ตอนที่ 683 จัดการ
นักพรตเฒ่ากลับมาแล้ว ใบหน้ายังมีรอยข่วนชัดเจน เขาบอกว่าเจ้าลิงซน ไม่ทันระวังจึงโดนมันข่วน อืม ทุกคนที่อยู่ตรงนี้เชื่อกันหมด
นักพรตเฒ่าปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ ทุกคนเดินเข้าไป โจวเจ๋อหมุนตัวชี้ไปที่ตัวล็อกประตู “รื้อออก”
โจวเจ๋อรู้สึกว่าการเปิดร้านหนังสือในพื้นที่ทำเลทองทุกตารางนิ้วเช่นนี้ ตัวเอง ‘มีความแปลกแหวแนว’ มากพอแล้ว ถ้าหากเปิดร้านหนังสือในย่านที่ดินแพงพร้อมกับติดตั้งการสแกนลายนิ้วมือที่ประตูร้านในเวลาเดียวกัน โจวเจ๋อยากที่จะจินตนาการออกว่าพวกคนที่เดินผ่านหน้าร้านทุกวันจะมองตัวเองที่เป็นเถ้าแก่คนนี้อย่างไร
“ได้ๆๆ ข้าจะรีบจัดการเดี๋ยวนี้ จะรีบไปทำเลย” นักพรตเฒ่าแสดงท่าทีที่ดี
“คุณก็ลำบากแล้ว ในช่วงที่ผ่านมา” การจับตาดูการตกแต่งเพียงคนเดียว จะต้องเหนื่อยมากแน่นอน ส่วนเรื่องที่ไปหาอะไรแบบนั้นข้างนอก ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร นักพรตเฒ่าอยากเป็นวัวแก่กินหญ้าอ่อน อยากเป็นคนแก่ที่แข็งแรง คุณไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปห้ามเขา
“เถ้าแก่ เจ้าสามารถขึ้นไปดูข้างบนได้แล้ว ในเมื่อทุกคนมากันครบ ข้าจะไปแจ้งหลินเข่อกับเหล่าจาง”
โจวเจ๋อพยักหน้า ทุกคนได้รวมตัวกันอีกครั้ง จึงต้องไปเรียกมาเลี้ยงฉลองเสียหน่อย
“โอ้ว เถ้าแก่ ข้ายังมีอีกสองเรื่องต้องรายงาน เหล่าจางช่วงนี้ สนิทกับตำรวจเฉินคนนั้นมาก”
ตำรวจเฉิน โจวเจ๋อขมวดคิ้ว ปรากฏภาพของตำรวจหญิงคนสวยคนนั้นขึ้นมาในหัวของเขา
“แล้วก็ พี่น้องตระกูลฉวีที่อยู่ฝั่งตรงข้ามย้ายบ้านไปได้สักพักหนึ่งแล้ว ปิดร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ด้วย นี่คือกุญแจที่พวกเขาให้ไว้ เถ้าแก่ไม่อยู่ ข้าจึงตัดสินใจโดยพลการช่วยเก็บไว้ให้เจ้าก่อน”
“อืม ผมรู้แล้ว”
“ได้ อย่างนั้นข้าจะไปแจ้งข่าว แล้วจะเลยไปร้านอาหารซื้อกับข้าวกลับมาจัดบนโต๊ะ” นักพรตเฒ่ามองเห็นสีหน้าของสวี่ชิงหล่างไม่ค่อยสู้ดี คาดว่าได้รับบาดเจ็บ จึงไม่มีเหตุผลที่จะสั่งให้เขาเหนื่อยจัดงานเลี้ยง
หลังจากโจวเจ๋อตกลงแล้ว นักพรตเฒ่าจึงออกไปจากร้านหนังสือ โจวเจ๋อนอนลงบนโซฟาตรงตำแหน่งโปรดของตัวเอง โซฟาเปลี่ยนเป็นหนังแท้ เวลานั่งลงไปยิ่งสบาย ฮวาหูเตียวค่อยๆ ไหลลงจากไหล่ของโจวเจ๋อ แล้วนอนบนโซฟา นอนอาบแดดอย่างเกียจคร้านเช่นกัน
“เจี๊ยกๆๆ!” เจ้าลิงน้อยกระโดดดึ๋งๆ เข้ามาในเวลานี้ ยื่นมือไปจิ้มฮวาหูเตียว ฮวาหูเตียวเปิดเปลือกตาเล็กน้อยจากนั้นจึงหลับตา ไม่สนใจมัน เจ้าลิงน้อยมองซ้ายแลขวาแล้วจึงเกาหัว ดูเหมือนมันเจอ ‘สัตว์’ อีกตัวหนึ่งในร้านหนังสือแล้วรู้สึกดีใจมาก แต่จนใจที่ดอกไม้ร่วงมีใจสายน้ำไหลกลับไร้รัก
ฮวาหูเตียวเพียงแค่ร้องจี๊ดๆๆ กับโทรศัพท์ในตอนแรกเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงกลับเย็นชากับเจ้าลิงน้อยเป็นอย่างมาก เจ้าลิงน้อยหยิบขนมและของเล่นของตัวเองทุกอย่างออกมา แล้วนำมาวางตรงหน้าฮวาหูเตียวที่อยู่บนโซฟา แต่ฮวาหูเตียวยังคงทำเพียงแค่ลืมตาเล็กน้อย เมื่อเผยแววตาดูถูกแล้วก็หลับตาลงอีกครั้ง
หลิวฉู่อวี่มองอยู่ข้างๆ ด้วยความอิจฉา สัตว์ปีศาจสองตัวเชียวนะ และยังเป็นพันธุ์ที่ไม่ธรรมดา เขาจึงมองอย่างอิจฉาแล้วพูดอย่างปลงอนิจจังว่า “ตอนนี้มีสองตัว ตัวหนึ่งเร็ว อีกตัวหนึ่งมีแรงเยอะ นี่เรียกว่าการประสบความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมทั้งสองด้านใช่ไหม”
“ยังไม่พูดเรื่องนี้ก่อน เหล่าอันจะกลับมาอีกสองสามวัน คืนนี้พวกคุณไปพักที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ฝั่งตรงข้าม หาที่นอนกันเอาเอง อีกสองสามวันน่าจะมีงาน”
โจวเจ๋อต้องการให้สวี่ชิงหล่างยืนยันอีกเรื่องหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเป็นตำแหน่งที่ชัดเจน แค่ข้อบ่งชี้อย่างอื่นก็พอ ถึงตอนนั้น จะส่งกลุ่มยมทูตลูกน้องของตัวเองออกไปสืบทั้งหมด ถ้าหากสามารถฆ่าอาจารย์ของสวี่ชิงหล่างก่อนที่เขาจะมี ‘การพัฒนา’ โดยสมบูรณ์ได้ ถึงจะเป็นแผนการที่ดีที่สุด
“ได้ หัวหน้า”
“เข้าใจแล้ว”
“พวกคุณนั่งก่อน รอกินข้าว”
โจวเจ๋อลุกขึ้น ครั้งนี้ฮวาหูเตียวไม่ได้วิ่งตามโจวเจ๋อ ดูเหมือนมันจะสนใจโซฟาตัวนี้มากกว่า แน่นอนว่า ถ้าหากข้างกายไม่มีเจ้าลิงเสียงดังตัวนี้จะดียิ่งกว่า
โจวเจ๋อผลักประตูบานเล็ก หญิงสาวตัวดำกลับมาก็มาอยู่ที่นี่โดยตรง สถานที่แห่งนี้ถึงจะเป็นสถานที่พักที่แท้จริงของเธอ พอเข้าไป โจวเจ๋อตกตะลึงเล็กน้อย ทั่วทั้งพื้นเต็มไปด้วยเถาวัลย์สีเขียว เดดพูลยังคงถูกฝังอยู่ในดิน โผล่ศีรษะออกมาอย่างเดียว
แต่เดดพูลในเวลานี้กลับให้ความรู้สึกกดดันบางอย่าง และความกดดันนี้ก็พุ่งเข้ามาปะทะโดยตรง ราวกับว่าพื้นที่ตัวเองเหยียบย่ำเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของเขา ความรู้สึกเช่นนี้เหมือนซุนหงอคงยืนอยู่บนฝ่ามือพระยูไล
โจวเจ๋อหรี่ตา ไม่เดินไปข้างหน้าต่อ หญิงสาวตัวดำหันกลับมามองโจวเจ๋อหนึ่งที แล้วเอ่ยว่า “เขาเติบโตดีมาก อีกสองสามวันก็ออกมาได้แล้ว”
“ผมก็รู้สึกเหมือนกัน”
“เหอะๆ ไม่มีความรู้สึกกลัวที่พ่ออาจจะถูกลูกชายแซงหน้าบ้างเหรอ”
“คุณจะลองดูก็ได้”
หญิงสาวตัวดำส่ายหน้า หยิบกรรไกรมาแล้วเริ่มตัดผมให้เดดพูล เธอทำได้ละเอียดและเอาใจใส่เป็นอย่างมาก
แต่ตอนนี้เดดพูลค่อยๆ ลืมตา ทั่วทั้งพื้นดินเริ่มสะเทือนเล็กน้อย โจวเจ๋อเชื่อว่า ถ้าหากตัวเองขับรถตักดินคันหนึ่งเข้ามาขุดที่นี่ตอนนี้ พื้นข้างล่างจะต้องมีรากไม้เบียดกันหนาแน่นจนทำให้คนตกใจกลัวเป็นแน่!
ตอนที่หญิงสาวตัวดำบอกว่าจะนำเดดพูลลงไปปลูกก่อนหน้านี้ โจวเจ๋อยังคิดว่าแค่บำรุงเล็กน้อย แต่ดูจากตอนนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่
เดดพูลมีดวงตาสดใส เมื่อเทียบกับความรู้สึก ‘ซื่อบื้อ’ ก่อนหน้านี้ มีความเฉียบแหลมมากว่าเดิม หลังจากที่เห็นโจวเจ๋อ เขาจึงพยักหน้าเล็กน้อยให้โจวเจ๋อ พร้อมกับความรู้สึกยอมจำนนอย่างชัดเจน
“ฉันจะจัดการอีกหน่อย วันพรุ่งนี้คุณก็สามารถลงไปปลูกได้แล้ว ฟื้นฟูแขนของคุณกลับมาดังเดิม แต่ไม่กล้ารับรองว่าจะใช้ได้ดีเหมือนของแท้ แต่น่าจะฝืนช่วยตัวเองได้บ้าง”
โจวเจ๋อไม่สนใจเธอ หมุนตัวเดินออกไป มีบางเรื่องที่อาจจะอยู่นอกเหนือการควบคุม แต่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจในตอนนี้ หากดูจากสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า มีเดดพูลเป็นรากฐานอยู่ที่นี่ เท่ากับสร้างความปลอดภัยให้กับร้านหนังสือได้อีกหนึ่งชั้น
ถึงแม้ตอนที่อาจารย์ของสวี่ชิงหล่างปรากฏตัวในตอนแรก ร้านหนังสือได้อาศัยอิ๋งโกวช่วยคลี่คลายวิกฤต แต่ตอนนี้ทุกคนในร้านหนังสือมีการเติบโตอย่างชัดเจน บวกกับได้โอกาสชิงลงมือก่อนในครั้งนี้ ถึงแม้จะไม่มีอิ๋งโกว โจวเจ๋อก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองจะต้องพ่ายแพ้
เมื่อขึ้นไปข้างบน โจวเจ๋อผลักประตูห้องของตัวเอง อิงอิงกำลังเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ พอได้ยินเสียงคนเปิดประตูเธอจึงหันไปทางเถ้าแก่ของตัวเองพูดว่า “เถ้าแก่ นักพรตเฒ่าตกแต่งใช้ได้เลยทีเดียวเจ้าค่ะ”
รูปแบบของห้องนอนไม่ได้เปลี่ยนแปลงเยอะมาก เพียงแต่เปลี่ยนเป็นสไตล์เสื่อทาทามิแบบญี่ปุ่น ทำให้มีความกว้างและแสงสว่างเข้าถึงชัดเจน
โจวเจ๋อเดินถอยหลังสองสามก้าว พบว่าห้องของสวี่ชิงหล่างไม่ได้ปรับปรุงอะไร แค่ซ่อมหน้าต่างที่ระเบิดเสียหายก่อนหน้านี้กลับมาดังเดิม
นักพรตเฒ่าก็รู้จักขอบเขต ภายในห้องของสวี่ชิงหล่างยังมีภาพวาดค่ายกล เขาไม่กล้าขยับมาก
โจวเจ๋อเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง นอนลงบนเสื่อทาทามิ อิงอิงเอาหมอนมาให้หนึ่งใบ โจวเจ๋อนอนกลางวันประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วจึงตื่น ลุกขึ้นเดินลงไปข้างล่างพร้อมกับอิงอิง ด้านล่าง สาวน้อยโลลิกับเหล่าจางก็มาแล้ว ตรงเคาน์เตอร์ร้านหนังสือได้จัดโต๊ะกลมตัวหนึ่งวางอาหารจานเย็นสิบสองอย่างอยู่บนนั้น
“คารวะผู้จับกุม!” ทั้งห้าคนทำความเคารพพร้อมกัน
“ลุกขึ้นเถอะ” โจวเจ๋อขานรับหนึ่งที
ในนรก แม้แต่ภาพของทหารปีศาจนับพันของชนเผ่าจิ่วหลีทำความเคารพพร้อมกันก็เจอมาแล้ว ตามหลักแล้วเถ้าแก่โจวน่าจะนิ่งเหมือนน้ำนิ่ง แต่ในความเป็นจริง ในใจของเขายังรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
ไม่ว่าอย่างไรวิญญาณนักรบของชนเผ่าจิ่วหลีคุกเข่าคารวะอิ๋งโกว แต่ห้าคนที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นลูกน้องของตัวเขาเอง หลังจากทำตามพิธีอย่างง่ายแล้ว ทุกคนจึงนั่งลง
หลายคนจริงๆ แล้วไม่ชอบการพบปะสังสรรค์บนโต๊ะเหล้า แต่บางครั้งทำอะไรไม่ได้จริงๆ โต๊ะเหล้า เป็นสถานที่ที่คลายความเก้อเขินได้จริง เมื่อกินข้าวเสร็จหนึ่งมื้อ เจิ้งเฉียง เยวี่ยหยา และหลิวฉู่อวี่ยมทูตต่างเมืองสามคนได้เตรียมไปจัดที่พักของตัวเองที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ฝั่งตรงข้าม
“ได้เวลาแล้วโทรบอกข้า” สาวน้อยโลลิทำท่าโทรศัพท์ แล้วจึงหมุนตัวเตรียมกลับบ้าน สถานการณ์ของเธอมีความพิเศษเล็กน้อย โจวเจ๋อจึงอนุญาต
ตอนนี้เด็กผู้ชายเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหา “ข้างนอกไม่ปลอดภัย ข้าจะไปส่งเจ้า” ขณะที่พูด เด็กผู้ชายเดินตามหลังสาวน้อยโลลิออกไปพร้อมกัน
โจวเจ๋อยื่นบุหรี่ให้เหล่าจางหนึ่งมวน เหล่าจางรับมาแล้วเหน็บไปบนหู สองมือเคาะโต๊ะ
“มีเรื่องในใจ”
เหล่าจางพยักหน้า
“เรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว”
“เป็นทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว”
“อ้อ อย่างนั้นไม่ต้องพูดแล้ว”
“ช่วงนี้เกิดคดีชาวบ้านหายตัวไปหลายคน” เหล่าจางมองข้ามคำพูดเมื่อครู่ของโจวเจ๋อ
“นักพรตเฒ่า ทำไมยังไม่เปลี่ยนกุญแจล็อกรหัสอีก ทำไมคุณทำงานชักช้าอืดอาดขนาดนี้” โจวเจ๋อลุกขึ้นเดินไปหานักพรตเฒ่า
เหล่าจางจึงลุกขึ้นตาม เดินไปพร้อมกับโจวเจ๋อ แล้วพูดในเวลาเดียวกัน “ที่น่าแปลกมากคือ คนหายตัวไปจริงๆแต่ญาติและครอบครัวโดยตรงของพวกเขากลับไม่แจ้งความ กลับกลายเป็นเพื่อร่วมงานหรือเพื่อนบ้านที่แจ้งความค่อนข้างเยอะ”
โจวเจ๋อจนปัญญา ยกมือข้างเดียวของตัวเองวางตรงหน้าเหล่าจาง แล้วเอ่ยว่า “เห็นหรือยัง”
“เอ่อ เห็นแล้ว”
“เห็นแล้วก็ดี ตอนนี้ผมเหลือมือข้างเดียว ขอโทษด้วย คุณจาง อย่าว่าผมไม่ใช่คน ไม่นับเป็นพลเมือง ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับงานของคุณ แต่คุณดูสภาพของผมตอนนี้ก่อน แขนขาดไปหนึ่งข้าง เพิ่งกลับมาจากภาคตะวันตกเฉียงใต้ แม้แต่นอนหลับสบายสักหน่อยก็ไม่ให้ผมนอน คุณก็อยากลากผมไปช่วยคุณดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองแล้ว จิตใจอันดีงามของคุณไม่เจ็บเหรอ”
โจวเจ๋อใช้มือจิ้มไปที่หน้าอกของเหล่าจาง กระดูกนิ้วแข็งมาก เหล่าจางตัวเซถอยหลังสองสามก้าว แล้วไอแค่กๆสองสามที
“คุณก็รู้จักเจ็บเหรอ” โจวเจ๋อยักไหล่
“ไม่ใช่ เถ้าแก่ ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกเล็กน้อย หลังจากพวกเราได้รับแจ้งความตอนแรกได้ติดต่อครอบครัวและญาติสนิทของผู้สูญหายทันที พวกเขาปฏิเสธเรื่องที่หายตัวไป แต่คนเหล่านั้นที่เพื่อนร่วมงานหรือไม่ก็เพื่อนบ้านเป็นคนแจ้งความว่าหายตัวไป ก็หาไม่เจอจริงๆ ผมรู้สึกว่าต้องมีปัญหาอยู่ในนี้แน่นอน มีความเป็นไปได้สูงที่เรื่องราวไม่ง่ายขนาดนั้น”
“คนในครอบครัวของพวกเขาเฉยๆ บอกว่าไม่ได้หายตัวไป คุณจะจริงจังทำไม”
“ผมเป็นตำรวจ ผมไม่ได้ทำคดีให้ญาติเท่านั้น”
โจวเจ๋อยื่นมือชี้ไปที่นักพรตเฒ่าที่กำลังเก็บโต๊ะอยู่ข้างๆ แล้วพูดกับเหล่าจางว่า “ได้ ผมจะส่งผู้ช่วยเก่งๆ ไปให้คุณ”
“…” เหล่าจาง
โจวเจ๋อนิ่งไปเล็กน้อย แล้วจึงชี้ไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม “ให้พูดว่าผมพูดเอง คุณไปหาพวกเขาคนไหนก็ได้ให้ไปช่วยคุณไขคดี ได้ไหม รอให้ผ่านไปสักระยะหนึ่งยังมีเรื่องใหญ่ที่ผมต้องไปจัดการ สิ่งที่ผมต้องทำตอนนี้ คือเปลี่ยนตัวเองจากเอี้ยก้วยกลับมาเป็นกู่เล่อเทียนเหมือนเดิม”
“ได้เลย ขอบคุณ”
โจวเจ๋อโบกมือ “อ้อใช่ ตำรวจเฉินคนนั้น ทำไมถึงอยู่ที่ทงเฉิง”
เหล่าจางมองไปที่นักพรตเฒ่าที่อยู่ข้างๆ เห็นได้ชัดว่า ในเมื่อเถ้าแก่ไม่อยู่ช่วงนี้ จะต้องมีคนไปฟ้องแน่นอน
นักพรตเฒ่าร้อนตัว แสร้งทำเป็นก้มตัวเก็บตะเกียบที่ร่วงอยู่ใต้โต๊ะ เหล่าจางรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย กล่าวว่า “เธอย้ายมา”
“คนอย่างพวกเรา ไม่เหมาะสมที่จะอยู่ใกล้ชิดคนธรรมดามากเกินไป ไม่อย่างนั้นจะนำความโชคร้ายและความซวยมาให้พวกเธอ”
“ผมรู้ตัวดี ผมเข้าใจ”
โจวเจ๋อหรี่ตา อยากจะพูดอะไรอีก แต่พอคิดแล้วก็ช่างมันเถอะ แล้วจึงเดินไปที่หน้าประตูห้องอาบน้ำ ผลักประตูขณะเดียวกันก็ตะโกนขึ้นไปบนบันได “อิงอิง หยิบเสื้อผ้า อาบน้ำ”
……………………………………………………………………….