บทที่ 1115 เมืองเซียนสัประยุทธ์
บทที่ 1115 เมืองเซียนสัประยุทธ์
ทวีปสารท
ฟึบ! ฟึบ!
ลำแสงสองสายพุ่งผ่านท้องฟ้า มันคือเฉินซีและเหลี่ยปิงหาน
หลังจากผ่านสะพานจรัสแสงเมฆา ทั้งคู่กังวลว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นระหว่างทาง จึงรีบเร่งเดินทางอย่างสุดกำลัง เพราะตราบใดที่ไปถึงเมืองไอยราสีชาดของทวีปสารทได้แล้ว พวกเขาก็จะสามารถอาศัยค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติเพื่อไปยังทวีปดาราวีรบุรุษทันที!
ทั้งสองเดินทาง พร้อม ๆ กับฟื้นพลังไปตลอดทาง
การต่อสู้กับหลูเฉินและคนอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ทำให้เหลี่ยปิงหานได้รับบาดเจ็บหนัก และพละกำลังของชายหนุ่มใกล้เหือดแห้ง แม้เฉินซีจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ต้องใช้เวลาพักฟื้นเช่นกัน เนื่องจากปราณเซียนพิสุทธิ์อ่อนล้าลงมาก
เฉินซีสรุปการต่อสู้ครั้งนี้เงียบ ๆ ขณะเหินไปข้างหน้า
พิรุณโปรยปรายประหนึ่งฝัน
คลื่นเมฆาทำลายล้าง
มหาสมุทรไร้พรมแดน
เคล็ดวิชาทั้งสามนี้ เป็นแก่นแท้ของมรดกของเคล็ดกระบี่วารีที่เรียนรู้มา
พิรุณโปรยปรายประหนึ่งฝันนั้นเฉียบคมและเยือกเย็น เมื่อใช้งานปราณกระบี่นับพันจะถูกควบแน่นจนสุดขีด ราวกับไร้ตัวตนและชวนฝัน แต่จริง ๆ แล้วกลับเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างที่ดุดันที่สุด
ส่วนคลื่นเมฆาทำลายล้าง มุ่งเน้นไปที่การบดขยี้ ดั่งเมฆสีดำควบแน่นด้วยแรงกดดัน ปกคลุมเมืองและกดลงมา มันแสดงให้เห็นถึงพลังอันน่าเกรงขาม และความน่าหวาดกลัวของกฎแห่งน้ำได้อย่างชัดเจน
ในทางกลับกัน มหาสมุทรไร้พรมแดนเน้นไปที่การวางกับดักและสังหาร ปราณกระบี่จะเปลี่ยนเป็นทะเลสีครามปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ ครอบคลุมทุกสิ่ง ศัตรูติดอยู่ในนั้นจะไม่มีทางหนี หรือหลบเลี่ยงไปไหนได้!
ในขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวนี้ยังเป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดในเคล็ดกระบี่วารี และคำว่าไร้ขอบเขตก็เพียงพอแล้ว ที่จะพิสูจน์ความยิ่งใหญ่และความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวนี้
ที่เฉินซีเสียดาย คือกระบวนท่าทั้งสามนี้ เป็นเพียงกระบวนท่าที่ค้นพบด้วยตัวเอง อาจถือได้ว่ามันคือเคล็ดกระบี่วารีที่ถูกแยกออกเป็นสามส่วน
หากเขาสามารถผสานกระบวนท่าทั้งสามนี้เข้าด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์ พลังของมันจะเพิ่มขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ถึงสองเท่าอย่างแน่นอน!
