บทที่ 80 สวี่รั่วยีก็มารับที่สนามบิน
ชายหนุ่มที่กลับมาถึงห้องนอน นั่งพิงอยู่บนโซฟาอย่างสบาย แล้วก็โทรออกไปที่เบอร์ของสวี่รั่วฉิง
หลังจากเสียงสัญญาณรอสายดังขึ้นสองสามครั้ง โทรศัพท์ก็โดนรับสายแล้ว
สวี่รั่วฉิงรู้สึกเบื่อหน่ายเล็กน้อย ทำไมเมื่อกี้หลี่อานเพิ่งจะคุยข้อความWeChatกับตัวเองไป ต่อมาก็เป็นลี่ถิงเซิ่งเลย?
ตามนิสัยของหลี่อานแล้ว ก็น่าจะไม่เอาคำพูดที่เธอเพิ่งพูดไปเมื่อกี้ไปบอกกับลี่ถิงเซิ่งหรอกมั้ง
สำหรับหลี่อานแล้ว สวี่รั่วฉิงค่อนข้างที่จะมั่นใจในอุปนิสัยของเขา
“ประธานลี่ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรเหรอคะ?”
สวี่รั่วฉิงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเรียบร้อย
ลี่ถิงเซิ่งหัวเราะเบา ๆ คำหนึ่ง ผู้หญิงที่เพิ่งคิดแผนการแย่ ๆ ให้หลี่อานในWeChatเมื่อกี้ ตอนนี้กลับเรียบร้อยอ่อนโยนราวกับกระต่ายน้อยตัวหนึ่ง
แต่ว่ามีแต่คนที่เข้าใจเธอจริง ๆ ถึงจะรู้ว่า จริง ๆ แล้วเธอเป็นปีศาจสาวที่เย้ายวนใจคน
นิ้วมือเรียวยาวของชายหนุ่มเคาะพนักโซฟาหนังแท้ไปเบา ๆ แล้วเปิดปากพูดขึ้นอย่างไม่รีบร้อนว่า “เมื่อกี้ยังคิดแผนการชั่วร้ายให้หลี่อานอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? หึ?”
มือที่กำลังเก็บโต๊ะอยู่ของสวี่รั่วฉิงหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็ยืนตัวตรงขึ้นอย่างตั้งใจและเคร่งขรึมว่า “ประธานลี่ ฉันจะไปคิดแผนการชั่วร้ายอะไรได้……”
พอคำพูดพูดมาถึงครึ่งหนึ่ง หัวสมองของสวี่รั่วฉิงก็มีความเป็นไปได้อย่างหนึ่งกะพริบขึ้นมา
ตามนิสัยของหลี่อาน ปกติแล้วเขาไม่มีทางที่จะหลักหลังเพื่อนแน่
ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับหลี่อานจะไม่แน่นแฟ้นพอ แต่ว่าหลี่อานกล้ามาถามเรื่องซุบซิบกับเธอ ก็แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะเอาเรื่องที่พวกคุยกันเมื่อกี้พูดออกไปแน่ ๆ
“ประธานลี่ คนที่คุยข้อความกับฉันเมื่อกี้คงจะไม่ใช่คุณหรอกมั้ง……” สวี่รั่วฉิงรู้สึกหมดคำพูดเล็กน้อย ริมฝีปากก็กระตุกขึ้นเล็กน้อย
คิดไม่ถึงว่าลี่ถิงเซิ่งจะใจแคบขนาดนี้ ต้องคิดเล็กคิดน้อยทุกอย่าง
“ฉลาดมากเลยนี่”
“ก็ใช่ ถ้าไม่ฉลาด ประธานลี่จะรับฉันเข้าเป็นผู้ช่วยเหรอ?” สวี่รั่วฉิงไม่ได้หน้าแดงเลยสักนิด
ลี่ถิงเซิ่งหัวเราะขึ้น
เขาไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อน เอาข้อแลกเปลี่ยนที่ดึงดูดเขามาวางอยู่บนโต๊ะ จากนั้นก็พูดอย่างยิ่งใหญ่ว่าที่เขารับเธอเข้าทำงานก็เพราะว่าเธอเก่งกาจ
ลี่ถิงเซิ่งไม่ปฏิเสธว่าในเหตุผลที่เขารับเธอเข้าทำงานนั้นมีส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเธอเก่ง
แต่ว่าส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะว่า เธอเป็นคนน่าสนใจมาก
“รู้ว่าเป็นผม ข้อความในWeChatยังกล้าพูดขนาดนั้น?”
สวี่รั่วฉิงส่ายหน้าเล็กน้อย แล้วพิงอยู่กับกำแพงแล้วพูดว่า “เมื่อกี้เดาไม่ออกว่าเป็นประธานลี่จริง ๆ ถ้ารู้ว่าเป็นคุณตั้งแต่แรก ฉันก็คงจะไม่กล้าพูดคำพูดเสียหายของคุณลับหลังหรอก! จะต้องพูดคำชื่นชมที่น่าฟังสักหน่อย อย่างเช่นประธานลี่หล่อเหลามีความสามารถ และก็คงจะไม่มาเอาเรื่องกับคนธรรมดาตัวเล็ก ๆ อย่างฉันหรอกใช่ไหมคะ?”
น้ำเสียงของสวี่รั่วฉิงแฝงไว้ด้วยความอ่อนช้อยที่มีเฉพาะของหญิงสาวชายเจียงหนาน แล้วก็แฝงไว้ด้วยความซุกซนเสี้ยวหนึ่ง
เหมือนอย่างกับสายลมฤดูใบไม้ผลิสายหนึ่ง จนทำให้หัวใจคนคันยิก ๆ
ลี่ถิงเซิ่งโดนคำพูดของสวี่รั่วฉิงทำให้อ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก
ถึงแม้จะเห็นได้ชัดว่าสวี่รั่วฉิงกำลังประจบสอพลออยู่
แต่ว่าจะไม่พูดก็ไม่ได้ว่า ไม่มีใครไม่ชอบให้ถูกชื่นชม
“อีกสามวันให้หลังผมจะเมืองหลินชวน” ลี่ถิงเซิ่งพูดเปลี่ยนหัวข้อไป น้ำเสียงขรึมต่ำ แฝงไว้ด้วยความอ่อนโยนที่เขาไม่รู้ตัวเสี้ยวหนึ่ง
เขาไม่รู้แม้กระทั่งว่าบนใบหน้าที่โดนน้ำแข็งปกปิดมานานของตัวเองนั้น กลับมีรอยยิ้มโผล่ออกมาเสี้ยวหนึ่งด้วย
สวี่รั่วฉิงอึ้งไปครู่หนึ่ง “ต้องการให้ฉันรับที่สนามบินเหรอคะ?”
ลี่ถิงเซิ่งยิ้มอ่อน ๆ “ถ้าหากว่าคุณอยากจะมา ผมก็ไม่มีความคิดเห็น”
สวี่รั่วฉิง“อ๋อ”ไปคำหนึ่ง
ไปรับที่สนามบินเป็นงานของผู้ช่วย เธอนั้นไม่ได้สนใจอะไร
ในเมื่อด้วยสถานะอย่างลี่ถิงเซิ่ง ไฟลท์บินที่นั่งก็คงจะต้องเป็นเวลากลางวันอยู่แล้ว
“งั้นเดี๋ยวฉันจะไปถามไฟลท์บินที่พวกคุณกลับมากับหลี่อานนะคะ”
ในตอนที่วางสายไปนั้น ลี่ถิงเซิ่งกำโทรศัพท์ไว้ แล้วอึ้งไปสองวินาที จากนั้นก็ยิ้มขึ้นมาทีหนึ่ง
ตอนแรงเขาอยากจะให้หญิงสาวปรุงน้ำหอมของคุณนายใหญ่ตระกูลลี่ให้เสร็จในวันที่เขากลับมา แต่ว่าพอคำพูดมาถึงริมฝีปากแล้วกลับกลืนกลับไปใหม่
ลี่ถิงเซิ่งส่ายหัวเล็กน้อย ดูท่าผลกระทบที่ผู้หญิงคนนี้มีต่อเขานั้นมีไม่น้อยจริง ๆ
ถึงกลับสามารถสั่นคลอนการตัดสินใจของเขาได้
……
สามวันให้หลัง
สวี่รั่วฉิงกำลังแต่งหน้าอยู่
สวี่อี้ฝานก้มหน้าดูโทรศัพท์ แล้วก็มองเห็นแม่ของตัวเองใส่ชุดสูทไว้ทั้งชุด และแต่งหน้าอยู่ตรงหน้ากระจก “คุณแม่ คุณแม่จะออกไปข้างนอกเหรอครับ?”
“วันนี้เป็นวันเสาร์นะ!” สวี่อี้ฝานที่อยู่อีกข้างหนึ่งช่วยพูดขึ้น
มือที่วาดขอบตาอยู่ของสวี่รั่วฉิงเกือบจะสั่นเล็กน้อย “อย่ากวนซิ วันนี้แม่ยังทำงานอยู่นะ รอให้กลับมาแล้วค่อยพาพวกหนูออกไปดูหนังกันนะ ดีไหม?”
สวี่อี้ฝานกดที่โทรศัพท์อย่างรวดเร็วหลายทีแล้ว ก็พูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “คุณแม่ คุณแม่จะไปรับคุณพ่อใช่ไหมครับ?”
สวี่รั่วฉิง “……บอกตั้งกี่ครั้งแล้ว ว่าอย่าไปแฮกค์ระบบภายในของลี่ซื่อกรุ๊ปไปเรื่อย ไม่ช้าก็เร็วหนูจะต้องโดนเขาจับได้สักวันแน่”
สวี่อี้ฝานยักไหล่เล็กน้อย “ไม่เป็นไร ครั้งนี้ที่ผมใช้คือIDเบอร์โทรศัพท์ของผู้ช่วยหลี่ ถึงจะตรวจก็แค่สามารถตรวจสอบไปที่ตัวเขาได้เท่านั้น”
สวี่รั่วฉิงเงียบขรึมลง เธอวาดเส้นขอบตาเสร็จ แล้วก็เอามือข้างเดียวมาปิดหน้า
หลี่อาน ขอโทษด้วยนะ ฉันจะต้องสั่งสอนลูกชายให้ดี ๆ แน่ สวี่รั่วฉิงแอบพูดอยู่ในใจ
หลังจากที่ฝากฝังเรื่องของที่บ้านเสร็จแล้ว สวี่รั่วฉิงก็หยิบกระเป๋าและกุญแจรถขึ้นมา แล้วไปที่ลานจอดรถ
อพาร์ทเม้นท์ที่สวี่รั่วฉิงซื้อนั้นมีระยะห่างกับสนามบินพอสมควร
ไฟทล์บินของลี่ถิงเซิ่งนั้นลงเวลาตอนบ่ายสามโมง เธอออกไปตอนนี้ กว่าจะไปถึงสนามบินยังต้องใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง
ตอนนี้เธอยังอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยของลี่ถิงเซิ่ง ถ้าจะไปรับที่สนามบินก็ไม่มีอะไรที่ไม่สมเหตุสมผล
“ประธานลี่ ฉันออกเดินทางแล้วนะคะ” หลังจากที่สวี่รั่วฉิงส่งข้อความออกไปง่าย ๆ ข้อความหนึ่ง แล้วก็เอาโทรศัพท์โยนเข้าไปไว้ในกระเป๋า แล้วเปิดแผนที่นำทางขึ้นมา
ฝีมือการขับรถของสวี่รั่วฉิงนั้นไม่เลว ตอนที่อยู่เมืองนอกก็ชอบไปขับรถซิ่งกับจิ่วเอ๋อร์อยู่บ่อย ๆ
ตอนที่มาถึงสนามบินนั้น ยังเร็วกว่าเวลาที่คาดการณ์ไว้ครึ่งชั่วโมง
สวี่รั่วฉิงไม่รีบร้อน และนั่งรออยู่ข้างนอกอย่างเงียบ ๆ
เธอเล่นWeiboไปพักหนึ่ง จนถึงตอนที่ห่างจากเวลาไฟทล์บินของลี่ถิงเซิ่งและหลี่อานจะลงจอดหนึ่งชั่วโมง เธอถึงมาที่จุดรับคน
สวี่รั่วฉิงถอดแว่นกันแดดออก แล้วมาแขวนอยู่บนหน้าอก
ชั่วขณะหนึ่ง มีคนส่งสายตาที่ละสายตาไปไม่ได้มาที่เธอไม่น้อยเลย
รูปร่างของสวี่รั่วฉิงสูงโปร่ง ถึงแม้ว่าจะใส่ชุดทำงานอยู่ทั้งตัว ก็ไม่อาจปิดบังความสูงโปร่งของรูปร่างของเธอไว้ได้
รองเท้าส้นสูงสีดำเสริมให้ขาเล็ก ๆ ของเธอยิ่งดูยาวขึ้นไปอีก
เธอเหมือนกับว่าไม่ได้รู้สึกถึงสายตาของคนรอบข้าง ตั้งหน้าตั้งตารอคอยเจ้านายของเธอต่อไป
ที่ไม่ไกลนัก สวี่รั่วยีก็เพิ่งมาถึงจุดรับคน
ตั้งแต่ที่เธอได้ยินมาว่าลี่ถิงเซิ่งจะกลับมาเมืองหลินชวนวันนี้ เธอก็ได้ทำการเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่
เวลาที่ตามอยู่ข้าง ๆ สวี่รั่วยีพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “คุณสวี่ ไฟทล์บินของประธานลี่คือเวลาบ่ายสามโมง ตอนนี้ก็มารออยู่ที่นี่เลย จะเร็วเกินไปหรือเปล่า? และที่สำคัญคุณยังใส่รองเท้าส้นสูงอยู่อีก ยืนนานไปจะเหนื่อยง่ายนะ”
จะต้องรู้ไว้ว่าสวี่รั่วยีนั้นร่างกายอ่อนแอง่าย ปกติแม้แต่ออกงานเต้นรำยังจะต้องใส่รองเท้าส้นสูงที่พื้นเป็นหนังแกะ แต่วันนี้เพื่อลี่ถิงเซิ่งแล้ว ถึงกับใส่รองเท้าส้นสูงถึงเจ็ดแปดเซนติเมตร
เหตุผลก็เพราะว่าสวี่รั่วยีรู้สึกว่าที่ลี่ถิงเซิ่งเก็บสวี่รั่วฉิงไว้ข้างกาย ก็เพราะว่ารูปร่างของเธอสูงโปร่ง
สวี่รั่วยีสูงไม่เท่าสวี่รั่วฉิง หน้าก็ไม่ได้โดดเด่นเท่าสวี่รั่วฉิง
จะไม่พูดก็ไม่ได้ สาวสวยที่รูปร่างสูงโปร่งสามารถดึงดูดคนได้
สวี่รั่วยีนึกถึงเรื่องของครั้งนั้นที่งานเลี้ยงส่วนตัวของสามีภรรยาฮิลล์ ความอิจฉาที่มีต่อสวี่รั่วฉิงก็เพิ่มสูงขึ้นมาอีกหลายส่วน
แต่ว่าต่อไปเธอจะเข้าร่วมการแข่งขันนักปรุงน้ำหอมครั้งใหญ่ของเมืองหลินชวน น้ำหอมที่จะเข้าร่วมประกวดนั้นเป็นน้ำหอมที่ออกมาจากมือของสวี่รั่วฉิง ก็เลยไม่อยากจะเกิดความขัดแย้งโดยตรงกับเธอชั่วคราว
รอให้ได้รับตำแหน่งนักปรุงน้ำหอมอันดับหนึ่งซะก่อน แล้วค่อยมาจัดการกับเธอก็ได้ ไม่รีบร้อน
“ไม่เป็นไร มีเพียงแต่แบบนี้ ถิงเซิ่งถึงจะรู้ว่าฉันใส่ใจเข้ามากแค่ไหน” สวี่รั่วยีพูดไป “ใช่แล้ว ตอนนี้ห่างจากระยะเวลาที่ไฟทล์บินของถิงเซิ่งจะลงจอดยังต้องรออีกนานแค่ไหน?”