ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 708 การกลับมา!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 708 การกลับมา!

‘เจ้ารุ่งเรือง’ สองสามคำนี้ ทำให้ใบหน้าของตำรวจเฉินจากที่ไร้ซึ่งอารมณ์ ในที่สุดก็ปรากฏสีหน้าอย่างอื่น

คำเรียกขานนี้ เป็นตัวแทนของความอับอาย เป็น ‘แผลเป็น’ ที่อยู่กับมันไม่รู้นานแค่ไหนแล้ว และยังถูกตอกอยู่บนเสาของความอับอายอย่างแน่นหนา!

นับตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน ที่ทำการรัฐหลายแห่งมักจะวางรูปปั้นของมันอยู่หน้าประตู ภาวนาให้สัตว์วิเศษคุ้มครองที่พักอาศัย คอยเตือนเจ้าหน้าที่ของที่นี่ให้ทำตามกฎ รู้จักเกรงกลัวและปฏิบัติตามกฎหมาย

ถ้าหากคนอื่นหรือสิ่งอื่นที่มีตัวตนอยู่ได้เห็นตัวเองถูกกราบไหว้บูชานานนับปี จะต้องดีใจและสบายใจแน่นอน อดไม่ได้ที่จะภาคภูมิใจในตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองมีหน้ามีตาหลายเท่าตัว

แต่ด้านบนนั้นคือเขาเดียวนะ! แต่เธอเกิดมาพร้อมเขาคู่! นี่เหมือนประวัติมืดที่ยากจะเอื้อนเอ่ยของคุณ ผลปรากฏว่ากลับถูกคนแปะป้ายตัวใหญ่ไปทั่วถนนและตรอกซอกซอย แถมยังถูกแปะนานหลายปี แบบนี้แล้วจะทนได้อย่างไร

ตำรวจเฉินใช้สองมือจับโจวเจ๋อที่นอนทรุดอยู่บนพื้นอย่างรวดเร็ว แล้วพูดเสียงดุว่า “ใครบอกคุณ ใครเป็นคนบอกคุณ!” ถึงแม้จนถึงตอนนี้ ตำรวจเฉินก็ยังไม่ได้จับโจวเจ๋อกับคนผู้นั้นเชื่อมโยงเข้าหากัน เพราะคนผู้นั้นตายไปแล้ว เขาตายไปแล้ว!

หรือไม่อาจจะเป็นตำรวจเฉิน อ้อไม่ จริงๆ แล้วเป็นข้อจำกัดของเซี่ยจื้อ สมัยโบราณ เซี่ยจื้อไปนรกอยากจะเผยแพร่กฎหมาย ลงโทษขุนนางที่ได้ตำแหน่งแต่ไม่ยอมทำงาน แต่กลับถูกคนผู้นั้นหักเขาไปหนึ่งข้าง สุดท้ายจึงต้องแอบหนีออกมาจากนรก

ผลกระทบของเรื่องนี้ยืดยาวมาจนถึงตอนนี้ เพราะหลังจากตอนนั้น เซี่ยจื้อถึงแม้จะมีร่างแยกในโลกมนุษย์มากมายนับไม่ถ้วน กลายเป็นสัญลักษณ์ของกฎหมาย แต่ในนรก มันไม่สามารถเดินย่ำอยู่ในนรกได้แม้แต่ก้าวเดียว

นี่คือกฎระเบียบ ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นคนผู้นั้นจะไม่อยู่แล้วก็ตาม แต่กฎระเบียบนี้ยังคงได้รับการเคารพและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดจากพวกหัวหน้าผู้คุมนรกในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นยุคของไท่ซานฝู่จวินหรือว่ายุคของพญายม เซี่ยจื้ออยากจะยื่นมือเข้าไปในนรกเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็ไม่ยอมให้พื้นที่ของตัวเองถูกคนอื่นยื่นมือเข้ามาแทรกจากนั้นก็ชี้นิ้วสั่งตัวเอง

ส่วนเซี่ยจื้อ เพราะเหตุในครั้งนั้น จึงล้มเลิกความคิดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับนรกอย่างสิ้นเชิง บวกกับหลายปีที่ผ่านมา กฎฟ้าดินมีการเปลี่ยนแปลง เซี่ยจื้อจึงต้องเลือก ‘แสร้งทำเป็นตาบอด’ ปล่อยให้ร่างจริงอยู่ในสภาวะกึ่งหลับใหลมาตลอด และการปรากฏตัวของตำรวจเฉิน หลังจากความโกลาหลครั้งใหญ่ในนรก ร่างแยกกับร่างจริงก็ไม่สามารถติดต่อกันได้ในพริบตาแล้ว

สาเหตุทั้งหมดนี้ ทำให้ตำรวจเฉินไม่ทราบข่าวใดๆ เกี่ยวกับความโกลาหลครั้งใหญ่ในนรกแม้แต่นิดเดียว! ดังนั้น จึงไม่รู้ว่าศัตรูใหญ่ของตัวเองในตอนนั้น เคยปรากฏตัวอย่างกะทันหันในนรกมาก่อน และ ‘หายไปตลอดกาล’ หลังจากทำสงครามกับกองทัพใหญ่ของยมโลก

“คุณฟังใครพูด ฟังใครพูดมา!” ความลับแต่โบราณกาล คนที่รู้ในตอนนั้นมีไม่เยอะ จวบจนตอนนี้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ยิ่งมีน้อยเป็นธรรมดา

เป็นใคร เป็นใครกันแน่ หลังจากเธอรู้จักสงบจิตสงบใจกับเรื่องนั้นแล้ว กลับมีคนกล้าซิบซุบนินทา ท้าทายความโกรธของเธอ!

โจวเจ๋ออ้าปาก เหมือนกำลังจะพูดอะไร ตำรวจเฉินยังคงเดินเข้ามาอีกนิดโดยไม่รู้ตัว แต่วินาทีถัดไป ร่างกายของโจวเจ๋อกลับออกแรง กัดคอของตำรวจเฉินหนึ่งที

ตำรวจเฉินใช้มือข้างหนึ่งทุบไปที่หน้าอกของโจวเจ๋ออย่างแรง ได้ยินเพียงเสียง ’ตุบ’ แต่โจวเจ๋อยังคงกัดไม่ปล่อยตำรวจเฉินจึงทุบหมัดลงไปอีกครั้ง โจวเจ๋อยังคงไม่ปล่อย!

เมื่อรับรู้ได้ว่าเลือดของตัวเองกำลังถูกอีกฝ่ายดูดออกไป ตำรวจเฉินขมวดคิ้ว สองมือจับคอของโจวเจ๋อ พยายามดึงออกไปข้างนอก ‘ฉึบ!’ ร่างของโจวเจ๋อถูกตำรวจเฉินใช้แรงดึงออกมา แต่เลือดและเนื้อชิ้นใหญ่ได้ถูกฉีกออกมาจากคอของตำรวจเฉินเช่นกัน

ใบหน้าและปากของโจวเจ๋อเต็มไปด้วยเลือดสด แต่กลับมีเลือดของตำรวจเฉินเยอะกว่า ตามร่องฟันยังเห็นเนื้อที่ติดฟันได้อย่างชัดเจน นี่คือเอาจริง ถึงฉันจะสู้เธอไม่ได้ แต่ต่อให้ต้องสู้สุดชีวิต ก็ต้องกัดเนื้อจากร่างของเธอสักนิด เพื่อให้เธอเลือดไหลเยอะหน่อย!

“คุณ รนหาที่ตาย!” ตำรวจเฉินจับคอของโจวเจ๋อด้วยมือข้างเดียว แล้วทุ่มไปบนพื้นโดยตรง

‘ปึ้ง!’ โจวเจ๋อถูกทุ่มไปบนพื้น ศีรษะลงพื้นก่อน

“ไปตายซะ!” ตำรวจเฉินยื่นเท้า เหยียบไปที่หน้าอกของโจวเจ๋ออย่างแรง เสียงดัง ‘กร๊อบ’ ชัดเจน โครงกระดูกที่หน้าอกของโจวเจ๋อไม่รู้หักไปกี่ซี่แล้ว

แต่ตำรวจเฉินยังไม่พอแค่นี้ แผลที่คอกำลังบอกเธอถึงความอับอายที่ตัวเองโดนกัด และ ‘เจ้ารุ่งเรือง’ สองสามคำนี้ ยิ่งทำให้เธอโกรธเดือดดาลเอาดื้อๆ!

เธอย่อตัวลง ใช้สองมือทิ่มไปที่หน้าอกของโจวเจ๋ออย่างหนัก ‘ฉึกๆๆๆ!!!!’ ฉันกลับมาครั้งนี้ โหดเหี้ยมมากกว่าเดิม!

โจวเจ๋อต่อสู้กับตำรวจเฉินก่อนหน้านี้ เดิมทีมีบาดแผลตามตัวเล็กน้อยอยู่ก่อนแล้ว แต่ประเด็นสำคัญคือถูกค่ายกลที่สร้างขึ้นจากเลือดของชายชราเล่นงานในวินาทีนั้น ทำให้พลังปราณพิฆาตในกายรั่วออกมาโดยตรง!

โจวเจ๋อในเวลานี้ หากจะยกตัวอย่างที่ไม่ค่อยเหมาะสมนัก ก็เหมือนรถถังที่ไม่มีเชื้อเพลิง ดูเหมือนแข็งแกร่งแน่นหนา แต่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ จึงเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างเดียว แน่นอนว่า ตำรวจเฉินอยากจะฆ่าโจวเจ๋อให้ตายจำเป็นต้องใช้เวลาสักพักหนึ่ง ถึงแม้โจวเจ๋อจะไม่สามารถป้องกันและโจมตีอย่างอื่นได้ก็ตาม แต่ต่อให้จะรื้อหอคอย ก็ยังต้องใช้เวลาช่วงหนึ่ง

“ฉันจะบดขยี้หัวใจของคุณ สร้างความปั่นป่วนในร่างของคุณทั้งหมด ปล่อยให้ร่างที่คุณภูมิใจนักหนาพังทลายลงทีละก้าวอย่างสิ้นเชิง พังพินาศย่อยยับ!”

“เหอะ…”

เวลานี้ โจวเจ๋อที่นิ่งเงียบไม่พูดก่อนหน้านั้น ร่างกายเริ่มขดตัวทันที สองมือสองเท้าคลานไปบนตัวของตำรวจเฉิน

ให้ตายเถอะ เขายังมีพลังอยู่! ตำรวจเฉินหวดหมัดออกไปเมื่อรู้ตัว ‘ปึ้ง!’ แต่สองเท้าและสองมือของโจวเจ๋อกลับเกี่ยวเธอเอาไว้แน่น และรับหมัดนี้ไปเต็มๆ

‘ฉึก!’ เขี้ยวแทงเข้าไปที่แขนซ้ายของตำรวจเฉิน โจวเจ๋อหัวเราะเสียงดังขณะที่กำลังกัดฉีกอย่างบ้าคลั่งแล้วกลืนมัน!

“ฉัน จะให้คุณกัด ให้คุณกัดไปเลย!” ครั้งนี้ตำรวจเฉินไม่คิดที่จะต่อยโจวเจ๋อกระเด็น แต่จงใจหมุนตัว ใช้มือข้างหนึ่งจับคางของโจวเจ๋อ แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งจับไปที่เขี้ยวซี่หนึ่งของโจวเจ๋อ

“ถอนฟันของคุณ ฉันสั่งให้คุณกัด กัดเลย!”

‘กรึก!’ เขี้ยวข้างหนึ่งถูกตำรวจเฉินถอนออกมาจากในปากของโจวเจ๋อ แต่โจวเจ๋อกลับไม่สนใจ เขี้ยวอีกข้างหนึ่งยังคงกัดเลือดเนื้อที่แขนซ้ายของตำรวจเฉินต่อไป แล้วบดขยี้อย่างบ้าคลั่ง!

ตำรวจเฉินจับได้อีกซี่หนึ่ง “ถอนขนของหงส์ ถอนเขี้ยวของผีดิบ เหอะๆ”

‘กรึก!’

หลังจากเขี้ยวซี่ที่สองถูกถอนออกมา พลังทั้งหมดที่อยู่ในร่างของโจวเจ๋อก็เหมือนถูกดึงออกไปจนหมด ตำรวจเฉินจับคอของโจวเจ๋อด้วยมือเดียว แล้วเหวี่ยงลงไปข้างล่างอย่างแรง!

‘ปึ้ง!’ ครั้งนี้โจวเจ๋อทรุดตัวกางแขนกางขาจริงๆ ถูกเหวี่ยงลงไปบนพื้น หน้าอกถูกทุบจนเกือบเละ ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดสด ร่างกายสั่นสะท้าน

ตำรวจเฉินหน้าอกกระเพื่อม เงาดำของสัตว์วิเศษเขาเดียวที่อยู่ด้านหลังคำรามด้วยความโกรธไม่หยุด เธอเหยียบหน้าอกของโจวเจ๋อด้วยเท้าข้างหนึ่ง สองมือดึงแขนข้างหนึ่งของโจวเจ๋อ แล้วแเริ่มออกแรงเหมือนชักเย่อ

‘กรึกกรักๆๆๆ!!!!!!!!!’ แขนข้างนี้ของโจวเจ๋อกำลังยาวขึ้น กระดูกและเนื้อที่ไหล่ถูกแยกออกมาอย่างช้าๆ เสียงเสียดสีแตกหักในส่วนลึกของกระดูก ยิ่งชัดเจนมากขึ้น!

‘เป๊าะ!’ เสียงดังชัดเจน แขนข้างหนึ่งของโจวเจ๋อหักลงมาอย่างสิ้นเชิง ร่วงอยู่ในมือของตำรวจเฉิน

บนตัวของ ‘สัตว์วิเศษ’ เลอะไปด้วยเลือดของตัวเองและโจวเจ๋อทั้งหมด ดูแล้วน่าสะพรึงกลัวสุดๆ

แขนที่เพิ่งฟื้นฟูกลับมาแค่หนึ่งวัน หักอีกแล้ว

“คุณฟังสิ นอกค่ายกล คนของคุณยังคิดจะช่วยคุณอยู่ เหอะๆ” ตำรวจเฉินชะโงกหน้าเข้าไปตรงหน้าโจวเจ๋อ “พวกเขาทำลายค่ายกลนี้ไม่ได้ อ้อไม่ บางที ก็ไม่แน่ แต่ถึงแม้พวกเธอจะสามารถทำลายค่ายกล ตอนที่พวกเธอเข้าไป คุณก็ถูกฉันชำแหละร่างมากกว่าแปดส่วนแล้ว! แต่คุณวางใจได้นะ ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณเดินทางอย่างโดดเดี่ยว ฉันจะให้พวกเขาไปเดินทางเป็นเพื่อนคุณ ตายไปด้วยกัน ใครสั่งให้คุณมาทำให้ฉันโกรธล่ะ เจ้ารุ่งเรืองคุณก็เหมาะที่จะเรียกเหรอ!!!!!!!”

มังกรมีเกล็ดย้อนใต้คอ เซี่ยจื้อก็เช่นกัน ส่วนลึกในใจของทุกคนล้วนมีเขตที่ตัวเองและคนอื่นไม่สามารถแตะต้องและยั่วยุท้าทายได้ เห็นได้ชัดว่า ครั้งนี้โจวเจ๋อไปหาเรื่องเซี่ยจื้อเข้าอย่างจัง เป็นผลทำให้สัญชาตญาณสัตว์ร้ายที่อยู่ก้นบึ้งหัวใจระเบิดออกมา

สัตว์วิเศษๆ เดิมทีมันคือสัตว์ร้ายที่ถูกเลี้ยงดูโดยพระเจ้าเหยา จึงมีนิสัยไม่ดีเป็นธรรมดา ไม่อย่างนั้นจะให้มันเป็นสัตว์วิเศษไปบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดได้อย่างไร

ตำรวจเฉินพูดจบ สองมือจับคอของโจวเจ๋อ สองเท้ากลับเหยียบไปที่แผ่นอกของโจวเจ๋อ ก้าวต่อไป เธอจะเด็ดหัวของโจวเจ๋อให้ขาด แต่ตอนที่สองมือของเธอกำลังจะจับศีรษะของโจวเจ๋อ จู่ๆ โจวเจ๋อก็หันหน้า แล้วอ้าปากกัดไปที่ฝ่ามือของตำรวจเฉิน

ตำรวจเฉินกลับหัวเราะ “คุณกัดเลย คุณกัดต่อเลยนะ เหมือนกับหมาตัวหนึ่งมากัดฉัน!”

เมื่อไม่มีเขี้ยวของผีดิบแล้วก็ไม่ต่างจากฟันของคนธรรมดาทั่วไป จะสามารถทำลายการป้องกันของตำรวจเฉินได้อย่างไร แต่โจวเจ๋อยังคงใช้แรงกัดเหมือนเดิม พยายามกัดสุดฤทธิ์

“ตลก!”

‘ปึ้ง!’

มือข้างหนึ่งของตำรวจเฉินจงใจวางที่ปากของโจวเจ๋อ เพื่อให้เขากัดต่อ ไม่ว่าอย่างไรก็กัดผิวหนังของตัวเองไม่ขาด แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งกำหมัดทุบไปที่ใบหน้าของโจวเจ๋อ!

‘ปึ้ง!’

“ไร้สาระ!”

‘ปึ้ง!’

“ไม่เจียมตัว!”

‘ปึ้ง!’

“มีความผิดมหันต์!”

‘ปึ้ง!’

“คุณจะปล่อยไม่ปล่อย”

‘ปึ้ง!’

“ยังไม่ปล่อยใช่ไหม”

‘ปึ้ง!’

“ได้ งั้นคุณกัดต่อไปเลย!”

‘ปึ้ง!’

ใบหน้าครึ่งหนึ่งของโจวเจ๋อแทบจะยุบลงไป ภายใต้การต่อยแต่ละครั้งของตำรวจเฉิน ถึงแม้จะมีกายเนื้อที่แข็งแกร่ง ไม่โดนระเบิดหัว ทว่ากลับน่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง

แต่คราวนี้เถ้าแก่โจวเล่นโหดจริง ยอมให้ศีรษะของตัวเองโดนทุบจนเละ ก็ยังไม่ยอมปล่อยอยู่ดี!

จะกัดขาดไหม เป็นเรื่องของกำลังความสามารถ แต่กัดไม่กัด ปล่อยไม่ปล่อย กลับเป็นเรื่องของทัศนคติ!

เขาไม่ยอม เขาไม่ยอมจริงๆ!

ถ้าหากไม่ใช่เพราะการโจมตีจากค่ายกลของชายชราก่อนหน้านี้ โจวเจ๋อไม่คิดว่าร่างแยกของเซี่ยจื้อตัวนี้จะสู้ชนะตัวเอง กระทั่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอขี้โกงอาศัยวิธีการเติมเลือดของชายชรา โจวเจ๋อเชื่อว่าตอนนั้นที่ต่อสู้กันในช่วงแรกตัวเองน่าจะซัดเธอหมอบราบคาบ!

ค่ายกลปิดกั้นระหว่างโลกภายในและภายนอก โจวเจ๋อไม่ได้ยินเสียงของอิงอิงและคนอื่น บางทีนี่ก็เป็นความสงบอย่างหนึ่ง ครั้งนี้ดูเหมือนคงต้องตายอย่างน่าเกลียดจริงๆ อิงอิงถ้าหากเธอได้มาเห็นกับตาตัวเอง น่าจะร้องไห้เสียใจหนักมากใช่ไหม ตัวเองก็คงรำคาญมากเช่นกัน

เมื่อก่อนคือสู้ไม่ได้ เพราะตัวเองอ่อนแอเกินไป ถูกรังแก ทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่ก้มหัวเป็นลูกน้อง

แต่ครั้งนี้ โจวเจ๋อรู้สึกจริงๆ ว่าตัวเองสามารถอาศัยพลังของตัวเองในตอนนี้ต่อสู้จนชนะ เขาสามารถต่อสู้ชนะเอาชนะได้จริงๆ แต่เพราะวิธีเช่นนี้ กลับกลายเป็นจุดจบแทน!

ถึงแม้เมื่อก่อนเขาจะมีนิสัยขี้เกียจแค่ไหน ในใจก็เกิดความคิดไม่ยินยอมเป็นอย่างมาก! แต่ความไม่ยินยอมพวกนี้ ได้แต่ยืนหยัดจนถึงที่นี่แล้ว โจวเจ๋อรู้สึกถึงความกระจัดกระจายของสตินึกรู้ของตัวเอง เขาต้านทานไม่ไหวแล้ว ถูกต่อยอย่างนี้ต่อไป อีกฝ่ายเป็นร่างแยกของเซี่ยจื้อ ถึงแม้จะใช้ร่างผีดิบของเขา ก็ยืนหยัดได้ถึงแค่นี้เท่านั้น

ทว่าเวลานี้ เสียงที่คุ้นเคยและไม่ได้ยินนานแล้วค่อยๆ ดังขึ้นมาจากส่วนลึกในหัวใจของโจวเจ๋อ ‘ทำ…ได้…ดี…มาก…แพ้…ได้…แต่…ไม่ยอม…ขี้ขลาด…’

……………………………………………………………………….

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท