ตอนที่ 710 อาหารมื้อใหญ่!
รสเปรี้ยว เป็นรสที่ใครหลายคนชอบมากที่สุด น้ำส้มสายชู จึงเกิดขึ้นเพราะเหตุนี้ หลังจากนั้นผู้คนจึงไล่ตาม ‘ความเปรี้ยว’ และค่อยๆ กลายเป็น…ความหึงหวง
เวลานี้ กลิ่นเปรี้ยวกำลังลอยคลุ้ง ประหนึ่งถังน้ำส้มสายชูแตก ไหลนองเต็มพื้น ความปั่นป่วนของทะเลน้ำส้มสายชู ก็เป็นเช่นนี้เอง
ตำรวจเฉินนอนอยู่ในหลุม เพราะเท้าเดียวของโจวเจ๋อก่อนหน้านี้ ทำให้ร่างของเธอได้รับความเสียหายอย่างหนักโดยเฉพาะกระดูกสันหลังที่เหมือนจะหักแล้ว เธอจึงยากที่จะเคลื่อนไหวต่อ จากสภาพการณ์ มีความคล้ายคลึงกับก่อนหน้านี้ที่โจวเจ๋อถูกค่ายกลที่ชายชราใช้เลือดสร้างขึ้นมาเจาะทะลุจนปราณพิฆาตรั่วเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ด้านหลังของทั้งสองคน จริงๆ แล้วมี ‘บางสิ่งขนาดมหึมา’ ยืนอยู่คนหนึ่ง
แต่ที่น่าเสียดายคือ ค่ายกลนี้ ในมุมมองของตำรวจเฉินก่อนหน้านั้น สามารถช่วยซ่อนลมหายใจของเธอ ทำให้เธอได้รับอิสระมากขึ้น แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นยันต์เร่งตายของเธอ
และที่น่าอึดอัดที่สุดคือ เพราะการมีอยู่ของค่ายกล เป็นผลทำให้เธอไม่สามารถส่งข่าวที่น่าตื่นตกใจที่เธอได้รับเมื่อครู่ออกไปข้างนอกได้อย่างสิ้นเชิง
เขา ยังไม่ตาย! ไม่น่าเชื่อว่าเขายังไม่ตาย! คนที่หักเขาข้างหนึ่งของตัวเองในตอนนั้น คนที่เตะตัวเองออกจากนรก ยังมีชีวิตอยู่!
ความเกลียดฝังลึกถึงกระดูก ความกลัวไหลเข้าสู่กระแสเลือด ทั้งเกลียดทั้งกลัว นี่อาจจะเป็นความรู้สึกส่วนลึกในหัวใจของเซี่ยจื้อที่มีต่ออิ๋งโกว
ตอนนั้น มันอยู่ในยุคที่ตัวเองรุ่งเรืองที่สุด อยากจะไปเผยแพร่ที่นรก นำความรุ่งโรจน์ของกฎหมายส่องไปถึงโลกหลังความตาย เพื่อให้ทั้งสองโลกมีระเบียบ แต่หลังจากที่พ่ายแพ้ครั้งนั้น ถึงแม้เขาจะ ‘ดับสูญ’ ไปแล้ว มันก็ไม่เคยก้าวไปเหยียบที่นรกเลยสักครั้ง
ตำรวจเฉินกำลังคิดอะไรอยู่ตรงนั้น จิตใจกำลังว้าวุ่นเรื่องอะไร โจวเจ๋อไม่มีเวลาสนใจ ตอนนี้เขากำลังโกรธ โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ!
ความรู้สึกเช่นนี้ เหมือนสามีคนหนึ่ง เพื่อครอบครัว ออกไปทำงานตรากตรำสองสามปี ตอนที่ผลักประตูหอบความดีใจกลับบ้าน กลับพบว่าในบ้านมีร้องเท้าแตะของผู้ชายคู่หนึ่ง!
เขาคืออิ๋งโกว ให้ตายเถอะ เขาเป็นอิ๋งโกวนะ ทุเรศ ไอ้ชาติชั่ว สุนัขเฝ้าบ้าน ปลาเค็มไร้อนาคต!
บางครั้ง สิ่งที่น่าเจ็บปวดใจที่สุดไม่ใช่คนที่คุณเกลียดที่สุดยืนอยู่ตรงหน้าคุณ แต่คุณกลับสู้เขาไม่ได้ แต่เป็นคนที่คุณเกลียดที่สุด ก็อยู่ใน ‘ตัวคุณเอง’
คุณยังจะทำอย่างไรได้ ต่อยตัวเองสักตาเหรอ ต่อยตัวเองฮุคซ้ายฮุคขวาเหรอ และเพราะเหตุนี้ อิ๋งโกวในเวลานี้จึงโกรธแทบระเบิดแล้ว!
เขารู้สึกเหมือนถูกหักหลัง ใช่แล้ว หักหลัง!
หลังจากความเงียบในเวลาอันสั้นของทั้งสองฝ่ายผ่านไป ตำรวจเฉินจึงขยับตัว สองมือประคองร่าง สองเท้าออกแรงพร้อมกัน หลังจากยืดตัวตรงแล้ว จึงได้ยินเสียง ‘กร๊อบแกร๊บ’ ดังมาจากกระดูกเป็นระยะ เหมือนกระดูกเชื่อมต่อกันใหม่ ทำให้เธอลุกขึ้นยืนได้ด้วยตัวเอง
เธอไม่ได้พุ่งเข้าหาโจวเจ๋อ หลังจากยืนขึ้นแล้ว เธอพยายามพุ่งออกจากค่ายกลอย่างสุดชีวิต! เธอต้องการทำลายค่ายกล เธออยากส่งข่าวนี้ไปยังร่างจริงของตัวเอง ในเมื่อเขายังมีชีวิตอยู่ อย่างนั้นเขาก็ต้องตาย! จำเป็นต้องตาย!
เพราะว่าเธอสามารถมองออกอย่างชัดเจน คนผู้นี้ถึงแม้ตอนนี้จะยังอยู่ที่นี่ แต่เขากลับไม่ใช่เขาในตอนนั้นแล้ว แก้แค้นๆๆ! ความแค้นฝังลึกถูกผูกติดไว้ตั้งแต่โบราณกาล ตกตะกอนนานนับปี จนตอนนี้สูงยิ่งกว่าภูเขา ลึกยิ่งกว่าทะเล!
การเคลื่อนไหวของตำรวจเฉิน ในที่สุดก็ดึงดูดความสนใจของโจวเจ๋อ เขาเงยหน้ามองไปทางนั้น หยุดการโกรธขึ้งบึ้งตังของตัวเองกับตัวเอง
ในที่สุด วินาทีนี้ ไฟโกรธที่สุมอกดูเหมือนจะหาจุดระบายได้เสียที! ขอตัดสินใจว่าเป็นเธอ เจ้ารุ่งเรือง!
โจวเจ๋อยังนั่งอยู่บนพื้น ฝ่ามือหนึ่งตบไปบนพื้น แล้วพูดคำราม “กา…แฟ!” ที่เขาลากเสีงยาว เป็นเพราะเขาอยากจะเปลี่ยนคำพูด แต่ยากที่จะเปลี่ยน ทว่าหากปล่อยไปแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ตำรวจเฉินจะทำลายค่ายกลเลย แม้แต่กลับไปยังร่างจริงปลุกร่างจริงให้ตื่นขึ้นมาใส่เสื้อผ้าเธอก็ยังมีเวลามากพอ!
‘ครืน!’ โซ่เหล็กห้าเส้นที่ควบแน่นไปด้วยปราณพิฆาตผุดออกมาจากใต้ดิน มีความหนามาก ทั้งดำและยาว!
เพียงชั่วพริบตาได้ปิดทางของตำรวจเฉินทันที ตอนที่ระยะห่างของเธอกับขอบค่ายกลอยู่ห่างไม่ถึงครึ่งเมตร โจวเจ๋อได้ปิดตายความหวังของเธอ!
ตำรวจเฉินหมุนตัวกลับมา มองโจวเจ๋อที่นั่งอยู่ข้างหลัง แล้วพูดคำรามเสียงทุ้มต่ำ “คุณกลัวใช่ไหม” ไม่กล้าให้ฉันไปปลุกร่างจริง คุณกลัวใช่ไหม
โจวเจ๋อหัวเราะ พยักหน้าพลางเอ่ยว่า “ใช่ ข้ากลัวแล้ว!” จากนั้นก็คือ “หนังสือพิมพ์!”
‘ครืน!’ สายลมรุนแรงสีดำแต่ละสายพุ่งปะทะลงมาโดยตรง ซ้ำแล้วซ้ำอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า ทุบไปบนตัวของตำรวจเฉินอย่างแรง ร่างของตำรวจเฉินถูกล็อก ไม่สามารถหลบหลีกได้อย่างสิ้นเชิง บวกกับลักษณะพิเศษของร่างแยกนี้ เธอมีแค่ร่างกายที่แข็งแรง แต่ไม่สามารถร่ายคาถาได้
ก่อนหน้านั้นตอนที่ต่อสู้กับโจวเจ๋อก็เป็นเช่นนี้ สุดท้ายสาเหตุที่ใช้เวลานานกว่าจะฆ่าโจวเจ๋อได้ เป็นเพราะเธอมีแค่กายเนื้อที่สามารถต่อสู้ได้ แต่ไม่มีความสามารถอย่างอื่น
และตอนนี้ ทุกอย่างแปรเปลี่ยน ถึงตาร่ายคาถาของโจวเจ๋อ! เธอใช้คาถาไม่ได้ แต่ฉันใช้ได้!
‘ครืนๆๆ!!!’ เสียงดังสนั่นติดต่อกัน ไม่มีหลุมบนพื้น เพราะลานกว้างของโรงพยาบาลกลายเป็นหลุมใหญ่หลุมหนึ่งไปแล้ว ผนังตึกใหญ่ข้างหนึ่งของโรงพยาบาลพังทลายลงมา
โจวเจ๋อลุกขึ้น ก้าวขาออกไป เดินไปตรงกลางหลุมนั่น บนตัวของตำรวจเฉินยังคงมีโซ่ตรวนอยู่ ทั้งตัวเธอเต็มไปด้วยเลือดเนื้อเละปะปนกัน เธอคลานอยู่บนพื้น ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุด เงาที่อยู่ด้านหลังจางลงเยอะมาก ไม่โอหังเหมือนก่อนหน้านี้ และตอนที่โจวเจ๋อเดินเข้าหาทีละก้าว ความหวาดกลัวที่ซ่อนอยู่ส่วนลึกในใจถูกกระตุ้นออกมา ไม่น่าเชื่อว่าจะเริ่มสั่นขึ้นมา!
พูดจริงๆ นะ ตำรวจเฉินเป็นคนสวยมาก แต่ทำไมเซี่ยจื้อถึงเลือกร่างแยกเป็นผู้หญิง โจวเจ๋อก็ไม่แน่ใจ เพราะเหมือนกับที่จนป่านนี้โจวเจ๋อก็ไม่แน่ใจว่าฮวาหูเตียวที่ตัวเองเพิ่งรับมาเป็นตัวผู้หรือตัวเมียกันแน่ ตอนนั้นอิ๋งโกวมัวแต่สั่งสอนเซี่ยจื้อที่มาหาถึงที่คิดจะลงโทษเขาจึงซัดไปหนึ่งยก จากนั้นหักเขาบนศีรษะหนึ่งข้างแล้วเอามาทำเป็นจอกเหล้า แต่ไม่เคยคิดจะจับเซี่ยจื้อพลิกตัว เพื่อดูว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมียกันแน่
ทว่าตอนนี้ตำรวจเฉินถึงแม้จะดูดีแค่ไหน หุ่นดีแค่ไหน หลังจากที่ผ่านมรสุมหนักแล้ว คาดว่าต่อให้เป็นรักแท้ ก็ไม่กล้าร้องเพลง ‘เธอคือสิ่งที่สวยงามที่สุดในใจฉัน’ ที่ขัดต่อความรู้สึกในใจแน่นอน
โจวเจ๋อโน้มตัว ขยับใบหน้าที่อัปลักษณ์ไปข้างเงาของตำรวจเฉิน แสยะยิ้ม โชว์เหงือกฟันและกระดูกขาวออกมาจากนั้นหัวเราะอย่างน่ากลัว
เงาดำไม่ขยับ ไม่กล้าขยับจริงๆ มันเป็นร่างแยกก็จริง แต่ความคิดและอารมณ์รวมถึงความทรงจำของมัน จริงๆแล้วเหมือนกับร่างจริงทุกประการ ดังนั้นมันจึงตอบสนองด้วยความรู้สึกจริงที่ร่างจริงมีต่ออิ๋งโกว!
“เจ้าเพิ่งพูดว่าข้า กลัวเหรอ” อิ๋งโกวยื่นมือเกี่ยวเงานี้ ใช่แล้ว จับเงาด้วยมือเปล่า! จากนั้น จึงค่อยๆ ดึงออกมาข้างนอกเหมือนกำลังถอนหญ้า เงาเริ่มบิดเบี้ยวและดิ้นรน แต่การต่อต้านของมัน กลับนำความสุขล้นมาให้โจวเจ๋อ
“เหอะๆ” ร่างของตำรวจเฉิน เริ่มกระตุกอย่างหนัก เหมือนถูกดึงไปพร้อมกับเซี่ยจื้อ ร่างของเธอไม่สามารถทนรับบาดแผลเจ็บหนักเช่นนี้ได้อีก และกำลังจะดับสลาย
โจวเจ๋อแสดงแววตาสับสนออกมาในดวงตา “ใจอ่อน!” ดูเหมือนกำลังต่อสู้ดิ้นรนกับความรู้สึกในจิตใจ สุดท้ายโจวเจ๋อโน้มตัว ยื่นมือตบร่างของตำรวจเฉิน จากนั้นใช้ฝ่ามือตบไปที่พื้นข้างๆ
‘ครืน!’ เสียงดังสนั่นดังเข้ามาอีกแล้ว พื้นที่อยู่ข้างๆ ถูกตีเป็นพื้นเรียบไปอีกชั้น
ร่างของตำรวจเฉินไม่สั่นอีกต่อไป กระทั่งกลับมาหายใจเป็นปกติ แผลตามร่างกายบาดเจ็บหนักก็จริง แต่ยังพอช่วยชีวิตได้
“คุณมีลูกน้องแบบนี้ จะมีประโยชน์อะไร มีแต่พวกเศษสวะ คุณยังสนใจความรู้สึกของพวกเขา คนพวกนั้นนอกจากคนแก่…”
โจวเจ๋อตัดบท แล้วมองไปที่เงานั่น จากนั้นยื่นมือจับเงาเข้ามา แล้วดึงออกไปข้างนอกอย่างไร้ความปรานี
‘กรึก!’ เงาถูกดึงออกมา แปรเปลี่ยนเป็นรูปร่างของสัตว์เขาเดียวตัวหนึ่งตรงกลางฝ่ามือของโจวเจ๋อ มันอยากจะรักษาภาพลักษณ์ของตัวเอง ไม่กลัวๆๆ ไม่กลัวจริงๆ! แต่ท่าทางแบบนั้น มองปราดเดียวก็รู้ว่ากำลังฝืนทำ จริงๆ แล้วในใจกลัวแทบตาย!
ตลกมาก สัตว์วิเศษ ไม่น่าเชื่อว่าจะกลัวคน แต่หากคิดเชื่อมโยงกับคำพูดที่ชายชราพูดก่อนหน้านี้ มันหาผ้าสีแดงมาปิดตาตัวเอง อันที่จริงสถานการณ์ในเวลานี้ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร
“พระเจ้าเหยาเลี้ยงดูเจ้าดีเกินไป เลี้ยงเจ้าตามใจเกินไป” โจวเจ๋อมองเซี่ยจื้อที่อยู่บนฝ่ามือ เหมือนกำลังคุยกับหุ่น
“พระเจ้าเหยาเสนอเจ้าออกมา แค่อยากได้หน้าเท่านั้น แต่เจ้าคิดจริงจัง คิดเป็นจริงเป็นจังเกินไป เจ้ารู้ไหมตอนแรกทำไมข้าถึงหักเขาข้างหนึ่งของเจ้า”
เงาของเซี่ยจื้อไม่ตอบ
“อย่างแรกเป็นเพราะเจ้าน่ารำคาญเกินไป รบกวนการนอนของข้า อย่างที่สองเป็นเพราะ เจ้าพูดว่าในเมื่อเป็นสัตว์วิเศษ จะเหลือสองเขาไว้บนหัวทำไม รักเดียวใจเดียวก็พอ เขาสองอันจะแหลมคมกว่าเขาเดียวได้ยังไง” ขณะที่พูด โจวเจ๋อก็หัวเราะขึ้นมาเอง “เจ้ารุ่งเรือง นี่คือพวกเราเจอกันเป็นครั้งที่สองแล้ว ข้าก็คิดอยู่ว่าข้าตื่นมาได้ยังไง ก่อนหน้านี้กินไปไม่น้อย แต่กินไม่อิ่ม แต่เป็นเพราะเจ้า ข้าถึงได้รับพลังมาเติมเต็มส่วนที่ขาดอยู่นิดหน่อยก่อนที่จะตื่นขึ้นมา ไม่อย่างนั้น ข้าคงไม่ตื่นจริงๆ”
“เมื่อครู่เจ้าพูดว่าข้ากลัว เจ้าดีใจมากใช่ไหม ใช่แล้ว ข้ากลัว เจ้ารุ่งเรืองที่อยู่ถัดไปเติบโตแล้ว จากลูกหมากลายเป็นหมาตัวใหญ่ ข้าไม่สบาย ขาเป๋ พิการ ก็ไม่กล้าตีเจ้า เพราะว่าข้ากลัวเจ้าจะกัดข้าจริงๆ แต่เจ้ารุ่งเรืองเอ๋ย เจ้าเป็นสัตว์วิเศษนะ ตอนนั้น คนตายตั้งมากมาย ข้าก็ตายแล้ว แต่ทำไมเจ้าถึงไม่ตาย เจ้าเป็นสัตว์วิเศษ ตามหลักแล้วเจ้าต้องพุ่งไปอยู่ข้างหน้าสุด เป็นคนแรกที่เสียสละเพื่อกฎหมายที่เจ้าต้องการ แต่ทำไมเจ้ากลับยังไม่ตาย เรียนอะไรไม่เรียน กลับเรียนรู้การแสร้งเป็นคนตาบอด สนุกเหรอ” ขณะที่พูด โจวเจ๋อยกมือขึ้น ส่งกำปั้นเข้าไปในปากของตัวเอง
ร่างของเซี่ยจื้อเริ่มดิ้นรนอย่างหนัก มันรู้ว่าตัวเองกำลังจะเจออะไร!!!
“เด็กดี อย่าขยับ ไม่ว่ายังไงก็ต้องถูกข้ากินอยู่ดี เจ้าไม่ต้องขยับข้าจะได้กินไปทั้งตัว ถ้าเจ้าขยับ ข้าคงต้องเคี้ยวก่อนแล้วค่อยกลืนลงไป เจ้าจะเลือกอันไหน”
“…” เซี่ยจื้อ
……………………………………………………………………….