ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 720 มีปัญหา

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 720 มีปัญหา

ชีวิตนักศึกษาช่างดีจริงๆ ทนายอันยืนทอดถอนใจอยู่บนดาดฟ้า ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว แต่เมื่อทอดตามองลงไปข้างล่าง ยังคงมีเสียงผู้คนเซ็งแซ่

ถึงแม้หลายปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยจะรับนักศึกษาเข้าศึกษาต่ออย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีมหาวิทยาลัยเอกชนด้วยก็ตาม แต่นักศึกษานับวันยิ่งไร้คุณค่า

ทว่าสามารถใช้ชีวิตอิสระตามใจตัวเองอย่างไร้กังวลเป็นเวลาเกือบสี่ปี ถือว่าเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดเรื่องหนึ่ง

“ดังนั้น ทำไมคุณถึงกระโดดตึก” มีชีวิตอยู่ดีๆ ไม่ดีเหรอ หรือว่ามีเหตุผลอย่างอื่น ทนายอันหยิบยันต์กระดาษหนึ่งแผ่นออกมาจากกระเป๋า นี่คือยันต์กระดาษที่วาดโดยสวี่ชิงหล่าง เป็นเวลานานมาก สวี่ชิงหล่างเพื่อฝึกฝนการวาดยันต์ เขาได้วาดยันต์ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ในระดับต่ำเป็นจำนวนมาก

และยันต์กระดาษเหล่านี้ โดยทั่วไปนำมาแจกจ่ายทีละมากๆ อย่างไรก็ตามต้นทุนของยันต์กระดาษก็ไม่ต่ำ แต่ขายเป็นกระดาษเสียก็ไม่คุ้มค่า

นักพรตเฒ่าเก็บสะสมไว้มากมายเหมือนเจอสมบัติ ตอนนั้นทนายอันเก็บแค่ยันต์บางส่วนที่ตัวเองคิดว่าน่าสนใจพอเป็นพิธี

ยันต์กระดาษนี้ใช้งานง่ายมาก ทว่าในระดับหนึ่งแล้วไม่ค่อยมีประโยชน์แต่ก็ขาดไม่ได้ แค่เอาแปะไว้ที่หน้าผากของตัวเองเพื่อระงับความโกรธคลั่งของตัวเอง ปล่อยให้ตัวเองกลายเป็น ‘คนป่วย’ หรือ ‘โดนของเข้า’ เวลาที่เชิญผีสิงร่างก็สามารถใช้อันนี้ได้เช่นกัน สร้างบรรยากาศที่ดีให้ผีเข้ามาสิงร่างได้สะดวก

ก่อนหน้านี้อิ๋งโกวมียาน้ำสีดำ ได้ผลดีกว่ายันต์กระดาษมาก แต่ครั้งที่แล้วให้เถ้าแก่ใช้จนหมด จึงไม่มีทางอื่น ของดีใช้ไม่ไหว จึงต้องฝืนใช้ของเก๊ของเหล่าสวี่ก่อน

ทนายอันเอายันต์แปะที่หน้าผากของตัวเอง และต้องควบคุมตัวเองไม่ให้ต่อต้านมัน เดินโซเซ ตัวเอนไปมา เหล่าจางที่อยู่ข้างๆ ดูแล้วใจเต้น กลัวว่าทนายอันจะตกลงไป ถ้าหากตกลงไปตายแบบงุนงงจริงๆ เช่นนั้นคงบันเทิงน่าดู

ทนายอันไม่ได้ตกลงไปจริงๆ ดวงตาของเขาหรี่ตามองไปลงข้างล่าง จากนั้นด้านล่างทุกอย่างปกติ ทนายอันกัดฟัน ด้วยความจนใจเป็นอย่างยิ่ง เขามองเหล่าจางที่อยู่ข้างๆ หนึ่งที แล้วพูดอย่างไม่พอใจ “เพื่อนร่วมงานของคุณไปกันหมดหรือยัง”

“ไปกันหมดแล้ว”

“อย่างนั้นคุณก็ลงไปด้วย อย่าอยู่ตรงนี้”

“ผม” เหล่าจางชี้มาที่ตัวเอง

“คุณยืนอยู่ตรงนี้ด้วยจิตวิญญาณที่ซื่อตรงยิ่งใหญ่ระบือไกล แล้วของอะไรจะกล้าออกมา”

“เอ่อ…ครับ”

เหล่าจางเดินลงไป ระหว่างที่เดินลงไปยังขบคิดว่าอะไรคือจิตวิญญาณที่ซื่อตรงยิ่งใหญ่ระบือไกล

จากนั้น ทนายอันถึงได้ยืนตัวมั่นคงอีกครั้ง รวบรวมสติใหม่ ร่างกายเริ่มไหวเอนขึ้นมาอย่างช้าๆ ต่อจากนั้นก้มหน้าทอดมองไปข้างล่าง

ตุ๊กตาผ้าที่อยู่ข้างล่างยังคงไหวเอนไม่หยุด แต่กลับเริ่มไหวเอนด้วยท่าทางที่แปลกไป ราวว่ามันไม่ได้ลอยตามสายลมอีกต่อไป แต่นั่งไกวชิงช้าไปมาไม่หยุด

“ฮิๆๆ…”

“ฮ่าๆๆ…”

เสียงเด็กหัวเราะดังขึ้นมา ไพเราะสดใส แต่ด้านล่างที่อยู่ตรงหน้า กลับกลายเป็นบ่อสุราป่าเนื้อ สาวสวยมากมายนับไม่ถ้วนเดินสวนกันไปมา ใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น เปิดโชว์อ้าซ่า โชว์ทุกท่วงท่าให้คุณผู้ชายได้เด็ดดม ทนายอันคอแห้งทันที แม่งเอ๊ย ในใจของตัวเองกำลังคิดถึงสิ่งนี้พอดี! เขายกเท้าเมื่อได้สติ แล้วเหยียบลงไป

ด้านล่าง ตุ๊กตาผ้ามีหนวดเล็กสองข้างบนใบหน้าเผยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้งออกมา แต่ไม่ช้า มันก็ตกตะลึงเพราะมันไม่เห็นคนนั้นที่อยู่ข้างบนกระโดดลงมา แต่กลับหมุนตัวเดินถอยกลับไป

‘ฉึบ!’ ทนายอันดึงยันต์กระดาษบนหน้าผากของตัวเองลงมา แล้วตบมือ กลับพบว่าตอนนี้ตัวเองมีแขนข้างเดียว จึงตบต้นขาของตัวเองอย่างจนใจ “แปะๆๆ!”

“พี่น้อง ในที่สุดก็หานายเจอแล้ว!”

นักพรตเฒ่าไปดูแลเจ้าลิง เขาไม่ใช่คนอ่อนแอ ชีวิตของเขา ตั้งแต่เกิดมาจนอายุเจ็ดสิบต้นๆ ถือว่าไม่ง่ายเลย ไม่สบายใจอย่างไรก็คือไม่สบายใจ แต่เขายังยืนหยัดได้ อะไรควรทำก็ทำ จะไม่ทำตัวเองให้เครียดเหงาหงอยทั้งวัน หลังจากตั้งค่าเบอร์โทรของผู้หญิงคนนั้นเข้าบัญชีดำแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์แล้วโทรมาหาอีกหลายครั้ง นักพรตเฒ่าจึงได้แต่ปิดเครื่อง โลกจึงสงบลงในที่สุด

ช่องข่าวทีซีทีวีเริ่มออกอากาศข่าวด้วยเวลาอันรวดเร็ว ขณะเดียวกัน วิดีโอสัมภาษณ์บนเวยป๋อเริ่มกลายเป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง เวยป๋อสองสามโพสต์แรก เดิมทีมีการแสดงความคิดเห็นจากบัญชีคนดังในท้องถิ่นสิบกว่าข้อความ แต่กลายเป็นคำค้นหายอดฮิตห้าอันดับแรกอย่างฉับไว

อินเทอร์เน็ตเดิมทีเป็นสถานที่แห่งการแสวงหาชื่อเสียงและผลประโยชน์ที่คุยโวโอ้อวดเกินจริงอยู่แล้ว ดูเหมือนจะสวยงาม แต่กลับสวมผ้าคลุมหน้าเพื่อผลประโยชน์ได้อย่างง่ายดาย

และในนี้ กระแสนิยมสามารถกลายเป็นเงินสะพัดได้ และเงินก็สามารถนำมาใช้เหมือนเผาทิ้งเพื่อสร้างกระแสได้เหมือนกัน ไม่ช้า วิดีโอที่นักข่าวช่องเล็กสัมภาษณ์คุณป้าท่านหนึ่งได้ปรากฏขึ้นท่ามกลางสายตาของบัญชีผู้ใช้งานมากมายอย่างต่อเนื่อง ในวิดีโอ คุณป้าร้องไห้โฮอยู่ในหอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัย ร้องไห้สะอึกสะอื้น ลมหายใจยาวไม่ขาดช่วง แฝงไว้ด้วยท่วงทำนองโบราณ

จริงๆ แล้ว ผู้หญิงในหลายพื้นที่ล้วนเป็นนักร้องตั้งแต่เกิด งานศพในชนบท เหล่าภรรยาของผู้ชายที่ปกติมักจะแช่งให้อีกฝ่ายตายไปเร็วๆ มีช่วง ‘ร้องไห้’ โดยเฉพาะที่โถงตั้งศพด้วย

โจวเจ๋อรู้สึกมาตลอดว่าภูมิปัญญาของคนโบราณน่านับถือเป็นอย่างยิ่ง จะต้องเป็นเพราะชีวิตในสมัยโบราณมีแรงกดดันมากเกินไป ดังนั้นจึงถือโอกาสนี้มอบสถานที่ระบายอารมณ์ให้กับทุกคน ร้องไห้น่าสงสาร ร้องไห้จนฟ้าดินสะเทือนเลื่อนลั่น ประหนึ่งวงร้องเพลงประสานเสียง ‘ประชันเสียง’ ขึ้นๆ ลงๆ

ผู้หญิงกำลังร้องไห้พร้อมกับเล่าเรื่องราวอย่างชัดเจน และเธอได้ใช้เล่ห์กลอีกเล็กน้อย คนเห็นแก่ตัว มักจะไม่โง่โดยทั่วไปเป็นผู้ที่เห็นผลประโยชน์ส่วนตนที่ชำนาญการ

เธอบอกว่าลูกชายของตัวเองถูกหลอกให้มาเรียนมหาวิทยาลัย ที่บ้านจนมาก จนจนไม่มีข้าวจะกิน ลูกชายกตัญญูมาก เดิมทีอยากตอบแทนครอบครัว ออกไปทำงาน แต่ถูกคนหลอกเขาบอกว่าจะส่งเขาเรียนมหาวิทยาลัย ลูกชายจึงเชื่อมาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เป็นนักศึกษาดีเด่น แต่คนนั้นที่ตกลงแล้วว่าจะส่งเสียเขาเรียนหนังสือก่อนหน้านี้ กลับไม่รับโทรศัพท์แล้วหายตัวไปเลย

เมื่อเล่าถึงตรงนี้ กลับไม่สามารถดึงดูดความเห็นใจจากชาวเน็ตได้ ดังนั้นไม่รู้ว่าเป็นเพราะความฉลาดของคุณป้าคนนี้ หรือว่าเป็นผลมาจากนักข่าวที่ถ่ายทำวิดีโออยู่ข้างๆ ผู้ช่วยเหลือทางการเงินคนนั้นจึงถูกพูดถึงจนกลายเป็นนักพรตที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง มาเผยแพร่ลัทธิเต๋า บอกว่าต้องการทำความดีในโลกมนุษย์แทนเทพเจ้าสูงสุดทั้งสามพระองค์ ผลปรากฏว่าหลังจากถ่ายรูปเพื่อทำการโปรโมตเสร็จแล้ว ก็หายตัวไปเลย และยังเก็บเงินบริจาคที่ได้จากการโปรโมตทางสังคมครั้งนี้ไปเป็นจำนวนมาก

สองสามปีที่ผ่านมา เรื่องดาราหลอกเงินบริจาคเกิดขึ้นมาไม่ขาดสาย หลังจากเรื่องราวถูกโยงมาถึงตรงนี้บนอินเทอร์เน็ตจึงมีกลุ่มคนที่โกรธเคืองเรื่องนี้ทันที เพราะมันไม่ใช่แค่การฉ้อโกง แต่เป็นการหลอกเอาเงิน!

ในวิดีโอ นักศึกษาที่กระโดดตึกฆ่าตัวตาย ถูกสร้างให้เป็นนักศึกษาชั้นดี การเรียนดีเด่น ขยันหมั่นเพียนตั้งใจเรียนใครเห็นใครก็รัก ดอกไม้เห็นยังต้องแย้มบ้านต้อนรับ อาจารย์และเพื่อนนักศึกษาต่างชูนิ้วโป้งชื่นชม

แต่คนที่ช่วยเหลือทางการเงินคนนั้น กลับเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยม หลอกลวง ฉ้อโกง ใจดำ ไร้ยางอาย หลังจากเด็กเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว พบว่าไม่มีคนช่วยเหลือทางการเงิน พ่อแม่ของตัวเองล้วนป่วยหนัก ถึงแม้ในวิดีโอ ผู้หญิงจะร้องไห้เสียงดังมาก แต่เธอบอกว่าเธอป่วยหนัก ก็คือป่วยหนัก

หลังจากไม่มีคนช่วยเหลือด้านทุนทรัพย์ เด็กจึงรู้สึกว่าการเรียนมหาวิทยาลัยของตัวเองเพิ่มแรงกดดันให้พ่อแม่คิดไม่ตก จึงฆ่าตัวตาย

คุณป้าร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในวิดีโอ วอนขอคนใจดีในสังคมให้ช่วยเหลือ เธออยากฟ้องมหาวิทยาลัย เธออยากฟ้องคนที่ช่วยเหลือทางการเงินคนนั้น!

โจวเจ๋อเลื่อนหน้าฟีดโทรศัพท์ และหัวเราะไปพลาง ไม่โกรธเลยสักนิด

อิงอิงก็เห็นข่าวพวกนี้ จึงวางโทรศัพท์ลง มองเถ้าแก่ของตัวเองด้วยความประหลาดใจ แล้วถามว่า “เถ้าแก่ ท่านไม่โกรธหรือเจ้าคะ”

โจวเจ๋อส่ายหน้า “โกรธทำไม”

“อ๋า เอ่อ…” อิงอิงทำปากจู๋

“ลูกชายตายแล้ว ป้าแก่ๆ ทั่วไปถูกมหาวิทยาลัยแจ้งให้มาที่มหาวิทยาลัย จะไปหานักข่าวที่ไหนมาถ่ายวิดีโอว่าตัวเอง ‘ถูกเอาเปรียบ’ บนโลกนี้มีนักข่าวจิตใจดีมีคุณธรรมอยู่ก็จริง รวมทั้งในประเทศของพวกเราด้วย แต่ก็มีนักข่าวที่ทำตัวยิ่งใหญ่อยากเปิดโปงความจริงกระทั่งไม่สนใจความปลอดภัยของคนอื่น แต่พวกเขาไม่ว่าอย่างไรก็มีจำนวนน้อย และด้วยความบังเอิญได้เจอแหล่งข้อมูลนี้ตอนมาเดินเล่นที่มหาวิทยาลัยพอดี จึงเตรียมเป็นกระบอกเสียงเพื่อทวงความยุติธรรม”

“เถ้าแก่ ความหมายของท่านคือ ถูกจัดไว้แล้ว”

“ได้ขึ้นคำค้นหายอดฮิต คุณรู้ไหมว่าต้องจ่ายเงินเท่าไร”

อิงอิงส่ายหน้า แต่ก็ยังเอ่ยพูดว่า “แต่ก็น่าจะแพงมาก”

“ใช่ น่าจะไม่ถูก เธอไม่มีเงินมากขนาดนั้น และทำเรื่องใหญ่โตแบบนี้ไม่ได้”

“อย่างนั้นสิ่งที่พูดในวิดีโอ…”

“ก็พอได้ จริงๆ แล้วมีหลายส่วนที่ถูกฝืนโยงมาเกี่ยวกัน สามารถดึงดูดคนที่ไม่มีหัวสมองบางส่วนที่เข้ามาดูนิดเดียวก็ช่วยเรียกร้องความยุติธรรมแล้วได้ แต่รายละเอียดและตรรกะมากมายที่อยู่ในนี้ ทนรับการพินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วนไม่ได้หรอก”

“นั่นสินะเจ้าคะ พวกเขาเดิมทีพูดคำหลอกลวง นักพรตเฒ่าดีขนาดนั้น…”

“นี่คือความจงใจ”

โจวเจ๋อพูดตัดบทอิงอิง อิงอิงกะพริบตาปริบๆ เห็นได้ชัดว่า นับตั้งแต่ผีดิบสาวตื่นขึ้นมา ถึงแม้จะเรียนรู้และหลอมรวมเข้ากับยุคสมัยนี้อย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าอยากให้เธอเข้าใจกลลวงเหล่านี้บนอินเทอร์เน็ต ถือว่ายากสำหรับเธอ

และที่สำคัญที่สุด ความรู้ที่เธอมีต่อโลกใบนี้ ส่วนใหญ่มีเป้าหมายเพื่อให้ตัวเองดูแลรับใช้อยู่ข้างกายโจวเจ๋อได้สะดวก สำหรับสังคมนี้ สำหรับโลกมนุษย์นี้ สำหรับมวลมนุษย์ แท้จริงแล้วในใจของเธอเฉยชาเป็นอย่างมา

“ชี้ชัดเกินไปในคราวเดียว แต่งเรื่องโกหกเหมือนเรื่องจริงเกินไป ก็คือการยกก้อนหินทุบใส่เท้าของตัวเอง มีเพียงพูดเรื่องไม่จริงเล็กน้อยอย่างนี้ ทำให้คนบางส่วนได้สติบ้าง แล้วค่อยพลิกสถานการณ์ทั้งเรื่อง ผลลัพธ์ถึงจะดีที่สุด คนโง่โดยทั่วไปจะไม่คิดว่าตัวเองโง่ คนโง่มักจะคิดว่าตัวเองฉลาดมาก ดังนั้นถ้าหากพวกเขาพบว่าตัวเองโดนหลอก มักจะขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมาก คนฉลาดอย่างฉัน โดนคนอย่างคุณหลอกลวง เลวมาก!”

โจวเจ๋อวางโทรศัพท์ลง เอนตัวพิงไปด้านหลัง

“ดังนั้น เถ้าแก่ นี่คือการจัดการของทนายอัน”

“น่าจะใช่ คนตายแล้วยังไม่พอ กะจะให้คนเสื่อมเสียชื่อเสียงให้ถึงที่สุด เหล่าอันครั้งนี้ ลงทุนเยอะมากจริงๆ”

“เขามีเงิน”

“ก็จริง”

โจวเจ๋อเหมือนนึกอะไรได้ แล้วจึงพูดเตือนอิงอิง “ช่วงเย็นสองสามวันนี้คอยสังเกตหน่อย รูปภาพของหมาป่าตาขาวคนนั้น คุณเคยเห็น ดูว่าเขาจะมาที่ร้านหนังสือของพวกเราไหม”

โจวเจ๋อจำได้ว่าเมื่อก่อนเคยเห็นอาจารย์ที่สวมหมวก ‘เดรัจฉานในคราบมนุษย์’ ครั้งนี้เขาอยากรู้ว่าหมาป่าตาขาวตัวนั้นจะมีภาพลักษณ์เป็นแบบไหน

เวลานี้โทรศัพท์ของโจวเจ๋อดังขึ้น เป็นสายของทนายอัน

“ฮัลโหล เถ้าแก่”

“ผมเอง”

“ตรวจเจอสาเหตุการตายแล้ว ไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่ถูกฆ่า” ในนี้ มีอะไรไม่ชอบมาพากล

……………………………………………………………………….

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท