บทที่69 คืนนี้เธอก็อย่าหวังว่าจะได้นอนหลับดีๆ
ในใจสวี่รั่วฉิงคิดคำนวณตารางงานของตัวเองช่วงนี้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าเวลาจะเร่งรัดมาก แต่ก็ไม่ใช่ไม่ได้
คนชราที่สามารถทำให้ลี่ถิงเซิ่งใช้เงินสิบล้านได้ ไม่ใช่คนชราทั่วไปแน่นอน
“ประธานลี่ ฉันจะปรุงน้ำหอมที่ทำให้คุณพอใจภายในเวลาที่เร็วที่สุด แต่ว่า……” บทสนทนาของสวี่รั่วฉิงเปลี่ยน วางกระเป๋าของตนไว้ด้านหนึ่ง หยิบปากกาด้ามหนึ่งจากบนโต๊ะหนังสือของลี่ถิงเซิ่งขึ้นมา “ประธานลี่ ขอยืมกระดาษโน้ตของคุณหน่อย”
จากนั้น สวี่รั่วฉิงก็ฉีกกระดาษโน้ตออกมาหนึ่งแผ่น ก้มหน้าลง เขียนอะไรบางอย่างลงบนกระดาษ
เวลาที่เข้างาน สวี่รั่วฉิงมักจะม้วนผมของตัวเอง
ในตอนนี้ ปอยผมของเธอห้อยลงมาจากข้างหู ขับผิวขาวให้เด่นขึ้น มีความน่ารัก
ลี่ถิงเซิ่งมองอย่างระมัดระวังไปที่ผู้หญิงที่กำลังเขียนบางอย่างลงบนกระดาษอย่างจริงจัง มุมปากที่แน่นโค้งขึ้นเล็กน้อย
สวี่รั่วฉิงที่จริงจังกับการทำงานมีเสน่ห์ที่พิเศษบางอย่าง
ดวงตาที่สดใสมีเสน่ห์ในวันปกติ ตอนนี้นอกจากจริงจังแล้ว ยังมีความมั่นใจ
ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ภายใต้สีหน้าแบบนี้ ล้วนสูญเสียความสดใสแต่เดิม
สวี่รั่วฉิงเม้มริมฝีปาก พิจารณาข้อมูลที่จำเป็นในการปรุงน้ำหอมให้คนชรา
ไม่นานเธอก็เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง บังเอิญสบตาเข้ากับลี่ถิงเซิ่งที่กำลังมองเธออย่างจริงจังพอดี
ในแววตาของชายหนุ่มมีอารมณ์ที่เธอดูไม่ออกอยู่ ร้อนแรง ทำให้คนยากที่จะหลีกเลี่ยง อีกนิดเดียวก็เห็นถึงข้างในใจของเธอ
ระยะห่างใกล้เกินไป กระทั่งลมหายใจที่แผ่วเบาของเขาก็ยังสัมผัสได้
สวี่รั่วฉิงระงับความรู้สึกแปลกๆในใจลง ส่งกระดาษโน้ตในมือให้ลี่ถิงเซิ่ง เอ่ยปากอย่างรวดเร็ว “ประธานลี่ ข้อมูลที่ฉันต้องการเขียนลงบนกระดาษไว้แล้ว ดีที่สุดคือบอกฉันเรื่องกลิ่นที่คนชราชอบและไม่ชอบในวันปกติ แบบนี้จะสะดวกต่อการปรุงน้ำหอมของฉัน”
ตัวหนังสือของหญิงสาวเหมือนกับตัวเธอเอง บอบบางสวยงาม
ลี่ถิงเซิ่งยิ้มเล็กน้อย เก็บกระดาษโน้ตมา แล้วพูดหนึ่งคำ “โอเค”
“ไม่มีธุระอะไรแล้ว ฉันกลับก่อนนะ แล้วประธานลี่เองก็รีบเลิกงานกลับบ้านเถอะ ถ้าทำงานล่วงเวลาทุกวัน ต่อให้ฉันปรุงน้ำหอมที่ช่วยบรรเทาโรคนอนไม่หลับของคุณเป็นหมื่นอัน สุดท้ายก็จะกลายเป็นไร้ผล”
“ตอนออกไปอย่าลืมปิดประตู” สายตาของลี่ถิงเซิ่งกลับไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์แล้ว มือที่ดูดีเคาะลงบนแป้นพิมพ์อีกครั้ง
สวี่รั่วฉิง “……”
ต่อให้ลี่ถิงเซิ่งตายกะทันหัน ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอซักบาทเดียว!
บ้างาน!
สวี่รั่วฉิงเหยียบรองเท้าส้นสูงจากไป
หลี่อานถือกาแฟอยู่ “ผู้ช่วยแอน ทะเลาะกับประธานลี่อีกแล้วหรอ?”
สวี่รั่วฉิงชะงัก สายตาเหลือบมองกาแฟในมือของหลี่อาน พูดยิ้มเยาะ “นอนไม่หลับแล้วยังดื่มกาแฟ ประธานลี่ดูท่าคืนนี้ไม่อยากนอนดีๆแล้ว!”
พูดจบ สวี่รั่วฉิงก็ถือกระเป๋าเดินเข้าลิฟต์ไป
หลี่อานเงียบ
ผู้ช่วยหลี่กับประธานลี่พัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้วกันแน่?
ทำไมแม้แต่คืนนี้ประธานลี่นอนไม่ดีก็ยังรู้!
คงไม่ใช่ว่าประธานลี่จะไม่สนใจเรื่องสัญญาการแต่งงานกับคุณสวี่รั่วยีจริงๆ แล้วกับผู้ช่วยแอน……
หลี่อานหันหน้าอย่างรวดเร็ว ถือกาแฟเข้าไปในห้องทำงาน
“ประธานลี่ ผมเห็นตอนที่ผู้ช่วยแอนไปดูหัวเสีย คงไม่ใช่ว่าคุณกับผู้ช่วยแอนทะเลาะกันอีกแล้วหรอกนะครับ?”
ลี่ถิงเซิ่งเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “เธอพูดว่าอะไร?”
หลี่อานชะงัก ทวนซ้ำคำพูดที่สวี่รั่วฉิงพูดเมื่อกี้ให้ลี่ถิงเซิ่งฟังอย่างสับสน
เขาพูดไปพลางสังเกตสีหน้าของลี่ถิงเซิ่ง
ไม่คาดคิดว่าการแสดงออกของลี่ถิงเซิ่งไม่แตกต่างไปจากเมื่อกี้
หลังจากเขาพิมพ์ตัวอักษรสุดท้ายบนแป้นพิมพ์ด้วยความนิ่งเฉยแล้ว ริมฝีปากบางก็ขยับเบาๆ “วันนี้เธอก็อย่าคิดว่าจะได้นอนดีๆ”
หลี่อาน “……”
สองคนนี้จะทำอะไรกันน่ะ?
คงไม่ใช่จะเปิดห้องจริงๆหรอกนะ?
หลี่อานตกตะลึงโดยสมบูรณ์
ตลอดเวลาที่เขาอยู่ข้างกายลี่ถิงเซิ่งมาหกปี รู้ดียิ่งกว่าใครว่าลี่ถิงเซิ่งไม่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหน
“งั้นประธานลี่ อีกเดี๋ยวคุณจะกลับวิลล่าเลยหรือว่าจะไปที่อื่นครับ…..” ขณะที่หลี่อานพูด ในใจก็สั่น ลิ้นยืดไม่ออก
ลี่ถิงเซิ่งเหลือบมองเขาอย่างเยือกเย็น “กลับวิลล่า”
ส่วนลึกในใจหลี่อานมีคำว่า “แม่งมึง”
เขาจำได้ว่าคุณสวี่รั่วยียังอยู่ที่วิลล่านะ ประธานลี่กับผู้ช่วยแอนกลับวางแผนที่จะอยู่ในวิลล่า!?
……
สวี่รั่วฉิงหยิบกุญแจออกมา เปิดประตูออก วางกระเป๋าลงบนชั้นรองเท้า
ถอดรองเท้าส้นสูงออกเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะ เปิดไฟตรงทางเดิน เดินไปที่ห้องนั่งเล่น
น่องปวดเมื่อย วันนี้เดินไปเดินมาระหว่างแผนกน้ำหอมกับโกดัง ช่วยฟ่านเซียวเซียวเลือกเครื่องหอมที่เหมาะสม เหนื่อยแทบตาย
สวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานเห็นสวี่รั่วฉิงกลับมาแล้ว ก็ละสายตาออกมาจากการ์ตูนบนทีวี “หม่ามี๊ ในที่สุดก็กลับมาแล้ว!”
เด็กหญิงกระโดดลงมาจากโซฟา รับถุงชอปปิ้งในมือของสวี่รั่วฉิงมาด้วยความเป็นเด็กดี นำเครื่องดื่มกับขนมผลไม้มาวางบนโต๊ะกาแฟ
“หม่ามี๊ ช่วงนี้กลับดึกขนาดนี้ เพราะว่างานที่บริษัทของปะป๊าเยอะเกินไปใช่ไหม?”
สวี่รั่วฉิงยิ้มเล็กน้อย “ประมาณนั้นแหละ อี้หานช่วงนี้อยู่ที่โรงเรียนเชื่อฟังคำพูดของคุณครูไหม?”
เด็กหญิงพยักหน้า
บนโต๊ะมีกล่องอาหารสั่งกลับบ้านสองกล่อง สวี่รั่วฉิงมองสักพัก ในใจรู้สึกปวดร้าว
“รอหม่ามี๊ทำธุระอันนี้เสร็จ จะเข้าครัวทำของอร่อยให้พวกหนูกินด้วยตัวเอง!”
ศิลปะการทำครัวของสวี่รั่วฉิงแม้ว่าจะเทียบเชฟของร้านอาหารมิชลินไม่ได้ แต่ก็ไม่แย่ไปกว่าเชฟทั่วไปแน่นอน
ค่าใช้จ่ายกับค่าขนมที่เธอทิ้งไว้ให้สวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานนั้นเยอะมาก
แต่ต่อให้อาหารที่สั่งมาจะอร่อย ก็เทียบกับอาหารของที่บ้านไม่ได้
เด็กหญิงได้ฟัง ใบหน้าก็มีความสุข “โอเค! วันนี้หนูอยากกินโจ๊กเครื่องแปดอย่าง พี่ชายจะกินพิซซ่าให้ได้!”
พูดจบ สวี่อี้หานก็จ้องเขม็งไปที่สวี่อี้ฝานที่นั่งกอดโน๊ตบุ๊คอยู่บนโซฟา
ใบหน้าบอบบางของเด็กชายสงบนิ่ง “เอาน่า พรุ่งนี้จะสั่งพิซซ่าให้เธอ”
เขาปิดโน๊ตบุ๊คลง วางไว้ด้านข้าง กระโดดลงมาจากโซฟา “หม่ามี๊ยังไม่ได้กินข้าวเย็นใช่ไหม? ผมจะช่วยลงมือเอง จะทำอะไรครับ?”
สวี่รั่วฉิงทนได้ที่ไหนที่จะให้ลูกรักสุดหัวใจทั้งสองของตัวเองช่วยงานบ้าน “พอแล้ว พวกลูกรีบไปเล่นสักพัก ถึงสี่ทุ่มก็ควรนอนแล้ว หม่ามี๊ทำมื้อเย็นเอง ถ้าเกิดพวกลูกอยากกิน หม่ามี๊จะทำเยอะหน่อย”
สวี่รั่วฉิงถอดเสื้อสูทออก พับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้น มาที่ห้องครัว
ในเมื่อสวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานเองก็อยากกิน ก็จะทำบะหมี่ไข่มะเขือเทศ
วิธีทำง่ายดายและอร่อย
ไม่นานสวี่รั่วฉิงก็ถือบะหมี่ไข่มะเขือเทศมาวางบนโต๊ะ เรียกเด็กทั้งสองมากินข้าว
เธอรินน้ำผลไม้สามแก้ว ในตอนที่กำลังจะนั่งลงกินข้าว มือถือก็ดังขึ้น
แล้วคนที่โทรมาก็คือลี่ถิงเซิ่ง
สวี่อี้ฝานเหลือบมองไปที่มือถือของสวี่รั่วฉิง พูดนิ่งๆ “อ๋อ ที่แท้ก็ปะป๊า โทรมาหาหม่ามี๊ดึกขนาดนี้ คงไม่ใช่เรียกหม่ามี๊ไปทำโอทีหรอกนะ ถึงยังไงทั้งสองคนก็ไม่คืนดีกันแน่ งั้นผมควรเปิดโปงการละเมิดข้อตกลงของปะป๊าที่เรียกหม่ามี๊ไปทำโอทีไหม?”
“อย่าวุ่นวาย” สวี่รั่วฉิงวางตะเกียบลง หยิบมือถือขึ้นมาเดินไปด้านหนึ่ง
เธอเชื่อว่าถ้าหากสวี่อี้ฝานอยากทำจริงๆ พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งพรุ่งนี้ก็จะเป็นการบีบคั้นพนักงานของลี่ถิงเซิ่ง
ด้วยความเฉลียวฉลาดของสวี่อี้ฝานแล้ว อยากจะโดนโกงไม่ต้องง่ายเกินไป
“ประธานลี่ ดึกขนาดนี้แล้วยังมีธุระอะไรอีกหรอท ข้าวซักคำยังไม่ให้กินเลย……” สวี่รั่วฉิงเอ่ยถามอย่างขมขื่น
ด้านหนึ่งดมกลิ่นหอมของบะหมี่มะเขือเทศ อีกด้านกินไม่ได้ ขมขื่นเกินไปแล้ว!