ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 696 เซี่ยจื้อออกโรง

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 696 เซี่ยจื้อออกโรง

เหล่าจางอาจจะไม่ใช่สามีที่ดี ไม่อย่างนั้นชาติที่แล้วคงไม่หย่ากับภรรยาของตัวเอง แน่นอนว่า การหยิบยก ‘เรื่องหย่าร้าง’ มากำหนดนิยามความดีชั่วของคน เป็นเรื่องที่ค่อนข้างอคติอย่างหนึ่ง หย่าแล้ว จึงเป็นคนเลว จึงเป็นผู้หญิงเลวเหรอ

แต่มีอย่างหนึ่งที่แน่นอนไม่ต้องสงสัย นั่นก็คือเหล่าจางเป็นตำรวจที่ดี ขณะที่ทุกคนกำลังยอมรับความเฉยเมยของสังคมอย่างช้าๆ คุ้นชินกับโลกที่ปนเปื้อนไปด้วยฝุ่นธุลี วันนี้สามารถป่าวประกาศกฎที่ไม่ได้พูดถึงได้อย่างเปิดเผย เหล่าจางคือดวงดาวที่สุกสกาวที่สุดบนท้องฟ้า เขาเคยแวบไปทำลายดวงตาของเถ้าแก่โจว ปล่อยให้กร็องเดต์ที่ ‘เห็นแก่ตัว’ ‘ขี้เกียจ’ ‘หลบหลีกงาน’ คนหนึ่งยอมเสี่ยงเพื่อเขา พยายามช่วยเขากลับมายังโลกมนุษย์ ตอนนี้เขาอยู่ภายใต้การปกป้องของ ‘เซี่ยจื้อ’ คนดีควรได้กรรมดีตอบแทน

ตำรวจเฉินถอดหมวกของตัวเองออก ถอดผ้าพันคอสีเทาบนคอของตัวเอง นัยน์ตาลุ่มลึกที่เงียบสงบ มีประกายสีแดงกำลังหมุนวนอยู่ ตอนที่เงาร่างของเหล่าจางหายเข้าไปในห้องโถงใหญ่ของโรงพยาบาล ตำรวจเฉินค่อยๆ ก้าวเท้าออกเช่นกัน เธอเป็นตำรวจ เธอเป็นเซี่ยจื้อ เธอเป็นสัตว์วิเศษที่ทรงความยุติธรรม!

บางทีก่อนหน้านี้ เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นคนที่มีความพิเศษเฉพาะตัว เธอไม่อยากยื่นมือเข้าไปแทรก และไม่สะดวกที่จะยื่นมือเข้าไป แต่ตอนที่เธอพบว่าตัวเองถอยหลังทีละก้าว ยอมให้ทีละก้าว สิ่งที่แลกกลับมาคือการบีบคั้นของอีกฝ่าย สิ่งที่แลกกลับมาคือการท้าทายยั่วยุของอีกฝ่าย กระทั่งมองข้ามอย่างสิ้นเชิง เธอโกรธแล้ว!

ในสมัยพระเจ้าเหยา มันกลายร่างเป็น ‘ตัวกฎหมาย’ กฎหมายไม่เกรงกลัวอะไร กฎหมายไร้ความรู้สึก กฎหมายไม่กลัวสิ่งใด!

“คิดว่าฉัน…กลัวคุณจริงๆ ใช่ไหม” ตรงเงาหลังของตำรวจเฉิน มีสัตว์เขาเดียวตัวหนึ่งกำลังคำราม!

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มันเคยเสียเปรียบอยู่ในมือของคนผู้หนึ่งเท่านั้น แต่คุณก็ไม่ได้สำคัญอะไร คู่ควรที่จะไปเปรียบเทียบกับเขารึ

เหล่าจางไม่ได้ใช้ลิฟต์ แต่เริ่มวิ่งตะบึงไปตามบันได ร่างกายนี้มีความหนุ่มแน่นกว่าร่างเดิมของเขาหลังจากกลับมายังโลกมนุษย์แล้ว เขายังไปออกกำลังกายบ่อยๆ สมรรถภาพของร่างกายจึงดีมาก

เมื่อเทียบกับร่างอายุสี่สิบกว่าปีในตอนนั้นที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้อ้วน เขาในตอนนี้ มีเหตุผลที่ต้องรักและทะนุถนอมยิ่งกว่าเดิม

เพียงแต่เหล่าจางไม่รู้ว่า ข้างบนมีตัวอะไรกันแน่ที่กำลังรอเขาอยู่ ขณะเดียวกัน เหล่าจางก็ไม่รู้ว่า ข้างล่างมีตัวอะไรกันแน่กำลังเตรียมปกป้องเขา

เขาไม่ว่าอย่างไรก็เป็นคนทึ่ม เขาไม่ว่าอย่างก็เป็นคนมึนๆ เขาแค่แยกแยะความผิดถูกชัดเจนรวมถึงสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ที่เหลือช่างมัน แค่รับผิดชอบให้ดีก็พอ!

เหล่าจางวิ่งขึ้นมาชั้นเก้าในอึดใจเดียว เขาหายใจหอบสองสามที แล้ววิ่งไปยังจุดที่หน้าต่างแตกอย่างเร็วจี๋ เหล่าจางไม่ได้สังเกตว่า ถึงแม้จะเกิดความเคลื่อนไหวกระจกแตกมีคนตกลงไปตาย แต่โรงพยาบาลแห่งนี้ยังคงเงียบสงบเหมือนเดิม

คนที่กำลังต่อแถวรักษาด้วยคลื่นแม่เหล็กระดับเอยังคงต่อแถวรักษาต่อไป หมอและพยาบาลกะดึกยังคงทำงานของตัวเองเหมือนเดิม โดยทั่วไปแล้ว เฉพาะตอนที่ผีหรือปีศาจปรากฏ และต้องเป็นผีหรือปีศาจที่ค่อนข้างแข็งแกร่งปรากฏตัวถึงจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้

อย่างเช่นตอนแรกที่เถ้าแก่โจวทะเลาะกับปีศาจลิงอยู่นอกห้องผ่าตัด อย่างเช่นตอนแรกที่อิ๋งโกวฉีกร่างแยกของเซี่ยจื้อนอกกำแพงของสถานีตำรวจ แต่สิ่งที่คาดคิดไม่ถึงก็คือสิ่งที่คาดคิดไม่ถึง จริงๆ แล้วต่อให้คิดได้ เหล่าจางก็ยังกัดฟันวิ่งขึ้นไป ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เขาก็เป็นยมทูตเช่นกัน!

‘ผี’ เริ่มฆ่าคนแล้ว เขาจะไม่สนใจได้อย่างไร เหล่าจางวิ่งมาที่หน้าประตูห้องทำงานอย่างไว แล้วผลักประตูออกหน้าต่างยาวจรดพื้นแตกทะลุ เศษกระจกเกลื่อนพื้น แต่กลับไม่มีเงาร่างของคนที่สอง เหล่าจางสูดลมหายใจลึกๆ หนึ่งทีหยิบโทรศัพท์ออกมา เตรียมจะโทรไปที่สถานีตำรวจ แต่โทรศัพท์กลับไม่มีสัญญาณ

“เจอผีเข้าแล้วจริงๆ…” เหล่าจางบ่นแล้วถึงนึกได้ว่า น่าจะเจอผีแล้วจริงๆ!

ในหนังผีโทรศัพท์ใช้ไม่ได้แทบจะกลายเป็นมาตรฐานที่ต้องมีไปแล้ว และเขาก็ไม่ได้เจอเหตุการณ์เช่นนี้เป็นครั้งแรก จึงมีประสบการณ์เหมือนกัน ว่าแต่คนล่ะ อ้อไม่ ผีล่ะ

‘ตึกๆๆ…ตึกๆๆ…’ เสียงรองเท้าหนังเหยียบบนบันไดดังชัดเจน ตำรวจเฉินเดินขึ้นไปตามบันไดทีละก้าว เมื่อถึงตรงมุมของตึกชั้นที่ห้า เธอจึงหยุดเดิน ค่อยๆ เงยหน้ามองไปข้างบน สีแดงในนัยน์ตายิ่งเข้มขึ้น

เงาร่างของชายชราคนหนึ่งปรากฏอยู่ด้านบน เขาใส่เสื้อกาวน์สีขาว สองมือวางแนบกับต้นขาของตัวเอง ทำปากยื่น จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายสลับไปมาระหว่างปลายเท้าและส้นเท้าไม่หยุด ทั้งตัวของเขาก็เอนหน้าเอนหลังเล็กน้อยไม่หยุดเช่นกัน

“ฉันคิดว่าเธอจะไม่ขึ้นมา แต่เธอก็ยังขึ้นมาจนได้” เสียงของชายชรามาพร้อมกับความตื่นเต้นอยู่บ้าง เขาจำร่างแยกของเซี่ยจื้อได้ เขาไม่กลัวเซี่ยจื้อ

“เดิมทีฉันก็ไม่อยากขึ้นมา แต่มีบางคนที่ทำเกินเหตุเกินไป” ตำรวจเฉินตาต่อตา ฟันต่อฟัน

“เหอะๆๆๆ จริงๆ แล้ว ฉันกับเธอน่าอยู่ข้างเดียวกัน ใช่ไหม ไม่ๆๆ เธอกับฉันไม่เหมือนกัน ตอนนี้เธอกลัวจะตายอยู่แล้ว ไม่ๆๆ เธอไม่กลัว แต่เธอ เป็นสัตว์วิเศษที่ทรงความยุติธรรมที่มีอยู่นับตั้งแต่โบราณกาล ไม่น่าเชื่อว่าจะเรียนรู้การปิดตาของตัวเองได้ นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กฎฟ้าดินเปลี่ยนแปลง ปีศาจเริ่มหดหาย ยมโลกห้ามขึ้นฝั่ง เธอจึงรู้จักการรักษาชีวิตเอาตัวรอด และยังรู้จัก…แสร้งทำเป็นตาบอด!” ชายชราพูดไปเรื่อยๆ ยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธ ร่างกายเริ่มสั่นขึ้นมา

“โอ๊ยๆๆๆ แม้แต่สัตว์วิเศษในตำนานยังทำเป็นตาบอด หมดหนทางเยียวยาแล้ว หมดหนทางเยียวยาแล้วจริงๆ ฉันอยากตายก็ยิ่งยาก ยากมาก!”

ตำรวจเฉินเดินขึ้นต่อไป ชายชรากลับไม่สนใจ พูดบ่นอีก “ฉันจะร้องเพลงให้เธอฟัง เอามือปิดดวงตาของฉัน เอามือปิดดวงตาของเธอ มองไม่เห็นแล้วนะเออ มองไม่เห็นแล้ว…”

ตำรวจเฉินชูมือขึ้น หลังจากที่เข้าใกล้ชายชราแล้วก็ฟาดลงไปหนึ่งที!

‘ปึ้ง!’ ชายชราเหมือนกับว่าวที่สายป่านขาด ลอยกระเด็นออกไป แต่วินาทีต่อมา “เอามือปิดดวงตาของเธอ เอามือปิดดวงตาของฉัน มองไม่เห็นแล้วนะเออ มองไม่เห็นแล้ว!” สองเท้าของชายชราเหยียบอยู่ตรงท้องบันได ศีรษะทิ่มลง ทั้งตัวเขาเหมือนคนกลับหัวกลับหาง เสียงเพลงยังคงเปี่ยมไปด้วยความเยาะเย้ย เต็มไปด้วยความดูแคลน

ตำรวจเฉินจับเส้นผมของชายชราหนึ่งกระจุก แล้วลากลงมา เท้าของชายชรายังคงติดอยู่กับพื้นปูนตรงท้องบันได ร่างกายถูกลากยาวออกไป

“คุณยังไม่หยุดอีก”

“หยุดเหรอ” ชายชราหัวเราะ จริงๆ แล้วเขาหัวเราะอยู่ตลอดเวลา แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดของตำรวจเฉินเขากลับหัวเราะโอเวอร์เกินจริงยิ่งกว่าเดิม “ฉันยังก่อเรื่องไม่ใหญ่พอ นี่เพิ่งจะถึงไหนเอง!”

“คุณไม่กลัวถูกสวรรค์ลงทัณฑ์?”

“สวรรค์ลงทัณฑ์ เธอคิดว่าเธอกลัวสวรรค์ลงทัณฑ์ ดังนั้นทั้งที่อยู่ในตำแหน่งสัตว์วิเศษที่ทรงความยุติธรรม แต่กลับทำเป็นตาบอดแม้ว่าจะลืมตาอยู่! โลกนี้ไม่ยุติธรรม คอร์รัปชัน ทุจริตเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และมีแต่การฉ้อฉล เดิมทีควรเป็นหน้าที่ของเธอ แต่เธอไม่กล้าจัดการ เธอไม่กล้าแตะต้อง! ฮ่าๆๆๆๆ เอามือปิดตาของเธอ เอามือปิดตาของฉัน มองไม่เห็นแล้วนะเออ มองไม่เห็นแล้ว! นับว่าฉันได้ค้นพบแล้ว คนที่ชอบทำเป็นตาบอด อ้อไม่ สิ่งที่ชอบแสร้งทำเป็นตาบอด คิดไปเองโดยไม่รู้ตัวว่าบนโลกนี้ ทุกคนก็ขี้ขลาดเหมือนกับเขา แบบนี้เขาจะได้รับความรู้สึกที่เห็นพ้องต้องกัน แบบนี้เขาจะได้สบายใจ!”

“คุณ…โอหัง!”

“โอ้วๆๆๆ!!!!!!” ร่างของชายชราถูกยืดยาวมากขึ้น

‘ปึ้ง!’ ร่างขาดท่อนโดยตรง เท้ายังคงติดอยู่กับพื้นปูนตรงท้องบันไดในลักษณะกลับหัว แต่ร่างกายท่อนบนกลับถูกตำรวจเฉินดึงลงมา

“ทำไม เธอร้อนตัวเหรอ พูดแทงใจดำใช่ไหมล่ะ โอ๊ยๆๆ แสร้งทำตาบอดเพื่อจะได้สบายใจ ปิดตาแล้วตะโกนอยู่ในใจว่ามองไม่เห็นๆ พอถูกคนจับได้ กลับเดือดดาลโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ”

“บนโลกย่อมมีกฎของมัน มี…”

“คนเรา มักจะไม่ขาดเหตุผลในการปลอบใจตัวเอง น่า เบื่อ จริงๆ ว้า!”

ร่างของตำรวจเฉินสั่นทันที ร่างครึ่งหนึ่งที่แยกออกจากกันของชายชราประสานกันอย่างรวดเร็ว แล้วปล่อยหมัดออกมาโดยตรง!

‘ปึ้ง!’ ตำรวจเฉินถูกทุบถอยออกไป ด้านหลังกระแทกกับผนังบันได

‘ครืน!’ ผนังถูกกระแทกจนเป็นหลุม ร่างของตำรวจเฉินไหวเอน แต่ยังสามารถรักษาท่ายืนไว้ได้เหมือนเดิมเพียงแต่ร่างกายรวมทั้งเส้นผม กลับมีแต่เศษปูนสีขาวเต็มไปหมด

“ซี้ด…ซี้ด…” ชายชราสูดปากไม่หยุด ศีรษะของเขามีเนื้องอกนูนออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนกับเขาอันหนึ่ง

“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่” ตำรวจเฉินคำรามด้วยความโกรธ

“เจอหนึ่งคนก็ฆ่าหนึ่งคน เจอสองคนก็ฆ่าสองคน! ทุกคนคิดว่าตัวเองขาวสะอาดเหมือนดอกบัว ทุกคนรู้สึกว่าตัวเองจำใจ ฉันจะบอกพวกเขาว่าหิมะถล่ม ไม่มีเศษหิมะอันไหนที่ไร้เดียงสา ฉันจะฆ่า ฆ่าคนที่ทำเป็นมองไม่เห็น! ฆ่าความเจ็บปวดของพวกเขา ฆ่าความกลัวของพวกเขา ฆ่าพวกเขาจนไม่กล้าแสร้งทำเป็นตาบอดอีก!!! คนโง่ มีเหตุผลที่พอให้อภัยได้ เป็นความผิดของพ่อแม่ คลอดลูกออกมาไม่ดี แต่ตาบอด คือโทษฐานเดิม จิตใจชั่วอยู่แล้ว จะเก็บไว้ทำไม!”

“คุณฆ่าไม่หมดหรอก” ตำรวจเฉินส่ายหน้าพลางพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณลองนับด้วยตัวเอง เมื่อคุณฆ่าคนเพิ่มขึ้น สายฟ้านี้จะต้องฟาดลงมา”

ชายชราเอาสองมือตบปากของตัวเอง “โอ๊ยๆๆๆๆ ฉันกลัวจังเลย” จากนั้นชายชราก็หันหน้า ร้องไห้ขึ้นมา “เธอใจร้ายจริงๆ เธอกล้าขู่ให้ฉันตกใจ” ต่อจากนั้น ชายชราก็หันหน้ามาอีก ใบหน้าแขวนไว้ด้วยรอยยิ้มที่แปลกประหลาดและชั่วร้าย แล้วพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “ใครเป็นคนบอกเธอว่าฉันกลัวตาย” ฉันอยากจะตายมาก!

“เมื่อก่อนคุณไม่ใช่แบบนี้” ตำรวจเฉินพูดด้วยความสงสัย

“ฮือๆๆๆๆๆ…ใช่แล้ว เมื่อก่อนฉันไม่ได้เป็นแบบนี้ เธอพูดถูก ฉันเห็นด้วย เพราะว่าฉันก็รู้สึกแบบนี้” ร่างของชายชรากระแทกตำรวจเฉินโดยตรง ทั้งสองคนตัวกระแทกชนกัน

‘ครืน!’ เกิดเป็นหลุมติดต่อกันเป็นพรวน เกิดความสั่นสะเทือนไปทั่วตึกใหญ่ สุดท้ายสองมือของชายชราจับไหล่ของตำรวจเฉินอย่างแน่นหนา สองมือของตำรวจเฉินกลับคว้าข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้ ทั้งสองคนตัวติดกันชนผนัง ด้านหลังของผนังคือถนน

ตำรวจเฉินหายใจกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด ครั้งนี้เธอหมดแรงไปเยอะ

“เมื่อก่อน ฉันจำได้ ทุกครั้งที่ฉันออกมา แค่ผดุงคุณธรรมเล็กน้อย และกำจัดไอปีศาจอีกนิดหน่อย ก็มลายหายไปหรือไม่ก็นอนหลับใหลไปแล้ว แต่ครั้งนี้ ฉันพบว่าตัวเองกลับทำสุดโต่งเกินไป”

“เป็นเพราะ…อะไรกันแน่” ตำรวจเฉินเอ่ยถามอย่างยากลำบาก

ชายชราเอียงศีรษะ เหมือนกำลังครุ่นคิดถึงสาเหตุ จากนั้นมองตำรวจเฉินด้วยใบหน้าที่จริงจัง เหมือนคนป่วยกำลังรายงานอาการป่วยของตัวเองให้หมอฟัง เอ่ยว่า “หรืออาจจะเป็นเพราะครั้งที่แล้วไม่ทันได้ระบายอารมณ์ ก็ถูกคนอื่นทุบจนตายไปเสียก่อน”

……………………………………………………………………….

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท