บทที่ 79 เมื่อคืนฟังคำพูดตอนเมาของประธานลี่
หลี่อานมึนงงไปเลย
นี่ประธานลี่จะทำอะไรกันแน่?
ไม่ถูก ไม่ถูก ทำไมประธานลี่ถึงรู้ล่ะว่าวันนี้ผู้ช่วยแอนต้องการพักผ่อน?
แล้วแอนนาก็ไม่ได้มาทำงานนอกสถานที่กับพวกเขาด้วย คงจะไม่ใช่ว่าเมื่อคืนทั้งสองคนคุยวิดีโอคอลกันหรอกนะ……
หลี่อานรีบส่ายหัว แล้วก็เอาความคิดเรื่อยเปื่อยที่อยู่ในหัวสมองสลัดทิ้งไป
“ได้ครับ ประธานลี่”
ไม่รู้จริง ๆ ว่าตอนนี้ตกลงประธานลี่และผู้ช่วยแอนนั้นมีความสัมพันธ์ยังไงกัน แม้แต่วันนี้ผู้ช่วยแอนต้องการพักผ่อนก็ยังรู้ชัดเจนดี
หลี่อานส่งข้อความWeChatให้สวี่รั่วฉิงไปข้อความหนึ่ง
“แอนนา ประธานลี่บอกว่าวันนี้คุณสามารถพักผ่อนอยู่บ้านได้ ไม่ต้องไปบริษัท”
ส่ง
หลี่อานคิดไปครู่หนึ่ง แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่อยากจะซุบซิบสักหน่อย จึงส่งไปอีกประโยคว่า
“เมื่อคืนคุณกับประธานลี่เกิดอะไรกันขึ้น? ตกลงพวกคุณพัฒนาไปถึงขั้นไหนกันแล้ว?”
“หลี่อาน ไปได้แล้ว”
หลี่อานรีบเก็บโทรศัพท์ให้เรียบร้อย “มาแล้วครับ ประธานลี่!”
หลี่อานตามอยู่หลังชายหนุ่ม มาถึงห้องอาหารของโรงแรม แอบสังเกตปฏิกิริยาของลี่ถิงเซิ่งไปด้วย แล้วก็เอาเดาว่าเมื่อคืนระหว่างชายหนุ่มกับสวี่รั่วฉิงเกิดอะไรขึ้นด้วย
“ประธานลี่ ทำไมคุณถึงรู้ว่าวันนี้ผู้ช่วยแอนจำเป็นจะต้องพักผ่อนล่ะครับ?”
ลี่ถิงเซิ่งเหล่มองหลี่อานเบา ๆ ทีหนึ่ง “สร่างเมาหรือยัง?”
ชั่วขณะหนึ่ง หลี่อานตั้งสติกลับมาไม่ทัน จึงร้อง“อ๋า”ออกมาคำหนึ่ง
พอผ่านไปสักครู่แล้ว เขาถึงตั้งสติกลับมาได้ ที่แท้ชายหนุ่มกำลังพูดว่าเมื่อวานเขาคออ่อนเมาเหล้าไป
“สร่างแล้วครับ” หลี่อานตอบ
“สร่างแล้วก็ดี อีกเดี๋ยวจัดการเรื่องเนื้อหาธุรกิจที่จะพูดคุยกับประธานหวังให้เรียบร้อย แล้วส่งมาที่ห้องของฉัน” พูดจบ ลี่ถิงเซิ่งก็สั่งอาหารกับพนักงานอย่างเย็นชาขึ้นว่า “โจ๊กไข่เยี่ยวม้าและเนื้อไม่ติดมัน ขนมจีบกวางตุ้ง”
……
สวี่รั่วฉิงขยี้ตาเล็กน้อย แล้วบิดขี้เกียจทีหนึ่ง
เมื่อคืนก็ไม่รู้ว่านอนหลับไปตอนไหน สวี่รั่วฉิงแกะสายหูฟังที่พันอยู่รอบคอตัวเองออก แล้วก็พิงหัวเตียงไว้อย่างเหม่อลอยเล็กน้อย
ตอนนี้กี่โมงแล้วนี่? สวี่รั่วฉิงเอาโทรศัพท์ออกมา พอกำลังจะดูเวลา ก็เห็นบันทึกเวลาที่ตัวเองคุยโทรศัพท์กับลี่ถิงเซิ่งเข้า
เก้าชั่วโมง
สวี่รั่วฉิงจ้องมองตัวเลขบนหน้าจอแล้วก็เริ่มเงียบขรึมขึ้นมา เมื่อคืนเธอกับลี่ถิงเซิ่งคุยกันนานขนาดนี้เลยเหรอ?
ปกติเธอนอนน่าจะสงบมากเลยนะ? คงจะไม่ได้ขายหน้าไปใช่ไหม?
สวี่รั่วฉิงสางผมที่ยุ่งเหยิงของตัวเองไปเล็กน้อย แล้วก็เปิดผ้าห่มออกแล้วลงจากเตียง
และก้มหน้าลง แล้วปรับหน้าจอโทรศัพท์ไปที่หน้าเวลา เป็นเวลาสิบโมงแล้วเหรอเนี่ย
ในอพาร์ทเม้นท์เหลือแค่เธอคนเดียวแล้ว สวี่อี้ฝานและสวี่อี้หานทั้งสองคนได้ไปโรงเรียนแล้ว
สวี่รั่วฉิงถอนหายใจทีหนึ่ง ถ้าตอนนี้จะไปบริษัทก็สายแล้ว หรือไม่กินข้าวก่อนค่อยว่ากันดีกว่า
หลังจากที่ทำอาหารเช้าอย่างง่าย ๆ ไปแล้ว สวี่รั่วฉิงก็ตรวจเช็กข้อความWeChatของตัวเองไปด้วย แล้วก็ฟังข่าวไปด้วย
ข้อความWeChatของหลี่อานโผล่เข้ามาในสายตา
ข้อความแรกทำให้สวี่รั่วฉิงรู้สึกดีใจ กำลังดีเลยเธอไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนสวี่อี้หานและสวี่อี้ฝานมานานแล้ว
แต่ตอนที่เห็นข้อความที่สองนั้น มุมปากของสวี่รั่วฉิงก็กระตุกขึ้นทีหนึ่ง
“ผู้ช่วยหลี่ คุณเป็นคนชอบซุบซิบนินทาขนาดนี้เลยเหรอ?”
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงส่งข้อความนี้เสร็จแล้ว ก็เอาโทรศัพท์วางไว้ข้างหนึ่งไปเรื่อย ในใจกำลังวางแผนอยู่ว่า หลังจากที่กินข้าวเช้าเสร็จแล้ว ก็ไปเดินตลาดแถวนี้สักหน่อย แล้วซื้อขนมที่เด็ก ๆ ชอบสักหน่อย
หลี่อานกำลังกินข้าวเป็นเพื่อนลี่ถิงเซิ่งอยู่
พอโทรศัพท์ดังขึ้นมา เขาก็จ้องมองลี่ถิงเซิ่งทีหนึ่ง พอเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร เขาก็คว้าโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดปลดล็อกหน้าจอออก
“ข้อความจากใคร?” ในตอนที่หลี่อานกำลังจะตอบกลับไปนั้น ชายหนุ่มที่รับประทานอาหารอยู่ข้าง ๆ ก็วางตะเกียบที่อยู่ในมือลง แล้วพูดขึ้นเสียงเย็น
หลี่อานยื่นหน้าจอโทรศัพท์ไปอยู่ใต้ตาของลี่ถิงเซิ่ง “ผู้ช่วยแอนครับ”
ลี่ถิงเซิ่งกวาดตามองทีหนึ่ง ก็เห็นคำพูดซุบซิบประโยคนั้นของหลี่อาน
จากนั้นดวงตาที่เย็นเฉียบของชายหนุ่มก็เหล่มองหลี่อานทีหนึ่ง
หลี่อานรู้ตัวว่าตัวเองทำเรื่องที่เกินเลยไปแล้ว จึงไม่ได้เอ่ยอะไร
หนึ่งนาทีให้หลัง หลี่อานก็รู้สึกว่าโทรศัพท์ที่อยู่ในมือตัวเองโดนชายหนุ่มหยิบไปแล้ว
หลี่อานเงยหน้าขึ้นมา “ประธานลี่ นี่คุณจะ……?”
ลี่ถิงเซิ่งถือโทรศัพท์ของหลี่อานเอาไว้ แล้วหรี่ตาลง นิ้วมือที่สีขาวซีดค่อย ๆ แตะหน้าจอไปเบา ๆ หน้าก็ไม่เงยแล้วพูดขึ้นว่า “ยืมใช้หน่อย”
ในใจของหลี่อานเงียบขรึมลง ประธานลี่ครับ คุณจะยืมใช้ ผมยังกล้าไม่ให้อีกเหรอครับ?
ลี่ถิงเซิ่งคลี่มุมปากออกอย่างอารมณ์ดี แล้วเริ่มเลียนแบบคำพูดของหลี่อานขึ้นมา “พวกเรากลายเป็นเพื่อนร่วมงานกันมาก็นานขนาดนี้แล้ว พูดหน่อยซิ?”
สวี่รั่วฉิงมองตาขาวอย่างเงียบกริบทีหนึ่ง แล้วพอดีกับที่อาหารเช้าก็กินหมอพอดีเลย เธอมีเวลาจะคุยกับหลี่อานเยอะแยะ
“หลี่อาน คุณไปดูงานเป็นเพื่อนประธานลี่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงไม่รู้ว่าเมื่อคืนประธานลี่ดื่มเหล้าเมาแล้ว?”
พอพูดถึงอันนี้แล้ว สวี่รั่วฉิงก็อารมณ์ขึ้นทันที
ในฐานะที่หลี่อานเป็นผู้ช่วยของลี่ถิงเซิ่งมาเป็นเวลานานกว่าตัวเองขนาดนี้ ทำไมถึงยังไม่เข้าใจผู้ชายอย่างลี่ถิงเซิ่งว่า ไม่ได้คอแข็งขนาดนั้น!
ถ้าเกิดทำเรื่องอะไรที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของบริษัทไปจะทำยังไง!
“อย่างน้อยคุณก็เป็นเลขาส่วนตัวของประธานลี่ ระวังมากกว่านี้หน่อยซิ ทำให้ฉันที่เป็นผู้ช่วยที่แค่รับผิดชอบจัดตารางงาน เมื่อคืนยังต้องมาฟังคำพูดเมาเหล้าของประธานลี่อีก……”
ดวงตาสีดำสนิทของลี่ถิงเซิ่งมีแววอ่อนโยนโผล่ออกมาเสี้ยวหนึ่ง
ปกติแล้วหญิงสาวไม่มีทางที่จะพร่ำบ่นหรือร้องเรียนเนื้อหาเหล่านี้กับเขา
เขาเหมือนกับว่าได้เห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ไม่เหมือนกับตอนปกติ
“คุณอย่าไปบอกประธานลี่นะ ในตอนที่เขาเมานั้นก็พูดมากเหมือนกันนะ ถ้าหากคุณอยากจะลองเห็นแล้วละก็ ฉันขอแนะนำให้คุณว่าตอนที่ประธานลี่ไปงานเลี้ยงสังสรรค์นั้น ไม่ต้องช่วยประธานลี่ดื่มเหล้าแทน”
ความสัมพันธ์ของสวี่รั่วฉิงและหลี่อานนั้นไม่เลวจริง ๆ ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยของลี่ถิงเซิ่งเหมือนกัน หลี่อานก็เคยช่วยสวี่รั่วฉิงไปไม่น้อย
เพียงแต่แค่ร้องเรียนกันเป็นส่วนตัวเท่านั้น ในเมื่อลี่ถิงเซิ่งก็ไม่มีทางรู้อยู่แล้ว
แต่สิ่งที่สวี่รั่วฉิงคิดไม่ถึงก็คือ ตอนนี้โทรศัพท์ของหลี่อานจะถูกลี่ถิงเซิ่งถือไว้
มุมปากของชายหนุ่มมีรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้งรอยหนึ่งแฝงอยู่
นิ้วมือเคาะแป้นพิมพ์ไปเบา ๆ “คุณไม่กลัวว่าถ้าประธานลี่รู้แล้วจะว่าคุณเหรอ?”
สวี่รั่วฉิงคิดไปครู่หนึ่ง แล้วทำปากจู๋ขึ้นเล็กน้อย “ถ้าคุณไม่ไปรายงาน ประธานลี่ก็จะไม่มีทางรู้แน่!”
ลี่ถิงเซิ่งยิ้มเล็กน้อย แล้วก็เอาโทรศัพท์คืนให้กับหลี่อาน
หลี่อานรับโทรศัพท์มา ในตอนที่กำลังจะดูว่าประธานลี่และสวี่รั่วฉิงคุยอะไรกันบ้าง น้ำเสียงที่ค่อนข้างเย็นของลี่ถิงเซิ่งก็ดังขึ้นมาพอดี
“ปกติแล้วพวกนายพูดคุยกันบ่อย ๆ และความสัมพันธ์ดีกันขนาดนี้เลยเหรอ?”
หลี่อานนิ่งไปครู่หนึ่ง ทำไมเขาถึงรู้สึกว่ามีความหึงหวงอยู่เล็กน้อยล่ะ?
หลี่อานลองสังเกตปฏิกิริยาบนใบหน้าของลี่ถิงเซิ่งอย่างระมัดระวัง
บนใบหน้าของชายหนุ่มยังคงเรียบเฉยอยู่ มองไม่ออกถึงอารมณ์ใด ๆ
แต่ว่าดวงตาดำสนิทที่ปกติแล้วเย็นชา ตอนนี้กลับแหลมคมราวกับนกอินทรีเหยี่ยวตัวหนึ่ง
หลี่อานรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ประธานลี่ ผมเปล่านะครับ! ผมเห็นผู้ช่วยแอนเป็นเหมือนกับน้องสาวแท้ ๆ ของตัวเอง ไม่มีความคิดเป็นอื่นอย่างแน่นอน ปกติคุยกัน เราก็คุยแต่เรื่องงานเท่านั้นครับ”
หน้าผากของหลี่อานมีเหงื่อซึมออกมา
ประธานลี่คงจะไม่ได้คิดว่าเขากับผู้ช่วยแอนมีอะไรต่อกันหรอกนะ?
ด้วยมโนธรรม ถึงแม้ว่าเขาจะมีความกล้ามากแค่ไหน ก็ไม่กล้ามีความคิดอะไรต่อผู้ช่วยแอนแม้แต่นิดเดียวแน่
และที่สำคัญผู้หญิงอย่างผู้ช่วยแอน ก็ไม่ใช่ว่าผู้ชายทั่วไปจะสามารถควบคุมได้ไหวหรอกนะ?
เขาไม่กล้าหรอก
“คิดเป็นน้องสาวแท้ ๆ เหรอ?” ลี่ถิงเซิ่งหัวเราะขึ้นมาคำหนึ่ง “งั้นนายก็คงโดนเธอขายไปแล้ว ก็ยังไม่รู้ตัวยังมาช่วยเธอนับเงินอีก”
หลี่อาน “……”
ทำไมเขารู้สึกว่าความฉลาดของตัวเองโดนประธานลี่มองข้ามไปนะ?
“ประธานลี่ คุณจะไปไหนครับ?” พอเห็นลี่ถิงเซิ่งลุกขึ้นยืน หลี่อานก็ถามขึ้น
“กลับพักผ่อนที่ห้อง เนื้อหาที่จะพูดคุยธุรกิจกับประธานหวังรีบส่งมาที่ห้องฉันนะ”
ชายหนุ่มทิ้งคำพูดไว้ประโยคหนึ่ง แล้วก็ออกไปจากห้องอาหาร