บทที่ 78 อมเข้าไปในปากก็กลัวละลาย ไม่กินเข้าไปในปากก็กลัวดึงดูดคนอื่น
ฝ่ามือของมือข้างที่สวี่รั่วฉิงถือโทรศัพท์อยู่ เริ่มมีเหงื่อซึมออกมาบาง ๆ ชั้นหนึ่ง
เธอค่อย ๆ สูดลมหายใจเข้า หวังว่าลี่ถิงเซิ่งจะไปพบความผิดปกติของตัวเองนะ
“ประธานลี่ คุณจะมาเช็กงานของฉันทำไมคะ?” สวี่รั่วฉิงพูดขึ้นเสียงเบา ในน้ำเสียงแฝงได้ด้วยความตื่นเต้นและความเบื่อหน่าย
“ฉันเคยรับปากกับคุณไว้แล้วว่า ในขณะที่ยังไม่สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายของฉันนั้น จะไม่มีทางออกไปจากลี่ซื่อกรุ๊ป และก็จะไม่มีทางไปจากข้างกายคุณ ไม่ว่าบริษัทไหนจะให้เงินเท่าไหร่ ก็ไม่มีทางซื้อตัวฉันไปได้”
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงพูดจบ ในใจก็สบายใจมากขึ้นแล้ว
คิดไม่ถึงว่าลี่ถิงเซิ่งที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่งก็จะเป็นกังวลว่าลูกน้องของเขาหนีงานด้วยเหรอ?
ที่ลี่ถิงเซิ่งมาตรวจเช็คงาน คงจะเป็นเพราะกลัวหนีงานล่ะมั้ง?
สวี่รั่วฉิงเองก็พูดไม่ชัดเจน
ดีกรีของวิสกี้นั้นค่อนข้างสูง พอลี่ถิงเซิ่งดื่มไปสองแก้วแล้ว สติก็เริ่มไม่ค่อยชัดเจนแล้ว พอมาได้ยินคำพูดของสวี่รั่วฉิงแล้ว ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่งที่ยากจะระบายออกมาได้อัดอั้นอยู่ในอกของเขา
พอกำลังอยากจะดุคน อยู่ ๆ ก็นึกได้ขึ้นมาเหมือนกับเขาจะไม่มีเหตุผลอะไรนะ
ลี่ถิงเซิ่งลุกขึ้นมาอย่างหงุดหงิด แล้วก้าวเดินไปถึงตรงหน้าหน้าต่าง แล้วเปิดหน้าต่างออก
ลมเย็นสายหนึ่งพัดพาเข้ามาในห้อง ชายหนุ่มพิงอยู่ข้างกำแพง โทรศัพท์แนบอยู่ข้างหู น้ำเสียงแหบแห้งได้อย่างน่ากลัว
“เป้าหมายของคุณคืออะไร แอนนา บอกกับผม”
ลี่ถิงเซิ่งพูดออกมาอย่างเชื่องช้ามาก ทีละตัวอักษร ทีละประโยค ราวกับว่าเคาะอยู่ในประตูใจของสวี่รั่วฉิง
ใจที่เพิ่งจะสงบลงมาเมื่อกี้ของเธอ กลับเต้นโครมครามขึ้นมาอีกครั้ง
“ประธานลี่ นี่คุณเมาแล้วใช่ไหมคะ?” สวี่รั่วฉิงถามขึ้นอย่างลองเชิง
เธอจำได้ว่าวันนั้นที่งานเลี้ยงส่วนตัวของสามีภรรยาฮิลล์ หลังจากที่ลี่ถิงเซิ่งดื่มเหล้าไปแล้วก็เริ่มต้นถามซักไซ้ความลับของเธอขึ้นมา
น้ำเสียงที่อ่อนโยนของหญิงสาว เหมือนอย่างกับมาชเมลโล่ชิ้นหนึ่ง
อมเข้าไปในปากก็กลัวละลายไป
ถ้าไม่กินเข้าไปในปากก็กลัวดึงดูดคนอื่น
ดวงตาของลี่ถิงเซิ่งตกตะลึงอย่างที่จะเกิดขึ้นได้น้อย วินาทีต่อมา เขาก็หัวเราะขมขื่นขึ้นคำหนึ่ง
เขาใช้เหตุผลมาอธิบายไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทำไมตอนนี้ตัวเองถึงได้มาถามซักไซ้ลูกน้องหญิงคนหนึ่งของตัวเองอยู่ ว่าไปไหนมา ไปทำอะไรบ้าง แล้วเธอปิดบังอะไรไว้บ้าง
ราวกับผู้ชายทั่วไปที่หึงหวงยังไงอย่างงั้น
ลี่ถิงเซิ่งที่รู้สึกถึงจุดนี้นั้น หลังจากที่หัวคิ้วค่อย ๆ ขมวดแล้ว ก็กลายเป็นปมเล็ก ๆ ขึ้นมาอันหนึ่ง
ใบหน้าหล่อเหลามีอำนาจดูมีความลำบากใจขึ้นมาอย่างที่มีไม่บ่อยนัก
เวลาผ่านไปทีละนาทีทีละวินาที
“ประธานลี่ คุณยังตื่นอยู่ไหนคะ?” สวี่รั่วฉิงกลัวบรรยากาศเงียบขรึมที่สุด ความเงียบขรึมเป็นเวลานานทำให้เธอรู้สึกหายใจลำบาก
“คำพูดของคุณพูดได้ไม่ผิด ผมเมาแล้ว” เสียงหัวเราะขรึมต่ำของชายหนุ่มลอยมาจากในโทรศัพท์
สวี่รั่วฉิง “……”
ลี่ถิงเซิ่งเคยยอมรับอย่างเด็ดขาดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ตอนนี้เธอจำเป็นจะต้องคิดสักนิดว่า ตัวเองจะต้องโทรศัพท์บอกหลี่อานหรือเปล่าว่า ลี่ถิงเซิ่งเมาแล้ว เพื่อป้องกันอีกเดี๋ยวลี่ถิงเซิ่งอาจจะทำเรื่องอะไรที่ทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียงออกมา
ลี่ถิงเซิ่งเหมือนกับว่าจะเดาความคิดของสวี่รั่วฉิงออก แล้วก็หัวเราะเสียงแหบขึ้นคำหนึ่ง
“หลี่อานคออ่อนมาก คาดว่าตอนนี้น่าจะหลับเป็นตายไปแล้วมั้ง”
สวี่รั่วฉิงเงียบไปครู่หนึ่ง “ประธานลี่ นี่คุณดื่มไปกี่แก้วคะ?”
ลี่ถิงเซิ่งครุ่นคิดไปเล็กน้อย แล้วก็ตอบกลับอย่างซื่อตรงว่า “สองแก้ว”
สวี่รั่วฉิงเงียบขรึมไปครู่หนึ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเผชิญหน้ากับลี่ถิงเซิ่งแล้วรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ลี่ถิงเซิ่งที่อยู่ในใจเธอนั้นเป็นคนแบบที่อยู่อย่างสูงส่งเยือกเย็นมีหลักการจนน่ากลัว แต่พอเขาเมาแล้วเท่านั้นก็จะซื่อตรงเป็นอย่างมาก ซื่อตรงจนกระทั่งเหมือนกับมีนิสัยแบบเด็กเล็กน้อย
“ประธานลี่ คุณเองก็คออ่อนเหมือนกันนี่” สวี่รั่วฉิงพูดขึ้นอย่างล้อเลียน “ถ้าหากว่าคุณเมาแล้วก็ไปนอนเถอะ ฉันขอแนะนำว่าตอนนี้คุณควรไปนอนบนเตียงก่อน ก่อนหน้านี้ฉันช่วยปรุงน้ำหอมที่รักษาอาการนอนไม่หลับให้คุณไปขวดหนึ่งแล้วไม่ใช่เหรอ? คุณเอาน้ำหอมมาฉีดไว้บนหมอนสักหน่อยซิ เดี๋ยวคุณก็จะรู้สึกง่วงเอง”
เสียงหัวเราะของลี่ถิงเซิ่งเหมือนกับช็อกโกแลตสอดไส้เหล้า
เขาหัวเราะครั้งหนึ่ง ในของสวี่รั่วฉิงก็จะคันยิก ๆ ความร้อนบนใบหน้าก็จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่
“พูดคุยเป็นเพื่อนผมสักพักซิ” ลี่ถิงเซิ่งพิงอยู่บนเตียง แล้วก็ใช้รีโมตปิดไฟดวงอื่น ๆ ภายในห้อง เหลือไว้เพียงแต่แสงไฟสีเหลืองนวลดวงเดียว
น้ำหอมที่สวี่รั่วฉิงปรุงให้เขาคนเดียวโดยเฉพาะนั้น ถึงแม้ว่าจะเทียบกับกลิ่นบนตัวเธอไม่ได้ แต่ว่าก็ตรงต่อความชอบของลี่ถิงเซิ่งมาก
เพียงแค่ดมเบา ๆ ครู่หนึ่ง พอหลับตาลงในหัวสมองก็จะเต็มไปด้วยกลิ่นหอมหวานของปากเธอตอนที่เขาจูบหญิงสาว
“ก็ได้ ประธานลี่คุณอยากจะคุยอะไรล่ะ?” งานของผู้ช่วยนั้น จะต้องรับใช้นายจ้างของตัวเองให้ดี หลี่อานเคยพูดปัญหานี้กับเธอตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามาทำงานแล้ว
แล้วสวี่รั่วฉิงก็เอาโน๊ตบุ๊คไปวางไว้อีกข้างหนึ่ง แล้วเปลี่ยนเป็นวิธีการที่สบาย ๆ วิธีหนึ่ง แล้วเอาหูฟังมาใส่ไว้
“เรื่องในอดีตที่ผ่านมาของคุณ”
พอสวี่รั่วฉิงได้ยินคำพูดของลี่ถิงเซิ่ง ในใจก็บิดตัวกันขึ้นมา
ช่วงเวลาที่สุขสบายของเธอเมื่อกี้หายวับไปทันที
หรือว่าลี่ถิงเซิ่งสืบค้นเจออดีตของเธอแล้วเหรอ?
ก็ไม่น่าจะใช่นะ ถ้าหากว่ามีคนสามารถสืบค้นเรื่องราวของเธอในอดีตโดยผ่านตระกูลซูได้ จิ่วเอ๋อร์ก็จะต้องบอกเธอแน่ ๆ
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงค่อย ๆ สูดลมหายใจเข้าไปทีหนึ่งแล้ว ก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ประธานลี่ อดีตของฉันไม่มีความหมายอะไรหรอก เรียนหนังสือ ปรุงน้ำหอม จากนั้นก็กลับมาที่เมืองหลินชวน แล้วเรื่องต่อจากนั้นคุณก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ที่ผ่านมาคุณเคยอยู่ในเมืองหลินชวนเหรอ?” ในดวงตาที่เมาเล็กน้อยของลี่ถิงเซิ่งมีแววคมกริบกะพริบผ่าน
“คนที่เคยอยู่เมืองหลินชวนมีเยอะแยะไป” สวี่รั่วฉิงตอบอย่างไม่รีบร้อน “ที่ผ่านมาฉันเคยอยู่เมืองหลินชวน ก็ไม่แน่ว่าจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับประธานลี่อย่างคุณด้วย ถ้าพูดตามหลักแล้วรูปร่างหน้าตาของผู้ชายอย่างประธานลี่แล้ว ถ้าฉันเคยเจอมาก่อน ก็จะต้องจำได้อย่างสุดซึ้งแน่”
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงพูดจบแล้วก็หัวเราะเบา ๆ สองที “และเห็นได้ชัดว่า ที่ผ่านมาฉันกับประธานลี่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันแน่”
……
สวี่รั่วฉิงเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองพูดคุยกับชายหนุ่มไปนานขนาดไหน
เพราะว่าใส่หูฟังเอาไว้ เธอก็เลยมุดเข้าไปในผ้าห่มซะเลย แล้วก็ถือซะว่ามีคนอ่านนิทานก่อนนอนให้เธอฟังละกัน
เสียงของลี่ถิงเซิ่งนั้นน่าฟังมาก เสียงขรึมต่ำราวกับเชลโล่ฟังแล้วเสนาะหู
พอผ่านไปไม่นาน ภายใต้น้ำเสียงของลี่ถิงเซิ่งนั้น สวี่รั่วฉิงก็เริ่มง่วงงุนขึ้นมา
วันรุ่งขึ้น ลี่ถิงเซิ่งลืมตาขึ้นด้วยความปวดหัว
วิสกี้ขวดนั้นมีดีกรีสูงมาก เทียบกับไวน์ในคลังที่เขาดื่มปกติไม่รู้สูงขึ้นตั้งเท่าไหร่
ตอนนี้เขาปวดหัวแทบตาย จนแทบเหมือนกับจะแตกออก
ลี่ถิ่งเซิ่งค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง แล้วก็ใช้มือเดียวค่อย ๆ นวดหัวคิ้วของตัวเองไป
แล้วในเวลานี้พอดี สายโทรศัพท์ที่ไม่ได้วางสายไปเมื่อคืน มีเสียงลมหายใจอ่อน ๆ ลอยมา
นิ้วมือเรียวยาวของลี่ถิงเซิ่งนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง แล้วอย่างรวดเร็วดวงตาที่ลึกซึ้งของเขาก็มองไปที่โทรศัพท์มือถือของตัวเอง
ตัวหนังสือข้างบนบอกกับเขาว่า เมื่อวานหลังจากที่ตัวเองดื่มเมาแล้ว เขาก็คุยโทรศัพท์กับผู้ช่วยสาวของตัวเองตลอดทั้งคืน
ลี่ถิงเซิ่ง “……”
มือที่ถือโทรศัพท์ไว้ กำแน่นขึ้นเล็กน้อย
สวี่รั่วฉิงหลังจากหลับไปแล้ว ก็จะเรียบร้อยเป็นอย่างมาก เสียงลมหายใจอ่อน ๆ ช่างแตกต่างจากการแต่งหน้าที่สดใสตอนปกติทุกอย่าง
เสียงลมหายใจอ่อน ๆ เหมือนอย่างกับลูกแมวน้อยที่ไม่ได้พลังโจมตีตัวหนึ่ง
หัวคิ้วของลี่ถิงเซิ่งที่เมื่อกี้ยังขมวดเข้าด้วยกันเพราะว่าเมาค้าง ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง
ในดวงตามีแววอ่อนโยนที่เห็นได้ยากแผ่ออกมาเสี้ยวหนึ่ง
ให้เธอนอนต่ออีกหน่อยดีกว่า ลี่ถิงเซิ่งคิดไป แล้วก็กดวางสายไป
ลี่ถิงเซิ่งเดินเข้ามาในห้องน้ำ หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้ว ผมยังเปียกอยู่แล้วก็คลุมเสื้อเชิ้ตสีขาวเอาไว้
หลี่อานเคาะประตูขึ้นเบา ๆ “ประธานลี่รับ คุณตื่นหรือยังครับ?”
ลี่ถิงเซิ่งเปิดประตูออก แล้วเดินมาถึงห้องรับแขก แล้วเทน้ำอุ่นให้ตัวเองแก้วหนึ่ง และดื่มให้ชุ่มคอเล็กน้อย
“ประธานลี่ ตารางงานของวันนี้ได้กำหนดเสร็จแล้วครับ พูดคุยธุรกิจกับประธานหวังตอนบ่ายสอง แล้วตอนหนึ่งทุ่มหัวค่ำมีงานเลี้ยงสังสรรค์ที่ร้านอาหารหนึ่งงานครับ”
ลี่ถิงเซิ่งพยักหน้า “ฝากข้อความให้แอนนาข้อความหนึ่ง บอกว่าวันนี้ให้เธอพักผ่อนอยู่บ้านดี ๆ ไม่ต้องไปบริษัทแล้ว”
หลี่อานอึ้งไปเล็กน้อย
“อะไรนะครับ?”