ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 711 ใครจะตื่นจากความฝันอันยิ่งใหญ่ก่อนกัน!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 711 ใครจะตื่นจากความฝันอันยิ่งใหญ่ก่อนกัน!

หากจะพูดว่าให้เซี่ยจื้อเป็นฝ่ายเลือก สู้พูดว่าอิ๋งโกวกำลังเยาะเย้ยมันจะดีกว่า ความน่ายำเกรงของสัตว์วิเศษถูกอิ๋งโกวเหยียบย่ำบนพื้นจนแหลกเหลว

นับตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน สัตว์วิเศษเป็นผุ้กุมการตัดสินมาตลอด คอยสอดส่องไปทั่วทิศ แต่วันนี้ กลับกลายเป็นเนื้อปลาให้คนหั่นอยู่บนเขียง บวกกับครั้งที่แล้ว นี่คือร่างที่สองแล้ว

มันแทบจะเป็นตู้ขายอาหารอัตโนมัติให้อิ๋งโกวกินได้ตลอดเวลา และมีร้านสาขาอยู่ทุกพื้นที่แบบนั้น

โจวเจ๋ออ้าปากกลืนเงาดำนี้ลงไป แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดออกมาทันทีเหมือนการกินยาอายุวัฒนะ ทั้งขั้นตอนนี้ เป็นไปด้วยความเรียบง่ายอย่างชัดเจน ปริมาณอยู่ตรงนี้ ระดับอยู่ตรงนี้ และที่แย่ที่สุด สิ่งที่เห็นและประสบการณ์ก็อยู่ตรงนี้

ถ้าหากบอกว่าตอนนี้จับร่างจริงของเซี่ยจื้อมาต้มสุกแล้วกิน ไม่แน่อิ๋งโกวยังจะรู้สึกสนใจอยู่บ้าง คงหยิบตะเกียบมาเคาะข้างชาม

ตอนนี้ได้แต่กลืนร่างธรรมร่างหนึ่งของเขา ความรู้สึกแบบนี้เหมือนกับกินลูกอมหลังจากตื่นขึ้นมา แค่นั้นเอง

ทว่าในดวงตาของโจวเจ๋อเผยแววตาเศร้า เขาหมุนตัวมองไปที่ตึกใหญ่ของโรงพยาบาลที่ทรุดพัง ความทรงจำที่เจ้าเขาคู่ตัวน้อยน่ารักบุกเข้ามาในนรกอยากจะสำเร็จโทษตัวเขาในตอนนั้นผุดขึ้นมาในหัว มันในตอนนั้น น่ารำคาญก็จริง แต่มันน่ารักมากเหมือนกัน เพราะศักดิ์ศรีที่ต้องยืนหยัดในกฎหมาย ความตั้งใจที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย ดังนั้นตัวมันจึงมายังนรกมาถึงทะเลแห่งความตาย เผชิญหน้ากับเขาที่มีความ ‘อหังการ์’ แต่ยังกล้าเดินออกมา กล้าพูดออกมา กล้าด่าออกมา

ดังนั้น ครั้งนั้น เขาจึงหักเขาของมันแค่ข้างเดียว ไม่คิดจะถลกหนังเลาะกระดูกของมัน เอามาเป็นเบาะรองใต้บัลลังก์กระดูกขาวของตัวเอง ถึงแม้ตอนนั้นจะเห็นมันแอบดอดหนี ตัวเขาก็ยังรู้สึกสนุกมาก รู้สึกว่าพระเจ้าเหยาเลี้ยงสุนัขที่น่ารักมากตัวหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าผ่านไปนานกี่ปีแล้ว เจ้าตัวน่ารักในตอนนั้น ตอนนี้กลับรู้จักทำเป็นคนตาบอด มันไม่น่ารักอีกต่อไป แต่ดู…น่าเกลียดมากขึ้น

“ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ตอนนั้นกลืนเจ้าเข้าไปเลยดีกว่า อย่างน้อย ก็ยังคงความน่ารักของเจ้าได้ตลอดไป” พูดพึมพำกับตัวเอง หากจะบอกว่าพูดให้ตัวเองฟัง สู้บอกว่ารำลึกถึงเรื่องราวในอดีตแต่โบราณจะดีกว่า

โจวเจ๋อไม่รีบทำลายค่ายกลที่กำลังจะพังลงมา แต่เดินไปข้างศีรษะที่ถูกผนึกของชายชรา แล้วหยิบขึ้นมาเหมือนแตงโมลูกหนึ่งจากแผงขายผลไม้ริมทาง จากนั้นอุ้มใส่มือของตัวเอง

“คือสิ่งนั้นใช่ไหม” สายตาของโจวเจ๋อแสดงความครุ่นคิด เซี่ยจื้อมองออกถึงความผิดปกติ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมองไม่ออก

จากนั้นเตรียมจะออกแรงกลางฝ่ามือ บดขยี้ศีรษะนี้ให้แหลก แต่นิ้วมือกลับค่อยๆ กางออก “ช่างเถอะ ในเมื่อเจ้ากลัวความจนมาก ชอบเก็บของผุพังกลับบ้าน อย่างนั้นก็แล้วแต่เจ้า เมื่อก่อนรู้สึกว่านี่คือเผือกร้อนลวกมือ ขี้เกียจแตะต้อง แต่ตอนนี้ในเมื่อกลายเป็นแผ่นยากอเอี๊ยะหนังหมาติดแน่นไปแล้ว ก็ต้องฉีกให้ขาดไปเลย”

เปลวไฟสีดำลอยขึ้นมาจากฝ่ามือของโจวเจ๋อ ศีรษะกลางฝ่ามือเริ่มละลายอย่างช้าๆ ทั้งหมดนี้เหมือนได้รับ ‘การหลุดพ้น’ จากเปลวไฟสีดำ จนสุดท้าย ฝ่ามือของโจวเจ๋อเหลือเพียงลูกแก้วสีดำลูกหนึ่ง

หลังจากทำเสร็จแล้ว โจวเจ๋อหันหน้าไปทางทิศตะวันออก แล้วค่อยๆ นั่งลง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าถึงแม้จะพูดว่าฟื้นขึ้นมาได้สำเร็จ แต่ความเสียหายนี้ ก็แค่ได้รับการเติมเต็มให้ตื่นขึ้นมาได้เท่านั้น สามารถพูดได้ว่าทุกคนต่างฝืนทน ดังนั้นจึงทำอย่างไม่ค่อยสบายเท่าไร

“ผ่านช่วงนี้ไป พาข้าไปเจอเขา ขโมยของข้าแล้ว ก็ต้องเอามาคืน” เมื่อพูดประโยคนี้จบ โจวเจ๋อจึงหลับตา และค่ายกลสีแดงรอบตัวก็เริ่มแตกร้าว เสียง ‘เปรี๊ยะ’ ดังสนั่นหู ไม่ช้าจึงเหมือนห้องกระจกที่พังครืนลงมา แตกละเอียด

โจวเจ๋อรู้สึกว่าตัวเองฝันนานมาก ในความฝัน เขากำลังนอนหลับอยู่ มีคนมากมายรู้สึกว่าฝันเป็นเรื่องที่ทำให้รำคาญใจอย่างหนึ่ง และมีคนไม่น้อยที่ชอบฝันแปลกพิลึก

แต่เวลาฝัน ไม่น่าเชื่อว่าจะได้นอนหลับ ซึ่งเป็นสิ่งที่เจอได้น้อยถึงน้อยมากจริง ในความฝัน โจวเจ๋อลืมตาเป็นระยะ บางครั้งเขาพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนทะเลสีดำกว้างใหญ่ ใต้ร่างมีแพอันหนึ่ง รอบตัวมีชิ้นส่วนโครงกระดูกที่หักท่อนลอยผ่านไป มีศีรษะจำนวนมากยังร้องเรียกอยู่ตรงนั้น บริเวณที่ไกลออกไป มีผีผู้หญิงกำลังร้องโหยหวน ใต้น้ำ มีผีอาฆาตกำลังโอดครวญ แต่ทั้งหมดนี้ ไม่สามารถรบกวนความฝันที่สวยงามของเถ้าแก่โจวได้เลย

เขานอนในนี้ ไม่ขยับตัว เสียงปีศาจโดยรอบเข้าหู กลับเหมือนเป็นเพลงกล่อมเด็กก่อนนอน ผ่านไปนานพักหนึ่ง โจวเจ๋อจึงลืมตาอีกครั้ง แต่พบว่าตัวเองนอนอยู่บนบัลลังก์ที่สูงมาก ด้านล่างเต็มไปด้วยกองกระดูก ร่างของปีศาจและเทพมากมายนับไม่ถ้วนกลายเป็นหินปูพื้นที่อยู่ใต้เท้าของตัวเอง และจากตรงนี้เหมือนจะมองเห็นความกว้างใหญ่ไพศาลของนรกภูมิ

การไล่ตามอำนาจ ถูกอธิบายอย่างแจ่มแจ้งด้วยบัลลังก์นี้ นับตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน หลังจากที่กษัตริย์และขุนนางมากมายได้ลิ้มรสของอำนาจแล้ว ก็มักจะหยุดไม่ได้ แต่กษัตริย์ในโลกมนุษย์ บริหารอาณาประชาเพียงหกสิบปีเท่านั้น ทว่ากษัตริย์ในนรก กลับควบคุมการเวียนว่าตายเกิดของมนุษย์

นี่ยิ่งเหมือนยาพิษที่หอมหวาน แต่กลับไม่มีความดึงดูดต่อเถ้าแก่โจวในเวลานี้ เขาหาวหนึ่งที แล้วนอนหลับต่อ ระหว่างที่กำลังนอนหลับสนิท เหมือนจะได้กลิ่นหอมของดอกไม้ นั่นเป็นกลิ่นหอมสดชื่นที่ทำให้คนจิตใจเบิกบาน มีคนมากมายพูดว่าชอบธรรมชาติ แต่สิ่งที่พวกเขาชอบไม่ใช่ธรรมชาติแบบดั้งเดิมที่เรียบง่ายที่สุดแบบนั้น อย่างเช่น ทิ้งพวกเขาไว้บนหิมะในที่ราบสูงจนตัวสั่น หรือทิ้งไว้ในทะเลทรายปล่อยให้โดนเผาจนแห้งตาย ล้วนไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาชื่นชอบอย่างแท้จริง

ธรรมชาติที่คนส่วนใหญ่ชอบ เป็นหมู่บ้านที่มีแม่น้ำลำธารไหลผ่าน อากาศสดชื่น ใช้ชีวิตอย่างสบาย อยู่ในบ้านอย่างผ่อนคลายสบายใจ นอกบ้านมีสภาพอากาศเหมือนฤดูบไม้ผลิตลอดปี และทางที่ดีที่สุด สามารถสั่งอาหารนอกบ้านให้มาส่งได้

โจวเจ๋อพลิกตัว ขนตาสั่นเล็กน้อย ลืมตาเห็นช่องว่างอยู่เนืองๆ เขากำลังนอนอยู่บนเสื่อ เสื่อมีความเหนียวแต่ไม่แข็ง ได้กลิ่นหอมของหญ้าเขียวขจี

น่าจะเป็น ‘เสื่อทาทามิ’ สมัยโบราณอย่างแท้จริง สมัยราชวงศ์ฮั่นมีเสื่ออยู่ในบ้านถือว่าอยู่ระดับสูงสุด แต่หลังจากนั้นคนจีนเริ่มพบว่าเก้าอี้และเตียงขาสูงสบายมากกว่า เสื่อในบ้านจึงเริ่มเสื่อมถอยลงไปอย่างช้าๆ แต่สิ่งนี้กลับถูกสืบทอดมาอย่างยาวนานในประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นหมู่เกาะ จวบจนปัจจุบันแทบจะกลายเป็นนามบัตรที่มีไว้ครอบครองแต่เพียงผู้เดียวของพวกเขา

“เจี๊ยกๆๆ!” เสียงร้องของเจ้าลิง ในฐานะหัวหน้าสวนสัตว์ของ ‘สวนสัตว์ร้านหนังสือยามวิกาล’ โจวเจ๋อคุ้นชินกับเสียงนี้เป็นอย่างมาก แต่ดูเหมือนเจ้าลิงตัวนี้จะไม่ขาวใสเหมือนตัวที่อยู่ในร้านหนังสือ ตัวที่อยู่ตรงหน้าค่อนข้างดำเล็กน้อย

เจ้าลิงนั่งอยู่ข้างโต๊ะน้ำชา ถือไหเหล้าอยู่ในมือ กำลังรินเหล้าอยู่ ข้างๆ มีผู้ชายใส่ชุดสีขาวนั่งขัดสมาธิ ถือจอกเหล้าดื่มอย่างสบายใจ ตรงข้ามผู้ชาย เป็นประตูไม้ที่เปิดอยู่ ด้านนอกประตู มีดอกไม้มากมายหลากสี สวยเกินบรรยาย

สักครู่หนึ่ง ผู้ชายชุดสีขาวยื่นจอกหล้าหนึ่งจอกเข้ามา เอ่ยว่า “ตื่นแล้วเหรอ มาดื่มด้วยกันสักจอกสิ”

โจวเจ๋อง่วงมาก โจวเจ๋อขี้เกียจมาก โจวเจ๋อกลัวงานเลี้ยงมาก ดังนั้นเขารีบคลานขึ้นมาทันที รับจอกเหล้ามา เมื่อจอกเหล้าอยู่ในมือ ตอนที่เงยหน้า กลับพบว่าทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าได้เปลี่ยนไป ผู้ชายในภาพวาดที่เห็นในบ้านของมู่เฉิงเอินก่อนหน้านี้ก็กำลังถือจอกเหล้าอยู่ในมือ พลางมองเขาเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “เขาตื่นแล้วเหรอ เจ้าต้องพาเขามาหาข้าใช่ไหม”

โจวเจ๋อพูดไม่ออกในทันใด

“อย่างนั้นเหรอ จะพาเขามาพบข้าใช่ไหม! จะพาเขามาหาข้าใช่ไหม! เขาจะต้องเกลียดข้ามากแน่นอน จะต้องเกลียดมาเป็นแน่ ฮ่าๆๆๆๆๆ!!!!!”

ภาพเริ่มบิดเบี้ยว เสียงหัวเราะเริ่มเลือนราง และสิ่งที่พร่าเลือนไปพร้อมกัน คือสายตาที่มองเห็นสิ่งรอบตัว

โจวเจ๋อพบว่าตัวเองกำลังถือไวน์แดงแก้วหนึ่ง นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำ นอกหน้าต่างเป็นทะเลสีฟ้าครามสดใส

“คุณคิดว่า ฉันใส่สีเนื้อหรือสีดำสวยกว่า” เสียงที่ทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าดังเข้ามาจากนอกผ้าม่านกั้นอาบน้ำ โจวเจ๋อยื่นมือเปิดผ้าม่านกั้นอาบน้ำออก เห็นหมอหลินใส่เสื้อเชิ้ตของผู้ชาย กำลังยืนอยู่ตรงหน้าต่าง บนเตียง กลับมีถุงน่องหลายแบบวางกองเต็มไปหมด และยังมีถุงน่องเต็มตัวแบบเปิดเป้าตรงกลางด้วย สะดวกสบายเป็นอย่างมาก

ลิ้นของโจวเจ๋อรู้สึกแห้งเล็กน้อย หมอหลินดูเหมือนจะใส่เสื้อเชิ้ตของเขา แต่ร่างกายท่อนล่างกลับเปลือยล่อนจ้อน

ต้นขาเรียวยาวขาวนวลเนียน ไม่ผอมแห้งเหมือนท่อนไม้ มีความอวบอิ่มมาก ยามมือสัมผัสให้ความรู้สึกดีมากนุ่มสบายอยู่ไม่น้อย อ้วนไปหน่อยจะเบื่อง่าย ผอมไปนิดก็ไม่ดี ทุกอย่างกำลังพอดี

โดยเฉพาะตอนที่เธอหันหลังให้โจวเจ๋อโน้มตัวเก็บของบนเตียง เห็นแล้วอารมณ์ดีจริงๆ มีส่วนโค้งส่วนเว้า

“หรือว่า ไม่ต้องใส่เลยจะดีกว่า” หมอหลินหันมา

โจวเจ๋อปล่อยผ้าม่านลงเมื่อรู้ตัว กลับไปนั่งในอ่างอาบน้ำใหม่อีกครั้ง หัวใจเต้นรัวตึกตักๆ บรรยากาศที่ชุ่มชื่นและอบอุ่นหายไปอย่างรวดเร็ว เพราะโจวเจ๋อเห็นตัวเองไม่ได้นอนอยู่ในอ่างอาบน้ำแล้ว แต่นอนอยู่ใต้สระน้ำที่ปกคลุมไปด้วยหญ้าสีดำ ใบหน้าครึ่งหนึ่งของผีสาวไร้หน้าอยู่ข้างกายตัวเอง

น่าตกใจเป็นอย่างมาก น่าตกใจจริงๆ บรรยากาศน่ากลัว คนก็น่ากลัว แม้แต่อากาศก็ยังคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นที่น่าตกใจกลัว แต่โจวเจ๋อกลับอยากหัวเราะ และยิ่งนานก็ยิ่งกลั้นหัวเราะไม่อยู่

“ฮ่าๆๆๆๆๆ…”

คนแรกที่กลั้นขำไม่อยู่คือผีสาวไร้หน้า เธอหัวเราะหน้าชื่นบาน ถ้าหากมองข้ามใบหน้าของเธอที่ไม่มีเครื่องหน้าทั้งห้า ถ้าหากมองแต่ข้างหลังของเธอ น่าจะสวยมาก แต่ในเสียงหัวเราะ เริ่มมีเสียงร้องไห้ โจวเจ๋อมองส่วนที่ยุบลงไปตรงหน้า มีโลงศพสีดำโลงหนึ่ง มีเด็กสาวคนหนึ่งกำลังนั่งร้องไห้อยู่ในโลงศพ ร้องไห้เสียใจมาก เศร้าโศกเสียใจมาก ร้องจนหัวใจดวงนี้ของโจวเจ๋อรู้สึกสับสนวุ่นวาย ถูกรั้งดึงอยู่ตรงนั้น

นี่คือความรู้สึกที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอร้องไห้เพราะอะไร ทำไมเธอถึงร้องไห้

“เถ้าแก่ ข้าเหงามาก ข้าว้าเหว่ ไม่มีท่าน ข้าจึงต้องกลับไปอยู่ในโลงศพ”

เป็นอิงอิง! ร่างของโจวเจ๋อสั่นสะท้าน รีบคลานขึ้นมา ยื่นมือจับไปที่โลงศพนั่น ‘เอี๊ยด!’ ฝาโลงศพหล่นลงไปทันที ส่งเสียงดัง ‘โครม’

โจวเจ๋อตาโต จากนั้นเหมือนคนที่ได้รับการช่วยเหลือหลังจากตกน้ำ เริ่มหายใจหอบใหญ่! เสียงโห่ร้องไชโยตื่นเต้นดีใจดังมาจากข้างๆ เสียงดังชัดเจน และไพเราะมาก “เถ้าแก่ ท่านตื่นแล้วเหรอ!”

……………………………………………………………………….

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท