ตอนที่ 706 สมบูรณ์แบบ!
นอกจากการเปลี่ยนแปลงของนัยน์ตาตำรวจเฉินแล้ว ร่างกายแท้จริงแล้วไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเป็นพิเศษยังคงเป็นเธอคนนั้น หน้าตาเหมือนเดิม ธรรมดาทั่วไป ตัวเปียกโชก กระทั่งมีสภาพสะบักสะบอมเล็กน้อย ไม่มีเขาเดี่ยวบนศีรษะ ร่างกายก็ไม่มีเปลวไฟพุ่งออกมา สิ่งที่เรียกว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอะไรนั่น ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
แต่เธอแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ความน่าเกรงขามกลับกระจายออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ความน่ายำเกรงของสัตว์วิเศษน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้เอง!
อิงอิงกับสาวน้อยโลลิรีบมาอยู่ข้างกายของสวี่ชิงหล่างโดยเร็ว ประคองสวี่ชิงหล่างขึ้นมา พวกเธอไม่โง่ที่จะตะโกนพูดว่าอยากเข้าไปช่วยหรือ ‘หากต้องตายก็ต้องตายด้วยกัน’ พวกเธอรู้ดี สงครามระดับพระกาฬที่อยู่ตรงหน้านี้ ไม่ใช่เรื่องที่พวกเธอสามารถเข้าร่วมได้ ถ้าหากฝืนเข้าไป จะกลายเป็นภาระของโจวเจ๋อ
ความเป็นจริงไม่สามารถทำเป็นเรื่องโง่ๆ เหมือนในบทละครได้ตลอดไป สวี่ชิงหล่างเหมือนจะฟื้นขึ้นมาหลังจากสลบไป แต่ร่างกายยังมีรอยแผลเต็มไปหมด เขาได้แต่ลืมตามองสถานการณ์ตรงหน้าภายใต้การประคองของอิงอิงต่อไป
สายตาของเขาหม่นหมองเล็กน้อย ไม่น่าเชื่อว่าไม่สามารถจัดการให้สำเร็จได้
โจวเจ๋อสะบัดสองมือ เล็บยาวกำลังเสียดสีเป็นประกายไฟขึ้นมา นัยน์ตาสีขาวโพลน บวกกับใบหน้าที่เย็นชา นำบรรยากาศบีบเค้นมาสู่เขา
กลัวเรอะ ไม่ใช่เลย! โจวเจ๋อยังคงรักษาความรู้สึกเดิมไว้ ขณะที่รักษาความรู้สึกเช่นนี้ จริงๆ แล้วจำเป็นต้องควบคุมความคิดตามสัญชาตญาณของตัวเองด้วย กลัวเหรอ กังวลเหรอ กลัวจะเจ็บหนักทั้งสองฝ่ายเหรอ กระทั่งกลัวตาย! สิ่งเหล่านี้ลืมไปได้เลย มีเพียงแบบนี้เท่านั้น ถึงจะแสดงพลังการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมของสถานะผีดิบได้อย่างเต็มที่
เมื่อเทียบกับตอนที่เรียนรู้การจัดการปัญหาในระดับที่แปลกพิสดารของอิ๋งโกวแล้ว โจวเจ๋อรู้สึกว่าวิธีของ ‘ใบหน้าครึ่งเดียว’ เหมาะสมกับตัวเองมากกว่า
ตำรวจเฉินเคลื่อนไหวตัว เธอเริ่มวิ่ง แต่จริงๆ ไม่ได้วิ่งเร็วมาก ประหนึ่งว่ามีผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งกำลังวิ่งอยู่ แต่เงาข้างหลังเธอที่เดิมทีควรเป็นเงาคน กลับเริ่มขยายยาวอย่างช้าๆ รูปร่างของสัตว์เขาเดียวตัวหนึ่งเริ่มปรากฏขึ้นมาวับๆ แวมๆ
“อุ๊บส์…” อิงอิงกับสาวน้อยโลลิอ้าปากค้าง พวกเธอเหมือนจะเดาตัวตนของตำรวจเฉินออกแล้ว ขณะเดียวกันก็คาดคิดไม่ถึงว่าตำรวจเฉินจะมีฐานะเช่นนี้
‘ปึ้ง!’
โจวเจ๋อกับตำรวจเฉินกระแทกเข้าหากัน ตำรวจเฉินจับศีรษะของโจวเจ๋อ จากนั้นกดเข่าลงไป!
‘ปึ้ง!’ ทั้งตัวของโจวเจ๋อถูกทุ่มไปบนพื้น แต่ในเวลาเดียวกัน สองแขนของโจวเจ๋อได้ค้ำยันเอาไว้ เล็บกรีดกรายพยายามจะต่อสู้กับตำรวจเฉินในขณะที่ตัวเองได้รับบาดเจ็บ
ทว่าตำรวจเฉินถอยหลังไปสองสามก้าวเท่านั้น ก็สามารถหลบขอบเขตการโจมตีได้ แต่เวลาต่อมา ศีรษะของโจวเจ๋อได้โผล่ทะลุออกมาจากพื้นปูน ขาทั้งสองข้างออกแรงโดยพลัน กระโดดไปอยู่ตรงหน้าตำรวจเฉินโดยตรง
ตำรวจเฉินวาดหมัดออกไปอีกครั้ง เสียงระเบิดดังขึ้นกลางอากาศ ‘ปึ้ง!’ หมัดนี้ชกไปที่ใบหน้าของโจวเจ๋อ แต่โจวเจ๋อไม่ได้ป้องกันตัว ปล่อยให้เธอจัดการตามอำเภอใจ เขาถูกต่อยจนหน้าหัน แต่ยังคงรักษาสภาพร่างกายก่อนหน้านั้นอยู่เหมือนเดิม ชูสองมือขึ้นมา จับไปที่ศีรษะของตำรวจเฉินอย่างจัง จับใบหน้าของเธอกดลงไปใต้สะโพกโดยตรงขณะเดียวกันก็แทงเข่าขึ้นมา!
‘ปึ้ง!’ ใบหน้าของตำรวจเฉินถูกแทงด้วยเข่าของโจวเจ๋ออย่างแรง ต่อจากนั้นโจวเจ๋อหมุนตัว ใช้ศอกรัดคอของอีกฝ่าย ออกแรงจากเอว บิดตัว หมุนตัวแล้วบิด!
‘ปึ้ง!’ ตำรวจเฉินถูกทุ่มออกไป กระแทกพื้นจนเกิดหลุมหลุมหนึ่ง จากนั้นเด้งต่ออีกสองสามครั้งจึงหยุดร่างกายอยู่ โจวเจ๋อยืนอยู่ที่เดิม มือหนึ่งประคองคางของตัวเอง ได้ยินเสียงดัง ‘กร๊อบแกร๊บ’ แล้วจึงขยับคอใหม่อีกครั้ง
ตำรวจเฉินที่อยู่ตรงนั้นค่อยๆ ลุกขึ้นยืน สายเส้นสีแดงแต่ละสายถูกดึงออกมาจากโรงพยาบาล จนมาผูกติดบนตัวของเธอ บาดแผลที่ปรากฏตามร่างกายเมื่อครู่ ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ภายในระยะเวลาอันสั้น
กายเนื้อของชายชราถูกโจวเจ๋อกับเทพเจ้าแห่งท้องทะเลร่วมมือกันทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก เป็นผลทำให้ชายชราต้องควบคุมตำรวจเฉินให้ออกมาต่อสู้ เพื่อการรับมือที่สอดคล้องกัน และโรงพยาบาลแห่งนี้ ก็ถูกชายชรามอบให้แก่ตำรวจเฉินแล้วในระดับหนึ่ง
ตำรวจเฉินยกแขนขึ้นมาข้างหนึ่ง ร่างกายเอนซ้ายเอนขวา เท้าเริ่มวิ่งอีกครั้ง
โจวเจ๋อวางแขนสองข้างแนบลำตัว เขี้ยวคมทั้งสองข้างปรากฏอยู่ที่ริมฝีปากแวบๆ แล้วเริ่มวิ่งเช่นกัน วิ่งเข้าไปต่อสู้กับอีกฝ่ายโดยตรง!
ทั้งสองคนต่อสู้ระยะประชิดโดยอาศัยกายเนื้ออย่างสิ้นเชิง ขณะที่ประมือกัน ไร้ซึ่งสีสันฉูดฉาดแต่อย่างใด มีแต่การเสียดสีอย่างสุดชีวิตของกำปั้นกับเนื้อหนัง ไม่มีคาถา ไม่มีฝ่ามือมุทรา ไม่มีค่ายกล มีแต่ดูว่าใครมีกายเนื้อที่แข็งแรง ดูว่าใครมีพลังที่เยอะกว่า!
‘ปึ้ง!’ ทั้งสองฝ่ายกระแทกเข้าหากันอีกครั้ง ทั้งสองคนมองร่างกายของตัวเองเป็นดั่งอาวุธชิ้นหนึ่ง ไม่สงสารแม้แต่นิดเดียว!
ตำรวจเฉินชูมือทั้งสองข้างขึ้นมา เตรียมจะโจมตีก่อน แต่โจวเจ๋อโน้มตัวกอดร่างของตำรวจเฉิน ‘พลั่กๆๆ!!!!!!!!’ กำปั้นของตำรวจเฉินทุบไปที่หลังของโจวเจ๋อหลายครั้ง ต่อยจนโจวเจ๋อตัวสั่น เสียงดังสนั่นแสบแก้วหูทำให้คนตกใจเป็นอย่างมาก แต่โจวเจ๋อกลับไม่สนใจเลยแม้แต่นิดเดียว
“โฮก!” ภายใต้เสียงคำรามด้วยความโกรธ โจวเจ๋อพยายามกดร่างของตำรวจเฉิน จากนั้นเริ่มวิ่งเร็วขึ้น ‘ครืดๆๆๆ!!!!!!!!!!!’ ประหนึ่งเครื่องดันดินกำลังดันดินอยู่ ร่างของตำรวจเฉินถูกโจวเจ๋อกดไปบนพื้น เสียงเสียดสีกันดังขึ้นทันที! และทิศที่พุ่งออกไป ก็คือตึกใหญ่ของโรงพยาบาล!
บนพื้น ปรากฏร่องน้ำลึกขึ้นมาสายหนึ่ง ใบหน้าของตำรวจเฉินกลับไม่มีสีหน้าอย่างอื่น ในโรงพยาบาลยังคงมีสายโลหิตเชื่อมต่ออยู่กับเธอไม่หยุด เสียงนาฬิกาที่อยู่ในตึกใหญ่ดังขึ้นถี่ๆ จนน่าตกใจ
‘กรุบ!’ ในที่สุด เท้าข้างหนึ่งของตำรวจเฉินก็ล็อกติดอยู่กับพื้น ร่างกายยืนตัวตรงทันที โจวเจ๋อครั้งนี้กดเธอไม่อยู่ถูกเธอเด้งขึ้นมา จากนั้นตำรวจเฉินจึงทุบหมัดลงไป ‘ปึ้ง!’ โจวเจ๋อถูกซัดลอยออกไป มือข้างหนึ่งร่วงถึงพื้นก่อน จากนั้นคุกเข่าข้างหนึ่งไหลลื่นออกไปเป็นทางยาว
ร่างของตำรวจเฉินไหวเอนไปขณะหนึ่ง ใบหน้ายังนิ่งไร้อารมณ์เหมือนเดิม เสื้อผ้าบนร่างกายขาดวิ่นอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่ตอนที่เสียดสีกับโจวเจ๋อเมื่อครู่นี้แล้ว ตอนที่เธอลุกขึ้นมา เสื้อผ้าที่ยังเหลืออยู่ร่วงลงทันที เผยให้เห็นร่างที่อยู่ด้านใน ทว่าเวลานี้ไม่มีใครสนใจรายละเอียดเหล่านี้
ตำรวจเฉินยังคงยืนตัวตรงเหมือนเดิม เหมือนปากกาที่ปักอยู่ตรงนั้น บนตัวของโจวเจ๋อกลับดูไม่ได้อย่างเห็นได้ชัด บาดแผลที่น่ากลัวมีอยู่ทุกที่ และบนตำแหน่งเหล่านี้ มีกระดูกสภาพน่ากลัวที่โดนทุบจนโผล่ออกจากเนื้อ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การต่อสู้ทั้งสองครั้ง จริงๆ แล้วโจวเจ๋อเป็นฝ่ายได้เปรียบ มักจะเป็นฝ่ายได้เปรียบเสมอเวลาที่ต่อสู้กัน ทว่าไม่สามารถต้านทานการฝืนลากดึงที่ยาวนานนี้ได้ สามารถพูดได้ว่า การต่อสู้ครั้งนี้ สำหรับโจวเจ๋อแล้วไม่ยุติธรรมเป็นอย่างมาก
ต่อให้ตัวเองสู้แค่ไหน ตัวเองโหดแค่ไหน ยามที่คุณต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ขี้โกงที่เติมพลังได้ไม่สิ้นสุด การโจมตีของคุณแต่ละครั้งมีแต่จะทรุดลงและหมดแรง
สายตาของโจวเจ๋อเหลือบมองไปที่ชายชราที่อยู่ข้างๆ ชายชราไม่พูดจานานแล้ว เขาคุกเข่าอยู่กับพื้น เลือดเต็มปาก เม้มริมฝีปากอยู่ แผลตรงหน้าอกมีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ปกคลุมพื้นที่ใต้เท้าของเขา บาดแผลมีปราณพิฆาตของผีดิบและพิษของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล จึงไม่มีทางรักษาได้อย่างสิ้นเชิง ได้แต่ต้องปล่อยให้โดน ‘ทำร้าย’ ต่อไป
เขากำลังควบคุมตำรวจเฉินอยู่ถูกต้องแล้ว แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่น่าอับอายของตัวเองที่ใกล้จะสิ้นใจได้ ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าหากไม่ใช่ตำรวจเฉินนอนอยู่ตรงนั้นพอดี ด้วยแผนการและวิธีของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลก่อนหน้านั้น บวกกับการร่วมมืออย่างสมบูรณ์แบบของโจวเจ๋อ คงจะปิดฉากเรื่องราวในครั้งนี้ได้แล้วจริงๆ
แต่ชะตาคนหรือจะสู้ฟ้าลิขิต ทุกคนที่อยู่ในนี้รวมถึงตัวของชายชราต่างคาดคิดไม่ถึงว่า เรื่องราวจะดำเนินมาถึงขั้นนี้
ตำรวจเฉินยกมือซ้ายขึ้นมา พุ่งเข้าไปอีกครั้ง โจวเจ๋อกางแขนทั้งสองข้าง เผชิญหน้าอย่างดุเดือดต่อไป พุ่งเข้าหาอีกฝ่ายโดยตรง! ถึงแม้ร่างกายจะมีสภาพสะบักสะบอม ถึงแม้สถานการณ์จะไม่เป็นผลดีกับตัวเอง ก็ไม่มีเหตุผลที่จะถอยหลังยอมแพ้!
‘ครืน!’ ความชา ความน่าเบื่อ กลับระเบิดออกมาอย่างแท้จริง! ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอีกเป็นครั้งที่สาม ดูเหมือนว่าแต่ละครั้ง พวกเขาจะใช้ร่างกายของตัวเองเป็นเหมือนลูกทุ่มน้ำหนักขนาดใหญ่ โยนใส่ศัตรูของตัวเอง
ตำรวจเฉินใช้มือข้างหนึ่งล็อกหน้าอกของโจวเจ๋อ แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งทำลายการโจมตีของโจวเจ๋อ จับไปที่เข่าของโจวเจ๋อ แล้วยกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว!
ท่านี้ มักปรากฏให้เห็นเป็นประจำในกีฬามวยปล้ำ และไม่ได้หมายความว่าคนที่ถูกยกขึ้นมาจะแพ้เลย ถ้าหากโจวเจ๋อสามารถใช้มือหรือขาทั้งสองข้างของตัวเองล็อกคอหรือร่างกายท่อนบนของตำรวจเฉินได้ มีความเป็นไปได้ที่จะพลิกผันสถานการณ์ที่อยู่ในทางตันได้
แต่ไม่รู้ทำไม บางทีอาจจะเหนื่อยเกินไป หรือไม่ก็ร่างกายนี้ถูกทำลายไปไม่น้อยตอนที่ต่อสู้กันสองสามครั้งก่อนหน้านี้ เถ้าแก่โจวจึงไม่สามารถล็อกตัวตำรวจเฉินได้ แต่กลับถูกตำรวจเฉินสะบัดออกไปอย่างแรง
ตอนที่อยู่กลางอากาศ ร่างของโจวเจ๋อฝืนหมุนตัวกะทันหัน เปลี่ยนทิศทางพุ่งตรงไปที่ชายชราอย่างรวดเร็ว!
นี่คือกลยุทธ์จับโจรเอาหัวโจก!
ตำรวจเฉินเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งตามไป สวี่ชิงหล่างสีหน้าเปลี่ยนทันที พูดอุทานว่า “แย่แล้ว!!!”
ตอนที่โจวเจ๋อกับชายชรากำลังอยู่ห่างกันเพียงห้าเมตรเท่านั้น ชายชราพลันเงยหน้าของตัวเองขึ้นมา ในนัยน์ตาที่สูญเสียลูกตาไปแล้วกลายเป็นสีดำปี๋ เขาแสยะปาก เขาหัวเราะ แล้วพูดพึมพำว่า “ทำไม ถึงเพิ่งมา” สักครู่หนึ่ง พื้นที่ใต้เท้าของชายชราที่ปกคลุมไปด้วยเลือดสดกลับชัดเจนขึ้นมาในพริบตา ค่ายกลทำลายพลังพิฆาตซ่อนอยู่ในนั้นนานแล้ว เพราะชายชราใช้เลือดของตัวเองในการวางค่ายกล โดยใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ รอโจวเจ๋อมา ‘จับโจรเอาหัวโจก!’
“ค่ายกล ทำงาน!”
ทุกอย่างของสวี่ชิงหล่าง ได้รับมาจากชายชราคนนี้ ค่ายกลของเหล่าสวี่ต้องมีความรู้ในระดับที่ลึกซึ้งมาก เช่นนั้นค่ายกลของอาจารย์ของเขา จึงยิ่งน่ากลัวกว่าเป็นธรรมดา
นับตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน เพื่อต่อสู้กับผีดิบรวมทั้งวิญญาณร้าย บรรพบุรุษของศาสนาพุทธและเต๋าไม่รู้ว่าได้ศึกษาการสร้างค่ายกลโดยเฉพาะมาเยอะเท่าไรแล้ว
โจวเจ๋อเพิ่งจะเข้าไปในนั้น แรงฉุดที่ลึกลับทั้งยังรวดเร็วและรุนแรงก็พลันระเบิดพลังออกมา พลังปราณพิฆาตที่อยู่ภายในร่างของโจวเจ๋อจึงถูกเจาะทะลุโดยตรงด้วยเหตุนี้
ชั่วเวลาเดียว โจวเจ๋อรู้สึกเหมือนท้องฟ้าหมุน! รับรู้ได้ถึงพลังสังหารที่น่ากลัวมาจากด้านหลังอยู่เนืองๆ โจวเจ๋อไม่ได้เดินไปข้างหน้าต่อ แต่ใช้พลังที่อยู่ภายในร่างทั้งหมดกระโดดจากพื้น วาดเล็บทั้งสิบนิ้วไปข้างหน้า พยายามกรีดค่ายกลให้ขาด แล้วหันตัวเพื่อหนีออกไป หลบหลีกการปะทะของตำรวจเฉินที่ไล่ตามมาจากด้านหลังได้อย่างหวุดหวิด
แต่เพิ่งจะออกจากค่ายกล โจวเจ๋อก็รู้สึกหมดแรง คุกเข่าลงกับพื้นเสียงดัง ‘พลั่ก’ หน้าอกกระเพื่อมไม่หยุด สีขาวในนัยน์ตาเริ่มหายไป ค่อยๆ กลายเป็นสีดำของรูม่านตาเดิม
“เหอะๆ ฮ่าๆๆๆ…” ชายชราหัวเราะเสียงดัง “ยังไงฉันก็ชนะ ฉันชนะแล้วๆ…”
‘ฉึก!’ เสียงหัวเราะของชายชราหยุดลงกะทันหัน เพราะตำรวจเฉินมาอยู่ข้างกายเขา ใช้มือข้างหนึ่งจับกะโหลกศีรษะของเขา ทั้งบิด ทั้งดึง ทั้งกระชากศีรษะของเขาจนขาด!
……………………………………………………………………….