ผู้กล้าเหนือกาลเวลา – บทที่ 258 ทะเลวิญญาณช่องเวทสยบพู่กันปีศาจ

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา

บทที่ 258 ทะเลวิญญาณช่องเวทสยบพู่กันปีศาจ

นี่เป็นพู่กันที่แปลกประหลาดด้ามหนึ่ง!

สวี่ชิงมองเพียงแวบเดียวรูม่านตาก็หดเล็ก

พู่กันด้ามนี้สูงเท่าความยาวครึ่งหนึ่งของคน มีกระดูกสันหลังมนุษย์เป็นด้าม ศีรษะเป็นโคน มีผมเป็นขนพู่กัน!

บนกระดูกสันหลังนั่นยังมีเลือดเนื้อ ศีรษะนั่นแม้จะสมบูรณ์แต่ผิวหนังเขียวช้ำประดุจผีร้าย โดยเฉพาะคำพูดน่าขนลุกที่พูดออกมาหลังจากปรากฏตัวขึ้น ทำให้สวี่ชิงขมวดคิ้ว

ส่วนเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องกลับทำเหมือนไม่ได้ยิน พลันสะบัดมือควบคุมพู่กันแปลกประหลาดด้ามนี้วาดวงกลมวงหนึ่งกลางอากาศ

วงกลมวงนี้ในเสี้ยวพริบตาที่มันวาด ก็กลายเป็นวัตถุจริงจากกลางอากาศ สีแดงฉาน แผ่ไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว แล้วพุ่งโจมตี ประดุจลมบ้าคลั่งพัดปะทะหน้า สวี่ชิงต้องถอยหลังไป

ส่วนสิ่งประหลาดรอบๆ ตอนนี้สะท้านเฮือก ประดุจโดนสะกด ร่างวัวนั่นตัวสั่นถอยหลังไปแล้วระเบิดทันที หลังจากกลายเป็นสี่ส่วนอีกรอบก็ระเบิดอีกครั้ง ภายใต้เสียงดังสนั่นหวั่นไหวก็หายไปโดยสมบูรณ์

จากนั้นเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องก็หันหน้ามามองสวี่ชิงด้วยดวงตาแดงก่ำ โคนพู่กันในมือของเขาดวงตาทั้งสองข้างแผ่ประกายแสงเย็นเยียบมองมาทางสวี่ชิงเช่นกัน ยิ่งกว่านั้นมันยังแลบลิ้นยาวออกมา เลียริมฝีปาก ส่งเสียงมา

“ท่านพี่ ท่านจะฆ่าเขาหรือ เขาหน้าตางดงามเหลือเกิน พวกเราหลังจากจับเขาแล้ว ท่านใช้วิธีที่ทำกับข้าในตอนนั้นจับเขาหลอมยาเป็นอย่างไร หลอมเขาไว้ในกาย ช่วงชิงพรสวรรค์ของเขา เปลี่ยนให้เป็นพู่กันด้ามที่สอง”

เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องแค่นเสียงขึ้นจมูก สิ่งนี้ดูจากสายเลือดแล้วคือน้องชายของเขา แต่เมื่อหลายปีก่อนถูกเขาสะกดหลอมกลายเป็นของวิเศษของเขา เรื่องนี้บรรพจารย์รู้ ในสำนักหลายๆ คนก็รู้ทั้งนั้น

แต่ไม่เป็นไร บรรพจารย์ยอมรับโดยปริยายแล้วว่าพวกเขาสองคนมีชีวิตได้แค่คนเดียวเท่านั้น เช่นนั้น คนอื่นๆ ก็ไม่อาจพูดอะไรได้

เพราะเขาเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องคนนี้เกิดมาก็แปลกประหลาดอัศจรรย์นัก ในเสี้ยวขณะที่กำเนิดออกมาก็มีร่างเชื่อมร่วมกับน้องชายที่เอว

สถานการณ์เช่นนี้ในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ในห้วงเวลาเนิ่นนานมานี้ใช่ว่าไม่เคยมีปรากฏมาก่อน ความจริงแล้วมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมากมาย เพราะการหลอมรวมกับสิ่งประหลาด เพราะชีวิตถูกการมาเยือนของเทพเจ้าเปลี่ยนแปลง

ดังนั้นต่อให้ร่างจะดูเหมือนปกติ ดูเหมือนไม่มีสิ่งประหลาดอยู่ แต่ความจริงแล้ว…ผลกระทบได้แสดงออกมาให้เห็นจากต้นกำเนิดสายเลือดของพวกเขาแล้ว

แค่ไม่รู้ว่าจะปรากฏออกมาให้เห็นในยุคไหนก็เท่านั้นเอง

แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่สำหรับเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องแล้วนี่เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ ดังนั้น นับจากที่เขาเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง ก็คิดอยากฆ่าอีกฝ่ายให้ตาย และน้องชายคนนั้นของเขาก็มีความคิดนี้เช่นกัน

“ได้ ฆ่ามันให้ตาย ข้าอนุญาตเจ้าเรื่องนี้!” ได้ยินคำพูดของน้องชายในตอนนี้ เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องก็เอ่ยขึ้นราบเรียบ

น้องชายของเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องดวงตาวาววาบ ทั่วทั้งร่างแผ่ไอพลังประหลาดน่าครั่นคร้ามออกมาทันที ในขณะเดียวกับที่เข้มข้นเป็นอย่างมาก ดวงตาทั้งสองของเขาก็ฉายประกายแสงดำสนิทออกมา ในยามที่มองสวี่ชิงด้วยสีหน้าละโมบ เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องก็สะบัดมือ ตวัดพู่กันแปลกประหลาดด้ามนี้ไปหาสวี่ชิงทางนั้น ซ้ายครั้ง ขวาครั้ง วาดเป็นกากบาท!

ทันใดนั้นกากบาทก็ส่องประกายแสงสีแดงเข้ม ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า จากภาพมายาแปรเปลี่ยนเป็นความจริง สุดท้ายก็ก่อขึ้นโดยสมบูรณ์ น้ำหมึกประดุจเลือด ทั้งยังเหมือนเนื้อชุ่มเลือดที่ไม่มีผิวหนัง บนนั้นเต็มไปด้วยเส้นเลือด เส้นเอ็น ดูแล้วน่าสยดสยองขนลุกขนพองนัก

หลังจากที่ก่อตัวขึ้น กากบาทเนื้อชุ่มเลือดนี้ก็พุ่งไปหาสวี่ชิงอย่างรวดเร็ว

ทุกที่ที่พาดผ่าน กลิ่นอายพลังประหลาดเพิ่มขึ้นมหาศาล ทำให้เมฆลมเปลี่ยนสี

สวี่ชิงสีหน้าเคร่งเครียด ในมือถือแผ่นหยกที่เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องยากจะมองรายละเอียดได้ชัด คิดอยากจะบีบมันให้แตก แต่สุดท้ายก็ล้มเลิก

เสียงระเบิดดังขึ้น กากบาทเนื้อชุ่มเลือดนั่นก็ยิงพุ่งมาชนสวี่ชิง

สวี่ชิงกระอักเลือด ร่างถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว กากบาทเนื้อชุ่มเลือดนี้ส่งเสียงหัวเราะแปลกประหลาดออกมา กำลังจะไล่โจมตี แต่ความเร็วของสวี่ชิงรวดเร็วมาก ในขณะที่พุ่งไปอย่างว่องไวคิ้วก็ขมวด จ้องกากบาทเนื้อชุ่มเลือดที่ไล่ตามมาเขม็ง

ศึกการต่อสู้ดำเนินมาจนถึงตอนนี้ เขากับเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทว่าจุดอ่อนของตัวเองก็ต่างปรากฏออกมาให้เห็นเช่นกัน สวี่ชิงรู้ดีว่าตัวเองเมื่อเปรียบเทียบกับอีกฝ่ายแล้วก็ขาดซึ่งเคล็ดวิชา พลังวิเศษไปบ้างจริงๆ

ความจริงหากคู่ต่อสู้ไม่ใช่เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง เคล็ดวิชาของสวี่ชิงก็พอใช้ได้ แต่เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องเป็นอัจฉริยะฟ้าประทานที่สำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้าทุ่มสุดกำลังในการฝึกฝนสั่งสอน หวังจะให้เดินบนเส้นทางเจ้าเหนือหัวจักรพรรดิโบราณ เขาย่อมต้องมีเคล็ดวิชาต่างๆ และอาวุธเวทมากมายอยู่แล้ว

“ข้าขาดเคล็ดวิชาและพลังวิเศษ อาวุธเวทก็แปลกประหลาดสู้เขาไม่ได้ แต่…ต่อหน้าพละกำลังมหาศาล ร้อยเล่ห์กลก็ไร้ความหมาย!” ประกายวาววาบฉายในดวงตาสวี่ชิง ความแข็งแกร่งของผลึกวารีสีม่วงในร่างของเขา จากการที่สู้มาจนถึงตอนนี้ก็ค่อยๆ ฉายออกมาให้เห็น บาดแผลของเขากำลังสมานอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกันข้อได้เปรียบของทะเลวิญญาณห้าร้อยจั้งในช่องเวทของเขาก็ฉายออกมาเช่นกัน ทำให้เขาเปิดสภาวะแสงนภานานขนาดนี้ก็ยังคงยิ่งใหญ่มหาศาล สิ่งที่สวี่ชิงต้องทำในตอนนี้คืออาศัยทะเลวิญญาณที่ยิ่งใหญ่กว่าคนอื่นทำการสยบ

คิดถึงตรงนี้ ในเสี้ยวพริบตาที่กากบาทเนื้อชุ่มเลือดนั่นประชิดเข้ามาอย่างรวดเร็ว ร่างของสวี่ชิงก็พลันลอยขึ้นฟ้า ในขณะที่ดวงตาฉายประกายแสงแปลกประหลาด มือขวาของเขาก็ยกขึ้นแล้วกดไปบนฟ้า

เสี้ยวขณะต่อมา ช่องเวทเก้าสิบสองช่องในกายของเขาก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง พลังร้อนระอุในนั้นถาโถมขึ้น จากนั้นตราประทับมือยักษ์ขนาดห้าร้อยจั้งข้างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเหนือสวี่ชิง!

ตราประทับมือห้าร้อยจั้งเกิดขึ้นจากทะเลวิญญาณในช่องเวทช่องหนึ่งของเขา ตอนนี้ ในเสี้ยวพริบตาที่ปรากฏขึ้น จากแสงกะพริบวูบวาบของช่องเวทในร่างสวี่ชิง ตราประทับมือขนาดห้าร้อยจั้งข้างที่สองก็ปรากฏขึ้น

ซ้อนทับกับตราประทับมือตราแรก เกิดเป็นพลังสองชั้น

ยังไม่จบแค่นั้น ขณะที่ช่องเวทในร่างสวี่ชิงปะทุไม่หยุด ชั้นที่สาม ชั้นที่สิบ ชั้นที่สามสิบ…ตราประทับชั้นแล้วชั้นเล่าซ้อนทับกันทันทีด้วยความเร็วที่รวดเร็วยิ่งนัก ทำให้ตราประทับมือมีพลังเปี่ยมล้นจนถึงระดับที่ไม่อาจบรรยายได้

เพียงพริบตาลมพายุคลั่งพัดกวาดออกไปทั่วทิศ พลังสะกดแปลกประหลาดพุ่งลงมาจากฟ้า

ภาพนี้ทำให้เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องดวงตาเบิกโพลง ในใจเกิดคลื่นยักษ์ซัดโหม ทะเลวิญญาณในช่องเวทของสวี่ชิงช่างน่าครั่นคร้ามนัก ชั่วชีวิตของเขาเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องคนนี้ไม่เคยเห็นทะเลวิญญาณของใครน่ากลัวจนถึงระดับนี้มาก่อน

ต่อให้เป็นเขาก็แค่สองร้อยกว่าจั้งเท่านั้น!

“เจ้า…” เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก เขารู้ดีว่าทะเลวิญญาณในช่องเวทหมายถึงความมหาศาลของพลังเวท แม้ในตอนแรกความได้เปรียบนี้จะไม่ได้มากนัก แต่จากการความแข็งแกร่งและล้ำลึกของพลังบำเพ็ญที่เพิ่มขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของช่องเวท ข้อได้เปรียบนี้ก็จะเปลี่ยนมาน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง

ตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้น

เพียงพริบตาตราประทับมือที่เหนือศีรษะของสวี่ชิงก็ซ้อนทับถึงเก้าสิบสองชั้น!

มองไกลๆ ในเสี้ยวพริบตาที่ตราประทับมือเก้าสิบสองชั้นที่หลอมรวมขึ้นจากทะเลวิญญาณก่อตัวขึ้น ลมเมฆเปลี่ยนสี ฟ้าดินส่งเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น ยิ่งเพราะพลังกดดันหนักหน่วง ขอบของตราประทับมือนี้มีสายฟ้าเป็นทางๆ ปรากฏขึ้น ประดุจอสรพิษดุจมังกรแหวกว่ายไปในท้องฟ้าไม่หยุด พุ่งกระจายมา ขอบเขตยิ่งกว้างใหญ่ขึ้น

รัศมีอำนาจท่วมท้น คล้ายว่าจะกลืนผืนฟ้าบดขยี้ผืนดิน

แม้แต่กากบาทเนื้อชุ่มเลือดที่ไล่ตามมาก็ยังต้องหยุดชะงักกลางท้องฟ้า ฉายความหวาดกลัวรุนแรงออกมา

สวี่ชิงไม่มีพลังวิเศษสามกระบี่อย่างเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องที่ทุกกระบี่ล้วนเยี่ยมยุทธ์ไร้เทียมทาน และไม่มีวัตถุสิ่งประหลาดที่สามารถเรียกประตูทมิฬได้ ยิ่งไม่มีของวิเศษติดตัวที่สามารถสร้างพู่กันเนื้อชุ่มเลือดได้

แต่เขามีทะเลวิญญาณห้าร้อยจั้งเก้าสิบสองชั้น!

เจ้ามีสิ่งประหลาดแล้วจะทำไม เจ้ามีเคล็ดวิชาแล้วจะอย่างไร เจ้ามีวัตถุอะไรแล้วจะทำไม ข้าล้วนใช้พลังทั้งหมดสยบ!

เสี้ยวพริบตาต่อมา หน้าผากสวี่ชิงก็มีเส้นเลือดปูดโปน คล้ายว่าตราประทับมือห้าร้อยจั้งเก้าสิบสองชั้นมีความหนักอย่างยากจะบรรยาย ร่างของเขามีเสียงกร๊อบๆ แขนยิ่งมีเส้นเอ็นหนานูนโป่งขึ้นมา กดไปทางกากบาทเนื้อชุ่มเลือดและเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องทันที!

ตราประทับมือเก้าสิบสองชั้น พลานุภาพสามารถสยบมหาสมุทรและขุนเขา ตอนนี้ทันทีที่ปรากฏขึ้น ก็ปะทะเข้ากับกากบาทเนื้อชุ่มเลือดที่ตลบอวลไปด้วยไอพลังประหลาด เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวดังสะท้อนไปทั่วชั้นฟ้าในเสี้ยวขณะนี้ กากบาทเนื้อชุ่มเลือดนั่นยืนหยัดอยู่ฟ้าอึดใจก็ทนไม่ไหว สลายไปอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ

ท่ามกลางเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทุกที่ที่ตราประทับเก้าสิบสองชั้นพาดผ่านล้วนพังทลายราบคาบภายใต้พลังแข็งแกร่งจนถึงขีดสุดของเขา และหลังจากประทับมือก็เป็นเงาร่างของสวี่ชิงผลักดันพลังทะเลวิญญาณทั้งหมดของตัวเองสุดกำลัง สยบต่อเนื่อง

แผ่นดินสั่นสะเทือน ต้นไม้นับไม่ถ้วนกลายเป็นเถ้าธุลี การปะทุของพลังน่าครั่นคร้ามประชิดข้างหน้าเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องที่ใบหน้าขาวซีด ดวงตาฉายความหวาดกลัวออกมาทันที

ช่วงเวลาวิกฤต ความเด็ดเดี่ยวฉายขึ้นในดวงตาเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง คำรามเสียงต่ำแล้วควบคุมพู่กันแปลกประหลาดในมือให้มันกลายเป็นกระบี่ ก่อนจะแทงตราประทับมือที่พุ่งเข้ามาอย่างเต็มแรง

ช่องเวทในร่างของเขาปะทุขึ้นเช่นกัน โหมทะลักไปในพู่กันประหลาด ทำให้โคนพู่กันที่เป็นใบหน้าของน้องชายตัวเองยิ่งดูเหี้ยมเกรียมมากยิ่งขึ้น แม้ในดวงตาจะมีความหวาดกลัว แต่สิ่งที่มีมากกว่าคือความบ้าคลั่งราวว่าอยากตาย พุ่งชนเต็มแรง!

เสียงสนั่นหวั่นไหวระลอกแล้วระลอกเล่าดุจอัสนีสวรรค์ ระเบิดครืนครันในแดนต้องห้ามแห่งนี้

สวี่ชิงและเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องต่างกระอักเลือดออกมา สีหน้าต่างฉายความเหี้ยมเกรียม ดวงตาต่างฉายประกายเหี้ยมโหด ลงมือสุดกำลัง

เสียงสนั่นหวั่นไหวสะท้อนก้อง พู่กันแปลกประหลาดของเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องฉายประกายเจิดจ้า สั่นสะท้านรุนแรง ส่วนตราประทับมือเก้าสิบสองชั้นของสวี่ชิงก็สลายไปทันทีสามสิบสามชั้น

แต่เมื่อถึงเวลานี้ ประกายแสงของพู่กันแปลกประหลาดก็หมองหม่น ในนั้นมีเสียงน่าสังเวชดังออกมา นั่นคือความบ้าคลั่งของน้องชายเขา แต่ต่อให้บ้าคลั่งอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ หลังจากที่มือยักษ์ของสวี่ชิงสลายไปสี่สิบสามชั้น ขนพู่กันก็สลายกลายเป็นเถ้าธุลีทีละชุ่น

ในดวงตาของน้องชายเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง ความบ้าคลั่งไร้ขีดสุด คล้ายว่ามีแววหลุดพ้น สุดท้ายก็แปรเปลี่ยนเป็นหัวเราะเหี้ยมเกรียม พุ่งชนสุดกำลังที่มี ภายใต้การพุ่งชนนี้ทำให้ตราประทับมือสวี่ชิงสลายไปอีกสิบสามชั้น

และค่าตอบแทนคือศีรษะของน้องชายเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องแตกแหลก ระเบิดทันที ก่อนที่จะดับสลาย เสียงสุดท้ายของเขาดังขึ้นอย่างแหลมเล็ก พร้อมด้วยความอาฆาต ดังก้องไปทั่ว

“ฉู่เซิ่งอวิ๋น ยังจำคำสาปแช่งที่ในตอนที่เจ้าหลอมข้าในตอนนั้นได้หรือไม่ ข้าสาปแช่งให้ในอนาคตเจ้าก็เหมือนกับข้า ถูกหลอมทั้งเป็น ถูกคนแย่งชิงทุกสิ่ง ตอนนั้นแม้เจ้าจะลบพลังคำสาปของข้าด้วยการใช้ประตูเจตจำนงแห่งนิรันดร์ที่แปลงมาจากเศษชิ้นส่วนต้องห้าม แต่คำสาปของข้าท่าทางจะยังคงมีผล!”

เสียงแหลมเล็กดังขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะลากยาว ในเสี้ยวพริบตาที่สลายไปในฟ้าดิน มือยักษ์ของสวี่ชิงก็ซัดลงมาที่ด้ามพู่กัน บดขยี้อย่างทรงพลัง ในตอนที่เหลือยี่สิบเอ็ดชั้นสุดท้ายก็ซัดไปที่ร่างของเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง

ทั่วทั้งร่างเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องสั่นสะท้านบ้าคลั่ง เลือดกระอักออกมา ผมหลุดกระเซิง สะบักสะบอมไปทั่วทั้งร่าง ไฟชีวิตในร่างไหววูบวาบ คล้ายจะมอดดับ

ร่างยิ่งตีลังกากระเด็นออกไป แต่ในดวงตาของเขาจนถึงตอนนี้จิตสังหารก็ไม่ลดลงแม้แต่น้อย กระทั่งว่ามีประกายเย็นเยือกฉายขึ้นด้วยซ้ำ

“คำสาปแช่งส่งๆ เจ้าตายได้มีคุณค่าแล้ว” เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องร่างตีลังกาม้วน ในเสี้ยวพริบตาที่ยกมือทั้งสองแตะพื้น สีหน้าของเขาก็ฉายความบ้าคลั่ง ตบลงบนพื้นอย่างแรง คำรามออกมาเสียงดัง

“มังสาสาป หมื่นโลหิตหลอม!”

เสียงของเขาดังขึ้น สวี่ชิงสีหน้าเคร่งเครียด

เพียงพริบตาบริเวณที่พู่กันแปลกประหลาดระเบิดเป็นเถ้าธุลีเมื่อก่อนหน้านี้ ตอนนี้ดินบนพื้นพลันระเบิดขึ้นมา แขนเนื้อชุ่มเลือดมากมายพุ่งออกมาจากในนั้นอย่างรวดเร็ว จำนวนของมันไม่น้อยกว่าพัน แต่ละข้างยืดมาอย่างบ้าคลั่ง พุ่งมาพันรัดสวี่ชิงจากทั่วทุกสารทิศ

ขณะเดียวกัน ดวงตาทั้งสองของเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องแดงก่ำ ยืนอยู่บนพื้นเงยหน้าขึ้น สีหน้าแฝงด้วยความชั่วช้าแปลกประหลาด เสียงก็เปลี่ยนมาน่าขนลุก

“อัญเชิญเงาของวิเศษเวทต้องห้ามแห่งสำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้ามาเยือน!”

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา

Status: Ongoing
เมื่อเขากลายเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวในเมืองที่ถูกพลังของเทพเจ้าทำลายล้าง…รายละเอียดกำลังภายใน-เทพเขียนเรื่องใหม่จากนักเขียนชื่อดัง ‘เอ่อร์เกิน’ ผู้เขียน ‘หนึ่งความคิดนิจนิรันดร์’ ‘สู่วิถีสุรา’ ฟื้นลิขิตฟ้าข้าขอเป็นเขียน’ ‘หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา’ เมื่อเทพเจ้าลืมตาจับจ้องมา โลกก็เกิดการเปลี่ยนแปลง ไอพลังประหลาดกระจัดกระจายไปทั้งโลกมนุษย์ เกิดการกลายพันธุ์ต่อสรรพชีวิตบนโลก ‘สวี่ชิง’ เด็กหนุ่มผู้รอดชีวิตใช้ชีวิตเพียงลำพัง ดิ้นรนเอาตัวรอดจากอสูรร้ายและไอพลังประหลาดได้พบกับพลังวิเศษ แต่ในโลกกลียุคเช่นนี้ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะมีชีวิตรอด เพื่อที่จะแก้แค้นให้กับคนที่รัก เพื่อตามหาครอบครัวที่อาจจะมีชีวิตอยู่ที่ใดสักแห่ง เขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ได้ . . . เขาต้องรอด!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท