาด!

โจวเจ๋อรู้สึกว่าหน้าอกของตัวเองมีสิ่งนุ่มนิ่มกดทับอยู่ เมื่อเงยหน้าก็พบว่ามีดวงตาสดใสคู่หนึ่งกำลังจ้องมองตัวเองอยู่ ถึงแม้จะพูดว่านอนหลับด้วยกันมานานแล้ว แต่หนึ่งคนหนึ่งสัตว์เพิ่งได้สบตากันเป็นครั้งแรก ให้ความรู้สึกเหมือนขึ้นรถแล้วค่อยซื้อตั๋วทีหลัง

โจวเจ๋อไม่รู้ว่านี่คืออะไร แต่พอจะเดาออกว่าคนที่ช่วยตัวเองตัดเถาวัลย์พวกนั้นก่อนหน้านี้ น่าจะเป็นเจ้านี่ที่อยู่ตรงหน้า ฮวาหูเตียวก็กำลังพิจารณามองโจวเจ๋อ โจวเจ๋อหันไปทางซ้าย ฮวาหูเตียวก็หันไปทางซ้าย โจวเจ๋อหันไปทางขวา ฮวาหูเตียวก็หันตาม เอ่อ…ต่อไปนี้ควรทำอย่างไรต่อ

เวลานี้หญิงสาวตัวดำกับอิงอิงรวมทั้งสวี่ชิงหล่างในที่สุดพวกเขาก็มาถึง ก่อนหน้านี้ทุกคนกำลังไปติดตั้งระเบิดอยู่ที่จุดวางระเบิด ถึงแม้จะได้รับสัญญาณจากทนายอันแล้ว แต่กว่าจะรีบรุดลงมาถึงที่นี่ก็ยังต้องใช้เวลาพอสมควร

“เถ้าแก่!” อิงอิงเห็นโจวเจ๋อฟื้นขึ้นมาแล้ว เธอดีใจแทบน้ำตาไหล ตอนนี้ในหัวของเธอนอกจากกลับทงเฉิงพร้อมกับเถ้าแก่ของตัวเองก็ไม่มีความคิดอย่างอื่นแล้ว การเดินทางมายูนนานครั้งนี้ล้มลุกคลุกคลานมากจริงๆ จึงทำให้อิงอิงยิ่งคิดถึงวันเวลาที่อยู่ในทงเฉิงมากขึ้น

ถึงแม้ตอนที่อยู่ทงเฉิงจะไม่ถึงขั้นเงียบสงบไร้อุปสรรคก็ตาม แต่ก็ไม่ต้องวิ่งตะลอนจนหายใจไม่ทันเหมือนตอนที่มายูนนานในครั้งนี้!

เมื่อก่อนเถ้าแก่เคยสะบักสะบอมบาดเจ็บหนักกลับมาเป็นประจำ จนเธอถึงกับดูแลจนชินแล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่ว่าเถ้าแก่จะไปซ่าอย่างไร ก็ไม่เคยถูกฟ้าผ่ามาก่อน

สวี่ชิงหล่างกำข้อมือของอิงอิงแน่น ห้ามอิงอิงไม่ให้เข้าใกล้โจวเจ๋อ ดวงตาคู่นั้นของเขาจ้องมองเจ้าตัวเล็กที่อยู่บนหน้าอกของโจวเจ๋อตาเขม็ง เป็นมัน มันนั่นเอง!

สวี่ชิงหล่างพุ่งความสนใจไปที่อุ้งมือของอีกฝ่าย เพราะก่อนหน้านี้เขามองเห็นเพียงอุ้งมือของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนทนายอันยังคงไอเป็นเลือดอยู่ตรงนั้น เขาอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา แต่ก็ไม่กล้าบ่น กระทั่งไม่กล้าตะโกนเสียงดัง

หากจะพูดแบบไม่เกรงใจ เจ้าสิ่งนั้นที่อยู่บนหน้าอกของเถ้าแก่ ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงอะไร อย่างน้อยตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น ไม่ใช่ผู้ช่วยและยิ่งไม่ใช่เพื่อน เจ้าสิ่งนั้นเมื่อแสดงความโหดออกมา สามารถฝังคนของร้านหนังสือทั้งหมดที่ตอนนี้อยู่ในสภาพบาดเจ็บไว้ที่นี่ได้พร้อมกัน!

สถานการณ์เข้าสู่ความเงียบงันทันที โจวเจ๋อจึงได้แต่สบตากับฮวาหูเตียวที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น ไม่กล้าทำอะไรอย่างอื่น หรือว่าต้องลูบหัวของมัน อันที่จริง สิ่งที่สำคัญที่สุด เป็นเพราะโจวเจ๋อมองเห็น ‘ความเย็นชา’ ที่อยู่ในแววตาของฮวาหูเตียว อีกฝ่ายไม่ได้ให้ความสนิทสนมกับเขาจริงๆ และไม่ได้เกิดรักแรกพบกับเขา อาจจะเป็นเพราะว่า ในสายตาของอีกฝ่าย ตัวเขาไม่ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิต แต่เป็นแค่ของเล่นหรือไม่ก็เป็นสิ่งที่นอนสบาย ดังนั้นเวลานี้หากแสดงความน่ารักต่อกันแล้วอุ้มมันมาอยู่ในอ้อมอกเหมือนสัตว์เลี้ยง จะเป็นการกระทำที่โง่เง่าและไร้เดียงสาที่สุด

เวลานี้ โจวเจ๋อเหมือนตัวละครหนึ่งในภาพยนตร์หน่วยกู้ระเบิด ไม่ใช่คนกู้ระเบิด แต่เป็นตัวประกอบที่ถูกมัดอยู่กับระเบิดเวลา เพียงแต่ต้นไม้อยากอยู่นิ่งแต่ลมกลับไม่หยุดพัด เดิมทีโจวเจ๋ออยากจะนอนต่อไปแบบนี้ก่อนที่จะหาวิธีการที่แน่นอนได้ แต่เถาวัลย์ที่ถูกตัดเมื่อครู่กลับงอกออกมาจากภายในร่างกายของตัวเองอีกแล้ว ความรู้สึกเหมือนต้นอ่อนได้ชนกระแทกและพุ่งอยู่ในร่างกายของคุณแบบนี้ เถ้าแก่โจวไม่สามารถทนได้อย่างสิ้นเชิง ร่างกายเริ่มสั่นสะท้านอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ราวกับว่าทั้งตัวกลายเป็นรังผึ้ง ผึ้งงานน้อยที่ขยันทำงานอยู่ข้างในกำลังบุกเบิกพัฒนาเขาวงกตของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง

ฮวาหูเตียวตัวนั้นไม่พอใจกับการบิดไปบิดมาของโจวเจ๋อเป็นอย่างมาก ในสายตาของมัน เตียงของตัวเองจะต้องมั่นคง มันจึงชูอุ้งมือขึ้น แล้วตบอุ้งมือของมันลงไป คาดว่าเถ้าแก่โจวคงต้องตายอยู่ที่นี่เป็นแน่แท้ ในความเป็นจริง ไม่มีเหตุการณ์ที่เป็นกรณีพิเศษเกิดขึ้นแต่อย่างใด และเถ้าแก่โจวก็ไม่มีความสามารถที่จะทำให้ปีศาจตัวนี้ตกใจก้มหัวกราบไว้ตัวเอง อุ้งมือตกลงมา!

‘ปึ้ง!’

‘ครืน!’

เถาวัลย์ที่อยู่ใต้ร่างงอกออกมาแล้ว โจวเจ๋อถูกสะบัดลอยออกไปทั้งตัว และอุ้งมือนั้นได้ตบอยู่กลางอากาศเกิดเสียงดังอู้อี้ ตำแหน่งที่โจวเจ๋อนอนก่อนหน้านี้ เกิดเป็นรอยบุ๋มลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ

มนุษย์เรามีจิตสัมผัส พืชก็มีความรู้สึกถึงวิกฤตเป็นของตัวเอง เมื่อครู่ พืชที่อยู่ภายในร่างของโจวเจ๋อแสดงการตอบสนองด้วยการหลบหลีกโดยสัญชาตญาณ เป็นฉากที่ตลกอย่างมาก สิ่งหนึ่งก่อนหน้านี้ได้ช่วยชีวิตเขาแต่ตอนนี้จะฆ่าเขาเสียแล้ว แต่อีกสิ่งหนึ่งก่อนหน้านี้อยากฆ่าเขาแต่ตอนนี้กลับช่วยชีวิตเขา นักแสดงบนเวทีเปลี่ยนบทบาทกันเองตามอำเภอใจ ส่วนเถ้าแก่โจวที่เป็นต้นไม้อยู่หลังฉากจะเป็นเช่นไร ไม่มีใครสนใจ

แต่อย่างน้อยเวลานี้ ในที่สุดฮวาหูเตียวกับโจวเจ๋อก็อยู่ห่างกันระยะหนึ่ง ไม่นอนซ้อนกันแล้ว ลูกตาของฮวาหูเตียวหมุนวน ดูเหมือนจะไม่พอใจมากที่ตัวเขาซึ่งเป็นเตียงมีขายาวเดินออกมาได้ มันหายตัว หายวับไปจากที่เดิม ด้วยความเร็วนี้ทำให้คนต้องตื่นตะลึง

เถาวัลย์แต่ละเส้นปรากฏอยู่ตรงหน้าโจวเจ๋อ รวมตัวกันเป็นแนวป้องกันสีเขียว จากนั้นแนวป้องกันนี้ถูกฉีกออกอย่างรวดเร็ว ความไวและความน่ากลัวของพลังโจมตีของฮวาหูเตียวได้แสดงออกมาอีกครั้ง เพียงแต่เถาวัลย์ที่อยู่ตรงหน้าโจวเจ๋อหลังจากถูกฉีกแล้วได้งอกออกมาอีกอย่างรวดเร็ว พยายามใช้การเชื่อมต่อกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเพื่อปกป้องตัวเอง

ก่อนหน้านี้ที่อยู่ในสารละลายสีเขียว พืชชนิดนี้อาศัยโจวเจ๋อสะสมพิษผีดิบไปไม่น้อย อันที่จริงพิษผีดิบส่วนใหญ่ถูกคนผู้นั้นที่นอนหลับอยู่ในร่างของโจวเจ๋อดูดซึมเข้าไปโดยสัญชาตญาณ ส่วนน้อยที่เหลือถูกพืชชนิดนี้แย่งไป เถ้าแก่โจวซึ่งเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ กลับไม่มีอะไรเหลือ แค่อาจจะได้กำไรผ่านมือเล็กน้อย ไม่มีแม้แต่ค่าธรรมเนียม ไม่อย่างนั้นตอนนี้คงไม่ย่ำแย่ดูไม่ได้ถึงขั้นนี้

“ช่วยผมสกัดมัน!” โจวเจ๋อตะโกน ความรู้สึกที่ร่างกายและสถานการณ์ของตัวเองไม่อยู่ในการควบคุมของตัวเองอย่างสิ้นเชิง มันช่างแย่มากจริงๆ เขาไม่สามารถอนุญาตตัวเองให้ยอมจำนนรอความตายต่อไปได้อีก และที่สำคัญที่สุดคือ พืชชนิดนี้ที่อยู่ในร่างของตัวเอง เขาไม่คาดหวังว่ามันจะสามารถขัดขวางฮวาหูเตียวตัวนี้ได้จริง

“คุณไปช่วยเถ้าแก่ควบคุมพืชนั่น คนที่เหลือไปสกัดเตียวตัวนั้น!”

เวลานี้ ถึงแม้ต้องกัดฟันทำก็ต้องเข้าไป ทนายอันไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เป็นอย่างมาก ในฐานะข้าราชการหนุ่มเจ้าเล่ห์ เขาเกลียดการบุกโจมตีข้าศึกอย่างฮึกเหิมชนิดที่พร้อมยอมพลีชีพแบบนี้ ทุกคนเล่นด้วยกันช่วยกันคิดแผนการคอยบงการอยู่เบื้องหลังไม่วางตัวอยู่เหนือคนอื่นแบบนี้ไม่ดีเหรอ จำเป็นต้องฝืนบุกเข้าไปต่อสู้ขนาดนี้เลยเหรอ

แต่สถานการณ์แกร่งกว่าคน ทำให้ต้องยอมรับทางเลือกที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวนี้ มือกระดูกขาวของทนายอันแผ่กระจายควันสีชมพูออกมา เพียงแต่ตอนที่เขากำลังจะใช้ควันนี้ปกคลุมเจ้าเตียวตัวนั้น ฮวาหูเตียวกลับขยับตัวย้ายที่ ด้วยความเร็วนี้ ทนายอันถึงแม้จะเพิ่มควันสีชมพูและเพิ่มเครื่องบินไอพ่นให้ตัวเองก็ไล่ตามไม่ทัน!

อิงอิงผมกลายเป็นสีขาวทั้งหัว สายตาเย็นชา เธอไม่สนใจแผลบริเวณไหล่ทั้งสองข้างเลยด้วยซ้ำ หลังจากสบตากับเด็กผู้ชายแล้ว ทั้งสองคนจึงขนาบทั้งสองข้างพุ่งเข้าไปโจมตีพร้อมกัน

สวี่ชิงหล่างกลับอาศัยจังหวะนี้หยิบยันต์กระดาษออกมาหลายแผ่น แล้วโปรยออกไปเหมือนสาวน้อยที่กำลังโปรยดอกไม้ ยันต์กระดาษคุณภาพต่ำเช่นนี้เขามีเยอะแยะมากมาย ถึงเวลาหยิบเอามาใช้งานพอดี

ถึงแม้จะต่อสู้ได้ แต่ทุกคนรู้ดีว่า ผีดิบสองตัวนี้อาจจะต้านทานได้สองครั้งสองครา แต่สวี่ชิงหล่างกับทนายอันกลับอยู่ในสถานการณ์ที่ผิวหนังเปราะบาง แค่ถูนิดเดียวก็น่าจะซี้แหงแก๋

โจวเจ๋ออาศัยช่วงเวลาสั้นๆ ตอนที่ฮวาหูเตียวถูกเบี่ยงเบนความสนใจ มองไปที่หญิงสาวตัวดำ หญิงสาวตัวดำสองมือทำท่ามุทราทันที เหมือนกำลังใช้เชือกดึงไปข้างหลังอย่างแรง!

“ซี้ด…” รู้สึกเหมือนชั้นผิวหนังถูกฉีกออกไปดื้อๆ เถาวัลย์แต่ละเส้นถูกดึงออกมาจากแผลของโจวเจ๋อ หลังจากดึงออกมาแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะยังเป็นรูปร่างมนุษย์!

เถาวัลย์รูปร่างมนุษย์ต่อต้านตามสัญชาตญาณ อยากจะมุดเข้าไปในร่างของโจวเจ๋อต่อ โจวเจ๋อเป็นรากของมันเป็นรากแก้วที่มันใช้ดูดซับสารอาหาร ดังนั้นจึงไม่อยากทิ้งไป และเมื่อครู่เนื่องจากอยู่ในร่างของโจวเจ๋อมันจึงมีรูปร่างที่หนาใหญ่ เป็นผลทำให้หญิงสาวตัวดำที่เป็น ‘ชาวไร่’ คนนี้ควบคุมมันไม่ค่อยอยู่

โจวเจ๋อตัวสั่นคลอนเป็นระยะ ความรู้สึกว่างเปล่าส่งผ่านเข้ามา นี่คือร่างกายถูกควักออกไปไม่มีเหลือแล้วจริงๆ!แต่เขายังคงกัดฟัน ไม่ยอมล้มลงไป

สวี่ชิงหล่างรีบพุ่งเข้ามา และไม่พูดพร่ำทำเพลง แบกโจวเจ๋อวิ่งออกไปข้างนอกทันที เวลานี้ ถือว่าช่วยโจวเจ๋อออกไปได้ก็คุ้มค่าแล้ว!

ทว่าฮวาหูเตียวที่เดิมทีต่อสู้กับผีดิบสองตัวเห็นเตียงของตัวเองถูกคนอื่นขโมยไปแล้ว มันจึงร้องออกมาทันที

‘ครืน!’ เสียงดังสนั่น มันลอดออกไปจากการขนาบข้างของผีดิบสองตัวโดยตรง เป้าหมายคือสวี่ชิงหล่างที่แบกโจวเจ๋ออยู่ และนัยน์ตาคู่นั้นที่แดงก่ำ เห็นได้ชัดว่ามันมีเจตนาฆ่า!

ทนายอัน ’สะอึก’ ขึ้นมาในใจ แย่แล้ว!

“โอ๊ย!” หญิงสาวตัวดำที่อยู่ข้างๆ ส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสาร หลังจากหมดแรงแล้วจึงล้มลงกับพื้น เถาวัลย์ร่างมนุษย์ที่ถูกตัวเองควบคุมก่อนหน้านั้นก็พุ่งเข้าหาโจวเจ๋อด้วยความรวดเร็วเช่นกัน เถ้าแก่โจวกลายเป็นสมบัติในมือของทุกคนจริงๆ

‘ปึ้ง!’ สวี่ชิงหล่างรู้สึกฟ้าหมุน ตัวหมุนไวมาก หลังจากล้มกระแทกกับพื้นอย่างแรงแล้ว ตอนที่จะลุกคลานขึ้นมากลับรู้สึกว่ากระดูกแขนขาของตัวเองเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่รุนแรง หน้าอกมีรอยข่วนที่น่ากลัวหนึ่งเส้น และตำแหน่งที่สวี่ชิงหล่างอยู่แต่เดิม โจวเจ๋อ ฮวาหูเตียว เถาวัลย์ร่างมนุษย์ ทั้งสามถูกเชื่อมต่ออยู่ด้วยกัน ก่อนหน้านี้พวกเขาเดินทางแค่สองคน ตอนนี้กลายเป็นสามคนเดินด้วยกัน นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียว เถาวัลย์ร่างมนุษย์เหมือนคนที่กระหายอย่างสุดขีด หลังจากโผติดเข้าไปแล้วจึงรีบนำเถาวัลย์ของตัวเองแทงไปที่โจวเจ๋อทันที มันอยากกลับบ้าน!

การตัดสินใจที่เด็ดขาดเช่นนี้ ความบังเอิญเช่นนี้ ต่อให้เป็นฮวาหูเตียวก็ยังตอบสนองไม่ทัน แต่ทันใดนั้นมันกับโจวเจ๋อได้ส่งเสียงอู้อี้ออกมาพร้อมกัน หนวดปลายแหลมของเถาวัลย์ร่างมนุษย์แทงทะลุฮวาหูเตียวเข้าด้วยกัน ซึ่งหมายความว่า โจวเจ๋อกับฮวาหูเตียวถูกเถาวัลย์ร่างมนุษย์เสียบเข้าด้วยกันเหมือนถังหูลู่

“จี๊ดๆๆๆ!!!!” ฮวาหูเตียวตอนแรกยังงุนงง แต่ไม่ช้ามันก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสงสาร ตรงกันข้ามกับโจวเจ๋อที่มีประสบการณ์จากครั้งที่แล้ว ถึงแม้ตอนนี้จะเจ็บแต่ก็ยังทนรับไหว ทว่าเสียงร้องของฮวาหูเตียวน่าสงสารเกินไป นอกจากนี้มันยังเป็นฝ่ายยอมแพ้เลิกต่อต้านทุกสิ่งอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆ ที่มันสามารถโจมตีเถาวัลย์ร่างมนุษย์ไห้ขาดสะบั้นได้ แต่เวลานี้มันกลับร้องเสียงดังอย่างเซ่อซ่า ลืมทุกสิ่งที่ต้องทำ

โจวเจ๋อก้มหน้ามองฮวาหูเตียวที่จ้องมองตัวเองอย่างไม่ลดละ มองดวงตาสดใสเป็นน้ำของมัน ที่เต็มไปด้วยน้ำตาของความน่าสงสาร เป็นแววตาน้อยๆ ที่ไร้ความช่วยเหลือ โอ้ว ดูแล้วทำให้คนใจสั่น ขณะเดียวกัน โจวเจ๋อยืนยันเรื่องไร้สาระได้เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ ปีศาจใหญ่ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ มัน มัน มันกลับกลัวเจ็บ!

……………………………………………………………………….

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท