ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 691 เมฆดำคล้อยต่ำ!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 691 เมฆดำคล้อยต่ำ!

หิมะโปรยปรายลงมาอีกครั้ง ลอยพลิ้วปลิวสไว ณ ท้องฟ้าที่อยู่แต่ไกล มีการจุดพลุขึ้นเป็นระยะ มาพร้อมกับบรรยากาศคึกคัก ทั้งๆ ที่ตอนนี้คุณเหมือนเดินอยู่ในโลกหลังความตาย แต่พอเงยหน้า ยังสามารถบอกคุณได้ถึงความงดงามของโลกมนุษย์

ถนนหนานต้ามีคนอยู่ไม่น้อย ร้านค้าริมทางจัดกิจกรรมโปรโมชันวันขึ้นปีใหม่หลายร้าน ได้ผลที่ดีเยี่ยม มีเพียงสิ่งเดียว เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ร้านหนังสือนั่น ถึงแม้จะเปิดไฟสว่าง แต่หน้าร้านยังคงเงียบ ไม่สิ เงียบสนิทจริงๆ

หน้าร้านเขียนว่า ‘ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำหนึ่งพันหยวน’ มากพอที่จะทำให้คนส่วนใหญ่ไม่เดินเข้ามาในร้านแล้ว ถ้าหากขายกระเป๋าและสินค้าฟุ่มเฟือยอื่นยังไม่เท่าไร แต่ร้านหนังสือกล้าเขียนป้ายใหญ่โตเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าทำเกินไปอยู่บ้าง

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู จิ้งจอกขาวสังเกตเห็นแล้ว ป้ายเดิมน่าจะเขียนว่า ‘ใช้จ่ายขั้นต่ำหนึ่งร้อยหยวน’ และ ‘ศูนย์’ ตัวท้ายน่าจะเพิ่งเพิ่มเข้าไป

เมื่อผลักประตูเดินเข้ามา ภายในร้านอบอุ่นเพียงพอ จิ้งจอกขาวจึงถอดเสื้อผ้า นักพรตเฒ่าที่นั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์มองหนึ่งที ไม่ได้กระตือรือร้นอะไร

อย่างแรกคือนักพรตเฒ่าไม่สนใจผู้หญิงวัยสาว เพราะทำให้เขารู้สึกเหมือนทำผิดมหันต์ ไม่ว่าอย่างไรตัวเองก็อายุมากแล้ว ต่างกับผู้ชายหลายคนที่ชอบสาวอายุสิบแปดปี นักพรตเฒ่ายังพอมียางอายอยู่บ้าง

อย่างที่สองคือนักพรตเฒ่ารู้จักคนที่อยู่ตรงหน้า ต่อให้เขาหน้าหนา แต่ก็ไม่ตรงสเปค เมื่อเธอมา นักพรตเฒ่าจึงพยักหน้าเท่านั้น ไม่พูดอะไร

จิ้งจอกขาวเป็นคนกันเอง ไม่มองตัวเองเป็นคนนอก เมื่อนั่งลงบนโซฟา จึงไขว้ขาทั้งสองข้าง ยืดเอวเบาๆ แฝงไปด้วยความรู้สึกอ่อนโยน ซึ่งดึงดูดสายตาของคนที่เดินผ่านร้านหนังสือได้อยู่ไม่น้อย แต่พอมองป้ายที่ระบุค่าใช้จ่ายขั้นต่ำแล้ว คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะรักษาสติ

เมื่อนั่งนานแล้ว นอกจากชายชราที่อยู่ตรงหน้า ก็ไม่มีใครอื่น จิ้งจอกขาวจึงพูดด้วยความแปลกใจ “พวกเขาล่ะ”

นักพรตเฒ่าชี้ไปข้างๆ จากนั้นชี้ไปข้างบน เถ้าแก่กำลัง ‘ย้อนการเติบโต’ ในห้องที่อยู่ติดกัน อิงอิงกำลังนั่งเฝ้าอยู่เด็กผู้ชายทำการบ้านอยู่ข้างบน สวี่ชิงหล่างพักผ่อนอยู่ข้างบน

จิ้งจอกขาวไม่ได้ถามอย่างละเอียด ตัวเองเดินไปที่เคาน์เตอร์ รินน้ำให้ตัวเอง

“เจ้าลิงล่ะ” จิ้งจอกขาวถาม เพราะเป็นปีศาจเหมือนกัน ไม่ว่าเจ้าลิงจะคิดอย่างไร อย่างน้อยในสายตาของจิ้งจอกขาว เจ้าลิงมีความใกล้ชิดกับตัวเองมากกว่า

“อย่าพูดถึงมัน มันไม่ได้เรื่อง” นักพรตเฒ่าทำท่าเหมือนไม่ได้ดั่งใจ จิ้งจอกขาวยักไหล่ แล้วดื่มน้ำ เวลานี้เสียงคำรามทุ้มต่ำดังมาจากสวนผักที่อยู่ติดกัน

นักพรตเฒ่าตัวสั่น รีบวางของในมือทันที แล้ววิ่งพุ่งไปที่สวนผัก จิ้งจอกขาววิ่งตามไปเช่นกัน เมื่อผลักประตูเดินเข้าไปดู อย่าว่าแต่นักพรตเฒ่าเลย แม้แต่จิ้งจอกขาวก็ยังอ้าปากด้วยความตกใจ

ในหลุมของสวนผัก เสื้อผ้าครึ่งท่อนบนของเถ้าแก่ฉีกขาดทั้งหมด ขณะเดียวกัน ตำแหน่งที่อยู่ข้างหลังเถ้าแก่มีคนเพิ่มมาอีกหนึ่งคน

บางทีคนส่วนใหญ่อาจจะไม่เคยเห็นเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อมาก่อน ในหนังสือหรือสมุดภาพก็ไม่มีเลือดไหลซิบเหมือนของจริง

กล้ามเนื้อหลังของโจวเจ๋อถูกดึงออกมา สิ่งของที่คล้ายเมล็ดข้าวโพดแต่ละอันติดอยู่บนนั้น และอีกด้านหนึ่งคือร่างของเดดพูล

ระหว่างทั้งสองคน เส้นใยกล้ามเนื้อส่วนใหญ่เชื่อมต่อกัน โจวเจ๋อนั่งนิ่ง เดดพูลโบกมือไปมาไม่หยุด เหมือนกับชักว่าว สามารถเห็นได้ว่า โจวเจ๋อเจ็บปวดทรมานมากแค่ไหนในตอนนี้ นี่ไม่ใช่การให้หรือไม่ให้ยาสลบตอนผ่าตัดอะไรแล้ว นี่เท่ากับมองคุณเหมือนกบบูลฟร็อกตัวหนึ่ง จัดการผ่าเนื้อหนังออกโดยตรง

ด้วยนิสัยที่มีความอดทนของโจวเจ๋อ เวลานี้จึงต้องใช้วิธีคำรามเสียงต่ำออกมาเพื่อระบายความเจ็บปวด ในแอ่งน้ำมีแท่งโลหะสองท่อน บนนั้นยังสามารถมองเห็นรอยฟันได้อย่างชัดเจน

น่าจะเป็นหญิงสาวตัวดำนำแท่งโลหะนั่นใส่เข้าไปในปากของโจวเจ๋อ เพื่อลดแรงกดดันให้โจวเจ๋อ แต่ฟันของผีดิบช่างน่ากลัวเสียจริง กัดหักโดยตรง

“นี่คือกำลังทำอะไร” จิ้งจอกขาวถาม แต่ไม่ช้าเธอพบว่า แขนข้างหนึ่งของโจวเจ๋อว่างเปล่า “นี่คือ..กำลังสร้างร่างกายขึ้นมาใหม่”

ปีศาจมากมายในป่าเก่าแก่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ สัตว์บางชนิดสามารถสร้างร่างกายใหม่ขึ้นมาได้จริง แต่นั่นเป็นความสามารถที่ติดตัวมาแต่เกิด สำหรับการสร้างเลือดเนื้อขึ้นมาใหม่เช่นนี้ โดยพื้นฐานแล้วปีศาจส่วนใหญ่ไม่มีความสามารถนี้ การช่วยคนอื่นสร้างแขนขาที่ขาดขึ้นมาใหม่ ยิ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!

แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้า เธอกำลังเห็นฉากนี้กับตาตัวเอง!

เดดพูลหลับตา ยังคงโบกมือไปมา แต่แขนข้างหนึ่งของเขากำลังหดตัวไม่หยุด และแขนที่ขาดไปของโจวเจ๋อกำลังมีเนื้องอกเพิ่มขึ้นทีละนิ้ว ผิวหนังยังคงแตกออก เริ่มต้อนรับการเติบโตครั้งใหม่

ระดับความเจ็บปวดรุนแรงนี้ เหมือนกวนอูขูดกระดูกรักษาพิษนับครั้งไม่ถ้วนอย่างสิ้นเชิง หลังของโจวเจ๋อเริ่มค่อมลงมา กระดูกขาวโพลนเริ่มทอดขยายออกมาอย่างเชื่องช้า แต่มั่นคง

โจวเจ๋อหลับตาตลอด ขณะเดียวกัน อักขระแต่ละสายเริ่มไหลออกมาจากหน้าอกของเขา อักขระโบราณเป็นตัวแทนของการสืบทอดที่มาจากความป่าเถื่อน ภาพลักษณ์ของอิ๋งโกวในตอนแรกก็เป็นแบบนี้ เปลือยกายท่อนบนนั่งอยู่บนกองกระดูกขาว ร่างกายของโจวเจ๋อทั้งท่อนบนและท่อนล่างเต็มไปด้วยอักขระ

หญิงสาวตัวดำได้แต่มองอยู่ข้างๆ เธอไม่สามารถยื่นมือเข้าไปได้ และไม่สามารถทำอะไรได้ ส่วนอิงอิงกลับใจเย็นกว่าใคร เพียงกำสองมือแน่น

อักขระบนตัวของโจวเจ๋อเริ่มข้ามผ่านกระดูกที่งอกออกมาใหม่อย่างช้าๆ ซึ่งเท่ากับร่างกายกำลังยอมรับส่วนที่งอกออกมาใหม่ และในเวลานี้ร่างกายของเดดพูลจู่ๆ ก็สั่นขึ้นมาอย่างรุนแรง เขายังคงทำสีหน้าสงบนิ่ง แต่นิสัยของเขาก็เป็นเช่นนี้ ตอนแรกถึงแม้จะถูกทุบจนเละ แต่เขายังคงหัวเราะเหอะๆ เหมือนเดิม

“คุณๆๆๆ รีบ…” หญิงสาวตัวดำอยากจะตะโกนว่าคุณรีบหยุดเดี๋ยวนี้ เพราะเธอพบว่าสารบำรุงที่โจวเจ๋อต้องการเพื่อฟื้นฟูแขน อยู่เหนือความคาดหมายของเธอและเดดพูลเป็นอย่างมาก!

เดิมทีเธอคิดว่าต้องการแค่แขนข้างหนึ่งของเดดพูล อย่างมากแค่เสียของที่เก็บสะสมไว้ไปเล็กน้อย ก็สามารถฟื้นสภาพแขนของเถ้าแก่กลับมาได้ดังเดิม แต่ดูจากตอนนี้แล้ว ความคาดหมายก่อนหน้านี้กลับมองโลกในแง่ดีเกินไป!

หญิงสาวตัวดำมองไปทางโจวเจ๋อ สายตาดุดัน! อิงอิงสัมผัสได้ทันที รีบจ้องมองหญิงสาวตัวดำ!

ถ้าหากหญิงสาวตัวดำมีการเคลื่อนไหวที่ผิดแผกไป เธอจะพุ่งไปข้างหน้าแล้วฆ่าทันที!

หญิงสาวตัวดำลงจากรถเข็นมาคุกเข่า ตะโกนพูดกับโจวเจ๋อว่า “ขอร้องละ อย่าโลภไปกว่านี้เลย คุณจะสูบเขาจนแห้ง คุณจะสูบเขาจนแห้งแล้ว!”

โจวเจ๋อไม่ไหวติง ยังคงหลับตาต่อไป อักขระบนหน้าอกข้ามไปหมุนวนอยู่ที่แขนของเขาต่อไป ระดับความสั่นของเดดพูลชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ กล้ามเนื้อเริ่มหดเกร็ง เหมือนเป็นโรคลมบ้าหมู

ถ้าหากโจวเจ๋อแค่อยากครอบครองมือข้างเดียว อันที่จริงไม่ถือว่าสิ้นเปลืองเยอะเกินไป เดดพูลแค่มอบมือข้างหนึ่งและยอมแลกค่าตอบแทนอีกเล็กน้อยก็พอแล้ว

แต่ที่โจวเจ๋อกำลังทำอยู่ตอนนี้คือ เขาไม่ได้อยากฟื้นฟูแขนแค่ข้างเดียวเพื่อถือตะเกียบกินข้าว เขาไม่ได้พึงพอใจที่จะฟื้นฟูเพื่อการใช้ชีวิตแบบปกติของตัวเองเท่านั้น เขาอยากได้แขนเดิมของตัวเองกลับมา โดยใช้อักขระบนร่างของตัวเองในการหลอมออกมา ใช้สายเลือดผีดิบของตัวเองเข้าไปสนับสนุน ไม่เอาอะไรแต่จะเอาให้ได้แขนเดิมกลับมา!

สำหรับอย่างอื่น สำหรับสภาพของเดดพูลในตอนนี้ โจวเจ๋อหลับตาตลอด เขาอาจจะมองไม่เห็นก็ได้ หรือแสร้งทำเป็นไม่เห็นก็ได้เช่นกัน ดังนั้นหญิงสาวตัวดำจึงคุกเข่าขอร้องโจวเจ๋อ เธอหวังว่าโจวเจ๋อจะพอแค่นี้ ไม่โลภมากไปกว่านี้

อันที่จริง ดวงตาของคนเรามีประโยชน์มากที่สุด แต่ก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ที่สุดเช่นกัน หลายครั้งความจริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมองเห็น แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากมองเห็นอะไร

“จริงๆ แล้ว ดวงตาของคนเราเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ที่สุด เพราะคนเรามักจงใจมองข้ามสิ่งที่ดวงตาของตัวเองมองเห็นไม่อยากเห็นสิ่งนั้น”

ตำรวจเฉินยืนอยู่หน้ารั้วกั้น มองแถวที่อยู่ตรงหน้า ดึกดื่นป่านนี้แล้วยังมีกลุ่มคนยืนต่อแถวอีก ใบหน้าของพวกเขาห่อเหี่ยว ส่วนใหญ่ล้วนศีรษะล้าน ซึ่งน่าจะเป็นผลพวงมาจากการทำเคมีบำบัดเยอะไป

เหล่าจางจำได้ว่าโจวเจ๋อเคยบอกตัวเองว่า สถานที่ที่เขาไม่ชอบที่สุดคือแผนกมะเร็ง เพราะหลายคนที่นั่นกำลังรอความตายจริงๆ พวกเขานั่งมองคุณอยู่ตรงนั้น ความรู้สึกที่สร้างให้คุณ กดอัดจนทำให้คนหายใจไม่ออก

“ฉันสามารถรับประกันกับคุณได้ ในนี้ ไม่ใช่คนโง่ไปเสียทั้งหมด ความจริงแล้ว คุณดูใบเสร็จ การรักษาด้วยคลื่นแม่เหล็กระดับเอ หนึ่งครั้งใช้เงินสองแสนหยวน หรือไม่ก็ใช้คะแนนสะสมของคนที่แนะนำคนไข้มาหักลบกัน คะแนนสะสมนี้สามารถขายต่อในนี้ได้ค่ะ แต่ต้องลดราคา คนไม่มีเงิน ทำไม่ได้อย่างสิ้นเชิง”

เงินไม่ได้เป็นตัวแทนของทุกอย่าง แต่มีอย่างหนึ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้คือ ในระดับชั้นของคนมีเงิน ระดับการศึกษาที่ได้รับรวมทั้งโลกทัศน์ สูงกว่าหลายขั้นจริงๆ

ทฤษฎีนี้ วิธีการรักษาแบบนี้ ไม่เคยถูกยืนยันทางการแพทย์อย่างสิ้นเชิง และในความเป็นจริง หากคุณไปสัมภาษณ์ตามท้องถนน คนส่วนใหญ่กระทั่งไม่เคยได้ยินหรืออาจจะบอกว่าไม่เชื่อก็เป็นได้

“จริงๆ แล้ว เป็นเพราะว่าไม่มีวิธีแล้ว เหมือนเวลาที่คนกำลังจมน้ำ มักจะคว้าอะไรบางอย่างตามสัญชาตญาณ ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่มาช่วยชีวิตตัวเองก็ตาม” เหล่าจางพูดอย่างทอดถอนใจ

ตำรวจเฉินส่ายหน้า เอ่ยว่า “เรื่องนี้ไม่ธรรมดา เพราะจนป่านนี้แล้ว พวกเรายังไม่รู้ว่าคนที่หายตัวไปอยู่ที่ไหน”

“คุณอยากกลับแล้วใช่ไหม” เหล่าจางฟังออกถึงความหมายที่นอกเหนือจากนี้ของเธอ

“สามารถมอบให้กระบวนการปกติดำเนินการ ไม่ใช่มอบให้พวกเรา”

“ผมเป็นตำรวจ”

ตำรวจเฉินกัดฟัน แล้วพูดอีกประโยคว่า “ฉันอยากจะอัดคุณ”

“ผมเป็นตำรวจ ดังนั้นผมจะไม่แสร้งตาบอด”

ตำรวจเฉินหมุนตัว มองท้องฟ้าที่อยู่นอกหน้าต่าง ก้อนเมฆเริ่มเยอะขึ้น ความรู้สึกกดดันแบบนั้น ทำให้เธอแทบจะหายใจไม่ออก และเธอกำลังอยู่ตรงกลางเมฆดำก้อนนี้

“ฉันคิดว่า คุณไม่ต้องซื่อตรงขนาดนี้ก็ได้ค่ะ เรื่องนี้ไม่เหมือนกับที่คุณคิดเอาไว้ มันสาหัสมากกว่านั้น!”

นี่ไม่ใช่ปัญหาว่ามีผลกระทบหรือไม่มีผลกระทบอะไรแล้ว!

“ผมเป็นตำ…”

‘ปึ้ง!’

ตำรวจเฉินบีบคอของเหล่าจาง ดวงตาแดงก่ำแวบหนึ่ง เธอรีบหลับตาทันที เบือนหน้าหนี และปล่อยมือในขณะเดียวกัน

เหล่าจางตกตะลึงเหม่อเล็กน้อย รีบถามว่า “คุณไม่สบายเหรอ หรือเป็นผลข้างเคียงจากการรักษาเมื่อครู่”

“เปล่า ฉันโกรธคุณต่างหาก”

“โกรธผม”

“ใช่ คุณมันคนไร้จิตสำนึก!”

……………………………………………………………………….

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท