ตอนที่ 676 ผมมาเยี่ยมคุณแล้ว
“อยู่ตรงนี้เหรอ” โจวเจ๋อก้มมองพื้นเมื่อรู้ตัว พูดจริงๆ นะ รู้สึกเหมือนไม่ใช่ความจริง เดิมทีคิดว่าต้องใช้เวลานานและพลังกายพลังใจเป็นอย่างมากถึงจะหาเจอ แต่กลับเจอภายในวันเดียว ซึ่งเกิดขึ้นจากการกินสุกี้หม้อไฟหนึ่งมื้อก็สามารถขุดเจอแล้ว ในความเป็นจริง ถึงแม้วันนี้ตัวเขาไม่ทำอะไรเลย ทนายอันก็ตามหามาจนถึงที่นี่อยู่ดี
ทนายอันยื่นขาเหยียบบนพื้น เดาะปากเสียงดัง เผยรอยยิ้มออกมา อาจจะเป็นเพราะว่าโชคไม่ดีที่ยูนนานเยอะไปหน่อย ความโชคร้ายจึงหายไปเยอะ เมื่อเรื่องร้ายมาจนถึงจุดสูงสุด เรื่องดี ๆ ก็จะเกิดขึ้น หลังจากมาถึงเสฉวนความโชคดีจึงกลับมา
ผู้ชายดึงผ้าห่มให้กระชับขึ้น ลงจากเก้าอี้ ท่าทางการเดินของเขาแปลกพิลึก ใช้สองเท้าสองมือเดินจริงๆ ตอนที่ทนายอันเปิดผ้าห่มของเขาก่อนหน้านี้ โจวเจ๋อก็เห็นร่างกายของอีกฝ่ายแล้ว อาจจะเป็นเพราะส่วนของแกนกลางลำตัวของเขาหดตัวจนไม่สามารถค้ำยันร่างกายได้อีก แต่มองแบบนี้แล้ว เหมือนกับแมงมุมตัวหนึ่งจริงๆ
โจวเจ๋อรู้ดีถึงอานุภาพของพิษผีดิบ แต่โจวเจ๋อไม่คิดว่าพิษผีดิบจะทำให้คนกลายเป็นแบบนี้ ส่วนใหญ่กายเนื้อและจิตวิญญาณจะถูกกลืนกินไปพร้อมกันอย่างรุนแรง อย่างโหดเหี้ยม แต่รวบรัดตรงไปตรงมา ไม่ถึงขั้นทำให้เกิดอาการทางอ้อมหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้
“ตามผมมา” ผู้ชายหันกลับมาโบกมือ เพื่อให้คนข้างหลังเดินตาม เขาดูเหมือนรีบมาก
“มันราบรื่นเกินไปหรือเปล่า” ทนายอันเดินไปข้างๆ โจวเจ๋อพลางถาม
“ใช้ชีวิตลำบากมากเกินไปเหรอ” โจวเจ๋อย้อนถาม
“ได้ คุณเป็นเถ้าแก่ คุณนิ่งได้ก็พอ”
ทุกคนเดินตาม ‘แมงมุม’ เข้าไปในตึกที่สองของสถานพักฟื้นพร้อมกัน เสฉวนมีภูเขาเยอะ และสถานพักฟื้นแห่งนี้ก็ยังสร้างติดกับภูเขา รูปแบบการก่อสร้างตัวอาคารและบริเวณโดยรอบล้วนใช้วิธีเช่นนี้ ตึกที่สองอยู่ติดหน้าผาด้านหนึ่งโดยสมบูรณ์ หลังจากทุกคนเข้าไปแล้ว ‘แมงมุม’ จึงหยิบกุญแจพวงหนึ่ง ไขประตูตู้นิรภัยขนาดใหญ่ของห้องหนึ่ง ประตูตู้นิรภัยถูกเปิดออกอย่างช้าๆ ในนั้นมีถ้ำโจรปล้นสุสานแห่งหนึ่งปรากฏขึ้นมา ไม่น่าเชื่อว่าจะซ่อนถ้ำโจรปล้นสุสานด้วยวิธีนี้ ยากที่คนจะคาดเดาได้จริงๆ
“ผมเฝ้ามัน ผมมองมัน แต่ไม่ใช่เพราะผมจิตใจดีมีเมตตา กลัวคนอื่นเข้าไปแล้วจะเจอเคราะห์ร้าย แต่เพราะผมไม่ยอมมากกว่า หนึ่งคือผมอยากรู้ว่าในนี้เป็นอะไรกันแน่ มีอะไรที่ทำให้พวกเรากลายเป็นแบบนี้ สองคือผมรู้สึกดีใจอยู่บ้าง หวังว่าจะเจอวิธีการรักษาตัวเองได้จากในนี้” พูดถึงตรงนี้ ‘แมงมุม’ หันหน้ากลับมา ใบหน้ายาวเปื้อนรอยยิ้มที่แปลกพิลึกขณะมองโจวเจ๋อ เขามองออกว่าโจวเจ๋อเป็นหัวหน้าตัวจริงของคนกลุ่มนี้
“ในใจของผม คิดเพียงเท่านี้ ผมไม่มีอะไรปิดบังพวกคุณ และไม่ได้คิดร้ายอะไรกับพวกคุณ ผมไม่มีความสามารถและไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น ความจริงแล้ว ตัวผมเองรู้สภาพร่างกายของตัวเองเป็นอย่างดี ผมมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ถ้าหากหาวิธีรักษาผมได้เมื่อยี่สิบปีก่อน บางทีผมยังจะมีโอกาสกลับไปเป็นคนปกติ กลับไปใช้ชีวิตของผม แต่ตอนนี้ สายไปแล้ว ตอนนี้ผมเหลือความคิดแค่อย่างเดียว นั่นก็คือดูว่าในนี้มีอะไรกันแน่! ก่อนที่ผมจะตาย อยากจะเห็นตัวการที่แท้จริงที่ทำให้ผมต้องทรมานนานหลายปี ขณะเดียวกันยังเป็นคนร้ายตัวจริงของเหตุการณ์ผีดิบที่พวกคุณถามก่อนหน้านั้น!”
“เหอะๆ” ทนายอันหัวเราะ พูดตามจริง พบเจอแผนการร้ายมาเยอะแยะมากมาย แต่พอมาเจอความจริงใจแบบนี้รู้สึกปรับตัวไม่ทันอยู่บ้าง
โจวเจ๋อพยักหน้า เดินไปตรงหน้า ‘แมงมุม’ แล้วมองเขา “ผมไม่สามารถรักษาอาการป่วยของคุณได้ แต่ผมสามารถรับปากคุณได้ว่าคุณจะจากไปอย่างสบายแน่นอน”
“จากไปอย่างสบาย” ‘แมงมุม’ ไม่เข้าใจ
เขาไม่รู้ว่ามีนรกอยู่จริง และไม่รู้ว่ามียมทูตอยู่จริงด้วยเช่นกัน กระทั่งตอนแรกเขามองโจวเจ๋อและคนอื่นเป็นคนที่รัฐบาลส่งมาจริงๆ อย่างเช่น ทีมงานเฉพาะกิจของประเทศ ทหารพิเศษ หรือไม่ก็หน่วยงานตรวจสอบปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ไม่ว่าอย่างไรการตกผนึกสติปัญญาของคนทำงานทำให้เกิดชื่อหน่วยงานที่ฟังแล้วดูเท่อยู่มากมาย และถ้าหากโจวเจ๋อบอกว่าตัวเองและคนอื่นมาจากนครรัฐวาติกัน ‘แมงมุม’ อาจจะเชื่อก็เป็นได้
“จากไปอย่างสบาย” แมงมุมลังเลเล็กน้อย เอ่ยว่า “หวังว่าพวกคุณจะไว้ชีวิตคนที่เหลืออีกสองสามคน พวกเขาเป็นคนน่าสงสารป่วยหนักใกล้ตายแล้ว หลังจากติดเชื้อจากผม ก็ยิ่งน่าสงสารกว่าเดิม”
“อย่างนั้นตอนแรกก็ไม่ควรแพร่เชื้อให้พวกเขา”
“พวกเขาขอร้องผม โอดโอยขอร้องผม ผมไม่มีทางเลือก บวกกับผมก็มีความเห็นแก่ตัว หากความตายยังไม่มาอยู่ตรงหน้า ใครจะยอมนั่งรอความตายอยู่ตรงนั้น ผมต้องการลูกน้อง ผมต้องการผู้ช่วย ถ้าหาก…ถ้าหากผมได้เห็นความหวังนั้นจริงๆ ล่ะ”
“คุณอยากลงไปด้วยกันไหม” โจวเจ๋อชี้ไปที่ ‘แมงมุม’
“ฮิๆ ถ้าคุณต้องการคนนำทาง ผมยินดีที่จะลงไป”
“อย่างนั้นเชิญ”
โจวเจ๋อพูดจบก็หันกลับมาส่งสัญญาณเป็นนัยให้ทนายอัน อิงอิง รวมทั้งเด็กผู้ชายให้เตรียมพร้อม จากคำบอกเล่าของ ‘แมงมุม’ ก่อนหน้านี้ ในนั้นมีควันที่แปลกประหลาด ถึงแม้โจวเจ๋อไม่คิดว่าควันดำพวกนั้นจะมีผลกระทบกับตัวเองเป็นพิเศษ แต่ขับเรือนับหมื่นปีก็ต้องระวัง
‘แมงมุม’ เดินนำหน้าสุด เขาใช้มือและเท้าเดินด้วยความเร็ว ความเร็วของโจวเจ๋อและคนอื่นๆ ก็ไม่ช้าเหมือนกันเดินตามหลังมาติดๆ ไม่ช้าจึงเปิดไฟโทรศัพท์ให้สว่างขึ้น ประตูสีแดงบานนั้นปรากฏอยู่ตรงหน้าของทุกคน เป็นประตูบานใหญ่มากจริงๆ ให้ความรู้สึกเหมือนประตูตู้เซฟบานใหญ่ของธนาคาร แต่มันไม่ได้ปิดสนิทโดยสมบูรณ์ มีช่องว่างอยู่ตรงกลาง
“ในสุสานโบราณหลายแห่งจะเป็นแบบนี้ เหตุผลเพราะความหนาของประตู ไม่สามารถปิดได้สนิท แต่ข้างนอกจะต้องมีการปิดให้มิดชิดอีกครั้ง ดังนั้นประตูบานนี้จะปิดสนิทหรือไม่ จึงไม่ต้องกังวล”
‘แมงมุม’ แนะนำเมื่อรู้ตัว ราวกับว่าได้ย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ช่วงที่เขายังเป็นนักศึกษาโบราณคดี แต่เหล่าเพื่อนนักศึกษาและอาจารย์ที่มาด้วยในตอนแรกกลับไม่อยู่แล้ว แม้แต่ตัวเขาเอง ยังเป็นตัวตนที่ถูกลืมไปนานแล้ว
‘แมงมุม’ ใช้ดวงตาของตัวเองก้มมองช่องว่างของประตูสีแดง ส่องไฟฉายที่อยู่ในมือเข้าไปข้างใน เขาตะโกนว่า “แกออกมาสิ! ฉันมาแล้ว แกออกมา!”
โจวเจ๋อและคนอื่นๆ รวมทั้งหมดสี่คนยืนอยู่ข้างหลังเขา ‘แมงมุม’ ต้องการระบายความโกรธ ความหวาดกลัวเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ความหวังเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ต้องการระบายสิ่งเหล่านี้ แน่นอนว่าเป็นเพราะเขารู้ว่าจุดสิ้นสุดของชีวิตตัวเองใกล้มาถึงแล้ว จึงไม่ใส่ใจชีวิตของโจวเจ๋อและคนอื่น หรือบางทีในสายตาของเขา ถ้าหากควันดำนั้นโผล่มาอีกครั้ง ‘กลบฝัง’ ตัวเองกับโจวเจ๋อและคนอื่น ถึงแม้ปรากฏการณ์ของเหตุการณ์ผีดิบในตอนนั้นจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ก็ถือว่าเป็นจุดจบที่ไม่เลว
“ฮ่าๆๆๆ มาแล้วๆ ควันดำ มาแล้ว มาแล้วนะ!!!!!” ‘แมงมุม’ ตะโกนขึ้นมา เหมือนสุนัขตัวหนึ่งที่กำลังกระโดดโลดเต้นอยู่บนพื้น
โจวเจ๋อจ้องนิ่ง ยื่นมือไปข้างหน้าดึงไหล่ของ ‘แมงมุม’ จับเข้าล้มไปด้านหลัง
แมงมุมล้มหงายหลัง แต่ยังคงร้องตะโกนด้วยความดีใจเหมือนเดิม “มาแล้ว ควันดำ มองเห็นอีกแล้ว มาแล้วมันมาแล้ว! พวกเราต้องตายทั้งหมด ต้องตายทั้งหมด ทุกคนตายไปพร้อมกัน ฮ่าๆๆๆๆ!!!!!!!”
‘แมงมุม’ หัวเราะอย่างมีความสุข น้ำตาไหลลงมาจากมุมตาไม่หยุด หรือบางทีการสิ้นสุดสำหรับเขา คือการหลุดพ้นอย่างหนึ่ง เขาเหมือนย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เดินเข้ามาสู่ความตายพร้อมกับอาจารย์และเพื่อนนักศึกษาของตัวเอง
ควันดำออกมาจริงๆ ผ่านไปยี่สิบกว่าปีก็ยังมาอีก มาพร้อมกับความน่าสะพรึงของมัน และความน่ากลัวนี้เคยปกคลุมไปทั่วเมืองหรงเฉิง ถึงแม้จะเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังเป็นตำนานที่คงอยู่อย่างต่อเนื่อง
โจวเจ๋ออ้าปาก สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งที ‘ซู้ด!’ ควันดำที่พุ่งออกมาจากช่องประตูสีแดงถูกสูบเข้าไปในปากของโจวเจ๋อ จากนั้นโจวเจ๋อจึงหมุนตัวแล้วหาว
“รสชาติเป็นยังไง” ทนายอันที่อยู่ข้างๆ ถาม
“คล้ายสูบบุหรี่มาร์ลโบโรแบบมีเม็ดบีบ”
“ฟินขนาดนั้นเชียว”
“คุณก็ลองสักคำสิ”
“ไม่ๆๆๆ”
“…” แมงมุม
แมงมุมที่อยู่ข้างๆ นิ่งเหมือนก้อนหิน ฝันร้ายที่เขานึกถึงตลอดยี่สิบกว่าปี ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกคนที่อยู่ตรงหน้าสูบเข้าไปโดยตรง และคนที่อยู่ตรงหน้า ก็เหมือนไม่เป็นอะไรเลย! ราวกับว่าความเชื่อบางอย่างถูกทำลายลง! และอารมณ์ที่เก็บกดมานาน ตอนนี้ยังอัดอั้นอยู่ในใจ พูดไม่ออก ระบายไม่ได้ ทรมานจริงๆ!
“อิงอิง เปิดประตู”
“ได้เจ้าค่ะ เถ้าแก่!” อิงอิงเดินไปข้างหน้า สองมือยันประตูสีแดง เริ่มออกแรง
‘กรึก…กรึก…’ ประตูสีแดงถูกผลักออกช้าๆ กลิ่นเหม็นเน่าลอยฟุ้งออกมา
โจวเจ๋อกำลังจะเดินเข้าไป ทนายอันกลับเข้ามาขวางโจวเจ๋อ เอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “เถ้าแก่ มั่นใจไหม”
“มั่นใจอะไร”
“เอ่อ ถ้าหากเจอสุนัขเฝ้าบ้านคนนั้นในปีนั้นอยู่ข้างในจริงๆ คุณคิดว่าตอนนี้คุณมั่นใจไหม” ความหมายของทนายอันจริงๆ แล้วกำลังถามว่า ที่เขาคาดเดาว่าอิ๋งโกวได้ตื่นขึ้นแล้วถูกต้องแม่นยำหรือไม่!
โจวเจ๋อยื่นมือตบไหล่ของทนายอันเบาๆ แล้วพูดอย่างสบายว่า “อย่างนั้นคุณคิดว่า ตอนแรกที่เขาตัดสินใจทรยศอิ๋งโกว มีความมั่นใจไหม”
“จริงๆ เลย เถ้าแก่พูดแบบนี้ดูมีระดับมาก!”
ขณะที่พูด ทนายอันยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้เด็กผู้ชายที่อยู่ข้างกาย จากนั้นมองโจวเจ๋ออีกครั้งเอ่ยว่า “มา เถ้าแก่ผมจะถามคุณอีกครั้ง คุณก็ตอบผมอีกรอบ จะต้องบันทึกฉากสุดคลาสสิกนี้ไว้”
เด็กผู้ชายรับโทรศัพท์มา เปิดกล้องแล้วโฟกัสไปที่โจวเจ๋อกับทนายอัน และเปิดไฟฉายในเวลาเดียวกัน
“เอ่อ ถ้าหากเจอสุนัขเฝ้าบ้านคนนั้นในปีนั้นอยู่ข้างในจริงๆ คุณคิดว่า…”
“ปัญญาอ่อน”
“เอ๊ะ เถ้าแก่ผมยังพูดไม่จบ” จากนั้นทนายอันจึงตกตะลึง เพราะเขาพบว่าโจวเจ๋อไม่ได้อ้าปากเลยด้วยซ้ำ คำพูดนี้ไม่ใช่คำพูดของเถ้าแก่อย่างสิ้นเชิง เสียงนั้นมาจากส่วนลึกของประตูสีแดง!
“ดูเหมือนผมจะโดนดูถูกแล้ว” ทนายอันกล่าว
โจวเจ๋อพยักหน้า เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ตะโกนไปที่ทางเดินที่อยู่ลึกเข้าไป “ผมมาเยี่ยมคุณแล้ว”
……………………………………………………………………….