บทที่ 76 ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์กับผู้หญิง
แล้วสวี่รั่วฉิงก็เอาโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรไปที่โทรศัพท์ในบ้าน
“พี่ โทรศัพท์จากแม่” สวี่อี้หานเอาโทรศัพท์ยื่นให้กับเด็กผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ
สวี่อี้ฝานรับโทรศัพท์มา ราวกับเป็นผู้ใหญ่ตัวเล็ก ๆ ยังไงอย่างงั้น “คุณแม่ วันนี้คุณแม่ไปไหนอีกแล้วครับ? เมื่อกี้ผมเช็กแล้วว่าวันนี้คุณพ่อออกไปดูงานที่อื่นแล้ว ไม่อยู่ในลี่ซื่อกรุ๊ป”
นอกเหนือไปจากนั้นแล้ว สวี่รั่วฉิงน่าจะเลิกงานกลับบ้านมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าทิ้งให้พวกเขาที่เป็นเด็กสองคนกินอาหารตามสั่ง!
สวี่รั่วฉิงเงียบไปครู่หนึ่ง คำพูดที่อยากจะพูดแต่แรกโดนกลืนกลับเข้าไปในท้อง “อี้ฝาน แม่บอกกับหนูหลายครั้งแล้วใช่ไหมว่า ถึงแม้ว่าหนูจะฉลาดมาก แต่ว่าโปรแกรมเมอร์ของลี่ซื่อกรุ๊ปก็ไม่ได้ง่าย ๆ ขนาดนั้นนะ หนูเจาะเข้าไปทุกวัน ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะต้องพบเห็นหนูเข้าแน่ ๆ!”
“คุณแม่ ตอนนี้อยู่ไหนครับ? ฟังจากเสียงแล้วไม่เหมือนว่าอยู่บนถนนเลยครับ” สวี่อี้ฝานเบี่ยงเบนหัวข้อสนทนาไป “พวกเรากำลังจะสั่งอาหารกัน จะต้องช่วยสั่งให้คุณแม่ไหมครับ?”
สวี่รั่วฉิงขยับโทรศัพท์ออกมา แล้วมองดูเวลาเล็กน้อย เวลาใกล้จะหกโมงแล้ว
จากที่นี่กลับไปบ้านก็จะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง กลับไปถึงบ้านเธอก็คงจะไม่อยากจะทำกับข้าวแล้ว ก็เลยเห็นด้วยกับข้อเสนอของสวี่อี้ฝาน
“ช่วยสั่งพิซซ่าให้แม่ที่หนึ่งละกัน”
“อืม ได้ครับ”
“แม่กลับไปคงจะต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมง ถ้าอาหารมาส่งแล้ว พวกหนูสองคนกินไปก่อนเลยนะ” สวี่รั่วฉิงพูดแล้ว ก็เก็บข้าวของของตัวเองขึ้นมา แล้วเตรียมเอาน้ำหอมมอบไว้ให้กับพนักงานของร้าน แล้วตัวเองก็จะจากไปก่อน
เมื่อกี้พนักงานของร้านบอกเธอว่า หญิงชราท่านนั้นได้เตรียมไขชะมดและม่อเย่าวางไว้ที่ชั้นล่างให้เธอแล้ว สวี่รั่วฉิงสามารถเอาไปได้ทุกเมื่อ
ถึงแม้ไม่รู้ว่าหญิงชราท่านนั้นชื่อว่าอะไร แล้วรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
สวี่รั่วฉิงวางสายโทรศัพท์ลง แล้วเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋า และขวดหยิบน้ำหอมที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา แล้วออกจากห้องไป
พอเธอเพิ่งเดินลงมาถึงชั้นล่าง แล้วก็พูดกับพนักงานของร้านว่า “น้ำหอมของคุณท่าน ฉันได้ปรุงเสร็จแล้ว วางไว้ที่นี่นะคะ พอถึงเวลาต้องรบกวนคุณช่วยพูดกับคุณท่านสักหน่อยนะคะ ที่บ้านฉันยังมีคนรอฉันอยู่ ฉันไม่ค่อยสะดวกที่จะกลับดึกมากค่ะ”
พนักงานของร้านเอาไขชะมดและม่อเย่าที่ห่อเรียบร้อยแล้วมอบให้สวี่รั่วฉิง “คุณผู้หญิงวางใจได้ค่ะ ฉันจะมอบให้คุณท่านเองค่ะ”
สวี่รั่วฉิงพยักหน้าเล็กน้อย แล้วถึงได้วางใจจากไป
จนถึงตอนที่เธอจากมา สวี่รั่วฉิงก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าตกลงหญิงชราที่ลึกลับท่านนี้เป็นใครกันแน่
เธอนั่งอยู่บนรถ พอครุ่นคิดไปครู่หนึ่งแล้ว ก็แกะห่อเครื่องหอมที่ห่อเรียบร้อยออก
แค่ชั่วพริบตา ดวงตาที่ไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใดของสวี่รั่วฉิงก็มีแววแปลกใจโผล่ขึ้นมา
กลิ่นหอมแบบนี้……ถึงแม้ว่าเมื่อกี้ตอนที่อยู่ในร้านนั้น สวี่รั่วฉิงจะพบว่าเครื่องหอมภายในร้านนั้นดีกว่าของตลาดทั่วไปเป็นอย่างมาก แต่ว่าเครื่องหอมที่หญิงชรามอบให้เธอนี้ ไม่ใช่เครื่องหอมที่ดีทั่วไปแน่นอน
คาดว่าตระกูลผู้ดีในต่างประเทศถ้าอยากจะได้เครื่องหอมที่มีคุณภาพแบบนี้ก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แน่
สวี่รั่วฉิงเอาเครื่องหอมเก็บไว้ให้ดี และวางไว้อีกข้างหนึ่ง
หลังจากที่สวี่รั่งฉิงจากไปแล้วหนึ่งชั่วโมง
คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ก็กลับมาถึงร้าน
“คุณท่าน กลับมาแล้วเหรอคะ” พนักงานหญิงของร้านโค้งคำนับให้ทีหนึ่งอย่างมีมารยาท “คุณผู้หญิงคนเมื่อกี้ได้จากไปแล้วค่ะ นี่คือน้ำหอมที่เธอปรุงให้คุณท่านค่ะ”
พอพนักงานหญิงพูดจบ ก็หยิบน้ำหอมขวดหนึ่งที่ห่ออย่างเรียบง่ายจากชั้นวางที่อยู่ข้าง ๆ มา
พอคุณนายใหญ่ตระกูลลี่ได้ยินว่าสวี่รั่วฉิงจากไปแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างเสียดายทีหนึ่ง
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าสายที่โทรเข้ามาของลูกสะใภ้เธอนั้น คาดว่าเธอคงจะยังคุยเรื่องเครื่องหอมกับเด็กสาวอยู่ในร้านอีกแน่
คุณนายใหญ่ตระกูลลี่สั่งให้เลขาของตัวเองเปิดขวดน้ำหอมออก จากนั้นก็ฉีดเบา ๆ ที่ข้อมือทีหนึ่ง
“คุณท่านครับ น้ำหอมนี้มัน……” ดวงตาที่ปกตินิ่งสงบของเลขาค่อย ๆ ลืมตาโตขึ้น รู้สึกมีความเหลือเชื่ออยู่บ้าง
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เหมือนกับพวกนักปรุงน้ำหอม ที่เชี่ยวชาญเรื่องน้ำหอม
แต่ว่าติดตามอยู่ข้างกายคุณนายใหญ่ตระกูลลี่มานาน ความสามารถที่จะแยกแยะน้ำหอมดีหรือไม่ดีนั้นก็พอมีอยู่บ้างนะ
คุณนายใหญ่ตระกูลลี่พยักหน้าเล็กน้อย “เป็นน้ำหอมที่ดีมาก ก่อนปรุงระหว่างปรุงและหลังปรุงผสมผสานกันได้อย่างละเอียดอ่อนและงดงาม…ถ้าไม่ใช่ปรมาจารย์ก็ยากมากที่กะประมาณได้พอดีแบบนี้ แล้วถึงแม้จะเป็นปรมาจารย์ ก็ไม่ใช่ว่าแค่ไม่กี่วันก็จะสามารถผสมออกมาได้อย่างสมบูรณ์ได้ แต่ผู้หญิงคนนี้กลับใช้เวลาไปแค่บ่ายเดียวเท่านั้น”
คุณนายใหญ่ตระกูลลี่อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ ผู้หญิงที่มีพรสวรรค์ในการปรุงน้ำหอมแบบนี้ แต่กลับไร้วาสนากับตระกูลลี่
พอคิดมาถึงตรงนี้ คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง
หน้าตาดูดีกว่าสวี่รั่วยี ความสามารถในการปรุงน้ำหอมก็สูงกว่าสวี่รั่วยี ดวงตาดูสะอาดสดใส ดูไม่มีเล่ห์เหลี่ยมมากนัก
ผู้หญิงแบบนี้ ถ้าสามารถแต่งงานกับหลานชายของเธอได้ จะดีขนาดไหนกัน
คุณนายใหญ่ตระกูลลี่เอาน้ำหอมส่งให้กับเลขาที่อยู่อีกข้างหนึ่ง แล้วสั่งกำชับขึ้นว่า “คืนนี้ อย่าลืมเอาน้ำหอมขวดนี้ใส่เข้าไปเครื่องฟอกอากาศด้วยนะ ถ้าสามารถแก้ไขอาการนอนไม่หลับของฉันให้ดีขึ้นได้ คุณก็ช่วยฉันไปตรวจสอบประวัติของเด็กผู้หญิงคนนี้ดี ๆ สักหน่อย ถ้าหากว่าน้ำหอมของเธอ บางทีอาจจะสามารถช่วยแก้ไขอาการนอนไม่หลับของถิงเซิ่งให้ดีขึ้นก็ได้”
“ครับ คุณท่าน”
ลี่ถิงเซิ่งที่ออกไปดูงานนอกพื้นที่ พอลงจากเครื่องบินปุ๊บ ก็เข้าพักในโรงแรมห้าดาวเลย
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้ว ลี่ถิงเซิ่งก็คลุมเสื้อคลุมอาบน้ำสีน้ำเงินตัวหนึ่งออกมา แล้วนั่งพิงอยู่บนโซฟาอย่างขี้เกียจ
บนโต๊ะน้ำชากระจกสีดำตรงหน้าเขานั้น วางวิสกี้เอาไว้ขวดหนึ่ง และยังมีน้ำแข็งถังหนึ่ง
ชายหนุ่มค่อย ๆ ลุกขึ้น แล้วหยิบที่คีบโหละขึ้นมา แล้วคีบน้ำแข็งใส่แก้วไปไม่กี่ก้อนด้วยท่วงท่าสง่างาม จากนั้น ก็ยกขวดเหล้าขึ้นมา
ในแก้วค่อย ๆ เต็มไปด้วยของเหลวสีอำพัน
หลังจากที่ลี่ถิงเซิ่งก้มลงมาจิบคำหนึ่งอย่างสบายใจแล้ว ก็เปิดโน๊ตบุ๊คออก
พอมือเพิ่งจะแตะแป้นพิมพ์ โทรศัพท์สีดำที่วางไว้บนโต๊ะก็ดังขึ้นมาพอดี
สี่ทุ่มกลางคืน ใครจะมาโทรศัพท์หาเขาตอนนี้นะ
ลี่ถิ่งเซิ่งขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มองดูหน้าจอแสดงสายเรียกเข้าทีหนึ่งแล้ว แก้วที่อยู่ในมือก็โดนเขาวางลง แล้วก็รีบรับสายขึ้นมาทันที
“คุณย่า ดึกขนาดนี้แล้วมีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
ในน้ำเสียงของลี่ถิงเซิ่งแฝงไว้ด้วยความมีมารยาทที่พบเห็นได้น้อย
ในน้ำเสียงของคุณนายใหญ่ตระกูลลี่แฝงไว้ด้วยความดีใจส่วนหนึ่ง “ถิงเซิ่งอ่ะ วันนี้ย่าเจอเข้ากับเด็กสาวคนหนึ่ง หน้าตาสะสวยมาก ความสามารถในการปรุงน้ำหอมก็ไม่เลว เธอยังเพิ่งจะปรุงน้ำหอมมาให้ย่าขวดหนึ่งด้วย ความสามารถเก่งกว่าพวกปรมาจารย์พวกนั้นซะอีก! แกถามดูซิว่าเธอใช้เวลาไปเท่าไหร่?”
ลี่ถิงเซิ่งนวดหัวคิ้วที่เหนื่อยล้าของตัวเองไปเล็กน้อย แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนให้เข้ากับคุณนายใหญ่ตระกูลลี่ “คุณย่า คุณย่าพูดว่าเพิ่งจะรู้จักกันวันนี้ งั้นก็คงจะใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวันแน่ ๆ”
“อ๋ายหย่า แกนี่ฉลาดเกินไปแล้ว คุยกับแกนี่ไม่มีความหมายเลย” คุณนายใหญ่ตระกูลลี่มีอารมณ์เหมือนอย่างกับเด็กขึ้นมาเล็กน้อย “เฮ้อ เสียดายที่แกหมั้นกับยัยเด็กบ้านตระกูลสวี่คนนั้นไปแล้ว ไม่งั้นย่าอยากจะแนะนำเด็กสาวคนนี้ให้กับแกจังเลย”
ลี่ถิงเซิ่งยิ้มขึ้นอย่างทำอะไรไม่ได้ทีหนึ่ง
เรื่องที่คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ไม่ชอบสวี่รั่วยีนั้น ในใจของเขารู้ดีมาตลอด
และเพราะว่าอาการนอนไม่หลับของเขา สำหรับสวี่รั่วยีคุณย่าก็ลืมตาข้างหนึ่งหลับตาข้างหนึ่งมาตลอด
ที่ผ่านมาคุณนายใหญ่ตระกูลลี่ก็เคยพูดอ้อมค้อม ถามลี่ถิงเซิ่งว่าชอบเด็กสาวคนไหนหรือเปล่า เธอจะได้แนะนำให้เขา
แต่ลี่ถิงเซิ่งก็ได้ปฏิเสธไปทุกครั้ง
เขาสามารถแยกแยะระหว่างความรู้สึกและธุรกิจได้อย่างชัดเจนดี
นอกจากเด็กสาวเมื่อหกปีก่อนที่เหมือนอย่างกับอยู่ในฝันแล้ว ผู้หญิงคนอื่น ๆ สำหรับเขาแล้ว ต่างก็เหมือนกับหมากตัวหนึ่งในธุรกิจ
ลี่ถิงเซิ่งหรี่ตาลง อยู่ ๆ รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของสวี่รั่วฉิงก็กะพริบเข้ามาในหัวสมองของเขา
ริมฝีปากของชายหนุ่มค่อย ๆ เม้มเข้าหากันแน่น แล้วรวบรวมความคิดกลับมา “ไม่ต้องหรอกครับ คุณย่า ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์มาสนใจผู้หญิง ถ้าหากว่าความสามารถในการปรุงน้ำหอมของเธอไม่เลวจริง ๆ ละก็ หรือไม่ก็ให้เธอมาที่ลี่ซื่อกรุ๊ป ผมรับรองว่าในอนาคตจะทำให้เธอมีจุดยืนในวงการน้ำหอมของเมืองหลินชวนได้แน่”