เมื่อข้าเข้าสู่สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า ข้าจะต้องเข้าใจเคล็ดกระบี่วารีให้สมบูรณ์ มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่ข้าจะได้รับมรดกอื่นจากโลกแห่งดารา เช่น เคล็ดกระบี่อัคคี เคล็ดกระบี่เหล็กกล้า เคล็ดกระบี่พฤกษา… เฉินซีครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ
ยันต์เทวะอนันต์ในโลกแห่งดาราเป็นสิ่งพิเศษอย่างยิ่ง เมื่อพลังของกฎแห่งเต๋าบางข้อบรรลุถึงความสมบูรณ์สูงสุด เขาก็สามารถตระหนักรู้ถึงมรดกที่สองจากมันได้
เช่นเดียวกับตอนนี้ แม้จะเข้าสู่โลกแห่งดารา มรดกในยันต์เทวะอนันต์ที่เห็น ก็ยังคงเป็นเคล็ดกระบี่วารี นี่เป็นเหมือนด่านป้องกันที่จำต้องเชี่ยวชาญเคล็ดกระบี่วารีอย่างไร้ที่ติเท่านั้น จึงจะสามารถข้ามผ่านอุปสรรคนี้และรับมรดกอีกชิ้นได้
‘นอกจากนั้น ยามนี้ข้าได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนลึกลับแล้ว ดังนั้นจำนวนของกฎที่ข้าสามารถควบแน่นได้ จึงไม่ถูกจำกัดโดยฐานการบ่มเพาะของข้าอีกต่อไป หากข้าได้ใช้เวลาพอสมควรเพื่อทำความเข้าใจในความลึกซึ้งของมหาเต๋าแห่งดารา การทำลายล้าง นิรันดร์ การรังสรรค์ และอื่น ๆ เพื่อควบรวมให้พวกมันกลายเป็นพลังแห่งกฎ จากนั้นพลังการต่อสู้ของข้าก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ …’
เฉินซีหายใจเข้าลึก ๆ ความมั่นใจก่อตัวขึ้นในหัวใจอย่างแรงกล้า
ชายหนุ่มรู้ว่าตราบเท่าที่เขาเข้าสู่สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า สถานการณ์ทุกอย่างจะง่ายขึ้นอย่างยิ่ง และหากได้ฝึกฝนในสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า ความหวังในการบรรลุเป้าหมายจะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ !
…
เหลี่ยปิงหานผู้ที่กำลังปรับลมหายใจเงียบ ๆ และพักฟื้นมาตลอดทาง จู่ ๆ ก็เงยหน้าขึ้น และชี้ไปยังที่ห่างไกล “พี่เฉิน ดูสิ นั่นคือเมืองไอยราสีชาด เราจะสามารถไปถึงทวีปดาราวีรบุรุษ จากค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติที่นั่น!”
เฉินซีเงยหน้าขึ้นมอง และแน่นอนว่าเขาเห็นโครงร่างของเมืองอันงดงามที่สะท้อนให้เห็นราง ๆ ในส่วนลึกของทะเลเมฆที่อยู่ไกลออกไป
“ตราบเท่าที่เราไปถึงทวีปดาราวีรบุรุษ แม้ตระกูลจั่วชิวส่งกองกำลังทั้งหมดมา ก็ไม่อาจทำอะไรเราได้!”เหลี่ยปิงหานพูดด้วยความมั่นใจอย่างมาก
เฉินซีชะงัก ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ “ข้อจำกัดดาราวีรบุรุษ?”
ดวงตาของเหลี่ยปิงหานเปล่งประกายเจิดจรัส และเผยให้เห็นความปรารถนาอันแรงกล้า “ใช่แล้ว ข้อจำกัดดาราวีรบุรุษ เป็นข้อจำกัดที่ราชันเซียนดาราวีรบุรุษตั้งขึ้นด้วยตนเอง มันครอบคลุมพื้นที่ทุกตารางนิ้วในทวีปดาราวีรบุรุษ เทียบได้กับกฎของเต๋าแห่งสวรรค์!”
คำพูดของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความเคารพ สรรเสริญ และชื่นชมอย่างไม่ปิดบัง
เฉินซีเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี ข้อจำกัดดาราวีรบุรุษ ไม่ต่างอะไรกับกฎของเต๋าแห่งสวรรค์ มันเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของราชันเซียนดาราวีรบุรุษ ที่เพียงแค่คิดก็ต้องอุทานออกมาด้วยความชื่นชม
ภายในสามเดือนที่สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเปิดลงทะเบียน ข้อจำกัดนี้ใช้งานทั่วทั้งทวีปดาราวีรบุรุษ เพื่อปกป้องคนรุ่นเยาว์ที่เข้าสู่ทวีปดาราวีรบุรุษ ด้วยความมุ่งหมายลงทะเบียนเข้าร่วมทดสอบเข้าสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า
ในช่วงเวลานั้น หากใครกล้าเคลื่อนไหวโจมตีผู้เยี่ยมยุทธ์รุ่นเยาว์ในทวีปดาราวีรบุรุษ พวกเขาจะถูกกำจัดโดยข้อจำกัดดาราวีรบุรุษทันที เว้นแต่บุคคลนั้นจะอยู่ขอบเขตราชันเซียน ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางหลบหนีจากอำนาจของข้อจำกัดดาราวีรบุรุษได้
สิ่งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทั้งทวีปดาราวีรบุรุษให้ความสำคัญกับการรับสมัครของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าอย่างยิ่ง และสถานะอันไม่ธรรมดาของสำนักศึกษาที่สามารถร้องขอให้ราชันเซียนตั้งข้อจำกัดเช่นนี้ขึ้นได้ ช่างคู่ควรกับการเป็นสถานศึกษาอันดับหนึ่งในภพเซียนอย่างแท้จริง!
ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งคู่ก็มาถึงเมืองไอยราสีชาด พวกเขาไม่คิดเสียเวลารั้งอยู่ที่นี่และมุ่งตรงไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติในเมืองทันที
…
ด้านหน้าของค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติมีผู้คนจำนวนมาก จอแจไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครม
เมื่อเฉินซีและเหลี่ยปิงหานมาถึง พวกเขาเห็นว่าด้านหน้าของค่ายกลเคลื่อนย้ายนั้น อัดแน่นไปด้วยกลุ่มเซียนหนาแน่น
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นฉากนี้ ค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติสามารถส่งคนได้ครั้งละร้อยคนเท่านั้น และเปิดใช้งานเพียงสามครั้งต่อวันเท่านั้น ดังนั้นเมื่อดูจากสถานการณ์แล้ว เกรงว่าถึงต่อคิวอีกสามวัน ก็ยังไม่ได้ไปทวีปดาราวีรบุรุษเป็นแน่
เหลี่ยปิงหานหัวเราะเบา ๆ “การรับสมัครลงทะเบียนของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋านั้น ล้วนดึงดูดความสนใจจากทั้งสี่พันเก้าร้อยทวีป ทั่วทั้งภพเซียน เหล่าเซียนจำนวนนับไม่ถ้วนจากทั่วสารทิศ จึงมารวมกันเพื่อสัมผัสกับเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่นี้”
เฉินซีกล่าว “มันเป็นแค่การรับสมัครศิษย์เข้าสำนัก เหตุใดเจ้าจึงกล่าวว่ามันเป็นเหตุการณ์ยิ่งใหญ่กัน?”
เหลี่ยปิงหานมองเฉินซีด้วยสีหน้าประหลาดใจ และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่รู้จริง ๆ ชายหนุ่มจึงอธิบายอย่างรวดเร็ว “พี่เฉิน ท่านยังไม่รู้อะไร การรับสมัครของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในภพเซียนนี้ เมื่อถึงเวลานั้น ตัวตนสูงสุดทั้งหมดในภพเซียน ภพพุทธองค์ ภพมังกรจะมารวมตัวกันในทวีปดาราวีรบุรุษ!”
ชายหนุ่มหยุดชั่วครู่แล้วพูดต่อ “พูดง่าย ๆ ก็คือ บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่มักถูกกล่าวถึงในตำนานมากมาย อัจฉริยะที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และแม้แต่สิ่งมีชีวิตจากเผ่าที่มาจากแดนลึกลับต่าง ๆ ก็จะมาปรากฏตัวในทวีปดาราวีรบุรุษแห่งนี้ เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้จะมีให้เห็นในเวลาอื่นได้อย่างไร ?”
เฉินซีพยักหน้ารับ
แต่ถึงอย่างไร เขาก็ไม่สนใจสิ่งเหล่านี้มากนัก ชายหนุ่มแค่ต้องการไปถึงสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าให้เร็วที่สุดก็เท่านั้น
สิ่งที่ทำให้เฉินซีประหลาดใจ คือค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติในเมืองไอยราสีชาด ไม่ได้เปิดใช้งานเพียงสามครั้งต่อวัน และผู้คนจำนวนมากยังคงถูกเคลื่อนย้ายอย่างต่อเนื่อง
เห็นได้ชัดว่าทางตำหนักราชันเซียนได้พิจารณาถึงสถานการณ์เช่นนี้ไว้แล้ว จึงทำการยกเว้นให้
สิ่งนี้ทำให้เฉินซีรู้สึกโล่งใจ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเพราะชื่อเสียงของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋านั้นยิ่งใหญ่เทียมฟ้า ยามนี้เป็นช่วงรับสมัครลงทะเบียนของสำนักศึกษา ตำหนักราชันเซียนจึงกังวลว่าการจำกัดจำนวนการเคลื่อนย้ายต่อวัน จะทำให้ผู้เยี่ยมยุทธ์รุ่นเยาว์ไปสมัครลงทะเบียนที่สำนักศึกษาล่าช้า
หากเป็นในเวลาปกติหรือหากเป็นกองกำลังอื่น ๆ ตำหนักราชันเซียนย่อมไม่ ‘เกรงใจ’ เช่นนี้แน่นอน
โอม!
ไม่นานนักเฉินซีและเหลี่ยปิงหานต่างก็จ่ายศิลาอมตะคนละหมื่นก้อน จากนั้นเข้าสู่ค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติก่อนที่จะหายไปภายในนั้น
…
ทวีปดาราวีรบุรุษ
หนึ่งในสี่มหาทวีปของภพเซียน!
ในบันทึกประวัติศาสตร์อันไร้ขอบเขตของทวีปดาราวีรบุรุษ มีตัวตนอันยิ่งใหญ่และผู้สร้างตำนานมากมายนับไม่ถ้วนต่างถือกำเนิดขึ้นที่นี่ ภายในทวีปดาราวีรบุรุษนี้ นิกายมากมายดั่งต้นไม้ในป่า ผู้เยี่ยมยุทธ์มากมายดุจเมฆบนฟ้า และที่สำคัญที่สุด แม้แต่ราชันเซียนเองก็อาศัยอยู่ที่นี่!
เมื่อเทียบกับอีกสามมหาทวีป ชื่อเสียงของทวีปดาราวีรบุรุษ นั้นมีมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย เหตุผลก็คือสำนักศึกษาที่ได้รับการยอมรับอย่างเปิดเผยว่าดีที่สุดในภพเซียนนั้นตั้งอยู่ที่นี่ สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า!
และข่าวลือที่โด่งดังที่สุดในภพเซียน ที่ว่าราชันเซียนดาราวีรบุรุษคนปัจจุบันเคยเป็นศิษย์ของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋ามาก่อน!
นอกจากราชันเซียนดาราวีรบุรุษผู้องอาจแล้ว ในบรรดากองกำลังชั้นนำที่กระจายอยู่ทั่วทั้งสี่มหาทวีป ก็ไม่มีบุคคลผู้ยิ่งใหญ่คนไหนไม่เคยฝึกฝนในสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋ามาก่อน!
ยิ่งไปกว่านั้น ทุกครั้งที่สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเปิดรับสมัครลงทะเบียน ไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้เยี่ยมยุทธ์รุ่นเยาว์ทั่วสี่พันเก้าร้อยทวีปมา แม้แต่ตัวตนที่น่าเกรงขามจากภพพุทธองค์ ภพมังกร ภพวิหคอมตะ และมหาอำนาจอื่น ๆ เองก็ถูกดึงดูดให้มาที่นี่เช่นกัน!
สิ่งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทรัพยากร ภูมิหลัง และมรดกของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า นั้นยาวนานและลึกซึ้งเพียงใด
ในทวีปดาราวีรบุรุษมีเมืองอยู่ทั้งหมดหนึ่งแสนสามหมื่นเมือง มันกว้างใหญ่และไร้ขอบเขต กว้างเสียยิ่งกว่าโลกใบใหญ่เสียอีก สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋านั้นตั้งอยู่ในเมืองเซียนสัประยุทธ์
โอม!
ค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติของเมืองเซียนสัประยุทธ์เปล่งแสงวาบ จากนั้นคนนับร้อยก็พุ่งออกมาจากภายใน รวมทั้งเฉินซีและเหลี่ยปิงหานด้วย
“ว้าว! นี่คือเมืองเซียนสัประยุทธ์งั้นหรือ!?”
“โอ้สวรรค์! ดูสิ! รัศมีศักดิ์สิทธิ์หลายเส้นลอยอยู่เต็มท้องฟ้า! มันช่างสวยงามและชวนฝันราวกับแพรไหมชั้นยอดเลย พวกมันก่อตัวขึ้นจากปราณเซียนที่บริสุทธิ์ยิ่งนัก!
“ชู่ว! พูดเบา ๆ ได้ไหม!? ประเดี๋ยวผู้อื่นก็คิดว่าเราเป็นพวกบ้านนอกหรอก!”
ทันทีที่พวกเขาเดินออกจากค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติ ก็ถูกเสียดังอึกทึกโจมตีจากรอบด้าน ก่อนที่เฉินซีและเหลี่ยปิงหานจะถูกฝูงชนผลักออกมา
“พวกเขาเป็นบ้ากันไปแล้ว!” เหลี่ยปิงหานส่ายหัว
เฉินซียิ้มและเริ่มมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง
นี่เป็นถนนที่จอแจมากในเมืองเซียนสัประยุทธ์ มันกว้างกว่าร้อยจั้ง อาคารโบราณเก่าแก่ตั้งเรียงรายเป็นแถวยาวไปตามทั้งสองฝั่งถนน
ในเวลานี้ ฝูงชนจำนวนมากหลั่งไหลไปตามถนน เดินชนถูไหล่กัน ทำให้เกิดภาพที่ดูมีชีวิตชีวาและเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก
รัศมีศักดิ์สิทธิ์ที่งดงามลอยอยู่เต็มท้องฟ้า เปล่งแสงเจิดจ้าสว่างไสวไปทั่วเมือง แค่ยืนอยู่ข้างใต้พวกมัน ก็สามารถสัมผัสได้ถึงอากาศที่เต็มไปด้วยปราณเซียนบริสุทธิ์และหนาแน่น!
ทุกอย่างที่นี่ดูเหมือนเมืองที่จอแจในภพมนุษย์ แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นสวรรค์ชั้นยอดในภพเซียน แม้จะเคยพบเห็นสถานที่แบบนี้มาบ้าง แต่ในขณะที่เดินไปรอบเมือง เฉินซีก็ยังตกตะลึงอยู่ดี
เหตุผลนั้นง่ายมาก ในแง่หนึ่งมันเป็นเพราะบรรยากาศความยิ่งใหญ่ที่ไม่ธรรมดาของเมืองเซียนสัประยุทธ์ แต่ที่สำคัญที่สุดคือในช่วงเวลาสั้น ๆ นับตั้งแต่ออกจากค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติ ชายหนุ่มก็สัมผัสได้ถึงรัศมีที่น่าสะพรึงกลัวมากกว่าหนึ่งร้อยสาย!
ฐานการบ่มเพาะของรัศมีเหล่านี้ล้วนอยู่ในขอบเขตเซียนทองคำเป็นอย่างน้อย ทั้งยังมีตัวตนที่มีฐานการบ่มเพาะสูงยิ่งกว่านั้นอีก!
นี่คือเมืองเซียนสัประยุทธ์ เมืองที่ตั้งอยู่ในทวีปดาราวีรบุรุษ เป็นที่ตั้งของสถาบันการศึกษาอันดับหนึ่งในภพเซียน มันเหมือนกับหนึ่งในไข่มุกที่พร่างพราวที่สุดในภพเซียน
และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เมืองเซียนสัประยุทธ์ได้ดึงดูดผู้เยี่ยมยุทธ์จำนวนนับไม่ถ้วนให้มา ‘แสวงบุญ’ ที่นี่
‘สถานที่นี้จะเป็นสถานที่ที่ข้า เฉินซี ได้ตั้งรากฐานยืนหยัดในภพเซียน!’
ขณะที่ร่างสูงมองไปยังถนนที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนมากมาย และสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้เยี่ยมยุทธ์ที่แข็งแกร่งในทุกทิศทาง เฉินซีสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ดวงตาสงบนิ่งในขณะลอบกำหมัดแน่น
———————————-